No service❕
ณ สนามบินสุวรรณภูมิ 02.40 น.
เที่ยวบินตรงจากกรุงลอนดอนมายังประเทศไทยใช้เวลาค่อนข้างนานหลายชั่วโมง เมื่อมาถึงเวลาที่หมายก็เป็นอันแสนดึก
แพรพรรณควรจะรีบหารถกลับบ้านทันทีแต่เธอเลือกจะไปร้านมือถือในสนามบินเพื่อจัดการกับอุปกรณ์สื่อสารของตัวเองก่อน ไม่ได้คิดว่าข้ามหอมจะมารับจริงๆ อย่างที่เธอว่าแต่ถ้ามาจริงแล้วเธอหนีกลับมาก่อนแบบไม่บอกไม่กล่าวอย่างนั้นเสียมารยาทแย่
แต่การพบกันครั้งแรกก็ทำให้อุ่นใจดี เพราะอย่างน้อยๆ ก็มีเพื่อนที่สนิทกันมาพาเธอกลับบ้าน
บ้านหลังที่เธอไม่กลับมานานตั้ง 16 ปีกว่า
Ping!
Ping!
Ping!
ทันทีที่มีสัญญาณมือถือคู่กายก็ดังรัวๆ เต็มไปด้วยข้อความจากเพื่อนตัวเอง แน่นอนว่าบ๊อบบี้และแบร์รี่อยู่ในนั้นรวมไปถึงข้าวหอมมะลิด้วย
รายนี้ส่งมาตั้งเกือบยี่สิบข้อความเห็นจะได้
คนถามแลดูร้อนใจเกิดกว่าเหตุ แพรพรรณจึงเลือกที่จะตอบเพื่อนสาวคนนี้ก่อน
Chat_ข้าวหอม
ลงแล้วนี่หน่า
อยู่ไหน
ออกเกทไหน
ฮัลโหล!
แพรพรรณอยู่ตรงไหนตอบ
Peary:-P :: จ้า...มือถือเพิ่งจะใช้ได้
ข้าวหอมมารับแพรเหรอ แพรบอกแล้วว่าไม่ต้องลำบากมาหรอกแพรกลับเองได้
นี้ก็คนไทยคนหนึ่งนะ ไม่หลงทางในประเทศตัวเองหรอกค่ะเพื่อนสาว
?
อิโมจิรูปกอดอีกครั้งส่งให้เพื่อนและก็เหมือนเดิมว่าปลายทางแค่อ่านยังไม่ตอบอะไรมาทั้งนั้น หลังจากจากดูอยู่พักใหญ่เห็นว่าข้ามหอมไม่ส่งข้อความอะไรมาเธอก็หันมาจัดการสัมภาระตัวเองต่อ
เสื้อโค้ตสีน้ำตาลตัวยาวผ้าหนาๆ ไม่เหมาะสมกับประเทศเมืองไทยแลนด์สักหน่อย
ข้าวหอม :: อยู่ไหน
ว๊าย...
ในระหว่างที่กำลังวุ่นวายกับรื้อค้นหาของชิ้นในกระเป๋าเดินทาง แพรพรรณงกๆ งันๆ จนไม่ดูตาม้าตาเรือแล้วสุดท้ายแม่จอมโก๊ะก็ชนเข้ากับคนที่เดินสวนทางไปมาล้มอีกแล้ว...จนได้
"ขอโทษครับ เจ็บตรงไหนรึเปล่า"
เอ๊ะ!!
น้ำเสียงนี้คุ้นๆ เหมือนเคยได้ยินที่ไหนมาก่อน แพรพรรณอยากหันไปมองหน้าคู่สนทนาแต่มือถือเจ้ากรรมดันหลุดมือกลิ้งหายไปไหนก่อน
คุณครับ!
"ฉันไม่เป็นไรค่ะไม่ต้องห่วง!" คนพูดไม่ได้เจ็บสักน้อยเธอมัวแต่มองหามือถือจนไม่มองหน้าชายหนุ่ม กำลังคุยธุระค้างคาอยู่จะมาหายตอนนี้ได้ยังไงกันล่ะ
Ping!
ข้าวหอม :: ได้เจอกันสักทีนะ
เอ๊ะ!!!
มีเพียงเสียงเล็กๆ ร้องในลำคอร้องสงสัยกับข้อความของเพื่อนสาวที่ส่งมาให้ แพรพรรณกำลังก้มหน้าพิมพ์ข้อความสนทนากับข้าวหอมมะลิแต่ไม่ทันที่เธอจะได้กดส่งให้คนปลายทาง
จากนั้นทุกอย่างก็มืดดับจนไม่รู้เนื้อรู้ตัวอะไรอีกเลย . . . พ รึ่ บ ! ! !
.
.
.
โอ๊ย...ย
เปลือกตาบางๆ กางขึ้นและรูรับแสงก็ค่อยๆ จับโฟกัสได้ แพรพรรณฟื้นจากยาสลบที่โป๊ะจมูกก่อนจะถูกอุ้มออกมายัดใส่รถ
เธอลืมตาดูและเพ่งมองสิ่งที่อยู่ตรงหน้าคือถนนเส้นหนึ่งที่ไม่คุ้นเคยมาก่อน
แน่นอนว่าไม่มีเส้นไหนในประเทศไทยที่เธอจะคุ้นได้ และเมื่อคิดได้ว่าตัวเองน่าจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ควรไว้วางใจเธอก็ค่อยๆ เลื่อนสายตาจากถนนเบื้องต้นไปที่คนขับรถคันที่กำลังนั่ง
เพียงเสี้ยวหน้าในความมืดแพรพรรณก็รู้ได้โดยสัญชาตญาณว่าเขาเป็นชายหนุ่มร่างยักษ์ที่หน้าดุที่สุดตั้งแต่เคยเจอมาในชีวิตนี้
แพรพรรณหายใจติดขัดไม่ทั่วท้องเริ่มหวาดกลัวแต่เธอก็พยายามมีสติด้วยวิธีการนั่งนิ่งๆ ราวกับตัวเองยังสลบอยู่
กรี๊ด...!!
แต่เมื่อกดสายตาลงมาเห็นเชือกที่มัดมือสองข้างเข้ากับข้อเท้าตัวเองคราวนี้ก็สติแตก เธอกรี๊ดลั่นด้วยความกลัวผสมตกใจจนร้องไม่หยุด
กรี๊ดดด
กรี๊ด...ด
เงียบ!!!!
กรี๊ด.ด..ด...ด
พอคนข้างๆ หันมาตวาดเสียงพร้อมถลึงตาดุร้ายราวกับสัตว์ป่า นี้คือโฉมหน้าคนที่จับตัวเธอมาแบบไม่รู้เนื้อรู้ตัว แหละนี้มันเป็นเรื่องที่น่าตกใจสุดๆ
เงียบ...โธ่เว้ย!!
คนขับตบไฟฉุกเฉินและชะลอความเร็วรถเรียบลงไหล่ทางก่อน
ส่วนผู้โดยสารสาวทำอะไรไม่ถูกเธอจึงร้องกรี๊ดจนแสบหูสร้างความรำคาญทำให้เขายิ่งหงุดหงิด
ปัง!!
แพรพรรณมองชายร่างยักษ์ฟาดปิดประตูฝั่งคนขับและอ้อมทางหน้ารถตรงมากระชากประตูฝั่งผู้โดยสารออก
ในขณะที่มือหนาล้วงกระเป๋ากางเกงยีนหยิบอะไรบางอย่างออกมาสะบัดกางสองสามทีก่อนจะตะโกนสั่งให้เงียบพร้อมมัดผืนนั้นที่ปาก
อื้อออ
อี๊ดดด
อั้ยยย
"ถ้ายังแหกปากกรี๊ดจะเอาอย่างอื่นยัดปาก" สีหน้าดุดันจ้องตาแพรพรรณเขม็งผ่านความมืดในระหว่างที่ยังยืนมัดแต่เธอรับพลังงานความดุดันได้ทั้งหมด น้ำตาแห่งความหวาดกลัวไหลอัตโนมัติแบบในหนังที่เคยดูมาก่อน
เธอได้แต่นั่งตัวชาไม่กล้าขยับเพราะยักษ์ปักหลักยืนขวางอยู่หน้าประตูทางออก แน่นอนว่าพุ่งตัวหนีไม่พ้นไหนจะทั้งเชือกที่มัดอยู่อีก
หึ!
"ดี! ที่ฟังภาษาคนรู้เรื่องจะได้ไม่เปลืองกระสุน"
อึก!
ไม่ใช่แค่คำขู่ที่นายคนนี้ตะโกนใส่หน้า แต่เป็นปืนที่เหน็บหลังเอวเขาต่างหากแพรพรรณจึงหุบปากสนิท เท้าแตะแผ่นดินไทยได้ไม่กี่ก้าวจะถูกฆ่าตายแล้วเหรอ ไม่นะ! พ่อยังไม่รู้เลยว่าเธอกำลังจะกลับไปกอดแน่นๆ ให้หายคิดถึงเลย
ปรื้น..น...น
รถคันที่เธอไม่ได้เต็มใจมาด้วยพุ่งทะยานไปในความมืดมิดที่ไม่มีวิวหรือจุดสังเกตใดๆ ให้จดจำ แพรพรรณสะอื้นปล่อยน้ำตาไปเงียบๆ แต่คนข้างๆ ก็ยังพูดด้วยเสียงเข้มๆ ว่าน่ารำคาญเดี๋ยวก็ยิงทิ้งซะถ้านั่งเงียบๆ ไม่ได้
คนฟังก็ยิ่งสะอื้นไห้เป็นบ้าเป็นหลังด้วยความกลัวก่อนจะหลับไปด้วยน้ำตาและความอ่อนเพลียไปแบบที่ไม่ควรหลับกับสถานการณ์นี้ได้สักนิดเดียว
ตุบ!!
เส้นทางอันแสนกันดารของที่ถนนเต็มไปด้วยหลุมบ่อขรุขระยังไม่ได้รับการพัฒนา หากว่าคนขับจะเบาเท้าลงจากคันเร่งสักหน่อย รถ SUV คันใหญ่ก็จะไม่โยกโครงเครงแบบที่เป็นอยู่
หลุมลึกๆ ที่ล้อยางยามตกลงไปและเนินใหญ่ๆ ที่ล้อทั้งสี่ปีนทะยานขึ้นแทบบินได้นั้น ทำให้คนตัวเล็กบนเบาะหัวคลอนกระแทกกระจกดัง ปัง!
อื้อ...!!
ปัง!
อื้อ!!!
หญิงสาวตื่นมาพร้อมกับความตื่นกลัวเมื่อเส้นทางข้างหน้ามันคือป่าทึบที่ไม่มีถนนให้วิ่งเข้าไป
แต่แล้วความกลัวตายก็เข้าครอบงำจนร้องเสียงหลงทั้งที่ยังมีผ้ามัดปากไว้
เอี๊ยด
โครม!!!!