คำขอร้องของเจ้านาย

1764 Words
“คือว่า พี่อยากจะขอให้ของขวัญ ช่วยไปเป็นเลขาดูแลนายทิวให้พี่หน่อยน่ะ จะได้หรือเปล่า” ฉันอึ้งจนพูดไม่ออก ให้ฉันไปดูแลคุณคีรีอย่างนั้นเหรอ ผู้ชายคนนั้นไม่ชอบฉันเอามากๆ ฉันรู้สึกได้เลยทั้งการกระทำสีหน้าและแววตา เขาไม่ชอบฉันเลยสักนิด “เอ่อ ให้ขวัญไปเป็นเลขาคุณคีรี เหรอคะ” ฉันทวนสิ่งที่ฉันได้ยินอีกครั้งอย่างไม่ค่อยแน่ใจ เผื่อว่าคุณทิวาอาจจะพูดอะไรผิดไป “ใช่จ้า เป็นเลขาให้นายทิว” คุณทิวาตอบฉันด้วยน้ำเสียงจริงจังชัดเจนมากขึ้น “ทำไมเหรอคะ ขวัญทำงานได้ไม่ดีหรือทำอะไรให้คุณทิวาไม่ชอบใจตรงไหนเหรอคะ ทำไมถึงย้ายขวัญไปที่อื่น คุณทิวาบอกขวัญได้นะคะขวัญจะปรับปรุงค่ะ” ฉันอยากรู้เหตุผลที่คุณทิวาสั่งย้ายฉันไปอยู่กับคุณคีรี คุณทิวาก็น่าจะรู้ว่าคุณคีรีไม่ชอบฉัน ทำไมกัน ทำไมเธอถึงย้ายฉันไปเป็นเลขาคุณคีรี ฉันทำอะไรผิดไป “ของขวัญทำงานดีมาก ดีมากจริงๆ แต่เรามีเหตุผลที่ต้องส่งขวัญไปดัดนิสัย เอ่อ พี่หมายถึง พวกเราอยากให้ขวัญไปดูแลนายทิวเรื่องภาพลักษณ์ส่วนตัวหน่อยน่ะ” “ภาพลักษณ์ส่วนตัวเหรอคะ หมายถึงให้ขวัญไปดูแลเรื่องส่วนตัวเหรอคะ” “ใช่ ดูแลนายทิว เหมือนที่ขวัญดูแลพี่ เรื่องงานเอกสารต่างๆ ขวัญดูแลทั้งหมดเหมือนตอนที่อยู่กับพี่ และที่อยากให้ขวัญทำพิเศษคือเรื่องเสื้อผ้าการแต่งกาย ขวัญดูแลพี่ดีมาตลอด รวมถึงของคุณพ่อคุณแม่ด้วย พวกเราประทับใจมาก เรื่องนี้พี่มั่นใจว่าขวัญทำได้ ของหลายอย่างที่ขวัญเลือกให้นายทิว นายทิวเองก็ดูพอใจมาก เรื่องพวกนี้พี่ไม่ห่วงพี่มั่นใจว่าขวัญทำได้” ฉันมองคุณวิทย์และคุณนารา ท่านทั้งสองก็ยิ้มและพยักหน้าเห็นด้วยกับคุณทิวาทุกคำ “เท่าที่ขวัญทราบมาคุณคีรีก็ไม่ได้มีปัญหาเรื่องอะไรนี่คะ เรื่องเสื้อผ้าการแต่งกายคุณคีรีก็ดูแลตัวเองดีมาตลอด” ฉันก้มหน้าอุบอิบพูดถึงน้องชายของเจ้านาย ในความคิดของฉัน เขาดูจะไม่มีปัญหาอะไรเลยสักนิด “มีสิลูก ปัญหาใหญ่ของบ้านเราเลยล่ะ” คราวนี้คุณนาราออกหน้าพูดบ้าง ปัญหาใหญ่ที่ทำให้คุณนารากังวลใจจะเป็นเรื่องอะไรนะ “ปัญหาใหญ่เหรอคะ แล้วขวัญจะช่วยแก้ปัญหานั้นได้ยังไงกันคะ” ฉันถามท่านอย่างงงๆ ปัญหาที่ครอบครัวท่านแก้ไม่ได้แล้วฉันที่เป็นคนนอกจะแก้ไขได้ยังไงกัน “เรื่องมันมีอยู่ว่า หลายเดือนที่ผ่านมาทิวเขาทำตัวเสเพลมาก เที่ยวกลางคืน อะไรอีกนะทิวา” “เก็บแต้มค่ะแม่” “ใช่ๆ เก็บแต้ม เสเพลเกินไป แม่รับไม่ได้ ตอนนี้ยังไม่กระทบงาน แต่ถ้ายังไม่ปรับปรุงต้องทำให้เสียงานแน่ๆ มีแค่หนูคนเดียวแล้วของขวัญ ที่พวกเราพอจะพึ่งพาได้ เราคิดกันอยู่นานว่าใครกันที่เหมาะจะช่วยทิวเขาปรับปรุงตัว มีแค่หนูคนเดียวเท่านั้น อายุหรือก็ไล่เลี่ยกัน ความคิดอ่านก็คงจะทันกันหมด หนูทั้งเก่งทั้งฉลาด ต้องเอาตาทิวเขาของพวกเราอยู่แน่ๆ” คุณนาราเล่าเรื่องคุณคีรีที่ทำตัวไม่น่ารักจนท่านรับไม่ได้อย่างน่าสงสาร คนเป็นแม่อย่างท่านทั้งเสียใจและหนักใจ จนต้องให้คนที่ท่านไว้วางใจมากอย่างฉันเป็นคนจัดการลูกชายสุดที่รักของท่านอย่างนั้นเหรอ ท่านเอาความมั่นใจมาจากไหนนะ ที่คิดว่าฉันจะแก้ไขนิสัยเสียของคุณคีรีได้น่ะ “ขวัญคิดว่า ขวัญไม่น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีหรอกนะคะ” ฉันตัดสินใจพูดในสิ่งที่ฉันคิดออกไป “ทำไมล่ะของขวัญ พี่ว่าของขวัญเหมาะจะดัดนิสัยนายทิวที่สุดแล้ว” “ขวัญคิดว่า คุณคีรีไม่ค่อยจะชอบขวัญค่ะ ถ้าให้ขวัญไปทำงานกับคุณคีรีน่าจะเป็นปัญหามากกว่าช่วยเหลือนะคะ” “ไม่จริงหรอกหนูขวัญ ทิวเขาเป็นคนเสนอให้หนูมาเป็นเลขาเองเลยนะลูก ทิวเขาจะไม่ชอบหนูได้ยังไง” “คุณคีรีเป็นคนเสนอเองเหรอคะ” ฉันตกใจกับสิ่งที่ได้รับรู้ เขาแสดงออกอย่างชัดเจนว่าไม่ชอบฉัน แต่ทำไมถึงอยากให้ฉันไปเป็นเลขาของเขานะ “ใช่แล้ว แถมยังบอกอีกว่าจะต้องเป็นของขวัญคนเดียวเท่านั้น ถ้าไม่ได้ก็ไม่ยอมหาเลขาใหม่ พี่ก็เลยบอกว่าขอคุยกับขวัญก่อน” “อย่างนั้นเหรอคะ” ฉันงงมากๆกับสิ่งที่ได้ยิน “แค่ชั่วคราวเท่านั้นของขวัญ ไม่นานหรอก พอนายทิวหาเลขาของตัวเองได้ พี่ก็จะไปรับขวัญกลับมาทำงานกับพี่ตามเดิม นะขวัญ เป็นเลขาช่วยดูแลเรื่องภาพลักษณ์ให้นายทิว พี่ขอเท่านั้นนะ” คุณทิวจับมือฉันพร้อมกับอ้อนฉันเหมือนเด็ก เธอน่ารักจนฉันปฏิเสธไม่ลง “ค่ะ” ฉันตอบรับคำขอของเจ้านายทั้งสามอย่างหนักใจ ถ้าคุณคีรีจะพอเป็นมิตรกับฉันบ้าง ฉันคงไม่หนักใจขนาดนี้ ‘นี่ฉันลืมไปได้ยังไงกันนะว่าเขาคือน้องชายของคุณทิวา พี่ยังไงก็ต้องยอมน้อง’ ฉันได้แต่บอกกับตัวเองในใจ หวังว่าการตัดสินใจของฉันครั้งนี้จะไม่ทำให้ตัวเองต้องลำบากมากนะ “ขอบใจมากนะจ๊ะของขวัญ พี่จะเพิ่มเงินพิเศษให้ขวัญค่าดูแลนายทิวนอกเหนือจากงานเลขาด้วยนะ งานนี้ขวัญต้องเหนื่อยหน่อย ถ้ามีอะไรที่ขวัญคิดว่ามากไปลำบากไป หรือนายทิวทำอะไรให้ขวัญลำบากไม่สบายกายใจ ขวัญสามารถบอกพี่ได้ทุกเวลาเลยนะ พี่จะจัดการนายทิวให้เอง” “ขอบคุณค่ะคุณทิวา แล้วขวัญต้องเริ่มงานวันไหนคะ” “จันทร์หน้าจ้ะ พี่จะไปส่งขวัญที่ไซต์งานของนายทิวเอง” “มีอะไรที่ขวัญต้องทำความเข้าใจเป็นพิเศษไหมคะ” “มีเรื่องเดียวจ้า ทำยังไงก็ได้ให้นายทิวเลิกเที่ยวกลางคืน” “ห๋า! เลิกเที่ยวกลางคืนเหรอคะ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องของรสนิยม เอ่อ ความชอบนะคะ ขวัญจะแก้ยังไงคะเนี่ย” “ลองหาวิธีดูนะหนูขวัญ เก่งๆอย่างหนูทำได้แน่นอน สู้ๆจ้า” “ขวัญจะพยายามนะคะคุณนารา” ฉันนั่งพูดคุยเรื่องส่วนตัวที่ควรรู้เกี่ยวกับคุณคีรีกับเจ้านายทั้งสามอยู่เกือบสองชั่วโมง คุณทิวาก็ขับรถมาส่งฉันกลับคอนโด ฉันไม่คิดว่าวันหนึ่งฉันต้องมานั่งกลุ้มใจที่ตัวเองต้องเป็นคนดูแลผู้ชายประเภทที่ฉันไม่ชอบจนถึงกลับเกลียด ฉันได้แต่หวังว่าคุณคีรีจะไม่เลวเหมือนอดีตพี่รหัสของฉันคนนั้น แต่อย่างน้อยฉันก็พอจะเบาใจได้อย่างหนึ่งคือคุณคีรีไม่ชอบฉัน เขาคงไม่มาทำตัวรุ่มร่ามกับคนที่เขาไม่ชอบแน่นอน เรื่องงานฉันคิดว่าฉันทำได้ไม่น่าห่วง แต่สิ่งที่ฉันกังวลคือฉันจะทำยังไงให้คุณคีรีเลิกเที่ยวกลางคืนกันล่ะ ฉันต้องทำยังไงนะ ฉันคิดเรื่องนี้จนหลับไปในที่สุด และวันสุดท้ายของการทำงานเป็นเลขาของคุณทิวาก็มาถึง ฉันได้รับหนังสือโยกย้ายตำแหน่งงานเมื่อสามวันก่อน เพื่อนร่วมงานหลายคนมาแสดงความยินดีและอิจฉาที่ฉันจะได้ทำงานกับคุณคีรีที่ทั้งหล่อทั้งมีเสน่ห์ แต่ใครจะรู้ว่าฉันไม่ได้คิดอย่างนั้น ฉันทั้งหนักใจและคิดมาก ไม่มีใครรู้นี่นาว่าฉันมีภารกิจพิเศษที่ยากลำบากขนาดไหน ถ้าทุกคนรู้คงจะไม่ได้มาแสดงความยินดีอย่างนี้แน่นอนแต่เปลี่ยนมาสงสารฉันแทนยังไงล่ะ “เริ่มเก็บของหรือยังของขวัญ มีอะไรที่อยากซื้อหรือเปล่า” “เรียบร้อยแล้วค่ะคุณทิวา เสื้อผ้า รองเท้า กระเป๋าทำงาน ขวัญเตรียมพร้อมลุยแล้วค่ะ” “ลำบากหน่อยนะขวัญ แต่พี่รับรองว่าสนุกแน่นอน พี่อยากทำงานแบบนายทิวมาก ถ้าพ่อแม่ยอมให้พี่ทำงานแบบนั้นเราสองคนคงตะลุยเที่ยวไปทั่วไทยแน่นอน” “น่าสนุกขนาดนั้นเลยเหรอคะคุณทิวา” ฉันจินตนาการถึงการตะลุยทำงานออกพื้นที่กับคุณทิวาตาเป็นประกาย ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงมันคงสนุกน่าดูเลย “ใช่จ้ะ สมัยที่พี่ทำงานใหม่ ถ้าไม่ติดที่แม่ตามไปด้วยทุกทีคงสนุกกว่านี้มาก พี่ไม่อยากให้แม่ลำบากและไม่สบายใจ เลยกลับมาทำที่สำนักงานใหญ่ ไม่ได้ลุยงานแต่ก็นะ สนุกคนละแบบ อยู่ที่นี่ขวัญก็เห็น พี่ได้แต่งตัวสวยไปคุยงานแทบทุกวัน” “ถ้ามีความสุข งานแบบไหนก็ทำให้สนุกได้ ใช่หรือเปล่าคะ” “ใช่เลยจ้า เอ๊ะ! นี่ขวัญเตรียมพวกครีมกันแดดครีมบำรุงผิวพร้อมหรือยัง ให้พี่ไปช่วยเลือกไหม” “เรียบร้อยค่ะ ขวัญเตรียมพร้อมหมดแล้ว วันนี้ขวัญจะไปทานข้าวเย็นกับยัยเก้า คุณทิวาไปด้วยกันไหมคะ” “เอาสิ เดี๋ยวมื้อนี้พี่เลี้ยงเอง อยากกินอะไรเลือกมาเลย” “เราเลือกร้านแล้วค่ะ วันนี้จะไปร้านอาหารแถวที่ทำงานเก่ายัยเก้าค่ะ มีดนตรีสดให้ฟังด้วย” “อย่างนั้นก็ดีสิ พี่ไม่ได้ไปร้านที่มีดนตรีสดให้ฟังนานแล้ว ไปรำลึกความหลังหน่อยแล้วกัน” “ถ้าอย่างนั้นคุณทิวาไปรถขวัญแล้วกันนะคะ วันนี้คุณทิวาเป็นเจ้ามือขวัญจะเป็นคนขับรถให้นั่งเองค่ะ” “โอเค ได้จ้ะ” ฉันกับคุณทิวาจัดการเก็บโต๊ะทำงานของตัวเอง จะบอกว่าเก็บโต๊ะทำงานสำหรับฉันคงไม่ถูก เพราะโต๊ะของฉันสะอาดไม่มีเอกสารอะไรแล้ว เพราะส่งมอบงานกลับคืนคุณทิวาเรียบร้อยตั้งแต่เมื่อบ่ายแล้ว ฉันไม่ต้องส่งมอบงานให้เลขาคนใหม่ของคุณทิวาเพราะทางบริษัทเพิ่งจะลงประกาศรับสมัครได้ไม่กี่วัน กว่าคุณทิวาจะได้เลขาคนใหม่ ฉันก็คงทำงานกับคุณคีรีได้เกือบเดือนแล้วน่ะสิ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD