ที่ทำงานใหม่

1986 Words
15.00 น. ผมเดินทางเข้าไปที่ไซต์งานก่อนที่จะเข้าที่พักเพราะอยากทำความคุ้นเคยกับทีมงานของที่นี่ ทีมงานของไซต์งานนี้นับว่าเป็นทีมที่แรกที่ผมได้เรียนรู้การทำงานที่แท้จริง ยังดีที่พี่ชัยหัวหน้าโปรเจคเมเนเจอร์ยังประจำอยู่ ผมเลยยังพอมีคนคุ้นเคยอยู่บ้างแต่ก็มีพนักงานอีกหลายคนที่เป็นคนใหม่ที่ผมต้องทำความรู้จัก “สวัสดีครับคุณทิว ไม่เจอกันนานเลยนะครับ” พี่ชัยเดินเข้ามาทักทายผมอย่างยินดี “สวัสดีครับพี่ ก็พี่ไม่ยอมมางานเลี้ยง เราก็เลยไม่ได้เจอกันซะที” ผมยกมือไหวทักทายพี่ชัยอย่างคุ้นเคย ผมนับถือพี่ชัยมากเพราะแกเป็นทั้งพี่และครูที่สอนงานให้ผม “เข้าข้างในเถอะ เดี๋ยวผมพาไปทำความรู้จักทีมงาน” พี่ชัยตบไหล่แล้วพาผมเดินเข้าออฟฟิศของไซต์งานนี้ซึ่งกำลังก่อสร้างโรงงานผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ของบริษัทร่วมทุนต่างชาติ “มีปัญหาอะไรบ้างหรือเปล่าครับพี่” ผมถามถึงสภาพแวดล้อมโดยรวมทั่วไปของที่นี่ “ยังไม่มีปัญหาอะไรครับ ทั้งงานทั้งคนยังอยู่ภายใต้การควบคุมอยู่ครับ” “ครับ ไม่มีปัญหาดีที่สุดแล้ว” “ทุกคน มารวมตัวกันทางนี้หน่อยครับ ท่านนี้คือคุณคีรี ผู้จัดการภาคคนใหม่ของบริษัทเราและจะมาประจำอยู่กับเราที่นี่ด้วยครับ” พี่ชัยแนะนำผมให้กับพนักงานทุกคนได้รู้จัก “สวัสดีครับผู้จัดการ สวัสดีค่ะผู้จัดการ” ผมยกมือไหว้และรับไหว้พนักงานที่ยกมือไหว้ทักทายผม “สวัสดีครับทุกคน เรียกผมว่าทิวก็ได้ครับ” ผมทำความรู้จักกับพนักงานทุกคน และเพื่อให้คุ้นเคยกันได้เร็วขึ้นผมจึงบอกพี่ชัยให้คนงานออกไปซื้อวัตถุดิบมาทำอาหารเลี้ยงพนักงานและคนงานที่นี่ “คุณทิวพักที่ไหนครับ” “ที่นี่มีที่ให้นอนหรือเปล่าครับ ผมว่าจะขอค้างด้วยคน” “พักอพาร์ทเม้นท์สบายกว่านะครับ” “ผมนอนที่ไหนก็ได้พี่ชัย” “ตู้ข้างๆ ผมว่างอยู่ นอนได้ครับ ผมให้แม่บ้านทำความสะอาดไว้แล้ว คิดว่าคุณทิวต้องค้างที่นี่แน่ๆ” “ขอบคุณครับพี่ชัยที่ยังรู้ใจผมเหมือนเดิม” “คุณทิวดูไม่เปลี่ยนไปเลยสักนิดนะครับ” “พี่ก็ไม่เปลี่ยนนี่ครับ” “ครับ” “ลุงเริงย้ายไปประจำไซต์อื่นแล้วเหรอครับพี่ ผมไม่เห็นแกเลย” “แกไม่สบายครับ ตอนนี้อยู่ที่โรงพยาบาล” “เป็นอะไรครับพี่” “กระเพาะทะลุครับ ดื่มหนัก” “แกมีปัญหาส่วนตัวเหรอครับ แกบอกหรือเปล่า” “แกเลิกกับเมียครับ เมียแกมีชู้ แกเครียดมากเลยกินแต่เหล้าข้าวปลาไม่กิน นั่นแหละครับกระเพาะทะลุตามระเบียบ” “แล้วตอนนี้เป็นยังไงมั่งครับ ใกล้หายหรือยัง” “หายแล้วครับ ผมไปเยี่ยมเมื่อเที่ยง พรุ่งนี้ก็กลับบ้านได้แล้ว” “เดี๋ยวพรุ่งนี้ผมไปรับแกเอง แกอยู่ตึกไหนครับ” “แผนกผู้ป่วยในตึกสามครับ” หลังจากนั่งคุยเรื่องงานและเรื่องทั่วไปกับพี่ชัยอยู่นาน พนักงานก็มาตามเราไปกินข้าว ผมพูดคุยกับทุกคนอย่างเป็นกันเองเพื่อที่ทุกคนจะได้ไม่เกร็งมากเวลาอยู่ต่อหน้าผม “ผมไปพักก่อนนะครับพี่ ทุกคนกินกันต่อนะครับ พรุ่งนี้เจอกันครับ” ผมเดินกลับห้องพักที่พี่ชัยเตรียมไว้ให้แล้ว เพราะเคยนอนตู้คอนเทนเนอร์แบบนี้มาก่อนจึงไม่รู้สึกลำบากอะไร พี่ชัยเตรียมห้องให้ผมดีมากมีเตียงขนาดเล็กพร้อมเครื่องนอน แล้วยังมีโต๊ะทำงานตัวเล็กให้ผมอีกด้วย ผมกลับไปเอากระเป๋าเดินทางที่รถ จัดการอาบน้ำแล้วเข้านอน พรุ่งนี้ผมต้องไปรับลุงเริง ผมอยากคุยกับแกหน่อย อยากให้แกหายเครียดไม่อยากให้เรื่องส่วนตัวมีผลต่อการทำงานของแก เรื่องที่พี่ชัยบอกว่าควบคุมได้ตอนนี้อาจจะยังควบคุมได้อยู่อย่างที่แกบอก แต่ถ้าลุงเริงยังกลับมาเครียดคิดมากและดื่มหนักแบบนี้ในอนาคตไซต์งานนี้มีปัญหาแน่ 08.00 น. ผมขับรถมาถึงโรงพยาบาล สอบถามทางไปตึกผู้ป่วยในแล้วมุ่งหน้าไปหาลุงเริงทันที “สวัสดีครับลุงเริง” ผมเดินเข้ามายังเตียงคนไข้ที่ลุงเริงนอนอยู่ แกดูแก่ลงมากจริงๆ สีหน้าของคนสูงวัยที่มีรอยยิ้มและมีความสุขเสมอนั้นหายไปแล้ว “คุณทิวเขา” ลุงเริงดูตกใจมากที่เห็นผม และแกก็ยิ้มให้ผมในที่สุด “ครับผมเอง” “กลับมาเมื่อไหร่ครับ โตขึ้นมากเลยนะแล้วก็หล่อมากด้วยครับ” ลุงเริงมองสำรวจผมพร้อมกับจับมือผมแน่น และยิ้มกว้างอย่างดีใจที่ได้พบกัน “กลับมานานแล้วครับ ประจำอยู่กรุงเทพ ตอนนี้ย้ายมาแล้วครับ ลุงเป็นยังไงบ้าง” “หายดีแล้วครับ หมอให้กลับได้แล้ว” “ญาติคุณลุงใช่ไหมคะ เดี๋ยวไปติดต่อรับยานะคะ ส่วนคุณลุงเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมกลับบ้านได้แล้วค่ะ” พยาบาลเดินมาแจ้งเราทั้งคู่ด้วยรอยยิ้ม “ขอบคุณครับ เดี๋ยวผมไปรับยาให้นะลุง ลุงเปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จรอผมนะครับ ผมมารับลุงกลับบ้าน” ผมยิ้มขอบคุณพยาบาลคนนั้น เธอยิ้มให้ผมอย่างเขินอายแล้วเดินจากไป ผมจึงหันมาคุยกับลุงเริง และกำชับให้แกอยู่รอกลับบ้านพร้อมกัน “ครับคุณทิวเขา” ลุงเริงรับคำผมอย่างว่าง่าย ผมจึงเดินออกไปรอรับยาตามที่พยาบาลแจ้งไว้ หลังจากรับยาและเคลียร์ค่าใช้จ่ายเสร็จเรียบร้อยผมก็กลับมารับลุงเริงกลับไซต์งานด้วยกัน “ไม่เจอกันตั้งหลายปี ลุงไม่มีเรื่องอยากคุยกับผมเลยเหรอครับ” ผมชวนคุย เพราะตั้งแต่ที่พวกเราออกจากโรงพยาบาลมาลุงชัยก็นั่งเงียบมาตลอด “ผมเห็นคุณทิวเขาดูสบายดีครับ และผมเองก็ไม่รู้จะคุยอะไรครับ” "ลุงไม่อยากรู้เหรอว่าที่เมืองนอกเป็นยังไง ผมคิดว่าลุงมีเรื่องอยากจะถามผมมากซะอีก” “ถ้าคุณทิวเขาอยากเล่าก็จะเล่าเองไม่ใช่เหรอครับ” “อยู่ที่นั่นก็สนุกดีครับ ผมได้อะไรเยอะมาก” “ที่ว่าได้เยอะนี่สาวๆ หรือเปล่าครับ” “ก็มีบ้างครับลุง ผมหล่อขนาดนี้ จะไม่มีหญิงเลยได้ยังไง” “ผมก็คิดแบบนั้นครับ เมื่อก่อนสาวน้อยสาวใหญ่ต่างก็ชอบคุณทิวเขาทั้งนั้น” “ผมขอคุยเรื่องของลุงบ้างได้ไหมครับ” “คุณชัยคงเล่าเรื่องของผมให้คุณทิวเขาทราบแล้ว” “ผมถามเอากับพี่ชัยน่ะครับ ลุงอย่าว่าพี่ชัยเลย” “ผมทราบครับว่าคุณชัยหวังดี ที่ผ่านมาคุณชัยก็เตือนผมมาตลอด เป็นผมเองที่หน้ามืดตาบอดเอง สภาพเลยเป็นอย่างที่คุณทิวเขาเห็นนี่ล่ะครับ” “ผมกลับมาแล้ว ต่อไปผมจะช่วยมองสาวๆ ให้ลุงเอง” “อย่าเลยครับ ผมอายุเข้าเลขห้าแล้วนะครับ ไม่อยากมีใครแล้วครับ” “ลุงรู้จักกับผู้หญิงคนนั้นได้ยังไงครับ” “รู้จักกันเมื่อปีก่อนครับ ตอนเลี้ยงต้อนรับน้องนักศึกษาฝึกงาน ที่ร้านอาหารในเมือง เธอเป็นพนักงานต้อนรับที่นั่น” “สวยมากเหรอครับ ลุงถึงได้สนใจ” “น่ารักมากครับ ดูแลเก่ง เอาใจเก่งด้วย ผมไปกินข้าวที่ร้านนั้นบ่อยเลยได้คุยกัน ถูกใจก็คุยกันมาเรื่อยผมไปรับส่งเธอที่บ้านกับที่ทำงานถึงสามเดือน เธอก็ตามมาอยู่กับผม” “ตามมาอยู่ที่ไซต์กับลุงเหรอครับ” “เปล่าครับ หลังจากคบกันได้สองเดือนเธอบ่นอยากมีบ้านเป็นของตัวเอง ผมเลยซื้อบ้านครับ เราก็อยู่ด้วยกันที่บ้านหลังนั้น” “ถึงกับซื้อบ้าน ลุงคงชอบเธอจริงๆ” “ผมรักเธอเลยล่ะครับ รักมากเลยยอมทุกอย่าง แม้แต่บ้านที่ผมเพิ่งซื้ออยู่ได้ไม่ถึงปีผมยังยกให้เธอเลยครับ” ลุงเริงพูดถึงเมียเก่าเหมือนแค่เล่าเรื่องทั่วไป ผมมองไม่เห็นความเจ็บปวดหรือทุกข์ใจอะไรเลยสักนิด “ลุงยกบ้านให้เลยเหรอครับ ทำไมล่ะครับลุง” “เธอเข้าหาผมตั้งแต่แรกเพราะอยากมีบ้านนี่ครับ ผมก็แค่ให้ในสิ่งที่เธอต้องการเท่านั้น” “แล้วทำไมลุงถึงดื่มหนักถึงขนาดนั้นล่ะครับ” “ผมเสียใจที่เธอหลอกผมครับ” “หลอกเหรอครับ” “ครับ เธอมีคนรักอยู่แล้ว ผู้ชายคนนั้นนอกใจและทำร้ายเธอ เธอเลยหนีมาทำงานที่นี่ครับ ทำงานได้สี่เดือนก็พบกับผม เราอยู่กินกันได้สามเดือน แฟนเก่าของเธอก็กลับมาขอคืนดี พวกเขาแอบเช่าบ้านอยู่ด้วยกัน คุณชัยรู้เข้าเลยมาเตือนผม แต่เป็นผมเองที่หลงผู้หญิงคนนั้นจนมองไม่เห็นความผิดปกติอะไร กลางวันเธออยู่กับผู้ชายคนนั้น แต่กลางคืนเธออยู่กับผม” ลุงเริงหยุดเล่าไปดื้อๆ ผมลอบมองเสี้ยวหน้าของแกก็เห็นว่าแกมองออกไปนอกหน้าต่างอย่างเหม่อๆ “แล้วยังไงต่อครับลุง” “ผมเป็นชู้ครับคุณทิวเขา” “หือ! ชู้เหรอครับลุง” “ครับ พวกเขาเป็นสามีภรรยากันตามกฎหมาย ผมเลยเป็นชู้ครับ เป็นชู้โดยไม่รู้ตัวเลยสักนิด สองเดือนก่อนสามีเธอมาแสดงตัว พวกเราได้พูดคุยกัน เธอยอมรับว่าหลอกผมตั้งแต่แรก เราจบกันแค่นั้น ผู้ชายคนนั้นอยากได้บ้านเธอเลยขอบ้านกับผม ผมก็เลยยกให้เธอไป” “ง่ายๆ แบบนี้เลยเหรอครับลุง” “ครับ ง่ายๆ แบบนั้นเลย ผมตัดใจตัดขาดกับเธอแล้วครับ ตอนแรกก็ทรมานนะครับ กินไม่ได้นอนไม่หลับ ผมเสียใจ โกรธแค้น เลยหันมาพึ่งเหล้าคลายทุกข์แต่สุดท้ายมันก็กินผมจนได้ ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า! แต่ตอนหลังก็มาคิดได้ว่าผมแก่ขนาดนี้แล้วเธอจะมาอยู่กับผมทำไมถ้าไม่ใช่เรื่องเงินหรือพวกทรัพย์สินอะไรพวกนั้น เรื่องความรักไม่ต้องพูดถึงเลยครับ คนสาวๆที่ไหนจะมารักคนแก่ที่อีกไม่กี่ปีก็จะตายจากไปก่อนปล่อยให้เธอต้องอยู่คนเดียว” ลุงเริงพูดอย่างคนที่ปลงได้แล้ว ผมหวังว่าแกคงจะคิดได้จริงอย่าที่พูด “ลุงไม่ได้แก่ขนาดนั้นสักหน่อย จะมีเมียสาวๆอีกกี่คนก็ได้” ผมไม่ได้พูดเอาใจลุงเริง เมื่อก่อนแกออกกำลังกายอยู่เป็นประจำ เลยยังดูอ่อนกว่าวัยอยู่มาก ถึงแม้ว่าตอนนี้แกจะอยู่ในวัยห้าสิบปีแล้วแต่ก็ยังมีสุขภาพแข็งแรงอยู่ ที่ดูโทรมไปคงเพราะจากการที่แกดื่มเหล้าหนักนั่นเอง “อย่าพูดอย่างนั้นเลยครับคุณทิวเขา ผมไม่อยากคิดอะไรพวกนั้นแล้วครับ ผมอยู่มาป่านนี้แล้ว ไม่มีเมียก็อยู่ได้ครับ” “เอาอย่างนั้นก็ได้ครับ แต่ถ้าลุงเจอใครอีกเมื่อไหร่ก็บอกผมนะครับ ผมจะช่วยลุงดูเอง คราวนี้ลุงไม่เสียใจแน่ครับ” “ถึงแล้ว ผมขอตัวก่อนนะครับ” “พักผ่อนมากๆนะครับลุง ผมอยากได้ลุงเริงคนเดิมกลับมาไวๆ” ลุงเริงหันมายิ้มให้ผม ลงจากรถแล้วเดินกลับบ้านพักไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD