“นายหัวดูเครียดๆ นะครับ”
“ไอ้ชัช! มึงอย่ามากวนตีนกู” เจ้านายหนุ่มเขวี้ยงก้นบุหรี่ลงกับพื้นพร้อมขยี้มันจนดับสนิทคารองเท้าหนังสีดำ
เป็นจริงอย่างที่นายชัชลูกน้องคนใกล้ชิดคนนี้กล่าว ชีวิตเจ้าของไร่ขนาดใหญ่ในป่าลึกติดเขตชายแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านใครว่าจะเงียบสงบไม่มีเรื่องวุ่นวาย
“เปล่านะครับนาย ผมก็แค่เห็นว่านายหัวดูเครียดๆ เพิ่งกลับมาจากทำธุระแท้ๆ ยังต้องมาเหนื่อยเพราะไอ้โจรกระจอกพวกนี้”
“มีห่าอะไรก็พูดมาตามตรงกูกำลังหงุดหงิด”
ครับ!!
เมื่อกวินภัทรเจ้านายหนุ่มขึ้นนั่งที่เบาะหลังของรถโดยมีชัชเป็นคนขับและลูกน้องอีกคนประจำที่เบาะคู่หน้า นายชัชก็ยกยิ้มกรุ้มกริ่มส่งให้เจ้านายที่กระจกมองหลังอย่างคนเจ้าเล่ห์
“เจ๊มะยงชิดรับเด็กใหม่ๆ เข้ามาเพียบเลยครับนายหัว”
หึ!!
คนฟังสบถน้ำเสียงหัวเราะแบบไม่ค่อยพออกพอใจออกมา ด้วยส่วนตัวไม่หลงใหลการซื้อบริการมาปรนเปรอกาม แต่เพราะด้วยวัยหนุ่มที่เต็มไปพลังขับเคลื่อนทางเพศเรื่องนี้เลยจำเป็น และชีวิตด้านชาก็ยังไม่อยากหาเมียมาให้รกชีวิตของตัวเองการซื้อกินจึงเป็นทางเลือกที่ดี
ลูกน้องคนสนิทก็รู้ดีว่าคนยังหนุ่มยังแน่นย่อมมีความต้องการเป็นธรรมดา และทุกครั้งที่เจ้านายซื้อหญิงบริการลูกน้องผู้ภักดีเป็นดั่งมือดั่งเท้าแทนเจ้านายก็ได้รับอานิสงส์ผลบุญตามไปด้วย
“ไอ้นัทมึงว่าไง”
เอ่อ...อ...อ
“ติดอ่างอยู่นั่นแหละเดี๋ยวกูให้มาม่าซังมะยงชิดจัดน้องๆ มาให้แล้วกัน ขอบคุณนะครับนายหัว”
“หุบปากสักทีกูรำคาญ”
นายหัวหนุ่มพิงตัวลงกับเบาะหนังในรถ SUV ราคาแพงที่ซื้อมาใช้ในการส่วนตัว เส้นทางมันไม่ได้ราบเรียบนั่งสบายนักเพราะขับในป่าลึกที่มีแต่ดินลูกรัง คนขับกดเหยียบคันเร่งมิดตีนสาเหตุก็มาจากในเขตชายแดนนี้ห่างไกลผู้คนและกฎหมายจึงง่ายมากถ้าจะมีกองโจรดักซุ่มยิง
ในความเหนื่อยล้าจากการเดินทางพาให้ชายหนุ่มเคลิ้มลงได้บ้างเพราะมั่นใจในตัวลูกน้องคนสนิททั้งสองคน กวินภัทรเชื่อใจว่าขณะที่เขาพักปิดเปลือกตาลง นายชัชและนายนัทจะคอยดูแลความปลอดภัยให้เขาได้เป็นอย่างดี
ผู้กว้างขวางยิ่งใหญ่เจ้าของไร่จำนวนหลายต่อหลายไร่ที่ไม่มีใครรู้จำนวนที่แน่นอนคนนี้ มีค่าหัวมากมายสำหรับกองโจรที่ขนยาเสพติดและลักลอบตัดไม้หรือล่าสัตว์ไปขายตลาดมืด
กวินภัทรมีวิธีจัดการกับพวกสันดานเดนมนุษย์ได้แบบเบ็ดเสร็จเด็ดขาดโดยที่ไม่ต้องพึ่งพากฎหมายราชการไทยอันแสนเชื่องช้าและไม่ทันการให้วุ่นวาย
ณ บ้านกลางเขา
“นายหัวครับ”
เอ่อ!!
เมื่อมาถึงบ้านพักที่อาศัยอยู่คนสนิทชื่อนัทก็ปลุกเจ้านาย กวินภัทรเดินตัวปลิวขึ้นบ้านที่แบบไม่สนใจใครๆ
“มึงไปจัดการเรื่องเด็กให้นายหัวเถอะ”
“นายเก่งเรื่องแบบนี้ นายก็ไปจัดการเองสินายชัช”
“โถ่ไอ้อ่อนเอ๊ย! แมนๆ อย่างเราชอบแบบไหนก็ชี้นิ้วเลือกเอาเลย ที่ไม่กล้าไปเพราะอายใช่ไหมวะไอ้นัท”
เอ่อๆ ...หนุ่มวัยไล่เลี่ยกับเจ้านายกวินภัทรตอบรับแบบปัดรำคาญ จริงอยู่ที่ชัชรู้ดีว่าเจ้านายและเขาชอบผู้หญิงแบบไหน จริงอยู่ที่เขาค่อนข้างเป็นคนขี้อายอย่างที่ชัชว่า
คนเราเกิดมาถนัดแต่ละด้านไม่เหมือนกัน และคนไม่เรื่องมากอย่างนัทจึงไม่พูดให้ยืดยาวขอแค่เด็กที่ชัชจัดหามาเป็นงานก็พอ
“เดี๋ยวพี่จะจัดเด็ดๆ ให้น้องเลย”
ตุบๆ
นายชัชตบบ่าเพื่อนร่วมงานสองสามทีก่อนจะขึ้นรถประจำตำแหน่งจากนั้นก็เร่งออกจากบ้านพักเจ้านาย นี้ก็ดึกมากแล้วจึงต้องรีบไปรับเด็กจากมาม่าซัง สงสารสาวผู้โชคดีคนนั้นจังคืนนี้เธอได้รับศึกหนักกับนายหัวของเขาจนฟ้าสางอย่างแน่นอน
“ไอ้นัท”
“ครับ?”
“เมียมันท้องอยู่จริงๆ เหรอ”
ครับ!!
ต่อหน้าคนอื่นๆ นายหัวกวินภัทรที่ดูดุดัน โหดเหี้ยมไร้ความเมตตาปรานี แต่จริงๆ แล้วนายหัวคนนี้เป็นคนจิตใจอ่อนโยนและเซ็นซิทีฟกับเรื่องครอบครัว เมื่อเขาเห็นว่าชัชขับรถออกไปแล้วเขาก็ถามลูกน้องอีกคนทันที
“แปดเดือนแล้วมั้งครับนาย”
“ทำไมมันถึงทำอย่างนั้น”
“เห็นว่าติดพนันครับ”
“แล้วทำไมมันถึงไม่พูดกับกูตรงๆ” คนอย่างเขาช่วยเหลือคนงานในไร่ตลอดไม่ว่าจะเรื่องใด
สำหรับคนในไร่เขาน่ากลัวถึงขั้นไม่มีใครกล้าเข้าหาเลยรึไง แล้วมาใช้วิธีโง่ๆ แก้ปัญหาแบบนี้นอกจากแก้ไม่ได้แล้วยังสร้างปัญหาใหม่ที่ใหญ่กว่าเดิม
“งั้นฝากดูแลเมียกับลูกในท้องมันด้วย ถ้าคลอดแล้วก็ให้เงินสักก้อนไปตั้งตัวและบอกพวกมันว่าอย่ากลับมาเหยียบที่ไร่กูอีกจนวันตาย”
ครับ!!
นัทค้อมหัวรับคำสั่งก่อนจะก้าวลงจากบ้านพักเจ้านาย เขารู้ใจนายหัวอยู่แล้วไม่มีทางฆ่าใครอย่างโหดเหี้ยมถ้ามันไม่สมควรโดนจริงๆ
‘เห้อ...เหนื่อยเคลียร์งานก่อนเว้ย คืนนี้ค่อยปลดปล่อยกับน้องๆ ก็แล้วกัน’ ชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งพล่ำบ่นในใจลำพังแล้วขับรถออกไปทำหน้าที่ตัวเอง
ต้องรีบไปเคลียร์ไอ้โจรกระจอกทั้งสองคนนั้นก่อนที่มันจะกลายเป็นปุ๋ยไปจริงๆ
.
.
.
โครม..!!
Dang it!!!
ตัดมาที่ฝากอดีตนักศึกษาหรือว่าที่มหาบัณฑิตปริญญาโท แพรพรรณวิ่งพรวดออกจากห้องหลังจากแต่งตัวอยู่นานนับชั่วโมง
วันนี้เป็นปาร์ตี้เลี้ยงส่งนักศึกษาที่ทางมหาวิทยาลัยจัดขึ้น สาวน้อยชาวเอเชียอยู่ในชุดเดรสสีขาวบริสุทธิ์เหมาะสมกับตัวเธอ
แต่ทว่าความน่ารักจิ้มลิ้มหมดสิ้นไปเมื่อยัยโก๊ะสะดุดกล่องกระดาษที่วางอยู่หน้าประตูห้องตัวเองหน้าทิ่ม ใครกันนะวางของระเกะระกะไม่เป็นที่เป็นทางหน้าประตูห้องคนอื่นแบบนี้
ถึง...แพรพรรณ สุรวงศ์วัฒนะตระกูล
ของขวัญแด่มหาบัณฑิตเกรดนิยม
...ยินดีด้วยนะ
Who are you?
เจ้าของชื่อร้องอุทานในขณะอ่านการ์ดเล็กๆ สีชมพู มันเป็นการ์ดที่เขียนด้วยลายมืออย่างบรรจงและสวยงามแต่นี่คือของใครกันในการ์ดนั้นไม่ระบุชื่อผู้ส่งเธอชักเริ่มระแวง
แต่อีกใจก็หวังว่าจะเป็นของคนที่เธอรักและรักเธอ
“น้าอรุณค่ะ ขอโทษที่โทรมารบกวน”
...
“แพรได้ของขวัญแล้ว ขอบคุณมากนะคะ”
...
“อ๋อ! ไม่ใช่หรอกเหรอคะ สงสัยเพื่อนๆ คงแกล้งแพร ฮ่าๆๆ” เมื่อคนที่เมืองไทยบอกว่าไม่ได้ส่งของขวัญมาให้แพรพรรณก็นึกกลัว ย้อนแย้งกับอีกใจหนึ่งก็ตื่นเต้นเหลือเกิน
Hi! Sweetheart come on.
OK bro! Few minutes.
แพรพรรณคว้ากล่องและการ์ดสีหวานเข้ามากอดแนบอกตัวเองและวิ่งตรงไปหาเพื่อนสนิทที่เรียกเธอ เอาไปเปิดต่อหน้าจำนวนมากแล้วกันเพื่อความปลอดภัย
Ping!
ข้าวหอม :: คืนนี้ทำอะไรคะเธอ
Read...
Peary:-P :: งานเลี้ยงนิดหน่อยค่ะข้าวหอม
Read...
ข้ามหอม :: ว๊าว! น่าอิจฉาจัง
Read...
Peary:-P :: อย่าอิจฉาแพรเลย มันไม่ได้น่าสนุกอย่างที่ข้าวหอมคิดสักนิด
หญิงสาวนั่งอ่านแชตจากเพื่อนสาวชื่อข้าวหอมมะลิผ่านแอปพลิเคชันชื่อดัง แพรพรรณคุยกับเพื่อนคนไทยรายนี้มาหลายปีแต่ไม่เคยเจอหน้ากันจริงๆ
ข้าวหอมก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร เธอมักถามไถ่เรื่องชีวิตทั่วๆ ไปบางครั้งก็เรื่องเรียนและครอบครัว
เมื่อปาร์ตี้ที่เต็มไปด้วยความสนุกสนานของเหล่าเพื่อนร่วมสถาบันที่กำลังเต้นแร้งเต้นกาอยู่หน้าฟอร์ล แพรพรรณไม่ใช่สายปาร์ตี้เธอจึงนั่งเฝ้าโต๊ะมองดูคนอื่นสุดเหวี่ยงปลดปล่อยความเป็นตัวเองออกมา เวลาเหงาๆ จึงนึกขึ้นได้ว่าที่ตัวติดกล่องของขวัญปริศนามาด้วยและยังไม่ได้เปิดดูด้านใน
เจ้าของชื่อนั่งอ่านการ์ดอย่างพินิจพิจารณาอีกครั้ง แน่นอนว่าเธอจำลายมือแบบนี้ไม่ได้เพราะไม่เคยมีใครเขียนภาษาไทยเป็นลายมือมาให้เธอ
Oh wow...Fantastic...!!
หญิงสาวเปิดกล่องนั้นช้าๆ กล้าๆ กลัวๆ จนเห็นดอกไม้สีสวยในนั้นจึงตาลุกวาว
นี้เป็นของขวัญชิ้นแรกและเป็นดอกไม้ . . . มงกุฎดอกไม้อันแรกในชีวิตของตัวเอง
มันสวยงาม บอบบาง และน่าทะนุถนอมที่สุดเลย
เธอหยิบเจ้าสิ่งนั้นออกจากกล่องอย่างเบามือค่อยๆ เพ่งพิจารณา นี้! ไม่ได้เว่อร์จนเกินไปนะ แต่ดวงตากลมโตเอ่อน้ำใส่ๆ ขึ้นมาคลอ
‘ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร แพรอยากให้คุณรู้ว่าแพรขอบคุณมากจริงๆ’
เธอบรรจงสวมมันอย่างเบามืออีกครั้ง ค่อยๆ วางลงบนศีรษะกลมมนและยกมือถือคู่ใจขึ้นมาถ่ายใบหน้าตัวเองที่ประดับรอยยิ้มพิมพ์ใจ ภาพๆ นี้ไม่ได้แค่เก็บไว้ในเมโมรี่มือถือเท่านั้นแต่จะอยู่ในความทรงจำไปอีกนาน