T-Brutal รักร้ายนายจอมโหด | 4

1913 Words
หลายวันต่อมา ฉันคือ ‘เกรซ’ ผู้หญิงที่ทั้งสวย รวย แซ่บ และมั่นใจในตัวเองสูงปรี๊ด ฉันไม่เคยแคร์สายตาของคนอื่นที่มองมาที่ตัวเอง เพราะฉันถือว่าการที่พวกเขามองมาที่ฉันนั้นเป็นเพราะว่าฉันดูสวยเด่นจนสะดุดตา จึงทำให้พวกเขามองมาที่ฉัน “อีเกรซ ผู้บ่าวโต๊ะนู้นมองมึงว่ะ” วินนี่ขยับเข้ามากระซิบบอกฉัน ฉันจึงชายตาไปมองตามสายตาของวินนี่ และเห็นว่ามีผู้ชายคนหนึ่งกำลังมองมาที่ฉันอย่างไม่วางตาอยู่ มุมปากของฉันจึงกระตุกเบา ๆ มันเป็นธรรมดาค่ะที่คนจะมองฉัน ฉันชินแล้ว ตอนนี้ฉันมานั่งดื่มกาแฟชิลล์ ๆ อยู่ที่คาเฟ่แถวมหา’ ลัยกับเดอะแก๊งของฉันค่ะ และฉันก็เห็นอยู่เหมือนกันว่าผู้ชายคนนั้นแอบมองฉันมาตั้งนานแล้ว รู้สึกจะมองตั้งแต่ฉันเดินเข้ามาในร้านเลยมั้ง แต่ฉันแค่ทำเป็นไม่สนใจเท่านั้น “ขอโทษนะครับ ผมขอไลน์คุณได้ไหม?” วินนี่ที่กำลังกระซิบบอกฉันไม่ทันขาดคำ จู่ ๆ ผู้ชายคนนั้นก็ลุกพรวดและเดินเข้ามาขอไลน์ฉันแบบไม่ทันได้ตั้งตัว ฉันจึงยิ้มแหยให้เขาก่อนจะตอบไปว่า “ขอโทษด้วยนะคะ พอดีว่าฉันมีแฟนแล้ว” “อ้อ งั้นไม่เป็นไรครับ” เขาทำหน้าจ๋อยคล้ายเสียดายมาก ก่อนจะเดินคอตกกลับไปที่โต๊ะของเขา “ซื่อสัตย์จังเลยนะคะชะนี!” วินนี่หันมาพูดแซะให้ฉันคล้ายหมั่นไส้ให้กัน “คนไม่มีใครเอา มีสิทธิ์แซะคนอื่นด้วยเหรอคะ!?” ฉันจีบปากจีบคอพูดเสียงน่าหมั่นไส้สวนกลับนังกะเทยนนี่ไป “อ๊ายยยยอีเกรซ!!” วินนี่ถลึงตาและกรีดร้องออกมาแบบไม่ได้ดังมาก “ผีเข้าเหรอคะ!?” ฉันแสยะยิ้มมุมปากอย่างสะใจ การเห็นนังวินนี่ดีดดิ้นเหมือนหมาโดนน้ำร้อนคือความสุขของฉันอย่างหนึ่งเลยก็ว่าได้ หึ ๆ “มึงจำไว้เลยนะ กูมีผัวเมื่อไหร่จะควงมาขิงมึงเช้าเย็นเลย!” วินนี่ทำหน้างอง้ำใส่ฉัน “จะมีวันนั้นไหมน้าาา” “ชิ!” วินนี่สะบัดหน้าพรืดใส่ฉันแล้วหันไปทางอื่นอย่างแรง จนฉันล่ะกลัวคอของมันจะเคล็ดแทน “อ๊ายยยย!! ว่าที่ผัวกูกำลังเดินมาทางนี้ว่ะพวกมึง!!” อยู่ ๆ อีกะเทยวินนี่ที่สงครามประสาทสงบกับฉันไปได้หลายนาทีก็กรี๊ดกร๊าดขึ้นมาอย่างตื่นเต้น จนทำให้คนในร้านถึงกับแตกตื่นตามมันและต่างมองตามสายตาของมันไปที่ผู้ชายคนหนึ่งที่กำลังเปิดประตูและเดินเข้ามาในร้าน “อ๊ายยยยย โคตรหล่อ!” “ตาย ๆๆ เก็บศพกูที!” “ติณของช้านนนน!” เสียงกรี๊ดกร๊าดของทั้งหญิงแท้และหญิงเทียมในร้านดังระงมขึ้นเมื่อเห็นว่าผู้ชายที่เดินเข้ามาในร้านคือ ‘ติณ’ ผู้ชายหน้าหล่อร้ายที่ฉันเผลอไปมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนด้วย และก็เป็นคนเดียวกับที่พรากความบริสุทธิ์ของฉันไปโดยที่ฉันไม่ได้เต็มใจ หลังจากวันนั้นจนถึงวันนี้ก็ผ่านมาเกือบราวหนึ่งสัปดาห์ได้แล้วค่ะ แต่ฉันก็ยังจำเรื่องที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้นได้แบบไม่ลืม หรือจะเรียกว่ามันฝังใจฉันเลยก็ได้ ฉันไม่สามารถลบมันออกไปจากสมองได้จริง ๆ เพราะมันเอาแต่วนเวียนไปมาในโสตประสาทของฉันไม่หยุด พอมองเขาในตอนกลางวันแบบนี้ฉันยอมรับเลยว่าเขาเป็นผู้ชายที่ออร่าความหล่อพุ่งทะลุทะลวงมาแต่ไกลเลย แต่ทว่าออร่าความเลวและความโหดที่แผ่ออกมาก็ไม่น้อยหน้าความหล่อด้วยเช่นกัน “ผู้ชายคนนี้ชื่อติณเหรอวินนี่?” มะนาวเอ่ยถามวินนี่ขึ้นด้วยสีหน้าสนอกสนใจ “เออสิยะ นี่แกไม่รู้จักเหรอฮะยัยมะนาว?” วินนี่ถามมะนาวกลับอย่างแปลกใจ “ไม่รู้จักอ่ะ แต่เหมือนเคยได้ยินคนพูดถึงชื่อเขากันเยอะเลย” มะนาวยิ้มอย่างเขินอาย สร้างความประหลาดใจให้ฉันไม่น้อย เพราะปกติมะนาวเป็นคนที่ดูไม่ค่อยให้ความสนใจผู้ชายคนไหนเลยสักคน แต่ทำไมจู่ ๆ มันถึงได้ดูสนใจนายนี่ขึ้นมาได้นะ “มึงชอบนายนั่นเหรอมะนาว?” ฉันถามออกไปตรง ๆ เพราะเป็นคนประเภทที่อยากรู้อะไรก็จะถามไปเลย ไม่เก็บเอาไว้ให้ค้างคาในใจ “บะ..บ้าน่า ฉันจะไปชอบเขาได้ไงกัน” มะนาวโบกมือปัดปฏิเสธไปมา แต่พวงแก้มนี่ขึ้นสีแดงระเรื่อแบบชัดเจน “ไม่ได้ค่ะ ๆ มึงจะชอบติณว่าที่ผัวของกูไม่ได้อีมะนาว!!” วินนี่แสดงความเป็นเจ้าข้าวเจ้าของแล้วจ้องมะนาวตาเขม็ง “มึงถามเขาหรือยังว่าอยากเอามึงเป็นเมียหรือเปล่า!?” ปลาวาฬพูดขัดขึ้นด้วยใบหน้าเอือมระอาปนหมั่นไส้ “เขาอาจจะอยากได้กูก็ได้นะใครจะไปรู้!” วินนี่เชิดหน้าขึ้นอย่างมั่นหน้ามั่นโหนก ทำเอาฉันถึงกับเบ้ปากกลอกตามองบนอย่างอัตโนมัติ “มโนมั่นหน้ามั่นโหนกเกินไปป่ะคะ!” ปลาวาฬที่ได้ยินและเห็นท่าทางของอีวินนี่อย่างนั้นก็ส่ายหน้าไปมาอย่างเอือมระอาขั้นสุด “อีปลาวาฬ!” วินนี่มองแรงใส่ปลาวาฬที่ก่อนหน้านี้ไม่มีท่าทีสนใจพวกฉันเลย เอาแต่ก้มหน้าก้มตาร่างแบบชุดเพื่อส่งอาจารย์ “ทำไมคะอีกะเทยเผือก!” ปลาวาฬเหล่ตามองแรงใส่อีวินนี่ แต่จะว่าไปคำที่มันด่าวินนี่ก็แรงอยู่น้าา แอบถูกใจเบา ๆ “อ๊ายยยยขุ่นแม่ขา อีปลาวาฬมันว่าหนูค่ะ!” วินนี่กรีดร้องพลางเต้นเร่า ๆ ก่อนจะหันมาเกาะแขนฟ้องฉัน “ใครแม่มึงคะ?” ฉันถามย้อนกลับไปแบบกวน ๆ ทำเอาวินนี่ถึงกับเบะปากและทำหน้างอใส่ “เออออ รุมกูจังเลยอีพวกชะนีหน้าวอก!” ด่าพวกฉันเสร็จก็หันไปมองติณที่กำลังยืนสั่งน้ำอยู่ตรงเคาน์เตอร์ด้วยสายตาเคลิบเคลิ้มและหวานหยาดเยิ้ม ฉันปรายตามองไปที่นายนั่นตามอีกะเทยวินนี่ด้วยความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก แต่จู่ ๆ เขาก็ดันหันมามองทางฉันพอดี และฉันก็เผลอสบตาเขาไปอย่างจังแบบที่ไม่ทันตั้งตัว เราสองคนสบตากันอยู่สักพักหนึ่ง ก่อนที่ฉันจะเป็นฝ่ายเบือนหน้าหลบตาเขาก่อน ฉันควรที่จะลืมเหตุการณ์ในวันนั้นไปให้หมดแต่กลับจำมันได้ฝังใจซะงั้น มันน่าหงุดหงิดจริง ๆ ฉันคิดว่าเรื่องวันนั้นจะต้องจบ ต่างคนต่างแยกย้ายกันไป โดยที่ฉันไม่คิดว่าเราสองคนจะมีโอกาสได้กลับมาเจอกันอีกครั้งเลยด้วยซ้ำ “ติณมองมาทางนี้ว่ะ ๆ” วินนี่ตีแขนฉันรัว ๆ อย่างเขินอาย โดยที่เรี่ยวแรงของเพศสภาพเป็นผู้ชายมันไม่ใช่น้อย ๆ เลย ความเจ็บทำให้ฉันอดกลั้นไม่ไหว “อีวินกูเจ็บ!!” ฉันหันไปตวาดใส่วินนี่เสียงดัง จนมันสะดุ้งจนตัวโยน และมันก็หันมามองฉันอย่างอึ้ง ๆ ด้วยสีหน้าเหลอหลา “กะ..กูขอโทษ” วินนี่ทำหน้ารู้สึกผิดพลางประนมมือไหว้ขอโทษขอโพยฉันแบบยกใหญ่ แต่ฉันไม่ได้ถือโทษโกรธอะไรมันหรอก แค่รู้สึกไม่ค่อยโอเคสักเท่าไหร่ “เออ ช่างมันเถอะ กูไปเข้าห้องน้ำก่อนนะ” ฉันพูดบอกเพื่อน ๆ ก่อนจะลุกขึ้นแล้วเดินตรงมาทางเข้าห้องน้ำ ฉันเดินเข้ามาในห้องน้ำของคาเฟ่ ซึ่งห้องน้ำที่นี่เป็นห้องน้ำกว้างแบบรวมที่มีการแบ่งเป็นโซนชายหญิงชัดเจนอีกทีค่ะ ฉันกำลังจะเปิดประตูเข้าไปในโซนห้องน้ำหญิง แต่ทว่าจู่ ๆ ก็มีมือปริศนามาดึงฉันให้หันไปเผชิญหน้ากับเจ้าของมือ หมับ! “ไง” เขาทักทายฉันด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น พาให้หัวใจของฉันกระตุกวูบ และพอฉันได้เห็นใบหน้าของเขาก็ถึงกับรู้สึกหงุดหงิดใจและโมโหอย่างทันที เขากระชากประตูห้องน้ำโซนผู้หญิงเปิดออก แล้วดันตัวฉันให้เข้ามาในห้องน้ำห้องหนึ่ง ก่อนจะปิดประตูและกดล็อกกลอนทันที “ทำอะไร!? ปล่อยนะ!” ฉันพยายามดึงมือออกจากการจับกุมของเขา หากแต่เขากลับดึงฉันเข้าไปกอดเอวไว้แน่น จากนั้นก็มองจ้องฉันแบบตาเขม็ง พื้นที่ในห้องน้ำก็ว่าน้อยจนน่าอึดอัดแล้ว เขาจะดึงฉันเข้าไปกอดอีกทำไมฮะ!? รู้ไหมว่าฉันขี้ร้อนและขี้หงุดหงิดมากแค่ไหน! ว่าแต่นี่เขาตามฉันมาใช่ไหมเนี่ย เป็นบ้าไปแล้วเหรอ!? “ไม่เจอกันนานเลยนะ” “ไม่เจอกันนานอะไร เราไม่จำเป็นต้องเจอกันอีกเลยด้วยซ้ำ!” “ทำไม...ไม่ชอบ? หรือ รังเกียจ?” “ทั้งสองอย่าง!!” ฉันพยายามผลักเขาออก แต่กลับไม่เป็นผลเพราะเขากอดรัดเอวฉันให้แน่นมากขึ้น “ปล่อยสิ เดี๋ยวก็มีคนมาได้ยินหรอก!” เราคุยกันด้วยเสียงที่ไม่ดังมากนัก เพราะกลัวว่าคนอื่นจะเข้ามาได้ยิน “หึ ๆ กลัว?” เขาหัวเราะในลำคอเบา ๆ คล้ายชอบใจ ก่อนจะเอียงคอถามเสียงหยอกเย้า ยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดใจให้ฉันมากขึ้นไปอีก “ใช่ ฉันกลัว!” ฉันกัดฟันกรอดและมองจ้องเขาไปอย่างไม่พอใจ แล้วก็ดีดดิ้นไปมาขยุกขยิกอยู่ในอ้อมกอดของเขาเพื่อให้เขายอมปล่อยให้ฉันเป็นอิสระ “ไม่เห็นต้องกลัว ไม่มีใครได้ยินหรอก” “จิ๊! นายจะมายุ่งกับฉันทำไมฮะ จบกันแล้วก็จบกันไปสิ!” ฉันจ้องหน้าเขาเขม็งพลางชักสีหน้าไม่พอใจใส่ “ตอนแรกฉันก็กะว่าจะลืมเธอ แต่พอเห็นหน้าเธออีกครั้งในวันนี้ ก็นึกถึง...เลือดบริสุทธิ์ในวันนั้นขึ้นมา” เขาพูดพลางแสยะยิ้มอย่างร้ายกาจและเจ้าเล่ห์ใส่ “เพ้อเจ้อ!” ฉันกดเสียงต่ำพร้อมแยกเขี้ยวใส่เขา แต่เขากลับยกยิ้มมุมปากและขำในลำคอเบา ๆ ไม่ได้ดูสะทกสะท้านอะไรเลย “หึ” “ปล่อยสิ ฉันร้อน!” “ฉันจะปล่อยเธอ ถ้าเธอตอบตกลงว่าเย็นนี้เธอจะไปหาฉัน” “ไปหานาย ไปหาทำไมไม่ทราบ!?” เป็นบ้าอะไรมาบอกให้ฉันไปหา! “อย่าถาม!” “อะไรของนาย!” ให้ไปหาแต่ไม่บอกว่าให้ไปหาทำไมเนี่ยนะ! เขามันบ้าที่สุด! “ถ้าเธอไม่ตอบตกลง...” เขาทำสีหน้ากรุ้มกริ่มและเจ้าเล่ห์มีเลศนัยใส่ “ฉันก็จะไม่ปล่อยให้เธอออกไป และฉันก็จะจับเธอกระแทกในห้องน้ำนี่” “นายเป็นประสาทไปแล้วเหรอฮะ!” “ใช่ ฉันเป็นประสาทเพราะเธอ!” “จะเป็นเพราะฉันได้ไง!” เหตุผลควาย ๆ มาก ฉันเกี่ยวอะไรด้วยก็ไม่รู้ “เพราะตั้งแต่วันนั้น...ฉันก็เอาแต่คิดถึงตอนที่เอากับเธอ” “......” What!!!!!!?
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD