กานต์แก้ว เป็นหญิงสาว อายุ 26 ปี
เธอมีรูปร่างระหง ผิวขาวเนียนนุ่มน่าสัมผัส ผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้ม ดวงตากลมโต จมูกโด่งรั้น ริมฝีปากอิ่มสีชมพูอ่อน
แม้ไม่แต่งหน้า ก็ยังดูสวยสดใสอยู่เสมอ
เวลานี้ ภายในห้องครัว
โต๊ะอาหารถูกปูด้วยผ้ากำมะหยี่สีแดงสวย และตกแต่งด้วยดอกไม้กับเชิงเทียนร่วมสมัย ให้บรรยากาศโรแมนติกไม่น้อย
"แค่นี้ก็เรียบร้อยแล้ว..."
เสียงหวานเอ่ย หลังจากจัดเตรียมข้าวของสำหรับงานเลี้ยงเล็ก ๆ เนื่องในวันครบรอบแต่งงานระหว่างเธอและสามีเสร็จสิ้น
และสามีของเธอก็คือ ชาลี
ในวันนี้...เป็นวันที่พวกเขาแต่งงานกันมาครบ 3 ปี
และเธอก็ทำเซอร์ไพรส์แบบนี้ให้เขาทุกปีไม่เคยขาด
แม้ว่าช่วงหลัง ๆ มา ชาลีมักจะทำตัวแปลก ๆ ไปบ้างก็ตาม
หลังจากจัดการข้าวของเสร็จเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็เดินขึ้นไปชั้นบนของบ้าน เพื่อเตรียมตัวอาบน้ำ เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดสวยไว้รอสามีกลับมาถึง แน่นอนว่าต้องเป็นชุดที่เซ็กซี่ขยี้ใจที่สุด
เป็นเวลาเนิ่นนานนับปีแล้ว ที่เธอกับชาลีห่างหายจากเรื่องบนเตียง... เขาให้เหตุผลเธอว่า ยังเศร้ากับเรื่องที่พ่อจากไป
ช่วงแรก ๆ เธอก็พอเข้าใจได้ แต่พอผ่านไปหลายเดือนแล้ว เขาก็ยังคงเมินเฉย ไม่มีทีท่าว่าจะหันกลับมาสนใจเธออีกเลย
นั่นเป็นเหตุผลที่เธอต้องวางแผนยั่วเขาแบบนี้
หลังจากอาบน้ำเสร็จ หญิงสาวก็เดินไปที่หน้าตู้เสื้อผ้า
"อืม...ชุดซีทรูสีดำก็ไม่เลวนะ"
เสียงหวานกล่าวอย่างอารมณ์ดี ขณะเลือกหยิบชุดออกมา
เมื่อเป่าผมจนแห้งสนิท พร้อมทาครีมบำรุงเรียบร้อยแล้วเธอก็จัดการแต่งตัวด้วยชุดสวยที่เตรียมไว้ พลางนึกถึงเรื่องดี ๆ ที่คิดว่าจะเกิดขึ้นระหว่างเธอและสามีในค่ำคืนนี้
ครืน...
เสียงรถเข้ามาจอดเทียบที่หน้าบ้าน ทำเอากานต์แก้วดีใจจนยิ้มร่า รีบหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาสวมทับแล้วเดินลงไปรับสามี
"ชาลี ไหนว่ากลับดึกไงคะ ทำไม..."
หญิงสาวเอ่ยปากต้อนรับชายคนรักด้วยเสียงหวาน แต่เมื่อเดินไปถึงหน้าบ้าน เสียงของเธอก็ต้องเหือดแห้งหายไปทันที
เพราะคนที่กลับมาถึง ไม่ใช่ชาลี แต่เป็นพี่ชายของเขา
ชานนท์ เป็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ กล้ามเนื้อล่ำสัน ผิวแทน ทว่าดูสะอาดสะอ้านอย่างคนดูแลตัวเองอย่างดี ใบหน้าหล่อเหลาคล้ายคลึงกับชาลี แต่ค่อนไปทางคมเข้มและเคร่งขรึมมากกว่า
นอกจากนี้ เขายังเป็นประธานของบริษัทหลักทรัพย์ด้วย
"รอเจ้าชาลีอยู่เหรอ" เขาเอ่ยถามเสียงเรียบ
ทั้งน้ำเสียงแหบทุ้มและใบหน้าเรียบเฉย มักทำให้กานต์แก้วรู้สึกเคอะเขินอยู่เสมอ เวลาที่ต้องพูดคุย หรือได้ยินเสียงเขา
"ใช่ค่ะพี่นนท์ แก้วรอชาลีอยู่..."
เธอกล่าวด้วยน้ำเสียงที่คล้ายว่าผิดหวังเล็กน้อย
บ้านหลังใหญ่หลังนี้ เป็นมรดกตกทอดมาจากผู้เป็นพ่อของชาลีและชานนท์ หลังผู้เป็นพ่อได้เสียชีวิตไป พวกเขายังคงอาศัยอยู่ด้วยกันในฐานะพี่น้อง แม้ว่าจะไม่ค่อยสนิทกันเท่าไรก็ตาม
"ไม่ใช่ว่าช่วงนี้มันกลับดึกทุกวันเหรอ?"
เสียงของชานนท์ยังเอ่ยถามต่อพลางเก็บเอกสารลงจากรถ เขามักจะนำงานกลับมาทำต่อที่บ้านแบบนี้เป็นประจำ ท่าทางหอบของพะรุงพะรังน่าเป็นห่วง ทำให้กานต์แก้วตัดสินใจเข้าไปช่วย
"เดี๋ยวแก้วช่วยค่ะ"
เสียงหวานกล่าวพลางยื่นมือเรียวบางทั้งสองไปช่วยรับของจากมือชานนท์ แต่ทว่า จู่ ๆ เขากลับทำของหลุดมือไปเสียเฉย ๆ
ตุ้บ!
"อะ...โทษที ฉันไม่ระวังเอง"
ถึงเขาจะอุทาน แต่น้ำเสียงก็คงสุขุมทรงเสน่ห์ไม่เปลี่ยน
กานต์แก้วรีบก้มลงหยิบแฟ้มเอกสารให้เขาทันที โดยแทบไม่รู้ตัวเลยว่า ตอนนี้ชุดคลุมอาบน้ำได้เผยอออก จนสามารถเห็นชุดซีทรูด้านใน รวมไปถึงอะไร ๆ ที่ปิดแทบไม่มิดด้วย
ชานนท์กลืนน้ำลายลงคอเล็กน้อย กระเดือกของเขาที่ขยับขึ้นลงดูมีเสน่ห์จนแก้วกานต์เผลอแอบมอง แต่ทว่าพอรู้ตัวเธอก็รีบส่งแฟ้มคืนให้เขา แล้วเดินไปเปิดหน้าประตูบ้านรอ
"ขอบใจ" ชานนท์เอ่ยเรียบ ๆ แล้วเดินเข้าไปด้านใน
คล้อยหลังจากพี่ชายของสามีแล้ว
กานต์แก้วก็ยังคงยืนอยู่ตรงนั้น พลางนึกถึงใบหน้าของเขา ดวงตาคมกริบที่เบิกขึ้นแวบหนึ่งเหมือนตกใจ ตอนทำของหล่น
คงไม่ใช่ว่าเขาเห็นอะไรที่ไม่ควรเห็นหรอกนะ...
หญิงสาวได้แต่สะบัดหน้าไปมา ไล่ความคิดฟุ้งซ่านพวกนั้นออกไปให้หมด คืนนี้เธอควรจะปลอดโปร่งเพื่อใช้เวลากับชาลี
เมื่อร่างระหงหมุนตัวเดินกลับเข้ามาภายในบ้าน พลันก็แว่วเสียงเรียกเข้าโทรศัพท์ของเธอ กานต์แก้วจึงรีบไปหยิบมาดู
สายเรียกเข้า...ชาลี
ใบหน้าหวานเผยรอยยิ้มบางอย่างยินดี เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายโทรหาเธอทันทีที่ได้เวลาเลิกงาน คงไม่ใช่ว่าทางด้านเขาเองก็มีเซอร์ไพรส์ให้เธออยู่เหมือนกันหรอกนะ
คิดได้ดังนั้น จึงรีบกดรับแล้วยกขึ้นแนบหู
"ค่ะ ชาลี"
("ฮาโหล แก้ว คุณทำอะไรอยู่เหรอ")
"อืม...กำลังรอคุณอยู่ไงคะ"
เธอกรอกเสียงหวานลงไปอย่างเอาใจ
แต่ทว่าเขากลับเงียบชะงัก สักพักหนึ่งจึงตอบกลับมา
("ผมบอกแล้วไงว่าช่วงนี้ไม่ต้องรอ ผมมีงานดึกทุกวันเลย")
พอได้ยินแบบนั้น กานต์แก้วพลันเผยอปากค้าง แต่สุดท้ายก็สูดลมหายใจเข้า แล้วใจดีสู้เสือ ตอบกลับไปเสียงนุ่มเช่นเดิม
("แหม วันแบบนี้ แก้วก็ต้องอยู่รอสิคะ ชาลีเองก็...")
ยังไม่ทันที่เธอจะได้พูดจบ ชายหนุ่มซึ่งอยู่อีกฝั่งของสายก็โต้กลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่ค่อยพอใจสักเท่าไรนัก
("คืนนี้ หลังจากเลิกงานแล้ว ผมว่าจะไปดื่มที่บาร์สักหน่อย อยากคิดอะไรเงียบ ๆ คนเดียว คุณกินข้าวก่อนเลย ไม่ต้องรอ")
คำกล่าวของสามีเชือดเฉือนน้ำใจของกานต์แก้วอย่างมากจนเธอเผลอกำโทรศัพท์มือถือแน่น พลางกัดปากอย่างไม่รู้ตัว
("ละ...แล้วคุณจะกลับกี่โมงคะ...")
เธอเอ่ยถามเขา ทั้งพยายามคุมเสียงไม่ให้สั่น
("จริง ๆ ตัวคุณเอง ก็น่าจะหาอะไรทำบ้างนะ จะได้ไม่ต้องเอาแต่นั่งรอผมที่บ้านทุกวัน แถมเอาแต่ถามคำถามน่าเบื่อแบบนี้")
เมื่อถูกต่อว่ามาอีกคำ หยาดน้ำใสก็พลันขึ้นมาเอ่อคลอเบ้า กานต์แก้วได้แต่ยกมือขึ้นปาดมันออกจากหน้าพลางกลั้นสะอื้น
"ค่ะ...เข้าใจแล้ว..." เธอเอ่ยตอบเขาไปแบบนั้น
("เข้าใจก็ดี ผมกลับดึกหรือไม่ก็อาจจะไม่กลับ แค่นี้นะ")
ชาลีกล่าวอย่างตัดรอน ก่อนจะตัดสายไป ทั้ง ๆ ที่ภรรยาอย่างเธอยังไม่ทันได้เอ่ยปากถามถึงเรื่องวันครบรอบด้วยซ้ำ
กานต์แก้วยกโทรศัพท์ขึ้นมา พยายามจะต่อสายกลับไปหาชาลีอีกครั้ง ทว่านอกจากเขาจะไม่รับแล้ว ยังตัดสายอีกต่างหาก
"มันเกิดอะไรขึ้นกันนะ..."
หญิงสาวได้แต่พึมพำกับตัวเอง แล้วเดินถือโทรศัพท์อย่างหมดอาลัยตายอยากเข้าไปในห้องครัว ซึ่งมีโต๊ะอาหารตั้งอยู่
ข้าวของที่เธอเตรียมไว้ ดูไร้ค่าไปทันทีเมื่อชาลีมองข้ามไป แม้แต่ตัวเธอเอง ที่พยายามเอาใจเขายังดูเหมือนไม่มีค่าเลย
"หรือเราจะฝืนใจเขาเกินไปจริง ๆ นะ..."
กานต์แก้วได้แต่คิดแบบนั้น ในขณะที่พยายามเมินเฉยต่อข้าวของตั้งเยอะแยะ ที่ตัวเองอุตส่าห์ตั้งใจทำมาตลอดทั้งวัน
สุดท้าย ก็ได้แต่เดินซึม ๆ ขึ้นไปบนห้องนอนคนเดียว
เมื่อทิ้งตัวลงบนเตียงแล้ว มือเรียวสวยก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเปิดดูโซเชียลข่าวสาร เพื่อให้คลายเหงาใจ และลืมความรู้สึกแย่ ๆ พวกนั้นไปเสียให้หมด เพราะเธอไม่ต้องการจะร้องไห้อีก
ในเมื่อเธอก็อุตส่าห์ตั้งใจทำเพื่อรักษาความสัมพันธ์ขนาดนี้ แล้วทำไมยังเป็นเธอที่ต้องเจ็บช้ำน้ำใจอยู่ตลอดเลยล่ะ...
"ช่างเถอะ เขาไม่กลับมาก็ดี เราจะได้มีเวลาส่วนตัว"
เธอกล่าวกับตัวเองแบบนั้น ก่อนจะเลื่อนดูนั่นดูนี่ในมือถือไปเรื่อย ๆ จวบจนกระทั่งไปสะดุดเข้ากับคลิปวิดิโอหนึ่งเข้า
หญิงสาวได้แต่กลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก
ภายในคลิปนั้น เป็นชายหญิงสองคนกำลังร่วมรักกันอย่างดูดดื่มและร้อนแรง มันกระตุ้นสัญชาตญาณของเธอเหลือเกิน
ตั้งหนึ่งปี ที่ชาลีไม่ยอมแตะต้องเธอเลย
แล้วเธอจะไปทำอะไรได้ นอกจากช่วยเหลือตัวเอง...
มือเรียวสวยเลื่อนลงไปสัมผัสที่เต้านมอวบใหญ่ของตัวเองเพียงแผ่วเบา พลันความรู้สึกอยากกระหายก็เพิ่มขึ้นสูงในทันที
ดูเหมือนว่าเธอจะกักเก็บความต้องการไว้มากเกินไปจริง ๆ
จากตอนแรกที่เพียงแค่สัมผัส ตอนนี้ มือของเธอก็เริ่มเค้นหน้าอกกลมกลึงของตัวเองช้า ๆ พร้อมกับใช้ปลายนิ้วเรียวสะกิดที่ยอดถันของตัวเองแผ่วเบา พลันความกระสันก็ซาบซ่าน
"อ๊ะ...อ๊า..."
เสียงหวานเปล่งออกมาอย่างไม่อาจห้ามได้
และแล้วในตอนที่หญิงสาวกำลังดึงชุดซีทรูให้ร่นขึ้นมาจากเรียวขาอ่อน พลันก็มีแจ้งเตือนข้อความเข้าปรากฏขึ้นบนหน้าจอ
Chanon : เธอสนใจกินข้าวด้วยกันไหม?