วันต่อมา
“เดินมาถึงที่จอดรถแล้ว” ฉันเดินนวยนาดพลางคุยโทรศัพท์มือถือกับแฟนหนุ่มด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อยและกะหนุงกะหนิงมาตลอดทาง จากอาคารเรียนที่เพิ่งเรียนเสร็จมาจนกระทั่งมาถึงที่ลานจอดรถ
[พรุ่งนี้เกรซมีเรียนกี่โมงเหรอ]
“เค้ามีเรียนตอนเช้าอ่ะ แต่ตอนบ่ายว่างนะ”
[ตอนบ่ายไปดูหนังกันไหม พรุ่งนี้เราว่างอ่ะ]
“พรุ่งนี้ไม่มีทำโปรเจกต์เหรอ?”
[ใช่ ๆ พรุ่งนี้พัก]
“โอเค งั้นดีเลย ไปดูหนังกัน”
[โอเค งั้นเดี๋ยวพรุ่งนี้เค้าไปรับเกรซที่คอนโดตอนเช้านะ ตอนบ่ายเราจะได้ไปดูหนังด้วยกันต่อเลย เกรซจะได้ไม่ต้องจอดรถทิ้งไว้ที่มหา’ ลัย]
“ก็ได้นะ งั้นพรุ่งนี้เจอกันตอนเช้านะคะ ตอนนี้เค้าว่าจะกลับไปนอนแล้วอ่ะ รู้สึกเหนื่อยมาก ๆ เลย”
[ได้ครับผม]
“อ๋อ เค้าอาจจะตื่นมาดึก ๆ นะ ยังไงถ้าเค้าตื่นแล้วเดี๋ยวจะทักไปหาอีกที”
[ได้เลยครับ...คิดถึงเกรซมาก ๆ นะ]
“ปากหวานอีกแล้ว ไม่เจอกันแค่สองวันเองนะ”
[ก็คิดถึงอ่ะ สองวันก็เหมือนสองเดือน]
ฉันกับแฟนไม่ได้เจอกันมาสองวันแล้วค่ะ เพราะเขาติดทำโปรเจกต์ ทำให้เขาแทบไม่มีเวลาไปทำอย่างอื่น แม้แต่เวลามาหาฉัน
“เว่อร์แล้ว ๆ”
[แล้วเกรซคิดถึงเค้าไหม]
“คิดถึงสิคะ”
[ฮ่า ๆ ชื่นใจจัง]
เขาขำออกมาอย่างอารมณ์ดี และเพียงได้ยินเสียงขำของเขาก็ทำให้หัวใจของฉันกระชุ่มกระชวย
“แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวเค้าต้องขับรถกลับคอนโดแล้ว”
[โอเคครับ ขับรถดี ๆ ล่ะ]
“ค่าาา”
พอวางสายจากแฟน ฉันก็สตาร์ทรถขับแล่นออกมาจากมหาวิทยาลัยทันที และมุ่งหน้ากลับคอนโดของตัวเอง
Rrrrrrrrrr...
ขณะที่กำลังตั้งใจขับรถอยู่ จู่ ๆ นังกะเทยวินนี่ก็โทรมาหาฉัน ทั้ง ๆ ที่พวกเราเพิ่งจะแยกย้ายจากกันเอง
ฉันหยิบ Airpod มาใส่ แล้วกดรับสายวินนี่เพราะโชคดีที่รถติดไฟแดงพอดี
“ว่าไงอีกะเทย?”
[อีเกรซซซซซซ] ยังไม่ทันสิ้นเสียงของฉันดี วินนี่ก็แหกปากร้องเรียกฉันด้วยเสียงแตกตื่นปนตกใจ
“อะไร?”
[กูมีเรื่องจะบอก]
“ว่ามา”
[หลังจากที่กูแยกกับมึงอ่ะ กูเจอผู้ชายมาตามหามึงด้วยอ่ะ]
“ใคร?”
ได้ยินดังนั้นก็ทำคิ้วของฉันขมวดมุ่นด้วยความสงสัย ใครกันนะที่มาตามหาฉัน?
[ให้ทาย]
“กูจะรู้ไหมล่ะ อย่ามาลีลา รีบ ๆ บอกมาเลยว่าใครมาตามหากู ตอนนี้กูกำลังขับรถอยู่อีวิน!!” ฉันแว้ดใส่ปลายสายอย่างหงุดหงิดใจ นี่มันคิดว่ากำลังเล่นเกมเชาวน์ปัญญากับฉันอยู่หรือไง
[เออ ๆ กูขอโทษค่าขุ่นแม่]
“......”
[ติณจ้า ติณมาตามหาหล่อน]
“หะ!!!” พอรู้ว่าใครคือคนที่มาตามหาฉันก็ร้องอุทานออกมาอย่างตกใจ
[ทำไมมึงต้องทำเสียงตกใจขนาดนั้น มึงกับติณรู้จักกันเหรอ ติณถึงได้มาตามหามึงอ่ะ] วินนี่ทำเสียงสงสัย
“ปะ..เปล่า ไม่รู้จัก ว่าแต่มึงตอบเขาว่าไง?”
[กูก็ตอบว่ามึงกลับแล้วน่ะสิ]
“อ้อ” ฉันลอบถอนหายใจออกมาเบา ๆ อย่างโล่งอก
นายนั่นคงพยายามตามหาฉันเพราะเรื่องที่เขาบอกไว้เมื่อวานแน่ ๆ ดีนะที่ฉันเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์มือถือตั้งแต่ปีที่แล้ว ข้อมูลประวัติของฉันที่เขาได้จากสำนักทะเบียนคงจะได้เป็นเบอร์เก่าของฉัน เพราะฉันยังไม่ได้ไปอัปเดตข้อมูลที่สำนักทะเบียน
[แล้วเขามาตามหามึงทำไมวะ]
“ไม่รู้สิ” ฉันตอบบ่ายเบี่ยงออกไปอย่างไม่ใส่ใจนัก และพยายามไม่เผยพิรุธที่สุดเพราะไม่อยากให้วินนี่สงสัยไม่หยุด
[เหรอวะ เออ แต่พอได้เจอติณในระยะใกล้ ๆ ประชิดแบบนี้คือกูแทบหยุดหายใจเลยอ่ะ หล่อเกินต้านทานมากมึง อ๊ายยยย ตอนนี้หัวใจกูยังไม่หยุดเต้นแรงเลยว่ะ]
“เออ ๆ เดี๋ยวกูขับรถก่อน มีไรค่อยคุยกันทีหลัง”
[ค่า ๆๆ]
ฉันกดวางสายวินนี่แล้วหันมาตั้งใจขับรถต่อ โดยที่พยายามไม่เอาเรื่องของนายนั่นเก็บมาคิดหรือใส่ใจให้ปวดหัว
พอขับรถมาถึงคอนโดฉันก็รีบจอดรถและเดินเข้าไปในคอนโดทันที ตอนนี้ความง่วงเริ่มครอบงำจิตใจของฉัน จนอยากนอนพักผ่อนแล้วล่ะ
แต่เมื่อฉันเดินออกมาจากลิฟต์กำลังจะก้าวเดินไปทางห้องของตัวเอง ฉันก็ต้องชะงักฝีเท้าทันทีด้วยความตกใจ เพราะมีร่างหนาของผู้ชายคนหนึ่งที่ฉันไม่อยากเจอหน้ามากที่สุดกำลังยืนพิงประตูห้องของฉันอยู่
ฉันมองเขาด้วยความสงสัยปนไม่พอใจที่เขารู้ว่าฉันอยู่ที่นี่ จึงได้หายใจเข้าเต็มปอดแล้วเดินตรงเข้าไปหาเขาอย่างไม่สบอารมณ์
“มาที่นี่ได้ไง!?” ฉันส่งเสียงไม่พอใจพร้อมทำหน้าบึ้งตึงใส่เขา อยู่ ๆ เขาโผล่มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แถมยังรู้จักหมายเลขห้องของฉันอีก
“ขับรถมา” เขาหันมาตวัดตามองฉันและตอบอย่างไม่ทุกข์ร้อนอะไร ใบหน้าเรียบนิ่ง
“ฉันหมายถึงนายรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่!” ฉันเริ่มขึ้นเสียงใส่อย่างอดกลั้นไม่อยู่ ก็มันโมโหนี่หว่า ฉันพยายามออกห่างแต่เขาก็พยายามเข้าใกล้ไม่หยุด
“ก็ไม่ยากเท่าไหร่” เขาไหวไหล่ตอบด้วยใบหน้านิ่งเฉย
“หึ เก่งดีนี่!”
“จะเข้าห้องไม่ใช่เหรอ เปิดดิ”
เขาขยับออกจากบานประตูที่ยืนพิงก่อนหน้านี้ให้ฉัน แล้วไปยืนกอดอกมองฉันอยู่ข้าง ๆ แทน ทำหน้าเหมือนรอคอยให้ฉันใช้คีย์การ์ดเปิดห้อง
“นายต้องการอะไรกันแน่!?”
“เคยบอกไปแล้ว”
“อยากคบกับฉันงั้นเหรอ?”
“......” เขาไม่ตอบแต่ทำลอยหน้าลอยตาและเสมองไปทางอื่น
“นายมันประสาทแดก!”
“เปิดประตูห้อง แล้วเข้าไปคุยกันข้างใน” เขาถอนหายใจออกมาเล็กน้อย แล้วใช้สายตาดุ ๆ แกมบีบบังคับให้ฉันเปิดประตูห้องสักที
“ทำไมฉันต้องให้นายเข้าไปในห้องด้วยไม่ทราบ!” ฉันเชิดหน้าใส่เขาอย่างท้าทาย
“ทำไมจะเข้าไม่ได้?” เขาโน้มใบหน้าลงมาจ้องหน้า แล้วหยักคิ้วและเหยียดยิ้มให้ฉันอย่างร้ายกาจ ทำเอาต่อมโมโหของฉันยิ่งทำงาน
“แล้วนายมีสิทธิ์อะไรล่ะ!?”
“สิทธิ์เหรอ สิทธิ์ในการเป็นผัวเธอไง!”
“นาย!!”
คำว่า ‘ผัว’ ที่เขาเปล่งออกมาจากปาก ทำให้ฉันต้องเบิกตาออกกว้างอย่างตกตะลึงและไม่ชอบใจนัก กล้ามาก กล้าเอาปากเน่า ๆ มาเปล่งคำนี้กับฉัน รู้ไหมว่ามันแสลงหูมากแค่ไหน!
แต่ในขณะที่ฉันกำลังยืนจ้องหน้าเขาอยู่อย่างไม่ยอมลดละ เขาก็ฉวยโอกาสดึงคีย์การ์ดในมือของฉันไปแตะเปิดประตูห้อง ก่อนที่จะถือวิสาสะเดินนำเข้าห้องไปอย่างหน้าตาเฉย
“ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้!”
“ไม่ออก!” เขาหันมาตอบฉันอย่างไม่สบอารมณ์เล็กน้อย แต่คนที่ควรทำสีหน้าแบบนั้นมันควรเป็นฉันไม่ใช่เหรอ!!
“ไร้มารยาท!” ฉันตะคอกใส่เขาอย่างเดือดดาล แต่เขาก็ไม่สะทกสะท้านเหมือนเดิม เหมือนคำก่นด่าของฉันเปรียบเสมือนคำอวยพรสำหรับเขา
“หึ ปกติ” เขาแสยะยิ้มมุมปากก่อนจะหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ แล้วเดินสำรวจดูภายในห้องของฉันอย่างไร้มารยาทและถือวิสาสะที่สุด
“แค่ก ๆๆ” ควันบุหรี่ที่เขาพ่นออกมาลอยฟุ้งกระจายเต็มห้อง ทำให้ฉันสำลักและยกมือขึ้นมาอุดจมูกตัวเองแทบไม่ทัน
“เลิกสูบสักทีไอ้บุหรี่บ้า ๆ นี่!” ฉันตะโกนใส่เขา ทำให้คนที่กำลังจะเปิดประตูห้องนอนของฉันถึงกลับชะงัก แล้วหันมามองหน้าฉันแบบเรียบนิ่ง ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ ๆ
“ออกไปจากห้องของฉันเดี๋ยวนี้!”
“......”
“และก็เลิกยุ่งกับฉันสักที!”
“ไม่เลิก!”
“อะไรของนาย ฉันไม่อยากคบกับนายฟังไม่รู้เรื่องเหรอ ฉันมีแฟนแล้วโว้ย!!” ฉันตะคอกใส่หน้าเขาไปอย่างเหลืออด จนเขาถึงกับชักสีหน้าไม่พอใจพลางขบกรามแน่นเหมือนพยายามข่มกลั้นอารมณ์อยู่
“ช่างแฟนดิวะ ฉันไม่สนใจเพราะฉันคือผัวของเธอ!”
“นายไม่ใช่ผัวฉัน!!”
“ไม่ใช่ผัวได้ไง เราได้กันแล้ว! แถมฉันก็ยังเป็นคนแรกที่ได้ซิงของเธอซะด้วย”
ฟู่วววววว~
ฉันสูดลมหายใจเข้าปอดและพรูมันออกมาอย่างแรง ก่อนจะตะคอกใส่หน้าของเขาไปอีกรอบอย่างทนไม่ไหวจริง ๆ
“มึงก็เอาคนอื่นเหมือนกันไม่ใช่เหรอวะ!” ฉันตะคอกออกไปด้วยแรงอารมณ์ที่โกรธและโมโหแบบสุดขีดจนเผลอพูดคำหยาบออกไป
“เธอว่าไงนะ!!” เขาเบิกตาโตแล้วถลึงตาใส่ฉันอย่างโกรธจัดที่ฉันเรียกเขาไปว่า ‘มึง’
“มึงไง! มึงก็เอาคนอื่นแล้วมาเสนอหน้าว่าเป็นผัวกูทำไม ไปเสนอหน้าเป็นผัวกับผู้หญิงที่เคยเอาดิวะ อย่ามายุ่งกับกู!!” ฉันพูดออกไปอย่างเหลืออดกับเขาเต็มทน มันจะอะไรนักหนากับฉัน แค่เคยมีอะไรกันแค่ครั้งเดียวเอง แถมเป็นครั้งเดียวที่ฉันไม่ได้เต็มใจเลยด้วยซ้ำ
“กูอยากได้มึง พอใจหรือยังวะ!” เขาตะคอกใส่หน้าฉันกลับด้วยอารมณ์ที่ฉุนเฉียวไม่แพ้กัน
“อยากได้? อยากได้กูทำไม ติดใจกูเหรอ...หรือรักกู!?”
“......” พอเขาได้ยินประโยคที่ฉันพูดออกไปก็สตั้นไปเลยทันที
แล้วจู่ ๆ ทุกอย่างก็นิ่งสงบไป เพราะเขาไม่พูดอะไรออกมาอีก เอาแต่มองจ้องตาของฉันด้วยแววตาสั่นไหวและหลุกหลิกไปมาเหมือนกำลังคิดอะไรอยู่ในหัว
“บอกมาดิ!”
“กู...แค่อยากได้”
“......”
“ไม่ได้รักมึง!” เขาพูดออกมาด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง ก่อนจะแสยะยิ้มมุมปากร้ายกาจให้ฉัน
“ก็ดี!” ฉันกระแทกเสียงใส่และมองเขาตาขวาง
“กูอยากได้มึง และมึงต้องมาเป็นที่รองรับอารมณ์ของกู!”
“ว่าไงนะ!!?”
“เวลาที่กูอยากได้ มึงต้องให้กู”
“มึงคงเป็นบ้าจริง ๆ สินะ ใครเขาจะยอมมึงกันวะ!!”
“ถ้ามึงไม่ยอมก็เตรียมโดนแฟนของมึงทิ้งได้เลย เพราะกูจะบอกเรื่องที่มึงเอากับกู และจะทำทุกวิถีทางให้มันเลิกกับมึง!” เขาขู่ด้วยสีหน้าและแววตาเหี้ยมเกรียม ทำเอาฉันไปไม่เป็น กัดฟันกรอดและเข็นเคี้ยวเขี้ยวฟันอย่างโกรธจัด
“ไอ้โรคจิต!!”
“หึ ๆๆ” เขาแค่นหัวเราะในลำคออย่างไม่สะทกสะท้าน เอาแต่แสยะยิ้มมุมปากเย้ยหยันให้ฉัน ทำเหมือนตัวเองอยู่เหนือกว่าฉัน
“......” ฉันพูดอะไรไม่ออกเลยค่ะ ได้แต่ยืนตัวสั่นเทากำมือแน่นด้วยความโกรธเป็นไฟ
“ว่าไง?”
“มึงคิดเหรอวะว่าแฟนกูจะเชื่อ!”
“หึ เชื่อไม่เชื่อก็ลองดูแล้วกัน”
“หมายความว่าไง?”
“คลิป” เขาพูดออกมาหน้านิ่ง ๆ แต่กลับทำให้หัวใจของฉันกระตุกวูบด้วยความตื่นตระหนกและร้อนรนใจ
“คลิปอะไร!?”
“คลิปตอนมึงเอากับกูไง” เขาทำหน้าเหนือกว่า
“วันนั้นมึงอัดคลิปไว้เหรอวะ!!?”
“วันนั้นกูไม่ได้อัด”
“แล้วมึงจะเอาคลิปที่ไหนไปแบล็กเมล์กูไม่ทราบ!”
ฉันว่าเขาน่าจะไม่ปกติจริง ๆ แล้วล่ะ เอาเรื่องคลิปมาขู่ทั้ง ๆ ที่ไม่มีเนี่ยนะ เหอะ! อยากจะขำกลิ้งลิงกับหมา
“ก็คลิปวันนี้ไง”
“อะไรของมึง!?” ฉันไม่เข้าใจในสิ่งที่เขากำลังพูด จึงขมวดคิ้วถามกลับอย่างสงสัย
เขาไม่ตอบ แต่แสยะยิ้มอย่างร้ายกาจออกมา ก่อนที่จะค่อย ๆ เดินเข้ามาหาฉันอย่างช้า ๆ จนฉันต้องรีบเดินถอยหลังหนีแบบลุกลี้ลุกลนจนกระทั่งมาชนกับผนังห้อง
ปั่ก!
พอแผ่นหลังของฉันชนเข้ากับผนังห้อง เขาก็ใช้มือแกร่งดันตัวของฉันให้แนบชิดไปกับผนังห้อง จนไม่สามารถขยับตัวหนีออกจากลำตัวของเขาที่คร่อมร่างของฉันไว้ได้เลย ลมหายใจอ่อน ๆ ที่เขาพ่นออกมามันทำให้ฉันรู้สึกหวิว ๆ ในใจอย่างบอกไม่ถูก
“ก็ถ่ายแม่งวันนี้จะไปยากอะไร!”
“มะ..หมายความว่าไง!!?”
“กูจะเอามึงและถ่ายคลิปเอาไว้ให้แฟนมึงดูเป็นขวัญตาไงวะ! หึ ๆ”