บทที่1.มาเฟียแห่งโรม

1562 Words
บทที่1.มาเฟียแห่งโรม เครื่องบินเจ็ทส่วนตัวติดตัวอักษรข้างลำเรือ ย้ำถึงฐานะผู้ครอบครอง ‘คอลิเอโน่’ ประกาศอำนาจที่มีอยู่ให้ฝ่ายตรงข้ามรับรู้ ตัวเครื่องทะยานขึ้นเหนือน่านฟ้า ตรงดิ่งจากอเมริกามายังกรุงโรมไม่คิดจะแวะที่ไหน ผู้โดยสารคนนี้กำลังโกรธ ภายในใจของเขาอัดแน่นไปด้วยเพลิงโทสะ เพราะถูกคู่แข่งหยามหน้า ท่าเทียบเรือขนาดใหญ่ธุรกิจหลักของ ดอนเฟรโด คอลิเอโน่ถูกมือดีเข้าไปบ่อนทำลายแทบทุกทาง ตั้งแต่ขโมยสินค้าในโกดัง จนกระทั่งโกดังสินค้าถูกวางเพลิงวอดวาย ดอนหนุ่มโมโหจนหนวดกระตุก รีบกลับถิ่นฐานทั้งที่อยู่ในช่วงพักร้อน เขาพานางแบบทรงโตไปพักผ่อนไกลถึงฝั่งอเมริกา สองตระกูลใหญ่แห่งโรม เดิมทีเคยเป็นคนสนิทชิดเชื้อ แต่มาแตกคอกันเพราะความเห็นไม่ลงรอย รวมถึงความขัดแย้งจากภายในเปลี่ยนคู่หูเป็นคู่แค้น แยกกันอยู่คนละฝั่งโดยไม่ข้องเกี่ยวกัน เป็นสนธิสัญญาลูกผู้ชายแบ่งอำนาจการดูแลโรมคนละครึ่ง ‘คอลิเอโน่’ และ ‘การ์เซียน่า’ สองตระกูลดังแห่งโรม ขั้วอำนาจมืดในอดีต แต่ผันตัวมายืนกลางแสงสว่างเมื่อโลกหมุนเวียนเปลี่ยนไป แต่อำนาจอันแข็งแกร่งก็คงอยู่ เป็นที่นับหน้าถือตาทั่วอิตาลี คนไม่เกี่ยวข้องจะหลีกหนี ไม่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวด้วย เพราะรู้ดีถึงความเหี้ยมของทั้งสองตระกูล คฤหาสน์คอลิเอโน่ตั้งอยู่บนเกาะสิสิลี แต่ดอนเฟรโดมีบ้านหลังมหึมาอยู่กลางโรม เพื่อเป็นที่พักผ่อนขณะทำงาน ท่าเทียบเรือขนาดใหญ่เป็นแหล่งศูนย์รวม หากต้องการค้าขายในโรมจะต้องมาเทียบเรือที่ท่าของคอลิเอโน่ จึงเป็นแหล่งรวมของสินค้าทุกชนิดที่มาทางเรือ ผ่านน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียน กิจการเดินเรือของคอลิเอโน่ขยายวงกว้างมีเรือโดยสารให้เช่าหลายลำ ไหนจะเรือบรรทุกสินค้าขนาดมหึมานับไม่ถ้วนและสินค้านำเข้าเกรดเอทั่วโลกแทบทุกชนิดทุกรูปแบบ ปลายรองเท้าสีดำมันปราบสะท้อนแสงพระอาทิตย์ ดอนเฟรโดลงจากเครื่องบินเจ็ทส่วนตัว การ์ดชุดดำนับสิบโค้งตัวคำนับนายใหญ่อย่างพร้อมเพียงกัน สายตาคมดุกวาดมองผู้อยู่ใต้บัญชาด้วยแววตาเฉยชา หน้าคร้ามคมตึงเปรี๊ยะ สันกรามโป่งนูน เขากำลังขบกรามเพื่อข่มกลั้นอารมณ์โกรธที่ปะทุอยู่ภายในใจนั่นเอง “พูดมาฉันรอฟังอยู่” เสียงทรงอำนาจกระซิบสั่ง รุ่มร้อนแทบกระอัก จนเกือบจะส่งมือดีไปเอาคืนคนที่กล้าเข้ามาหยามคอลิเอโน่ถึงถิ่น ดอนหนุ่มฟังเรื่องที่ลูกน้องคู่ใจไปสืบมา หลังเหตุการณ์ร้ายแรงหยามคอลิเอโน่โดยการวางเพลิงโกดังสินค้าจนวอดวาย มูลค่าความเสียหายหลายร้อยล้านเหรียญยูโร มันจึงทำให้เฟรโดแทบคลั่งเมื่อรู้ถึงมูลค่าของความเสียหาย “มีใครอยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัยบ้างไหมวะ คิดว่าควรสงสัยใครดี?” เสียงเรียบเรื่อยถามเหมือนไม่ใส่ใจ แต่ทุกๆ คนในบริเวณนี้รู้ดี ยิ่งนิ่งเท่าใดดอนของตัวเองก็ยิ่งกำลังโกรธจัด ประกายสายตาเหี้ยมเกรียมเป็นสิ่งที่บอกแม้สีหน้าจะนิ่งเฉยอยู่แบบนี้ก็เถอะ ความเย็นชาใจคอโหดเหี้ยมไม่มีใครทั่วทั้งกรุงโรมไม่รู้ ดอนหนุ่มสามารถฆ่าคนได้แม้ยังคงยิ้มละไมอยู่บนหน้า เพราะความแกร่งกล้ามันวิ่งวนอยู่ในกระแสเลือด สายเลือดผู้ยิ่งใหญ่ที่ถ่ายโอนมาในสัญชาตญาณ ‘คอลิเอโน่’ ไม่เคยถูกหยามศักดิ์ศรีขนาดนี้ มันจึงเป็นการยั่วยุให้พญาราชสีห์กรุ่นโกรธ เกมการไล่ล่าคงเริ่มขึ้นอีกวาระหนึ่งจนกว่าจะมีการยินยอมของฝ่ายตรงข้าม “...” “มีอะไรก็พูดมาอย่าโยกโย้ ฉันไม่ฆ่าทิ้งทั้งหมดก็ดีเท่าไหร่แล้วโว้ย การป้องกันหละหลวมเพราะอะไรน่าจะรู้ดี บอกมาซะ อย่าเก็บไว้ ให้ฉันตัดสินใจเอง” การ์ดหน้าเหี้ยมกล่าวกระอึกกระอัก สงสารผู้โชคร้ายที่เข้ามาข้องเกี่ยวเมื่อความจริงยังไม่ชัด เด็กหนุ่มรุ่นกระทงที่อยู่กลางที่เกิดเหตุและเป็นคนเดียวที่ยังรอดชีวิตอยู่ ดวงตาโศกสลดและหยดน้ำตาที่ร่วงริน ใบหน้าอ่อนเยาว์หมองเศร้า ไม่ยอมแก้ตัวหรือปริปากพูดสักนิดเดียว มันจึงทำให้กลุ่มคนหน้าโหดที่อยู่กับการนองเลือดและความตายมาตลอดชีวิตนึกเวทนา พวกเขาเลยไม่กล้าแม้จะบอกให้นายเหนือหัวรู้ เพราะสงสารชะตาชีวิตของเด็กผู้นั้น “เหลือคนรอดชีวิตอยู่คนนึงครับ แต่...” “แต่อะไรวะ?” “เด็กผู้ชายตัวเล็กๆ คนนั่นไม่ยอมเปิดปากพูดอะไรเลย ได้แต่ร้องไห้กับด่าทอพวกเรา ก็เลยยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเพิ่มเติมครับดอน” “มันอยู่ไหน ไปพามาสิฉันอยากเห็น มีใครส่งหนอนร้ายเข้ามาคุกคามคอลิเอโน่ช่างโง่เง่าสิ้นดีที่ยังปล่อยให้ตัวเองมีลมหายอยู่” เฟรโดพูดเสียงเย็นชา ประกายตาวาบวับ ยังมีตัวร้ายรอดชีวิตให้เฟ้นหาความจริง “เออ...” “มีอะไรอีกว่ามา อย่าให้ฉันโกรธมากไปกว่านี้สิโว้ย!!” “พวกเราพามันไปไว้ที่คฤหาสน์คอลิเอโน่ครับดอน” “ทำไม? ...” “มีคนพยายามจะฆ่ามันหลังเหตุการณ์สงบ แต่พวกเราเห็นเสียก่อนจึงเก็บตัวการเอาไว้ในที่ปลอดภัย รอดอนกลับมาจัดการครับ” “อืม...” ชายหนุ่มปลดกระดุมแขนเสื้อ ถอดสูทเนื้อดีส่งให้คนติดตาม ถลกปลายแขนเสื้อขึ้นมาจนถึงข้อศอกเปิดระบายความร้อนที่กำลังพลุ่งพล่านอยู่ภายในตัว เขากวาดมองความย่อยยับของโกดังสินค้าและประเมินความเสียหายคร่าวๆ ด้วยสายตาตัวเอง ก่อนจะสั่งเสียงแข็ง สมกับอำนาจอันยิ่งใหญ่ในที่มีอยู่ในสองมือ “เคลียร์ให้จบภายในสองวัน เราจะเปิดตัวโกดังสินค้าใหม่ในอีกสามวันข้างหน้า ฉันจะทำให้คนที่ปองร้ายเราสำนึก ไม่มีอะไรมาหยุดความยิ่งใหญ่ของคอลิเอโน่ได้ นอกจากฉันจะหยุดมันเอง เพิ่มกำลังคนตรวจตราให้เข้มงวดขึ้นอีกสิบเท่า ใครอยู่ในข่ายผู้ต้องสงสัยจับตัวส่งมาให้ฉัน ฉันจะเป็นคนเฟ้นหาคำตอบเอง ปล่อยข่าวกระจายออกไปได้เลย ฉันจะล้างบางพวกที่ทำครั้งนี้และจะไม่ให้เหลือรอดแม้แต่ชีวิตเดียว” “ครับดอน” ลูกสมุนดอนเฟรโดรับคำด้วยความหนักใจ โรมสงบเงียบมานานกว่า 80 ปีหลังสนธิสัญญาที่ทั้งสองฝ่ายลงนามร่วมกัน ต่างแยกย้ายอยู่คนละฝั่งไม่ข้องเกี่ยวกันในทุกกรณี จะต้องมาเกิดสงครามนองเลือดอีกครั้ง บ้านเมืองจะฉิบหายวายวอดอีกเท่าไหร่ เพราะต้องตกอยู่กลางวงล้อมของสองตระกูลที่กำลังจะห้ำหันกันอย่างเอาเป็นเอาตาย “เฮ้อ...” เสียงถอนหายใจของเหล่าการ์ดที่สงสารตัวเองและผองเพื่อน การล้างแค้นกำลังเริ่มต้นขึ้น คงมีคนอีกหลายต้องจบชีวิตชดเชยการสูญเสียของดอนหนุ่ม เฟรโดนั่งนิ่งบนเบาะนุ่มของลีมูซีนคันโต ขณะที่รถยนต์หรูวิ่งฝ่าการจราจรแสนจะติดขัด ออกจากท่าเทียบเรือตรงไปยังคฤหาสน์คอลิเอโน่ สองมือวางเหนือหัวเข่าเอนหลังพิงพนักพริ้มเปลือกตาหลับลงพักผ่อนตาเขากำลังหาสาเหตุของการลงมือครั้งนี้ เมื่อทั้งสองฝ่ายต่างคนต่างอยู่มานานกว่า 80 ปี...แล้วทำไมจู่ๆ การ์เซียน่าถึงลุกขึ้นมาก่อการ หัวคิ้วเข้มๆ ขมวดแน่นเมื่อคิดยังไงก็คิดไม่ออก แต่เขาคงไม่มีทางยอมให้ใครมาลูบเหลี่ยมคอลิเอโน่ได้ง่ายๆ แม้จะไม่อยากลงมือเลยก็ตาม ถึงจะอยู่คนละฝั่งของโรม เฟรโดและมิคาเอลก็เป็นคนรุ่นราวคราวเดียวกัน เคยเห็นกันอยู่บ่อยๆ ไม่ได้สนิทสนมกันเป็นพิเศษ การที่มิคาเอลล้ำเส้นเข้ามาครั้งนี้ดอนหนุ่มจึงไม่มีทางยอม การ์เซียน่ากล้าลองเชิงเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่าง เฟรโดก็ต้องเอาคืนนับสิบๆ เท่า กิจการเดินเรือของการ์เซียน่ายิ่งใหญ่ไม่แพ้คอลิเอโน่ ท่าเทียบเรือขนาดใหญ่เป็นธุรกิจหลังของการ์เซียน่าเหมือนๆ กับที่คอลิเอโน่มี มันจึงไม่แปลกที่อาจจะมีการกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ก็ไม่น่าร้ายแรงถึงขนาดส่งคนมาทำลายข้าวของของฝ่ายตรงข้าม เมื่อมันไม่ใช่วิสัยของลูกผู้ชาย “มันต้องมีมากกว่านี้สิวะ การ์เซียน่าไม่ลดศักดิ์ศรีของตัวเองลงมาเป็นอันธพาลหรอก ใครกันนะอยู่เบื้องหลัง?” ดอนหนุ่มรำพึงออกมาเขาไม่อยากเชื่อแม้จะมีหลักฐานครบว่าการ์เซียน่าผู้ยิ่งใหญ่ ลดฐานอำนาจตัวเองลงมาเป็นอันธพาล “ดอนครับ มีคนปล่อยข่าวลือออกมาทั่วโรม ว่าดอนมิคาเอลต้องการถือครองโรมแค่คนเดียว เพราะฉะนั้นพวกเขาจึงต้องกำจัดคอลิเอโน่ของเรา” เสียงกระซิบของคนสนิทข้างกายทำให้ดอนหนุ่มเปิดเปลือกตาขึ้นมามอง “นายได้ยินข่าวแบบนี้นานรึยัง”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD