บทที่4 รอยต่อของโลกความจริง
หนิงเซี่ยก้าวตรงมายังเรือนพักที่ใช้กักตัวสวีเสวี่ย อาหารในมือส่งกลิ่นหอมกรุ่น แต่สายตาของเธอก็พลันสะดุดกับหญิงสาวแปลกหน้าที่เหมือนกำลังพยายามหนีออกจากเรือน
“คุณกำลังจะหนีอย่างนั้นเหรอคะ?” หนิงเซี่ยถามเสียงเข้ม
ณิรินเหลียวมองหญิงสาว
“เธอเป็นใครน่ะ? แล้วทำไมพูดจาไม่เหมือนพวกคนที่นี่?”
หนิงเซี่ยเพียงยิ้มลึกลับ
“ฉันเป็นใครไม่สำคัญ คุณรู้เพียงว่าคุณกำลังอยู่ในที่ที่คุณขอมาเองก็พอ”
“คำขอ? ฉันไม่เคยขออะไรแบบนี้นะ!” ณิรินเริ่มเดือด
“นี่มันนรกชัดๆ กับคนจีนโบราณที่ฉันคุยไม่รู้เรื่อง!”
“ไม่ต้องสงสัยหรอก เพราะคุณต้องอยู่ที่นี่แล้ว เรียนรู้ทุกอย่างที่พวกเขาใช้ และอยู่เพื่อเผชิญหน้ากับชะตาที่คุณขอเอง” หนิงเซี่ยพูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง
ทันใดนั้น เสียงหัวเราะทุ้มต่ำดังขึ้นจากด้านหลัง ชายหนุ่มในชุดสูทสีแดงปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ
“หรือว่าคุณไม่พอใจกับการที่ได้พบเนื้อคู่ตามที่คุณขอไว้กับผมเหรอครับ?”
ณิรินตัวแข็งค้าง เธอหันไปมองชายหนุ่มแปลกหน้า
"คุณ...คุณคือตัวอะไรกันแน่!"
ชายชุดแดงหมุนตัวรอบหนึ่ง เสื้อผ้าของเขาเปลี่ยนเป็นชุดฮั่นฝูสีแดงสดทันที
“หืม...ไม่ได้ใส่มานาน แต่ก็ดูหล่อเหมือนเดิมเลย สีแดงยังเป็นสีโปรดของผมเสมอ” พร้อมกับมองชุดอย่างภาคภูมิใจ
ณิรินได้แต่ยืนอึ้ง
“ฉันต้องตายแล้วแน่เลย…” และไม่ทันขาดคำ เธอก็หมดสติล้มลงไป
---
เมื่อณิรินลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอพบว่าตัวเองกลับมาอยู่บนเตียงอีกครั้ง
"นี่มันฝันหรือเปล่านะ..." เธอลูบหน้าอกตัวเองเพื่อปลอบใจ แต่ทันใดนั้น เสียงเรียกที่ไม่คุ้นเคยก็ดังขึ้น
“ตื่นแล้วเหรอ?”
“อร้ายยยย! ตาเท็น! เธอคืออะไรกันแน่!” ณิรินกรีดร้องลั่นเมื่อพบว่าหนิงเซี่ยนั่งอยู่ข้างเตียง
“ฉันคือภูต และฉันถูกท่านลี่จิงส่งมา เพื่อดูแลคุณยังไงล่ะ”
ณิรินรีบลุกพรวด พยายามวิ่งไปยังประตูเพื่อหนีอีกครั้ง แต่ทันใดนั้น ประตูถูกเปิดออกพร้อมกับร่างสูงของหยางหมิง
“เจ้าอีกแล้ว สวีเสวี่ย เจ้าจะหนีไปไหนอีกหรือ?”
“ขะ ขะ ข้าเห็นผี! อยู่ตรงนั้น!” ณิรินชี้ไปทางเตียง
หยางหมิงเดินตรงไปตรวจสอบ แต่กลับไม่พบอะไรเลย
“ไม่มีอะไรอยู่ตรงนี้ เจ้ากำลังหลอกข้าอีกแล้วใช่ไหม!” เขาตะคอกใส่เธอ
“ไม่จริง! ข้าบอกแล้วว่าข้าเห็นจริงๆ! มีทั้งผู้ชายและเด็กผู้หญิง เด็กคนนั้นเรียกเจ้าผู้ชายว่าเทพ และเขามีพลังเปลี่ยนเสื้อผ้าได้ด้วยนะ!”
หยางหมิ่งจ้องณิรินด้วยแววตาเย็นชา
“หากเจ้ายังโกหกเช่นนี้ ข้าจะจับเจ้าแต่งงานกับข้าเสีย ให้เจ้าไม่มีวันหนีพ้น! เจ้าจะต้องอยู่ข้างกายข้าแม้จะเกลียดข้ามากเพียงใด!”
“อะไรของเขาเนี่ย! บ้าไปแล้ว!” ณิรินพึมพำเป็นภาษาไทยออกมา
“เจ้าพูดว่าอะไรนะ?” หยางหมิ่งขมวดคิ้ว
“เหตุใดการพูดการจากของเจ้าไม่เหมือนเดิม”
“อ๋อ… ไม่มีอะไร ไม่มีอะไร” ณิรินยิ้มแหย พยายามหลบสายตา
หยางหมิ่งมองเธอด้วยความสงสัย
“เจ้าเปลี่ยนไปจริงๆ ไม่เหมือนกับสวีเสวี่ยคนเดิมที่ข้าเคยรู้จักเลย” เขาทำหน้าสงสัย
“ข้าก็แค่เหนื่อย...แฮ่ๆ” ณิรินพยายามแก้ตัว แต่ก้าวถอยหลังจนสะดุดล้มลง หยางหมิ่งพยายามจับเธอไว้ แต่กลับเสียหลักล้มลงไปพร้อมกัน
ทั้งสองลงไปนอนแนบชิดบนเตียงใหญ่... ความเงียบงันเข้าครอบงำ สายตาทั้งคู่ประสานกันอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยง...
ร่างใหญ่ทับร่างเล็กเข้าไปอีกทำให้หลังของร่างเล็กยิ่งเจ็บคูณสอง
“โอ้ย!...เจ็บ!” ณิรินได้แต่โอดครวญ ร่างใหญ่จ้องมองคนตัวเล็กที่อยู่ใต้ร่างตัวเอง ‘เหตุใดข้าจึงรู้สึกว่านางไม่ใช่นางคนเดิม’
“เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่”
“หา! เออ เออ” ณิรินเลิกลั่กตอบกุกๆ กักๆ
‘ถ้านางไม่ใช่นาง แล้วจะเป็นใครได้ ข้าคงคิดไปเอง’
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า ข้าล้อเจ้าเล่นน่ะ” ร่างใหญ่รีบลุกขึ้นจัดระเบียบเสื้อผ้าแล้วก็เดินออกจากห้องไป
“อะไรของเค้านะ ว่าแต่เรามาอยู่ที่นี่เพราะเจ้าชุดแดงงั้นเหรอ” ทำให้ณิรินนึกขึ้นได้ว่าก่อนตายตัวเองได้ไปขอเนื้อคู่ที่ศาลเจ้าแห่งหนึ่งมาก่อนจะเกิดอุบัติเหตุ ‘หรือว่าเค้าพาเรามาอีกโลกงั้นเหรอ งั้นแสดงว่าผู้ชายใส่ชุดแดงที่เห็นนั้นไม่ใช่ความฝันน่ะสิ’ ณิรินได้แต่คิดแล้วก็สงสัย
“เจ้าชุดแดง ถ้าคุณมีจริงก็ขอให้ท่านปรากฏมาให้ณิรินเห็นเถอะค่ะ ณิรินอยากทราบว่านี่มันเรื่องอะไรกัน”
วิ้งงงงงงงงงงง
“คุณเรียกผมเหรอครับ มีอะไรครับ คุณไม่กลัวผมแล้วงั้นเหรอ” เขายืนมือไปเหมือนจะจับมือหล่อน
“คุณเป็นเทพอย่างงั้นเหรอคะ?” ณิรินเอ่ยถามด้วยความสงสัย พร้อมกับยกมือไหว้
ชายในชุดแดงยิ้มมุมปาก
“ไม่ใช่ครับ” เขาตอบพลางยิ้มขณะที่สายตาของเขาแฝงไปด้วยความเศร้า
“แต่คุณเป็นคนส่งฉันมาที่นี่ใช่ไหมคะ แล้วคุณส่งฉันมาทำไม แล้วพ่อแม่ของฉันล่ะพวกท่านเป็นยังไงบ้าง”
“ไม่ต้องห่วงนะครับ พ่อแม่ของคุณจะไม่เป็นอะไร อาจจะเป็นห่วงคุณแต่ก็ยังอยู่ดีกินดี ส่วนร่างของคุณนอนเป็นเจ้าหญิงนิทราไประยะหนึ่ง และผมก็แค่ส่งคุณมาตามคำขอของคุณครับถ้าคุณได้สมดังหวังแล้วถือว่าผมได้ตอบแทนแล้ว”
“แล้วผู้หญิงที่เป็นเจ้าของร่างคนนี้เป็นใครคะ ชื่อแซ่อะไร”
“เค้าชื่อสวีเสวี่ย...”
พรวดดดด! ณิรินหันขวับไปทางต้นเสียง ยังไม่ทันพูดจบหลิงหลงก็เข้ามาพร้อมกับผ้าผืนแดงเดินตรงมาที่ณิริน หล่อนหันกลับมาทางเดิมเขาก็หายวับไปแล้ว