พริ้งพราวยื่นมือขอบุหรี่คืนแล้วสูบเข้าปอดเรียกความกล้าอีกครั้ง
“เชื่อไหมว่าไอ้หมอนั่นมันดันทะลึ่งเอาจนมันเสร็จ พี่พยายามหันไปห้ามมันแล้ว แต่มันคิดว่าพี่เล่นละคร เลยจับพี่กดลงพื้นนอนคว่ำ เด้าพี่ต่อจากด้านหลัง สายตาพี่มองเห็นรองเท้าเสี่ยที่เดินเข้ามาในห้อง แล้วหยุดลงใกล้ตัวพี่ก่อนนั่งบนโซฟา ก้มมองพลางยิ้มไปหัวเราะไป เจ้านั่นมันคงยังเสียวเลยไม่ทันสังเกต”
“อ้าว แล้วพี่แตกอีกไหม”
“เหลือหรือบริทนีย์ มันกระแทกสะพี่แตกอีกน้ำ ยิ่งท่าด้านหลังยิ่งแรงจนน้ำไหลนอง โอ้ย อายเสี่ยแทบแย่ พี่ร้องดังด้วย”
“เอ้ย! เรื่องนี้ตลกดีพี่ แล้วไง นัดเยกับอาจารย์ข้างนอกเลยไหม”
“ยัง ๆ ๆ นี่แค่ครั้งแรก เหมือนแกรู้ล่ะว่าพี่ชอบเล่นชู้ แกก็กลับออกไปนะพี่ยังไม่ทันได้พูดอะไรสักคำ”
“ครั้งแรก! มีอีกเหรอพี่พริ้ง”
บริทนีย์ร้องตกใจจริง เรื่องราวจากหวาดเสียวกลายเป็นตลกโปกฮาทั้งตื่นเต้นมีลุ้น
“เดี๋ยว ๆ พี่พริ้ง น้ำแข็งอยากรู้ก่อนว่าพี่รู้จักเสี่ยชัยฤทธิ์มานานแล้วหรือเปล่า เหมือนหนู น้ำแข็งรู้จักแกมานานแต่เพิ่งได้แอบแซ่บกันครั้งเดียว”
“รู้จักมานานแล้ว สามีพี่ทำงานเป็นลูกจ้างอยุ่แผนกบัญชี ร่วมจะสิบปีแล้ว เคยเจอบ้างเวลามีกินเลี้ยงปีใหม่ แต่ไม่เคยพูดกัน”
“แล้วพี่แอบแซ่บกันนานหรือยัง”
“แหม น้ำแข็ง ค่อย ๆ ฟังไปสิ จะได้ตื่นเต้น เล่าต่อเลยนะ”
พริ้งพราวรับแก้วไวน์มาจากน้องกันที่รินเติมให้ยกจิบทีละน้อย
“นับจากวันที่เสี่ยมาเห็นพี่กับพนักงานส่งอาหารก็ผ่านไปราวเดือนกว่า ๆ มีสัมมนาบริษัท สามีพี่ต้องเดินทางไปภูเก็ตหลายวัน”
“อ้อ! หนูก็ไปนะพี่พริ้ง พนักงานไปกันร่วมหลายร้อย สักกลางปีที่แล้วนี่แล่ะ”
“ใช่ ๆ กลางปีที่แล้ว พี่ก็ตื่นเต้นสามีไม่อยู่บ้าน คิดแผนนัดใครดี มองไปมองมาเอาว่ะเพื่อนบ้านแล้วกัน”
“เพื่อนบ้าน! โอ๊ะพี่พริ้ง บริทนีย์ว่ามันเสี่ยงเหมือนกันนะคะ”
“ตอนนั้นก็หน้ามืดแล้วน้องบริทนีย์ หาทางนัดเยมาหลายรอบแต่ปลิวตลอด ได้จังหวะสามีไปต่างจังหวัด เลยทำใจกล้าเดินไปทักทายเพื่อนบ้าน ส่งซิกให้เขารู้เป็นนัย ๆ ใครจะไปคาดว่าเขาดันตอบรับ เลยจัดการนัดวันแรกที่สามีพี่เดินทางเลย”
“กลางวันเหรอพี่”
“ไม่ ๆ ครั้งนี้ช่วงค่ำหน่อย เชิญเพื่อนบ้านมากินดื่มเฮฮาย้อมใจก่อนสิ อ้อ ลืมบอกไปว่าเพื่อนบ้านนี่อยู่กันสองคนอาหลาน”
“โฮ้! พี่พริ้ง อย่าบอกนะว่ารวบทีเดียวเลย”
“ใช่บริทนีย์ พี่นั่งขมิบบิดไปบิดมาหลายวันอยากเต็มทน เลยจัดคราวเดียวไปเลยสองคน”
“อ้าว งั้นพี่ก็เคยดับเบิ้ลแล้วสิ”
“ไม่น้องกัน พี่ไม่เคยทำแบบนั้น ก็แค่เรียงคิวลงหม้อเดียวกันแต่ไม่ได้สองรูแบบกันสักหน่อย”
“อ้อ...”
กันพยักหน้ารับแล้วอัดบุหรี่เข้าปอด เรื่องของพริ้งพราวกลายเป็นจุดสนทนาเรื่องเล่าที่ทำให้ทุกคนลืมความเสียวซ่านไปเลย นั่งมองไปทางหญิงแม่บ้านสาวสวยเป็นตาเดียว ตั้งใจฟังทุกตอน
“ระหว่างที่เรากินดื่ม ก็แบบมีลูบคลำบ้างไรบ้างใช่ไหม ปกติ กระทั่งเริ่มเข้าจังหวะสอดใส่ คนหลานเลีย คนอาเสียบ กำลังโยกได้ที่ กริ๊งหน้าบ้านดังขึ้นจนพวกพี่ตกใจหน้าเหรอหรา พี่ปลอบสองอาหลานให้ใจเย็นก่อนแล้วเดินออกไปดู เชื่อไหมว่าเสี่ยชัยฤทธิ์ยืนยิ้มอยู่หน้าประตูรั้ว”
“อะไรจะขนาดนั้นเสี่ย”
“จริง น้องน้ำแข็ง พี่เห็นแล้วยังเซ็ง แต่ด้วยความเรื่องครั้งที่แล้วแกก็มาเห็นเลยกลัวแกเอาไปฟ้องสามี จึงเดินออกไปหาแกที่ประตูรั้ว แล้วแกก็ขอเข้ามาในบ้าน พี่บอกไม่ได้! แกเลยขู่ ด้วยความกลัวก็เลยให้แกเข้ามา”
“แล้วไงต่อพี่พริ้ง มาร่วมวงด้วยเลยไหม เริ่มเสียวแล้วใช่ไหมเนี่ย”
“ร่วมวงกับผีน่ะสิน้องกัน แกขอเข้ามานั่งดู! นั่งดูเฉย ๆ”
“เฮ้ย! แล้วพี่ก็เยกันต่อเนี่ยนะ”
“จะให้ทำยังไง พี่แก้ตัวกับสองอาหลานว่าเนี่ยเชิญมาด้วยอีกคนแต่เขาถนัดนั่งดูมากกว่าทำ”
“ฮ่า ฮ่า ตลกดีพี่พริ้ง แล้วสองอาหลานก็เชื่อด้วย”
“นั่นแล่ะน้องกัน สองอาหลานเชื่อสนิท จับพี่นอนหงายลงโซฟาลงลิ้นพี่ต่อ เชื่อไหมว่าวันนั้นถึงจะน้ำแตก แต่ก็เป็นแบบอายเสียมากกว่า”
“อายอะไรกันพี่พริ้ง บริทนีย์ว่าน่าสนุกดีนะคะ”
“บริทนีย์ นึกหน้าเสี่ยออกไหม แกหล่อก็จริงแต่เวลาแกนิ่งมันดูน่ากลัว แกทำเพียงนั่งดู ถ้าแกเอามือล้วงลำออกมาชักหรือครางสักนิด ยกมือถือแอบถ่ายสักหน่อย มันยังพอทำให้พี่รู้ว่าแกก็อยากมีส่วนร่วม แต่นี่ไม่! ไม่เลย ทุกคนว่าแกเป็นพวกโรคจิตไหม”
“บริทนีย์ว่าก็นิดนึงนะ”
“ไม่นิดล่ะบริทนีย์ พี่น้ำแข็งคิดว่าแกค่อนข้างเป็นพวกจิตหมกหมุ่น”
“โธ่! พี่ แล้วผมล่ะ พวกพี่อีก ผมว่าพวกเราก็คล้าย ๆ กัน พวกโรคจิต หมกหมุ่นเซ็กซ์จนหน้ามืด”
“จริงของกันนะ พี่ว่าพวกเราทุกคนก็เป็นคนประเภทเดียวกันถึงได้มานั่งอยู่ร่วมกันตรงนี้ไง”
ภัทรคงพูดแทงใจดำทุกคนเพราะเกิดความเงียบขึ้นทันตาในชั่วระยะเวลาหนึ่ง
“เอาล่ะ ๆ เราเป็นยังไงก็ช่าง แต่ตอนนี้บริทนีย์อยากฟังต่อแล้วค่ะ”
“พอหลังจากฉากเซ็กซ์เราสามคนมั่วกลับหัวกลับหางผ่านไป เสี่ยส่งข้อความมาหาพี่ ไม่รู้ว่าไปได้เบอร์ติดต่อจากไหนนะ ขอนัดเจอข้างนอก”
ความทรงจำเริ่มหลั่งไหลเมื่อพริ้งพราวเล่ารสนิยมทางเพศและการเสพติดเซ็กซ์กับชายคนอื่นนอกเหนือจากสามี
ริมฝีปากสีแดงชาดพ่นควันบุหรี่ยัดไส้ทำให้เคลิบเคลิ้มง่ายขึ้น อารมณ์ดี และได้ปลดปล่อยบางอย่างที่อึดอัดมานาน
“พี่มีลูกสาววัยสองขวบ เข้าเรียนเตรียมอนุบาลแล้ว จำพวกเด็กเล็กโรงเรียนเอกชนใกล้บ้าน แต่วันที่นัดเสี่ยพี่ต้องหาทางพาลูกไปฝากกับน้องสาว โชคดีหมู่บ้านใกล้กัน ซี้ดดดด”
มือเรียวงดงามบี้บุหรี่ที่หมดมวนแล้วลงจานรอง เอนกายพิงพนักดวงตาเหม่อลอยนึกภาพเสี่ยชัยฤทธิ์ในวันนั้น