เสียงคลื่นซัดเข้าหาฝั่งเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ละอองน้ำทะเลกระเซ็นเบา ๆ ตามแรงลมอ่อน ลินายืนอยู่บนโขดหินเตี้ย ๆ ชายผ้าบางสีขาวปลิวไหวรอบตัวเหมือนกำลังเต้นไปพร้อมลม ขณะที่ช่างภาพยกกล้องขึ้นพร้อมส่งสัญญาณ
“ดีมากลินา มองไปทางทะเลอีกนิด สวย!! ค้างท่านั้นไว้”
ลินาหายใจสูดเอากลิ่นเกลือของทะเลเข้าปอด เธอชอบงานแบบนี้แสงธรรมชาติ ลมเย็น และอิสระ แต่ในความสงบนั้นกลับมีบางอย่างหน่วงอยู่ในอก เธอรู้ตัวดีว่านีโอคงกำลังนับนาทีรอให้เธอกลับบ้าน ส่วนเอเดน… ไม่รู้ว่าเขาจะทำหน้าแบบไหนตอนนี้แต่เธอเดาได้ไม่ยากนัก
“โอเค!! เปลี่ยนเป็นชุดต่อไปนะลินา เดี๋ยวเราไปถ่ายโซนริมน้ำกัน”
ลินาพยักหน้า ก่อนเดินลงจากโขดหิน เจ้าหน้าที่ยื่นผ้าเช็ดตัวให้ เธอซับผิวเบา ๆ แล้วมองไปยังทะเลกว้างอีกครั้ง แสงแดดยามบ่ายทำผิวเธอเรืองรอง เส้นผมเปียกปลายลู่ไปตามความชื้นของอากาศ ระหว่างที่กำลังเปลี่ยนเครื่องประดับ เธอรู้สึกได้ถึงมือถือที่สั่นอยู่ในกระเป๋าโต๊ะข้างกองถ่าย เมื่อหยิบขึ้นมาดูก็เห็นชื่อที่ทำให้หัวใจเธอหยุดชะงักไปวูบหนึ่งนีโอข้อความสั้น ๆ ปรากฏขึ้น
Neo : พี่ลินา ผมคิดถึงพี่มากรีบกลับเร็ว ๆ นะครับ
ริมฝีปากลินายกขึ้นอย่างไม่รู้ตัวก่อนเธอพิมพ์ตอบกลับไป
Lina : พี่คิดถึงนีโอเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวพี่รีบถ่ายให้เสร็จนะแล้วรีบกลับไปหานะครับ
แต่ก่อนเธอจะวางโทรศัพท์ก็มีข้อความเข้ามาอีกอันดังขึ้น ชื่อที่ขึ้นมาทำให้เธอชะงักแบบคนโดนคลื่นซัดเข้าหน้า เอเดน ข้อความมีแค่ประโยคสั้น ๆ แต่เจือความกดดันแบบที่เธออ่านออกทันที
Aden : ทุกอย่างโอเคไหม??
ดูธรรมดา แต่โทนน้ำเสียงในหัวเธอไม่ธรรมดาเลย… ลินากัดริมฝีปากนิด ๆ ก่อนตอบกลับ
Lina : ทุกอย่างเรียบร้อยดีค่ะ
ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะขึ้นข้อความใหม่
Aden : อย่าเดินคนเดียวและระวังแดด
เธอยกมือแตะแก้มอย่างงง ๆ ทั้งเขินทั้งอายทั้งยังไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี
“ลินา!! พร้อมแล้วนะ เดี๋ยวไปโซนชายหาดนะ” สต๊าฟตะโกนเรียกลินาก็รีบเก็บมือถือแล้วเดินลงไปที่ชายหาด ผืนทรายอุ่นใต้ฝ่าเท้า เสียงกดชัตเตอร์ดังเป็นจังหวะ เธอโพสต์อย่างเป็นธรรมชาติแม้ลมจะแรงจนเส้นผมตีกันไปหมด แต่ระหว่างที่ถ่ายอยู่นั้น หัวใจเธอกลับไม่ค่อยอยู่กับที่นักไม่รู้ว่าเพราะเสียงคลื่นหรือเพราะข้อความของใครบางคน
ล้อเครื่องบินแตะพื้นยังไม่สนิทดีเอเดนก็ปลดเข็มขัดนิรภัยราวกับคนที่รอไม่ไหวอีกต่อไป เส้นกรามขบแน่นตลอดการบินเหมือนคนอดทนกับอะไรบางอย่างมาหลายชั่วโมง พอประตูเครื่องเปิด เขาก็ก้าวออกมาอย่างไม่รีรอแม้แต่วินาทีเดียวซีออนที่รีบเดินตามมาติด ๆ ถึงกับต้องวิ่งสลับเดินให้ทันร่างสูงใหญ่นั้น
“นายครับ อย่างน้อยก็รอให้ผมรับกระเป๋าก่อน” เอเดนหยุดกึก หันมาเพียงเล็กน้อย แต่แค่นั้นก็ทำให้ซีออนตัวแข็งเหมือนถูกมีดจ่อคอ
“กระเป๋าไม่ต้อง เอาแต่ตัวก็พอ” น้ำเสียงนิ่งเย็นแต่เต็มไปด้วยความไม่พอใจอัดแน่น
“รถอยู่ไหน??” ซีออนรีบชี้ไปที่ประตูทางออก
“ตรงนั้นครับ ผมให้คนของเราเอามาจอดไว้แล้ว” เอเดนก้าวเดินยาว ๆ ตรงไปทันที ไม่มองซ้ายขวา ไม่สนใจสายตาใครทั้งนั้น ประตูทางออกของสนามบินยังไม่พ้นดี เขาก็ถามคั่นเสียงซีออนอย่างกดดัน
“เธออยู่ไหน??”
“เอ่อ… ทะเลด้านเหนือครับ คนของเรารายงานว่าคุณลินามีถ่ายเซตชุดว่ายน้ำตอนบ่ายครับ” ซีออนยิ้มแห้ง ๆ ขณะพูดประโยคสุดท้าย เพราะพอพูดคำว่า ‘ชุดว่ายน้ำ’ ความกดดันที่ลอยรอบตัวเอเดนเหมือนเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า เอเดนไม่พูดอะไรแต่ดวงตาคมเข้มกระตุกวูบ ก่อนขึ้นรถด้วยใบหน้าเรียบเฉียบแบบคนอารมณ์ไม่ดีสุดขีด ประตูรถเพิ่งปิด ซีออนยังไม่ทันสตาร์ทรถ เอเดนก็ออกคำสั่งทันที
“ไปสถานที่ถ่ายแบบ”
“นายครับ คือว่า...”
“เดี๋ยวนี้!!” เสียงเข้มดุดันของเอเดนที่พูดตัดบททำซีออนกลืนน้ำลายดังเอือก รีบหมุนกุญแจสตาร์ทรถรัว ๆ และในที่สุด เขาก็ปล่อยความคิดในใจออกมาเบา ๆ ระหว่างกำพวงมาลัย ‘นี่มันไม่ใช่มาดูงานแล้วครับนาย… นี่มันตามภรรยาแบบเต็มรูปแบบชัด ๆ เฮ้อ... ซีออนเซ็ง’
เอเดนเหลือบสายตามองกระจกหลังซีออนรีบเงียบแทบจะทันที รถแล่นออกจากสนามบินด้วยความเร็วที่ซีออนไม่เคยขับมาก่อน และตลอดทางมีเพียงเงาของคนคนหนึ่งในใจเอเดนเท่านั้นลินา
แดดช่วงบ่ายคล้อยสาดลงบนชายหาดอย่างอ่อนแรง ลมทะเลพัดเอื่อย ๆ จนเสียงคลื่นดังก้องสม่ำเสมอ รถสีดำสนิทแล่นเข้ามาจอดเงียบ ๆ ไม่ใกล้ไม่ไกลจากกองถ่ายมากนัก
ประตูฝั่งคนขับเปิดออกก่อนที่ร่างสูงใหญ่ของเอเดนจะก้าวลงมา แว่นกันแดดสีดำสนิททำให้มองไม่เห็นแววตา แต่ไม่จำเป็นเพราะแค่แรงกดดันรอบตัวเขาก็หนักพอให้ทีมงานละแวกนั้นแทบหยุดหายใจ
เอเดนกวาดตามองไปรอบ ๆ อย่างช้า ๆ จนสายตาหยุดลงตรงร่มสีขาวไม่ไกลนักใต้ร่มนั้น… มีคนที่เขาตามมาถึงนี่นั่งอยู่ ลินากำลังถูกเมคอัพอาร์ทิสต์แตะริมฝีปากให้ ดูสดใสรับกับชุดเดรสสีครีมปลิวไปตามลม ผมยาวถูกรวบหลวม ๆ และแสงแดดสะท้อนผิวของเธอราวกับเธอคือภาพถ่ายที่ยังไม่กดชัตเตอร์ก็สวยอยู่แล้ว
เอเดนหยุดยืนอยู่ข้างรถลมหายใจเขาชะงักไปอย่างไม่รู้ตัวสันกรามเกร็งเป็นลำสันชัดเจนเขาไม่ได้ชินกับการต้องยืนดูคนอื่น ‘ชม’ ในสิ่งที่เขาหวงเขาไม่ได้ชินกับการที่ลินา… อยู่ที่ไหนสักแห่งที่เขาเอื้อมไม่ถึงชายคนหนึ่งในทีมงานเดินผ่านเอเดนไปแล้วเผลอกระซิบกับเพื่อนว่า
“น้องนางแบบวันนี้สวยมากว่ะ” แม้เสียงพูดคุยจะเบามากแค่ไหนแต่เอเดนกลับได้ยินชัดเต็มหู แว่นกันแดดไม่อาจปิดบังประกายตาดุดันไว้ได้ จนซีออนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ยังรู้สึกเสียวสันหลังแทนคนพวกนั้นที่บังอาจพูดถึงของหวงของเอเดน
เอเดนก้าวออกมาอีกหนึ่งก้าวเหมือนเตรียมจะเดินเข้าไปตรงร่มที่ลินานั่งอยู่แต่ก็หยุดไว้ เพราะอยากดูว่าลินาจะเป็นอย่างไรยามทำงาน ไม่ใช่ยามมองเขา ปลายนิ้วมือหนากำปากกาในมือที่ติดมาจากเครื่องบินแน่นก่อนจะโยนมันทิ้งไว้บนพื้นทรายด้วยความหงุดหงิด สายตาสีเข้มใต้แว่นยังคงจับที่ร่างบอบบางของเธอไม่วางตา
เอเดนเห็นเธอกำลังยิ้มให้ช่างกล้อง เป็นรอยยิ้มแบบที่เขา… ไม่เคยได้เห็นเพราะเธอมักจะก้มหน้าทุกครั้งที่เผลอยิ้มให้เขา ลมพัดปลายผ้าชายเดรสของเธอจนปลิวขึ้นเล็กน้อย และเอเดนที่เผลอขยับขาก้าวไปทันทีกัดฟันหยุดตัวเองเอาไว้
“ลมทะเลแรงไปหรือเปล่า” เอเดนบ่นกับตัวเองเบา ๆ แต่สายตาคมยังไม่ละจากเธอแม้เสี้ยววินาที ซีออนที่ยืนอยู่ด้านหลังกลั้นหายใจ
“นาย… จะไปดูเขาใกล้ ๆ เลยมั้ยครับ”
เอเดนขยับแว่นกันแดดขึ้นเล็กน้อย เผยดวงตาคมเข้มที่ตอนนี้มองหญิงสาวที่ตัวเองโคตรคิดถึงด้วยอารมณ์ผสมหลายอย่างหึง หวง ห่วง และโหยหา เขาไม่อยากให้เธอถ่ายแบบด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้นขนาดนี้แต่เขาก็ทำอะไรไม่ได้เพราะเขากับเธอไม่ได้เป็นอะไรกัน
“ยัง!!” น้ำเสียงทุ้มต่ำราวกับคำสั่งคุมอารมณ์ตัวเองมากกว่าคนอื่นและในจังหวะเดียวกันนั้นเองลินาหันหน้าไปทางที่เขายืนอยู่เหมือนรู้สึกถึงใครบางคนหรือ… เพราะลมทะเลพัดผมเธอแรงเกินไป ดวงตากลมโตของเธอเบิกขึ้นเล็กน้อยเมื่อเห็นเงาสูงใหญ่คุ้นตาริมฝีปากเธอเผลอขยับเรียกชื่อเขาอย่างแผ่วเบา เอเดนยืนนิ่งแต่หัวใจของเขาแทบระเบิดออกจากอกเพียงแค่นั้น… เขาก็ขยับเท้าเดินตรงไปหาลินาอย่างช้า ๆ แต่หนักแน่นเหมือนคนที่รู้ดีว่าไม่ว่าทะเลจะอยู่ไกลแค่ไหนเขาก็ตามมา