ผมอยากได้เลขาของพี่2

1468 Words
“กีรติ เลขาพี่ทิวาครับ” “ไม่ได้นะ พี่ไม่ให้” พี่ทิวาพูดขัดขึ้นทันทีที่ผมพูดจบ พี่แสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ยอมผมเด็ดขาด “ผมอยากได้เลขาของพี่ ผมจะเอากีรติคนเดียวเท่านั้น” ผมแกล้งพูดยั่วโมโหพี่ทิวา และมันก็ได้ผล พี่มองผมตาขวางอย่าอารมณ์เสียสุดๆ คงจะโกรธที่ผมกำลังจะแยกสาวคนรักของตัวเองแน่ๆ “นายทิว! ถ้านายไม่ใช่น้องฉัน ได้โดนตบปากแตกแน่ ฟังลูกชายคุณพ่อพูดสิคะ น่าเกลียดที่สุด” พี่ชี้หน้าว่าผมอย่างโกรธจัด แล้วหันไปขอความช่วยเหลือจากพ่อทันที “ระวังคำพูดหน่อยทิวเขา ทิวาก็ใจเย็นลูก แม่บอกให้รับสมัครแล้วนี่ ก็เอาตามที่แม่บอกนั่นแหละ รับสมัครคนใหม่ให้มาดูแลทิวเขาแล้วกัน” “นั่นสิ ของขวัญเป็นผู้หญิงบอบบางออกขนาดนั้น ถึงจะทำงานเก่งทุกด้านและเหมาะสมจะเป็นคนดูแลทิวเขาที่สุดก็ตาม แต่ถ้าทิวาไม่ยอม แม่ก็ว่าตามทิวา” “ถ้าอย่างนั้นก็เลิกคิดเรื่องหาคนมาดูแลผมเถอะครับ ผมไม่เอาใครทั้งนั้นถ้าไม่ใช่กีรติ” “ทำไมต้องเป็นของขวัญ นายไม่ชอบเธอไม่ใช่หรือยังไง” “พี่ลองคิดตามผมดูนะ กีรติเก่งเรื่องการทำงานเลขาทุกอย่าง แถมยังดูแลพี่เรื่องการแต่งกาย อาหารการกิน ยิ่งเรื่องตารางการทำงานไม่ต้องพูดถึง ละเอียดรอบคอบมาก พี่จำเรื่องพวกเสื้อผ้าของใช้ของผมได้ไหม เธอเลือกได้ดีและเข้ากับผมมาก เรื่องนี้พี่เป็นคนพูดเอง จำได้หรือเปล่า” พี่ทิวามองหน้าผมอย่างกำลังใช้ความคิด ผมไม่ได้เร่งหรือกระตุ้นอะไรเพิ่มเติม ไม่นานพี่สาวผมก็ยิ้ม เป็นรอยยิ้มที่ผมไม่ชอบใจนักแต่ก็ไม่อยากพูดอะไรมากกลัวว่าจะทำให้พี่สาวยิ่งไม่พอใจและไม่ยอมตกลงยกเลขาให้ผม “แม่ก็คิดอย่างที่ทิวเขาพูดนะทิวา ลูกจะลองคิดดูอีกหน่อยได้หรือเปล่า ของขวัญเรียบร้อยน่ารักนิสัยดี อีกทั้งยังมีระเบียบมาก แม่ว่าน่าจะช่วยทิวเขาเรื่องปรับภาพลักษณ์ได้ไม่ยากนะลูก” แม่เห็นด้วยกับผมแถมยังช่วยพูดกับพี่ทิวาให้ผมอีกต่างหาก “ถ้านายดูแลของขวัญไม่ดี พี่จะไปเอาคืน” ในที่สุดพี่ทิวาก็ยอมยกเลขาให้ผม ในที่สุดแผนการขั้นแรกของผมก็ผ่านพ้นไปด้วยดี ‘ผมไม่มีทางคืนเลขาให้พี่หรอกพี่ทิวา’ ผมพูดกับพี่ทิวาในใจพร้อมกับมองหน้าพี่สาวที่กำลังมองผมอย่างใช้ความคิด ถึงจะไม่ชอบใจกับสายตาที่พี่ใช้มองผมสักเท่าไหร่แต่ก็ไม่อยากพูดมากเดี๋ยวพี่สาวผมจะเปลี่ยนใจเอาได้ “ตกลงตามนี้แล้วกันนะ ทิวาก็แจ้งของขวัญเรื่องนี้ด้วยแล้วกัน แล้วจะให้ใครมาเป็นเลขาของลูกล่ะคุณ” พ่อพูดยุติเรื่องทั้งหมดเป็นอันตกลงว่าผมได้ตัวกีรติแน่นอนแล้วนั่นเอง “เดี๋ยวรับสมัครใหม่แล้วกันค่ะพ่อ ทิวาคงไม่ได้ตัวของขวัญกลับมาเร็วๆนี้หรอกค่ะ ทิวเขา อย่าลืมว่าของขวัญเป็นผู้หญิง นายควรรู้ขอบเขตของตัวเองว่าจะให้ของขวัญดูแลได้แค่ไหน ถึงจะทำงานเลขาก็ต้องระวังเรื่องความเป็นส่วนตัวของของขวัญด้วย แล้วก็รีบหาเลขาของตัวเองซะ พี่ให้ยืมของขวัญแค่ชั่วคราวเท่านั้น เข้าใจเอาไว้ด้วย อย่าคิดจะยึดของขวัญของพี่เด็ดขาด” พี่ทิวาจ้องผมตาเขม็ง ตกลงกีรติหรือผมกันแน่ที่เป็นน้องของพี่ “ผมไม่ยึดของขวัญของพี่หรอกน่า ผมไม่ได้ชอบเธอแบบพี่สักหน่อย ตกลงเรื่องเลขาของผมเป็นกีรตินะ บอกเธอให้เริ่มงานสัปดาห์หน้าเลยแล้วกัน ผมขอตัวก่อนนะครับ” ผมเข้าไปหอมแก้มแม่แล้วรีบออกจากบ้านทันที ผมอยากแวะไปหาไอ้เหนือที่โรงแรมมันหน่อย คืนนี้อยากจะดื่มรำลึกความหลังที่ไม่ได้เจอเพื่อนรักมานานหลายเดือน “กลับมาได้ไม่นานก็ออกไปอีกแล้ว คืนนี้กลับมานอนบ้านด้วยนะ ทิวเขา นี่! ดูลูกชายคุณสิ ทำไมนิสัยแย่ขนาดนี้นะ” “ลูกถึงต้องมีคนดูแลไง” “หวังว่าของขวัญจะเปลี่ยนนายทิวได้นะคะ” “ตามของขวัญมาคุยกันที่บ้านเถอะทิวา วันนี้ทิวเขาคงไม่กลับบ้านแล้วล่ะ” “ค่ะแม่” 15.30 น. Rrrrrrrrrr “สวัสดีค่ะคุณทิวา” (ของขวัญยุ่งอยู่หรือเปล่าจ๊ะ) “ไม่ยุ่งค่ะ คุณทิวามีอะไรให้ขวัญช่วยหรือเปล่าคะ” (คุณพ่อกับคุณแม่ท่านอยากทานข้าวกับของขวัญน่ะ เย็นนี้ว่างหรือเปล่า) “เย็นนี้เหรอคะ ได้ค่ะ แล้วพวกท่านจะทานที่ร้านไหนคะ เดี๋ยวขวัญจะได้โทรไปจองโต๊ะค่ะ” (ทานที่บ้านจ้า คุณแม่จะลงครัวโชว์ฝีมือเองน่ะ) “ถ้าอย่างนั้นประมาณห้าโมงเย็นเดี๋ยวขวัญเข้าไปนะคะ” (เดี๋ยวพี่ไปรับนะ ตอนนี้กำลังจะออกไปซื้อของพอดี เดี๋ยวแวะรับของขวัญมาด้วยกันเลย) “ตอนนี้เหรอคะ ก็ได้ค่ะ เดี๋ยวขวัญไปช่วยถือของค่ะ” (ดีเลยจ้ะ คุณแม่มาพอดี พี่วางสายก่อนนะ แล้วพบกัน) “แล้วพบกันค่ะ” หลังวางสายจากคุณทิวาฉันก็อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วลงมานั่งรอคุณทิวาที่ล็อบบี้ของคอนโด ไม่นานก็เห็นรถของคุณทิวาขับเข้ามา “สวัสดีค่ะ คุณนารา คุณทิวา วันนี้ขวัญขอฝากท้องสักมื้อนะคะ” ฉันยกมือไหว้ทักทายเจ้านายทั้งสองอย่างคุ้นเคยหลังจากที่ขึ้นมานั่งบนรถเรียบร้อยแล้ว “ไหว้พระเถอะลูก ต้องขอโทษที่นัดหนูขวัญกะทันหันนะจ๊ะ คงไม่รบกวนวันพักผ่อนของหนูนะ” “ไม่รบกวนเลยค่ะ วันหยุดขวัญก็ไม่ได้ทำอะไรมาก อย่างมากก็แค่นัดทานข้าวดูหนังกับเพื่อนค่ะ “ไปกับน้องเก้าเหรอจ๊ะ” “ใช่ค่ะ ยัยเก้า เจ้าเก่าเจ้าเดิม” “ชวนเพื่อนมาทานข้าวด้วยกันก็ได้นะหนูขวัญ คนเยอะครึกครื้นดี” “เอาไว้คราวหน้านะคะ ขวัญจะชวนยัยเก้ามาด้วย วันนี้เห็นบอกว่ามีธุระค่ะ” “ถ้าอย่างนั้นคราวหน้าหนูขวัญอย่าลืมพาเพื่อนมาด้วยนะลูก” “ค่ะ ไม่ลืมแน่นอนค่ะ” “ถึงแล้วค่ะสาวๆ ลงไปซื้อของกันเถอะ วันนี้คุณแม่จะทำอะไรบ้างคะ” “ต้มยำกุ้งของโปรดเรากับหนูขวัญไง แล้วก็ทอดมันปลาอินทรี คุณพ่อเราบ่นอยากกินหลนปูกับปลาช่อนผัดขึ้นฉ่าย ยังไงก็ช่วยแม่เลือกหน่อยแล้วกัน หนูขวัญอยากกินอะไรอีกไหมลูก” “ขวัญยังไงก็ได้ค่ะ ขวัญทานได้หมด” “ดีจริงลูก ไม่เลือกกินเหมือนตาทิวเขาเลย รายนั้นก็กินหมดทุกอย่าง มีดีแค่เรื่องกินอย่างเดียว เรื่องอื่นเรื่องมากเหลือเกิน” หลังจากจ่ายตลาดซื้อวัตถุดิบเสร็จเรียบร้อย ฉันกับคุณทิวาก็ลงครัวช่วยเป็นลูกมือทำอาหารของคุณนารา ท่านมีฝีมือทำอาหารได้อร่อยทุกอย่าง ฉันมีโอกาสได้ลิ้มรสอาหารฝีมือขั้นเทพของท่านบ่อยๆ และคราวนี้ก็เป็นอีกครั้งที่ฉันรู้สึกประทับใจครอบครัวของท่านมาก ท่านดูแลฉันอย่างดีเหมือนเป็นคนในครอบครัวคนหนึ่งก็ไม่ปาน “ของขวัญจ๊ะ พี่มีเรื่องอยากจะขอร้อง” หลังจากจบมื้ออาหารเจ้านายทุกคนของฉันก็ชวนฉันมานั่งทานผลไม้พร้อมกับดูทีวีที่ห้องรับแขก “เรื่องอะไรเหรอคะ คุณทิวาบอกมาได้เลยค่ะ ขวัญยินดีช่วยทุกอย่างเลย” ฉันยิ้มให้เจ้านายที่ดูจะหนักใจกับสิ่งที่กำลังจะเอ่ยปากขอให้ฉันช่วย ฉันยินดีช่วยเธอจริงๆนะ เพราะตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านคุณทิวาไม่เคยให้ฉันทำอะไรไม่ดีหรือต้องลำบากใจที่ต้องทำงานกับเธอเลยสักครั้ง “อย่าเพิ่งรับปากพี่เลย ฟังเรื่องที่พี่จะขอก่อนเถอะ พี่ไม่อยากให้ของขวัญลำบากใจน่ะ” ฉันมองหน้าเจ้านายทั้งสามคน คุณวิทย์กับคุณนารายังคงส่งยิ้มอย่างอบอุ่นมีเมตตาให้ฉัน ในขณะที่คุณทิวาแสดงออกว่ากำลังลำบากใจชอบกล “ทุกเรื่องที่คุณทิวาให้ขวัญทำ ไม่เคยมีเรื่องไหนที่ไม่ดีเลยนะคะ ขวัญเต็มใจทำให้อยู่แล้วค่ะ คุณทิวาพูดมาเถอะ” ฉันอยากรู้เรื่องที่ทำให้เจ้านายของฉันลำบากใจที่จะเอ่ยมากจริง
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD