แผนแค้น แสนรัก 06

1165 Words
ปัง!! ประตูไม้บานใหญ่ฟาดปิดต่อหน้าต่อตาแล้วเสียงกุกกักอีกฝั่งของประตูก็ดังอยู่สักพักก่อนทุกอย่างจะเงียบสนิทลง แพรพรรณยกมือปาดน้ำตาทิ้งก่อนจะพยายามลุกไปทุบรัวๆ ตะโกนเรียกเจ้าของบ้านที่จับเธอมาขังในห้องที่มืดมิดและเยือกเย็นเหน็บหนาวจับใจ หญิงสาวตะโกนขอร้องอ้อนวอนขอให้เขาเปิด เธอยินดีจ่ายด้วยเงินที่มีและจะไม่แจ้งความเพียงแต่เขายอมคืนอิสรภาพให้ แพรพรรณเหมือนคนบ้าที่ตะโกนพูดอยู่คนเดียวโดยไร้เสียงใดๆ ตอบกลับยอมรับข้อเสนอของเธอ ขอร้อง.... ปังๆๆ ปล่อยฉันไปเถอะนะ... ฮื้อ...อ...อ สาวน้อยเลื้อยตัวลงอย่างหมดกำลังทิ้งก้นนั่งพิงประตูอย่างคนหมดสิ้นหนทาง เธอกอดขาตัวเองร้องไห้ระบายมันออกมาราวกับคนคลั่งที่ไม่สามารถควบคุมสติตัวเองได้ เวลาผ่านไปเนิ่นนานเท่าไรก็ไม่รู้ก่อนที่เธอจะหลับลงในท่านั่งกอดเข่าท่าเดิม และมันคงนานมากพอให้ความเมื่อยล้าอ่อนเพลียจากการเดินทางด้วยเครื่องบินชั้นประหยัดจางคลายลง เพราะหูที่แนบกับพื้นได้ยินเสียงฝีเท้าหนักๆ เดินกระแทกส้นตรงเข้ามาใกล้มากขึ้นทุกที ทุกที . . . ผ่าง...ง แสงสว่างจ้าๆ ต้องตาเมื่อประตูเปิดออกอีกครั้ง ส่วนคนที่นั่งอยู่ด้านในสะดุ้งตื่นและกลัว ออกมา!! อึ๊ก!! ใบหน้าขาวซี้ดและตาบวมแดงคือหลักฐานชั้นดี มันบ่งบอกว่าเธอคนนี้ผ่านการร้องไห้มาอย่างหนักหน่วงสุดแสนจะบรรยาย สำหรับแพรพรรณแล้วถ้าไม่รวมตอนที่พ่อพาไปปล่อยที่โรงเรียนประจำนี้คือครั้งที่สองที่ร้องไห้อย่างบ้าคลั่งเอาเป็นเอาตาย ออกมาเซ้!! น้ำเสียงทุ้มต่ำตะโกนลั่นบ้านใต้ถุนสูงที่ตั้งตระหง่านโดดเดี่ยวอยู่กลางป่า หัวใจฟังร่วงไปอยู่ปลายเท้าด้วยความหวาดกลัวแบบสุดๆ และอีกครั้งที่น้ำตาหญิงสาวไหลนองหน้า โธ่เว้ย!! เจ้าของเดินหายไปห้องข้างๆ และเดินกลับมาอีกครั้งพร้อมมีดพร้ายาวเป็นคืบ แพรพรรณเห็นตามนั้นก็กระทดตูดถอยหลังสุดชีวิต ไม่นะ! เธอยังไม่อยากตาย เธอยังไม่ได้ทดแทนบุญพ่อและพี่เลี้ยงอรุณแม้แต่น้อย พรึ่บ! เชือกที่มัดมือแล้วเท้าขาดกระจุยจากคมมีดและเขาก็ให้มันชี้หน้าออกคำสั่งเธอด้วยสายตาเชือดเฉือนไม่ต่างกับมีดในมือ “รึอยากจะลองดี” ค่ะๆ แพรพรรณแทบจะกระโจนพุ่งตัวออกจากห้องด้วยความเร็ว เพื่อรักษาชีวิตของตัวเอง “คุณต้องการอะไร” "เข้าไป" ห้ะ! ? เจ้าของบ้านชี้มือไปยังอีกห้องคือห้องครัว แพรพรรณอุปมาอุปไมยไปเองว่าเขาคงหิวและต้องการให้เธอทำอะไรสักอย่างให้เขากินนั่นเอง ห้องครัวที่เหมือนใหม่ สะอาดสะอ้านอุปกรณ์ทุกชิ้นดูทันสมัยเหมือนแม่บ้านบ้านนี้ต้องรักการทำอาหารน่าดู ถ้าตอนนี้เธอไม่ได้ถูกลักพาตัวมาก็คงจะตื่นตาตื่นใจกับห้องนี้ด้วยประกายตามัน แต่เธอต้องเร่งหานั่นหานี้มาทำอาหารให้เจ้าของบ้านกินก่อนที่เขาจะโมโหไปมากกว่าเดิม [10นาทีผ่านไป] ข้าวผัดไข่และเบคอนทอดกรอบส่งกลิ่นหอมไปถึงคนที่นั่งรอ ชายหนุ่มหน้าดุคนนั้นจ้องแพรพรรณไม่ว่างตา ไม่ว่าเธอจะทำอะไรอยู่ก็ไม่สามารถหลุดรอดสายตาพญาเหยี่ยวได้เลย “เอาไปเก็บที่เดิม” อ้าว...ค่ะ! ? “ฉันหมายถึงมีด” แพรพรรณเดินยกจานข้ามผัดหอมๆ มาเสิร์ฟให้ถึงโต๊ะแต่เมื่อโดนไล่ให้เอาไปเก็บก็งง สรุปสุดท้ายเจ้าของบ้านเขาหมายมีดปลอกที่ซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกงยีน อุตส่าห์คิดว่ามันจะเป็นอาวุธป้องกันตัวยามฉุกเฉินได้ “รึเธอมั่นใจว่าสู้ฉันได้ ก็ลองดู” คนพูดเสตาไปที่มีดพร้าเล่มเดิมที่วางอยู่ไม่ไกล สุดท้ายแพรพรรณก็ต้องยอมทำตามแต่โดยดี แน่นอนว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ กับมีดปลอกอันเล็กจิ๊ดเดียวจะไปสู้คนร่างยักษ์กับมีดยาวเท่าศอกได้อย่างไรกัน จ๊อก...ก...ก เสียงท้องร้องครวญครางดังไปยังอีกคนที่นั่งฟาดข้าวผัดอย่างรวดเร็ว กว่าเจ้าของบ้านจะนึกขึ้นได้ว่าไม่ควรไว้ใจนักโทษสาวคนนี้ข้าวผัดเบคอนก็พร่องไปเกินครึ่งเสียแล้ว “แล้วทำไมไม่กิน” มะ มะ ไม่หิว....ค่ะ “ใส่อะไรลงไป ถามว่าใส่อะไรลงไป” อย่านะ!! คนตัวใหญ่ลุกพรวดจากเก้าอี้เดินใส่เธอเหมือนจะหาเรื่อง แพรพรรณถอยหลังเต็มอัตราจนหลังเธอติดกับกำแพงไร้ทางหนีรอด “คิดจะวางยาฉันเหรอ!” “เปล่าคะเปล่า” “งั้นก็กิน!” ค่ะๆ มือบางขาวซี้ดและสั่นรับจานข้าวมาถือในมือ เธอต้องพิสูจน์ว่าอาหารจานนี้สะอาดและปล่อยภัย อ้ำ! วินาทีที่อาหารสัมผัสลิ้นเธอก็ค่อยๆ เคี้ยวแล้วกลืนและเติมลงกระเพาะตัวเองโดยเร็ว ใช่ว่าเขาหิวคนเดียวซะเมื่อไร “อีกคำ!” ไม่รู้อะไรดลใจให้เจ้าของบ้านคิดว่าอาหารที่ทานมีสิ่งปนเปื้อน ของสดทั้งหมดก็อยู่ในตู้เย็นตัวเองแท้ๆ “อะไร! ? ” “ฉันกินแล้ว” “แล้วฉันต้องกินของเหลือต่อจากเธอเหรอ ช้อนนี้เธอก็เอาเข้าปากตัวเองแล้ว” ? แพรพรรณหดแขนที่ยื่นจานข้าวให้เขาแล้วก้มมองดู เธอก็ใช้ช้อนที่เขากินไปแล้วเหมือนกัน จากนั้นความคิดประหลาดๆ ที่เด้งขึ้นมา ถ้าเห็นหญิงชายกินอะไรด้วยช้อนต่อจากกันได้แสดงว่านั่นแหละเป็นแฟนกันชัวร์ “เก็บกวาดมันซะ” !! ค...ค่ะ! ใบหน้าแต่ละคนเห่อร้อนขึ้นมา แล้วฝ่ายชายก็เป็นคนชักสีหน้าเข้มตวาดเสียงดังใส่ก่อนจะเดินหนีไปอีกทาง ส่วนคนหน้าแดงซ่านกับความคิดบ้าๆ นั่นแดงยิ่งกว่าลูกตำลึง “คิดว่าฉันพามาเที่ยวชมนกชมไม้รึไง ลงมา!!” ยามสายที่ไม่รู้ว่ากี่โมงแพรพรรณเดินลงจากบ้านตามเสียงที่ตะโกนตามตัว ทิวทัศน์เบื้องหน้าคือป่า ต้นไม้และภูเขารอบๆ ตัว มีถนนเส้นเล็กๆ ทอดยาวไกลสุดลูกหูลูกตา ถ้าไม่รู้เส้นทางมีหวังเดินเข้าป่าที่ลึกยิ่งกว่าเดิม “คุณจะพาฉันไปไหน” “ขึ้นรถ” “ค่ะ! จะพาฉันไปไหน” ขึ้นรถ!! อีกครั้งที่คนหน้าดุจับเธอยัดลงกับเบาะและปิดประตู ถ้าแพรพรรณเก็บแขนเก็บขาไม่ทับรับรองโดนประตูหนีบขาดแน่นอน คนอะไรไม่มีความอ่อนโยนเสียบ้าง ปรื้น... เมื่อคนขับกระโดดขึ้นประจำที่ของตนเองแล้วก็กดเหยียบคันเร่งมิดตีนออกจาจุดจอดไปอย่างรวดเร็ว ผู้โดยสารสาวต้องคว้าเข็มขัดนิรภัยมาคาดป้องกันตัวเองไว้ เธอไม่ขอตายเคียงข้างผู้ชายคนนี้เด็ดขาด
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD