ห้องทำงานขนาดใหญ่ของเอเดนเงียบราวกับถูกดูดเสียงไปจากโลกภายนอก แสงไฟสีอุ่นส่องเฉพาะโต๊ะทำงานที่ตรงกลางเต็มไปด้วยแฟ้ม ข้อมูล และแท็บเล็ต ซีออนยืนพิงโต๊ะด้านหนึ่ง ส่วนคีแกนยืนกอดอกอยู่ใกล้ประตูทั้งคู่สีหน้าตึงเครียดไม่ต่างกัน
เอเดนนั่งอยู่หลังโต๊ะ ตัวตรง สีหน้าเรียบ แต่แววตาคมจัดจนเหมือนมีคมมีดซ่อนอยู่ในดวงตา เขาเลื่อนแฟ้มข้อมูลของเหตุการณ์คืนนั้นมาหยุดตรงหน้า
“ยังหาตัวคนที่ลอบทำร้ายนีโอไม่ได้??” น้ำเสียงนิ่งแต่แรงกดดันรอบห้องเพิ่มขึ้นทันที ก่อนคีแกนจะเป็นคนเอ่ยออกมา
“เบาะแสที่ตามมาถึงท่าเรือ ถูกเผาทิ้งหมดครับ เหมือนพวกนั้นรู้ตัวว่าจะถูกตาม” ซีออนวางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะ แผนที่และภาพถ่ายดาวเทียมฉายขึ้น
“เราสแกนคนของคู่แข่งทั้งหมดแล้ว ไม่มีใครกล้าเล่นงานเด็กโดยตรง มีความเป็นไปได้สูงว่าคนที่ลงมือเป็นทีมรับจ้างจากนอกวงการ” เอเดนยกมือขึ้นแตะขมับเบา ๆ แต่ดวงตาเย็นจัด
“ใครก็ตามที่คิดจะแตะลูกชายกู มันกล้าหาเรื่องผิดคนแล้ว” ซีออนสบตาคีแกนก่อนพูดต่อ
“เรื่องที่ผมกังวลคือมันไม่น่าจบแค่ครั้งนั้นครับนาย เราเชื่อว่ามีคนเฝ้าดูความเคลื่อนไหวของคุณหนูอยู่ห่าง ๆ” คีแกนพยักหน้าอย่างเข้าใจ
“สิ่งที่นีโอเจอวันนั้น ‘ไม่ใช่อุบัติเหตุ’ และ ‘ไม่ใช่ครั้งสุดท้าย’ ถ้าเราไม่จัดการ”
โต๊ะทั้งโต๊ะเหมือนรับแรงคลื่นความเดือดจากเอเดน แววตาเขาไม่ใช่ความโกรธแบบเดือดพล่าน แต่เป็นความโกรธแบบเย็น เย็นจนเหมือนจะฆ่าใครได้โดยไม่ต้องขึ้นเสียง
“ลิสต์ชื่อทั้งหมดที่น่าสงสัย ส่งมาที่มือถือกูในหนึ่งชั่วโมง” เอเดนออกคำสั่ง
“ใครมีส่วนเกี่ยวข้องแม้เพียงปลายเล็บ กูต้องรู้”
“ครับไอ้คุณเอเดน” คีแกนรับคำ ซีออนลังเลเล็กน้อยก่อนถาม
“แล้วเรื่องคุณลินาล่ะครับจะให้เรอาห์เฝ้าเข้มขึ้นไหม?? หรือให้เพิ่มคนติดตาม??”
เอเดนหยุดนิ่งไปหนึ่งวินาที เพียงหนึ่งวินาทีแต่มันหนักพอจะทำให้ทั้งห้องขึงตึงเหมือนใยเหล็ก เขาตอบเสียงต่ำ
“จนกว่าเราจะรู้ว่าฝีมือใครที่มาทำนีโอ อย่าปล่อยให้เธอมีอันตราย” คีแกนกับซีออนสบตากัน ใช่พวกเขาต่างรู้ดีว่าเอเดนหมายถึงใคร
“อย่าลืมให้คนตรวจสอบไอ้แวนซ์ด้วย”
“ครับ ว่าแต่ถ้าเราได้ตัวการแล้วนายจะปล่อยคุณลินาไปหรือเปล่า” คำพูดของซีแกนทำเอเดนเงียบไปชั่วครู่ เพราะยังคิดไม่ออกตัดสินใจไม่ได้ว่าควรจะปล่อยเธอไปหรือให้เธออยู่ต่อดี และความรู้สึกของเขาที่กำลังเป็นอยู่นี่คืออะไร
ห้องทำงานยังคงเงียบสนิทหลังประโยคสุดท้ายของคีแกน หลายวินาทีผ่านไปจนเหมือนเสียงนาฬิกาบนผนังดังขึ้นมาเอง ทั้งซีออนและคีแกนต่างลอบมองหน้าเอเดนผู้ชายที่เก่งเรื่องตัดสินใจทุกอย่างยกเว้นเรื่องเดียว... ลินา
เอเดนเอนหลังพิงเก้าอี้ซึ่งไม่ใช่การผ่อนคลายแต่เป็นการเก็บอารมณ์ที่กำลังจับตัวแน่นในอก เขาไม่ตอบทันทีปลายนิ้วเคาะโต๊ะเบา ๆ อย่างคิดหนัก ก่อนเอ่ยเสียงต่ำ ราบเรียบ แต่แฝงแรงกดดันมหาศาล
“ไม่เกี่ยว”
“ไม่เกี่ยว?? คือยังไงครับ??” ซีออนยกคิ้ว เอเดนหรี่ตาลงมองหน้าซีออนเล็กน้อย เหมือนหงุดหงิดที่ถูกถามตรงเกินไป
“ตอนนี้หน้าที่ของเราคือหาตัวคนที่หมายเอาชีวิตนีโอ จัดการภัยคุกคามทั้งหมดให้เรียบร้อย ส่วนเรื่องลินา…” เขาหยุดไปหนึ่งจังหวะเหมือนต้องกลืนบางอย่างลงคอ
“จะอยู่หรือไป มันไม่ใช่เรื่องที่ต้องคิดตอนนี้” คำตอบนั้นทำให้บรรยากาศในห้องหนักกว่าเดิมเพราะมันไม่ใช่คำปฏิเสธ และไม่ใช่คำยอมรับ เป็นคำตอบที่ติดอยู่กลางระหว่าง ความหวง และ ความกลัว
คีแกนพึมพำเสียงเบา
“แต่ดูทรงแล้วมึงคงไม่อยากให้เธอไป ใช่ไหม?? หึ” เอเดนเหลือบตาขึ้นช้า ๆ คีแกนหุบปากแทบไม่ทัน ซีออนแสร้งกระแอมเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
“งั้นผมจะเพิ่มระบบติดตามรอบบ้านให้แน่นขึ้นครับ แล้วจะให้เรอาห์รายงานความเคลื่อนไหวของคุณลินาแบบรายชั่วโมง”
“รายครึ่งชั่วโมง” เอเดนสวนกลับทันที คีแกนกับซีออนสบตากันอีกครั้งอันนี้ ไม่ได้อยากให้เธออยู่ธรรมดา แต่ ไม่ยอมให้เธอพ้นสายตาเลยต่างหาก
“รับทราบครับนาย” ซีออนขานรับอย่างกลั้นยิ้ม เอเดนก้มมองแฟ้มต่อ แต่เสียงเขากลับแผ่วลง เหมือนหลุดจากความเข้มงวดชั่ววินาที
“กูไม่ปล่อยให้ใครต้องมีอันตรายอีกแล้ว” คีแกนกับซีออนเงียบลงทันที ความหมายมันชัดเจนเกินกว่าจะถามต่อ ในห้องที่เต็มไปด้วยกลิ่นสงครามและความตาย มีเพียงชื่อเดียวที่ทำให้เอเดนลังเลและทำให้สายตาเขาอ่อนลงเพียงเสี้ยววินาทีนั้น
เอเดนออกจากห้องทำงานช้า ๆ หลังประชุมยืดเยื้อ เขาเพิ่งกลับจากเช็กสถานที่ที่ซีออนรายงานมาอีกสองแห่ง ใบหน้าเคร่งตึงจนคนในบ้านต่างหลบสายตาให้หมด สูทสีดำบนตัวเขายังเหมือนมีควันจากความเครียดหลงเหลืออยู่
เวลานั้นเกือบสองทุ่มกว่าช้ากว่าปกติ และทั้งวันเขาแทบไม่ได้พักแม้แต่ห้านาทีเดียว เมื่อก้าวผ่านโถงทางเดินยาว เขาก็กำลังจะตรงขึ้นห้องตัวเอง แต่เสียงหัวเราะเบา ๆ จากห้องรับแขกทำให้เขาชะงัก
เอเดนหยุดที่ขอบประตู ภาพตรงหน้าทำให้ความเย็นชืดในอกหยุดลงทันที ลินานั่งพับเพียงอยู่บนพรมขนฟูนุ่ม ๆ ข้างโซฟา นีโอนอนคว่ำบนหมอนเล่นตัวต่อเลโก้อย่างตั้งใจ และหัวเราะทุกครั้งที่ลินาแกล้งทำเสียงตัวประหลาดประกอบให้
“ไดโนเสาร์ตัวนี้ชื่อว่าอะไรดีครับนีโอ??” ลินาถามพร้อมขยับตัวต่อเล็ก ๆ ให้เดินเหมือนตัวมันมีชีวิต
“ชื่อ… ชื่อพี่ลินาซอรัส!” นีโอหัวเราะลั่นจนท้องงอ
“อะไรนะ!?” ลินาทำหน้าตกใจโอเวอร์แอ็กติ้ง นีโอหัวเราะจนแก้มแดง
“หมายความว่าไดโนเสาร์นี่คงสวยมากใช่ไหม??”
“ใช่ครับ สวยมาก!!” เด็กชายยิ้มจนตาหยี ในแสงไฟอุ่น ภาพทั้งสองคนนั่งยิ้มนั่งแกล้งกันนั่งหยอกล้อกันด้วยท่าทางสนุกสนานทำให้บรรยากาศบ้านที่เอเดนคุ้นกับความเงียบและความว่างเปล่าดูเหมือนมีชีวิตขึ้นอีกครั้ง
เอเดนยืนพิงกรอบประตูเงียบ ๆ ไม่พูด ไม่เดินเข้าไปแค่มอง แววตาเขาไม่ได้เย็นเหมือนตอนคุยงานเมื่อครู่
มันอ่อนลงโดยไม่รู้ตัวอ่อนจนซีออนกับคีแกนคงคิดว่าผิดคนนีโอเงยหน้าเห็นเขาก่อน
“แด๊ดกลับมาแล้ว!!”
เอเดนกะพริบตาช้า ๆ เหมือนถูกดึงออกจากภาพที่เขาไม่อยากละสายตาแต่เขายังคงยืนอยู่นอกวง ไม่กล้าเดินเข้าไปแทรกความสุขเล็ก ๆ ตรงหน้านั้น
“ครับ” เขาตอบสั้น ๆ น้ำเสียงเบากว่าทุกที นีโอขยับตัวจะลุกแต่ลินาแตะไหล่เบา ๆ
“เล่นให้เสร็จก่อนก็ได้”
“ครับ” นีโอยิ้มแล้วก้มเล่นต่อเอเดนมองภาพนั้นแล้วหัวใจเหมือนถูกบีบและคลายไปพร้อมกันเขาอยากเดินเข้าไปอยากนั่งลงใกล้ ๆ เหมือนอยากเป็นส่วนหนึ่งของภาพนั้น
แต่เขารู้ตัวดีว่า… เขาเองต่างหาก ที่เป็นคนทำให้ความอบอุ่นในบ้านนี้หายไปนาน เอเดนยืนมองอีกครู่ ก่อนพูดเสียงต่ำเกือบเป็นลมหายใจ
“ดีแล้ว”
ลินาเงยหน้าขึ้นสบตาเขาเธอเห็นความเหนื่อยล้าที่เขาพยายามซ่อนและเห็นแววตาที่อ่อนโยนกว่าที่เคยเพียงหนึ่งวินาทีแต่ทำให้หัวใจเธอสะดุดไปทั้งดวงเอเดนเบือนหน้าออกไปก่อนพูดเรียบ ๆ
“เล่นต่อเถอะ ผมไม่กวนแล้ว” แล้วเขาก็ก้าวถอยออกจากกรอบประตูเงียบ ๆ ทิ้งไว้เพียงเงาของชายที่เอาแต่ยืนมองความสุขที่ตัวเองไม่กล้าเอื้อมคว้า… แต่ก็ไม่อาจละสายตาได้เลย