ก่อนย้ายที่ทำงาน

1671 Words
“มึงไม่ได้ถูกหลอกเหมือนกูนี่ คนที่นอนกับมึงทุกวัน ไปนอนกับคนอื่นแล้วยังหลอกเอาเงินมึงไปบำเรอผู้ชายอีกคน” “ก็มึงมันลีลาไม่ดี เค้าก็ไปหาคนอื่นไง ฮ่า ฮ่า ฮ่า” “ถ้ากูลีลาไม่ดีจริง ทำไมสาวพวกนั้นพอรู้ว่ากูไม่มีใครก็ไล่ตามกูไม่หยุดเลยล่ะ” ผมมองไอ้เหนืออย่างเป็นต่อ ช่วงที่ผมตัดขาดกับเพลินใหม่ๆ สาวๆ ต่างก็ดีใจวิ่งเข้าใส่ผมทุกวันจนผมต้องกินนอนอยู่ที่อพาร์ทเม้นท์เป็นเดือนๆเลยทีเดียว เรื่องเสน่ห์ดึงดูดเพศตรงข้ามผมมีมากอย่างเหลือล้น แต่พอลองคิดดูให้ดีก็มีแค่กีรติเลขาของพี่ทิวาเท่านั้นที่ไม่มีท่าทีสนใจผมเลย คิดแล้วหงุดหงิดชะมัด “ถุย! เรื่องหลงตัวเองไม่มีใครเกินมึงเลย” “มึงก็ไม่น้อยไปกว่ากูหรอก” “ไปโรงแรมกัน” “คำพูดมึงนี่นะ ถ้าเป็นสาวๆ ชวนกูแบบนี้ กูคงไม่ปฏิเสธ” “หรือมึงจะปฏิเสธ” “ไม่” “กูต้องเข้าไปจัดการงานอีกนิดหน่อย” “เออ กูเก็บของก่อน” ผมตามไอ้เหนือไปจัดการงานที่โรงแรม ตอนนี้เพื่อนผมเป็นผู้บริหารโรงแรมอย่างเต็มตัวแล้ว หลังจากที่พวกเรากลับจากเรียนต่อที่ต่างประเทศ ไอ้เหนือก็เข้ามาสืบทอดกิจการของครอบครัวทั้งโรงแรมและรีสอร์ตที่มีอยู่ในหลายจังหวัดของประเทศ เราสองคนเลยไม่ค่อยมีเวลาสังสรรค์กันเหมือนเมื่อก่อน เพราะเพื่อนผมต้องเดินทางไปตรวจงานระหว่างโรงแรมอยู่บ่อยๆ ช่วงนี้มันมาทำงานที่กรุงเทพและผมยังไม่ได้ไปทำงานประจำไซต์งานที่ต่างจังหวัด เวลานี้จึงเป็นช่วงที่ดีที่พวกเราจะได้สังสรรค์กัน ไอ้เหนือจัดการงานอยู่ไม่นานเราก็ลงไปที่คลับของโรงแรมนั่งดื่มและพูดคุยเรื่องต่างๆกัน “ไอ้นิค” ผมตบไหล่เพื่อนสนิทอีกคนที่ไม่ได้เจอกันมานาน “ไอ้ทิว เฮ้ย! เพื่อน เกือบครึ่งปีแล้วที่ไม่เจอกัน มึงยังหล่อเหมือนเดิมเลยนี่” ผมกอดคอพาไอ้นิคเพื่อนสนิทชาวต่างชาติที่ไม่ได้พบกันนานกลับมาที่โต๊ะ ขณะที่พบกันโดยบังเอิญหลังจากเข้าห้องน้ำ “เฮ้ย! ไอ้นิค มาได้ไงวะเพื่อน” ไอ้เหนือลุกขึ้นมากอดคอทักทายไอ้นิคทันทีที่มันเห็นพวกเรา “กูมาทำงาน เพิ่งมาถึงเมื่อเช้านี้ นี่ก็เพิ่งตื่นนอน” ไอ้นิคนวดต้นคอเบาๆ มันคงปวดหัวจากอาการเจ็ตแล็ก “ก่อนจะมาทำไมไม่ส่งข่าวมาบอกวะ พวกกูจะได้เตรียมต้อนรับมึง” ไอ้เหนือดึงไอ้นิคให้นั่งลงข้างๆ กัน “ก็ว่าจะโทรหาพรุ่งนี้ อีกอย่างกูมาไม่นาน สัปดาห์หน้าก็กลับแล้ว คิดว่าก่อนกลับค่อยโทรหาพวกมึง” ไอ้นิคพูดพร้อมกับรับแก้วน้ำเย็นที่ผมรินส่งให้ขึ้นดื่ม “เอาการ์ดมึงมา เดี๋ยวกูอัพเกรดห้องที่ดีที่สุดให้” ไอ้เหนือเริ่มทำหน้าที่เจ้าบ้านที่ดีด้วยการดูแลเรื่องที่พักให้เพื่อนอย่างเต็มใจ สมัยที่เราอยู่ที่อเมริกาไอ้นิคดูแลพวกเราดีมาก จนเราทั้งสามคนสนิทกันมากในที่สุด “นี่โรงแรมมึงเองเหรอ ว้าว! นี่กูมีเพื่อนเป็นผู้บริหารโรงแรมใหญ่ขนาดนี้เลยเหรอวะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” ไอ้นิคตบไหล่ไอ้เหนืออย่างยินดี ไอ้เหนือเองก็ยักคิ้วให้เพื่อนอย่างน่าหมั่นไส้ “มึงก็พูดชมมันเหมือนไม่รู้ว่าครอบครัวมันทำธุรกิจอะไร” ผมวางแก้วไวน์แก้วใหม่ลงตรงหน้าไอ้นิค “กูก็ชมมันไปอย่างนั้นแหละ มึงก็เห็นนี่เมื่อกี้มันแสดงสีหน้าภูมิใจขนาดไหนที่กูชมมัน แต่กูก็ยินดีกับมึงจริงๆนะ โรงแรมมึงบริการดีมาก” ไอ้นิคยิ้มมุมปากอย่างกวนๆ ส่งให้ผม “มึงชอบก็ดีแล้ว” “นี่คำพูดของเจ้าของโรงแรมเหรอวะ กูคิดว่าจะมีคำกล่าวขอบคุณแสดงความซาบซึ้งใจอะไรแบบนั้นซะอีก” ไอ้นิคจิ้มผลไม้ตรงหน้าเข้าปากเคี้ยวกินอย่างเอร็ดอร่อย เพื่อนผมคงจะชอบผลไม้ไทยอย่างสับปะรดกับส้มโอเข้าให้แล้ว “ส่งการ์ดมึงมาให้กู เดี๋ยวกูให้พนักงานจัดการเปลี่ยนห้องให้เดี๋ยวนี้เลย เร็วเข้า” “ไม่ต้องเปลี่ยน ห้องกูดีมากแล้ว ขอบใจมาก อีกอย่างกูมากับลูกน้องสองสามคน ไม่อยากวุ่นวาย” “โอเค ครั้งหน้าที่มึงมากูจะจัดบริการพิเศษให้มึงอย่างถึงอกถึงใจเลยเพื่อนรัก” ไอ้เหนือยกแก้วไวน์ของตัวเองขึ้น ผมกับไอ้นิคก็ยกแก้วไวน์ของตัวเองขึ้นชนกับเพื่อนเป็นการตกลงกัน “แล้วมึงเป็นยังไง” ไอ้นิคหันมาคุยกับผมบ้าง “กูกำลังจะย้ายไปดูแลไซต์งานที่ต่างจังหวัด” “เฮ้! เพื่อน! มึงบอกกูว่ามึงจะกลับมาบริหารงานบริษัทไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมถึงได้ไปทำงานใช้แรงงานล่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” “งานออฟฟิศให้สาวๆเค้าทำ ส่วนหนุ่มโสดอย่างกูต้องลงหน้างานดูงานภาคสนามเท่านั้น” “มึงนี่น่าสงสารนะ เกิดมาพ่อแม่ไม่รัก ถึงกับส่งให้ไปเรียนเมืองนอกหลายปี พอกลับมาอยู่บ้านไม่ถึงปีก็ส่งไปอยู่ต่างจังหวัดซะแล้ว ฮ่า ฮ่า ฮ่า” “ช่างกูเถอะ แล้วนี่มึงมาทำอะไรที่ไทย” “พาลูกน้องมาดูงาน พวกศิลปวัฒนธรรม อาหารการกินอะไรพวกนั้น ลูกน้องกูติดต่อร้านอาหารไทยไว้แล้ว พรุ่งนี้จะเข้าไปดู” “อืม ขอให้ราบรื่น มีอะไรก็ถามไอ้เหนือ มันคงรู้เรื่องอะไรพวกนี้มากกว่ากู” “เห็นมึงเคยบอกว่าจะเปิดร้านอาหารนานาชาติ นี่แสดงว่ามึงลงมือทำแล้วใช่ไหม” “ใช่ ตอนนี้ก็ศึกษาเรื่องอาหารของชาติอื่นอยู่ ตอนนี้กูทำร้านไปได้ห้าสิบเปอร์เซ็นต์แล้ว” “ยินดีด้วยเพื่อน ขอให้ประสบความสำเร็จ” ผมตบไหลไอ้นิคแสดงความยินดีที่เพื่อนเริ่มทำตามฝันของตัวเองแล้ว “ใช่ ยินดีด้วย ขอให้กิจการรุ่งเรือง” ไอ้เหนือก็ทำเหมือนกันกับผม พวกเรารู้มาตลอดว่าไอ้นิคมีฝันอยากทำร้านอาหาร และฝีมือการทำอาหารของมันก็เยี่ยมมากเลยทีเดียว สมัยที่เรียนอยู่ด้วยกันไอ้นิคทำอาหารให้พวกเรากินบ่อยมาก จนพวกเราเคยบอกให้มันไปเปิดร้าน มันก็ตอบกลับมาว่ามันจะเปิดแน่นอนแต่ต้องทำให้หลากหลาย และยังบอกว่าตัวมันยังต้องพัฒนาอีกมาก มาวันนี้มันบอกว่ามันเริ่มทำตามฝันแล้ว พวกผมจึงยินดีกับเพื่อนมากจริงๆ เรานั่งคุยย้อนอดีตกันจนล่วงเลยเข้าวันใหม่ก็แยกย้ายกันกลับเพราะต่างคนต่างก็มีหน้าที่รับผิดชอบในช่วงเช้าของวัน ผมเองก็ต้องเข้าไปคุยกับพ่อเรื่องวันเวลาที่จะย้ายไปประจำที่ต่างจังหวัดตามที่ได้เคยคุยกับท่านเมื่อสัปดาห์ก่อนว่าจะขอไปอยู่ประจำไซต์งานและท่านก็ยินดีให้ผมไป แล้วยังมอบหมายให้ผมดูแลงานของทางภาคตะวันออกทั้งหมดอีกด้วย 11.00 น. หลังจากจัดการกับเอกสารต่างๆเรียบร้อยผมก็เดินตรงมายังห้องของท่านประธานตามเวลาที่ได้นัดหมายไว้ล่วงหน้าแล้ว “มาแล้วเหรอ นั่งก่อนสิ” พ่อไม่ได้เงยหน้ามองผมด้วยซ้ำ เพราะท่านกำลังนั่งดูโทรศัพท์มือถือของตัวเองอยู่ คาดว่าคงจะเป็นวิดีโอที่แม่ถ่ายไว้แล้วส่งมาให้พ่อดูแน่ๆ “สนใจผมหน่อยสิครับพ่อ” ผมส่งเสียงเรียกท่านเมื่อพบว่าผมนั่งมองดูพ่อผมยิ้มกับโทรศัพท์มือถือถึงสิบนาทีแล้ว “อีกเดี๋ยว ใกล้จะจบแล้ว” ท่านยังคงให้ความสนใจกับคลิปวิดีโอของแม่อยู่ ผมล่ะอยากรู้จริงๆ ว่าแม่ผมส่งคลิปอะไรมาให้พ่อผม ท่านถึงได้นั่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ขนาดนี้ “ผมนั่งรอพ่อมาสิบนาทีแล้วนะครับ” ผมยังคงมองพ่อที่ไม่ยอมละสายตาจากหน้าจอโทรศัพท์มือถือของตัวเอง “อีกเดี๋ยว” ท่านเร่งเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ผมจึงได้ยินเสียงของคนที่อยู่ในคลิป เป็นเสียงของแม่ผม เสียงพี่ทิวา และอีกเสียงก็เป็นเสียงของกีรติเลขาของพี่นั่นเอง จากเสียงที่ได้ยินคาดว่าจะเป็นคลิปวิดีโอที่แม่สอนพี่ทิวาทำอาหารแน่นอน “ผมต้องไประยองบ่ายนี้นะพ่อ พ่อคุยกับผมก่อนแล้วค่อยดูคลิปแม่ก็ได้นี่ครับ” ผมเริ่มโอดครวญที่พ่อไม่ให้ความสนใจกับผมเลยสักนิด “จบแล้วๆ ว่ามา” พอกดปิดโทรศัพท์แล้วหันมามองผม “ว่าอะไรครับท่านประธาน ผมแจ้งท่านไว้แล้วนี่ครับว่าจะเดินทางไปประจำที่ระยองวันนี้ อย่าบอกว่าพ่อลืมแล้วน่ะ” ผมเริ่มโวยวายที่พ่อทำเหมือนว่าผมไม่ได้แจ้งอะไรท่านไว้เลย “จำได้สิ ก็เอาตามที่แกเสนอมาแล้วกัน มีอะไรไม่เข้าใจตรงไหนก็ถามพ่อ ไปอยู่โน่นก็วางตัวดีๆ ตั้งใจทำงานนะ พ่อเชื่อว่าแกจะทำได้ดี” พ่อเดินเข้ามาตบไหล่ให้กำลังใจผม “ครับ ผมจะตั้งใจทำงานให้ดี จะไม่ให้พ่อแม่และพี่ทิวาผิดหวัง” “กลับบ้านมาหาแม่บ่อยๆล่ะ” “ครับ” “ไปเถอะ ขับรถดีๆ” ผมยกมือไหว้ลาพ่อ แล้วเดินออกมาจากห้องของท่านตรงมายังรถกระบะสี่ประตูยกสูงสีดำของตัวเอง ตลอดระยะเวลาที่ผมไปทำงานที่ต่างจังหวัดผมจะใช้รถคันนี้ในการเดินทางไปทำงานในทุกๆที่
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD