รุ่งเช้าวันต่อมา กานต์แก้วรู้สึกตัวตื่นภายในห้องนอนตัวเองด้วยสภาพเปลือยเปล่า และอาการปวดเมื่อยที่สะโพกเล็กน้อย
แต่เมื่อเหลียวมองไปรอบห้องก็ไม่พบใคร
"เมื่อคืน ไม่ใช่ว่าพี่นนท์อยู่ด้วยหรอกเหรอ..."
เธอพึมพำกับตัวเองแผ่วเบา ก่อนขยับลุกขึ้นนั่งอยู่บนเตียงดวงตากลมโตกระพริบถี่ ๆ เพื่อปรับสภาพสายตา
แต่จู่ ๆ พลันนึกอะไรขึ้นได้ จึงรีบคว้าเอาโทรศัพท์มาเปิดดู และพบว่าช่วงดึก ๆ ของเมื่อคืน มีสายเรียกเข้าจากผู้เป็นสามี
ดูเหมือนว่าหลังจากร่วมรักกับชานนท์ เธอก็จะหลับสนิทไป เลยไม่ได้ยินสายเรียกเข้านี้ ไม่รู้ว่าชาลีจะโกรธให้เธอหรือเปล่า
กานต์แก้วสูดลมหายใจเข้าเบา ๆ พยายามตั้งสติกับตัวเอง
ชั่วครู่หนึ่ง หญิงสาวจึงโทรกลับไปหาชาลีผู้เป็นสามี
ตืด...
หัวใจของเธอเต้นระส่ำด้วยความกังวล ริมฝีปากแห้งผาก ราวกับขาดน้ำมาทั้งวัน แต่ทว่าเพียงชั่วอึดใจหนึ่ง อีกฝั่งก็รับสาย และโต้ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่ดูไม่ต่างจากปกตินัก
("ฮาโหล แก้ว")
"ค่ะ ชาลี มีอะไรเหรอคะ"
("ทำไมเมื่อคืนไม่รับสายผมล่ะ")
เขาโต้ตอบกลับมา น้ำเสียงดูไม่ได้ขุ่นเคืองมากนัก
หัวใจของกานต์แก้วแช่มชื้นขึ้นเล็กน้อย เธอพ่นลมหายใจ ก่อนจะโต้ตอบเขาด้วยเสียงเบาบางแต่ก็แฝงด้วยความรู้สึกผิด
"เมื่อคืนแก้วแวะกินข้าวกับพี่นนท์ค่ะ พออิ่มมาก หนังตาก็เริ่มหย่อน กลับมาถึงบ้านก็เผลอหลับไปเลย ขอโทษด้วยนะคะ"
ชาลีเงียบเสียงไปสักครู่หนึ่ง เสียงลมหายใจติดขัดเหมือนเขากำลังคิดอะไรบางอย่างอยู่ แต่เธอเองก็ไม่รู้ว่าเรื่องอะไร
("ไม่เป็นไร ผมแค่มีเรื่องคุยด้วยนิดหน่อย")
เสียงของเขาดูอ่อนโยนกว่าที่ใช้กับเธอมาตลอดระยะเวลาหลายเดือน ทำเอาหญิงสาวรู้สึกประหลาดใจไม่น้อย
"มีอะไรเหรอคะ" เธอตอบกลับด้วยเสียงเอาใจ
("คือว่า...")
เสียงลมหายใจของชาลี แสดงให้เห็นว่าเขาครุ่นคิดเรื่องนี้อย่างหนัก และในตอนที่เขาสับสน เธอเองก็คิดหนักเหมือนกัน
("ผมอยากให้คุณลองมีอะไรกับคนอื่น...")
ในที่สุดเขาก็โพล่งออกมา ทำเอากานต์แก้วหูอื้อไปชั่วขณะ
"อะ...อะไรนะคะ..." เธอกล่าวอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
แม้ว่าที่จริง จะได้ยินเต็มสองรูหูเลยก็ตาม
("ใช่ ผมบอกว่า อยากให้คุณลองมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น... แบบว่า..ต่อหน้ากล้อง ให้ผมดู คุณพอจะทำให้ผมได้ไหม?")
พอได้โพล่งใจความออกมาแล้ว ดูเหมือนประโยคถัด ๆ ไป เขาจะสามารถพูดออกมาได้ง่ายขึ้น ทำเอาหญิงสาวถึงกับมึนงง
"คุณหมายความว่าไง ชาลี ให้แก้วมีอะไรกับผู้ชายคนอื่น ต่อหน้าคุณแบบนี้เหรอ? คุณจะทำแบบนั้นไปเพื่ออะไรกันล่ะ?"
กานต์แก้วรัวออกไปเป็นชุด ด้วยความสับสนในใจ
แม้ว่าเธอจะเคยมีสัมพันธ์กับผู้ชายคนอื่นจริง ๆ แต่นั่นเพียงแค่แก้เหงาชั่วครั้งชั่วคราว ทำไมชาลีถึงได้ทำเป็นเรื่องจริงจัง...
เขาดูเหมือนจะรู้เรื่องระหว่างเธอกับชานนท์
แต่ขณะเดียวกัน ก็เหมือนจะไม่รู้...
หมายความว่าเขาอยากให้เธอไปมีอะไรกับผู้ชายอื่นจริง ๆ
("ผมก็หมายความตามที่พูดแหละ แบบว่า...พวกเราสองคนก็ไม่ได้มีอะไรกันมานานแล้ว ผมคิดว่า ผมอาจจะเสื่อมสมรรถภาพ ถ้าหากลองทำอะไรใหม่ ๆ ดู อาจจะช่วยกระตุ้นให้มันดีขึ้นได้")
คำพูดสามีทำเอากานต์แก้วส่ายหัวไปมาด้วยความมึนงง
ถึงเหตุผลมันจะพอฟังขึ้น แต่มันก็ยังดูแปลกอยู่ดี
"แล้วคุณจะให้แก้วไปมีอะไรกับใครที่ไหนก็ไม่รู้เหรอ?"
เธอถามเขาไปแบบหยั่งเชิง เพราะต้องการรู้เจตนา
("คุณจะนัดคนในทวิตก็ได้ หรือในแอพหาคู่ก็ได้ ผมโอเค")
เขาโอเค แล้วเธอจะไม่โอเคได้ยังไง...
("ขอแค่ไม่ใช่คนรู้จักก็พอแล้ว") เขากล่าวย้ำอีกครั้ง
คนเป็นภรรยาถึงกับยกมือขึ้นนวดขมับทันทีที่ได้ยินคำสามี ถ้าหากเขาต้องการใช้เมียร่วมกับพี่ชาย ก็พอจะเป็นไปได้อยู่บ้าง แต่นี่ให้เธอไปนัดใครก็ไม่รู้มามีอะไรด้วยแบบนั้นมันเกินไปนะ...
"นี่คุณอยากให้แก้วมีอะไรกับคนไม่รู้จักงั้นเหรอ?"
("แค่พูดคุยกันแล้วคุณโอเค ก็นับว่ารู้จักกันแล้วนี่นา")
เสียงทุ้มของคนเป็นสามีตอบกลับมาหน้าตาเฉย
กานต์แก้วพ่นลมหายใจออกมาเฮือกใหญ่ พลางครุ่นคิดไปตามคำกล่าวของอีกฝ่าย แต่สุดท้ายเธอก็ยินยอมตอบรับจนได้
"ก็ได้ ๆ แก้วจะลองคิดดูค่ะ"
("จริงเหรอ?... เยี่ยมไปเลย")
ชาลีกล่าวด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นผิดจากปกติ ทำเอากานต์แก้วยิ่งกังวลมากกว่าเดิม เธอได้แต่กลืนน้ำลายลงคอ แล้วถามต่อ
"แล้วความสัมพันธ์ของเราหลังจากนี้ไปล่ะ?"
ชั่วพริบตา น้ำเสียงตื่นเต้นพอใจของชาลีก็เงียบหายไป
เขากลับมานิ่ง แล้วโต้ตอบเธอด้วยน้ำเสียงห้วนเหมือนเดิม
("ต้องดูก่อนว่ามันจะได้ผลไหม ผมถึงจะให้คำตอบคุณ")
แน่นอนว่าการกระทำแบบนี้ ทำให้กานต์แก้วรู้สึกกังวลใจ หากแต่ดูเหมือนเธอจะไม่มีทางเลือกอะไรที่ดีกว่ายอมรับมัน
หากว่าไม่ยอมรับ ความสัมพันธ์ของเธอกับชาลีที่แย่อยู่แล้ว มีแต่จะยิ่งแย่กว่าเก่า แต่หากยอมรับ อาจมีอะไรเปลี่ยนไปก็ได้
"ตกลงค่ะ แก้วจะทำ" เธอตอบด้วยเสียงเรียบ ๆ
("อืม...คืนนี้เลยได้ไหม?") เขากล่าวราวกับร้อนใจ
"ได้นะคะ ถ้าแก้วดีลทัน"
เธอตอบด้วยน้ำเสียงสบาย ๆ ไม่ได้กดดันเหมือนตอนแรก แถมยังเหยียดยิ้มมุมปากให้กับความสัมพันธ์อันน่าหดหู่นี้ด้วย
("คนสวยอย่างคุณทำได้อยู่แล้ว")
ชาลีตอบกลับมาแค่นั้น ก่อนจะกดวางสายไป
หึ...คนสวยอย่างฉันน่ะเหรอ...
ชมว่าเมียสวย แต่ให้เมียไปมีอะไรกับคนอื่น
"คุณคิดอะไรอยู่กันแน่นะ ชาลี..."
ก๊อก...ก๊อก...
ระหว่างหญิงสาวกำลังพึมพำกับตัวเอง เสียงเคาะประตูก็ดังขึ้นสองครั้ง ก่อนที่มันจะถูกเปิดเข้ามาด้วยฝีมือของผู้ชายอีกคน
"คุยกับชาลีแล้วเหรอแก้ว" เสียงทุ้มเอ่ยถาม
"พี่นนท์?" แก้วขานชื่อผู้ชายที่เดินเข้ามา พลางคลี่ยิ้มให้เขา ก่อนจะวางโทรศัพท์ในมือลง แล้วดึงผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างกาย
"คุยเรื่องอะไรกันเหรอ? ได้ยินเธอทำเสียงแปลก ๆ"
ชานนท์เอ่ยถามอย่างประหลาดใจ ก่อนยื่นจานอาหารเช้าให้แก่เธอ ซึ่งประกอบด้วยขนมปัง ไข่ดาวที่ไข่แดงแตก ไส้กรอกเกรียม ๆ หนึ่งชิ้น และเบคอนที่ดูเหมือนจะกรอบบ้างนิ่มบ้าง
หากแต่กานต์แก้วก็รับมันมาอย่างไม่รังเกียจ
แค่เขาอุตส่าห์ตั้งใจทำมาให้ เธอก็ดีใจเหลือเกินแล้ว
"ขอบคุณค่ะ..." กานต์แก้วคลี่ยิ้มรับ
หากแต่ในน้ำเสียงของเธอเจือความไม่สบายใจอยู่
"แก้ว..." ชายหนุ่มจงใจเรียกเธอซ้ำ เพื่อเป็นการย้ำให้เธอสนใจคำถามก่อนหน้านี้ของเขา และดูเหมือนเธอเพิ่งจะรู้ตัว
กานต์แก้วพ่นลมหายใจเล็กน้อย ก่อนจะกล่าว
"ชาลีขอให้แก้วที่อะไรกับผู้ชายคนอื่น..."
กาแฟดำที่ชานนท์เพิ่งจิบเข้าไปราวกับจะพุ่งออกมา
"อะไรนะ? หมายความว่าไง?" เขาถามอย่างไม่เชื่อหูตัวเอง
"เขาบอกว่า แก้วกับเขาควรทำอะไรใหม่ ๆ บ้าง เพื่อกระตุ้นความสัมพันธ์ระหว่างแก้วกับเขา เพราะเขาเสื่อมสมรรถภาพ"
พอได้ฟัง ริมฝีปากหยักก็ลอบยกยิ้มอย่างพอใจ
"แล้วเธอตอบมันไปว่ายังไงบ้าง?"
ใบหน้าของกานต์แก้วแสดงความความกังวลออกมาอีกครั้ง ดูท่าทางเธอเองก็อึดอัดกับเรื่องนี้ไม่น้อยเลยเช่นกัน
"จริง ๆ แก้วตอบไปว่าตกลงค่ะ แต่ชาลียังบอกด้วยว่าไม่ให้ทำกับคนใกล้ตัวหรือคนรู้จัก เขาขอให้แก้วหาจากทางโซเชียล"
เพียงพริบตา รอยยิ้มบนใบหน้าของชานนท์ก็พลันจางหาย ก่อนจะกลายเป็นความเคร่งขรึมดุดัน เจือปนความไม่พอใจแทน
"นี่มันบ้าชัด ๆ หาจากทางโซเชียลเนี่ยนะ มันคิดอะไรอยู่"
เสียงที่แสดงความโกรธเคืองออกมาชัดเจน ทำให้หญิงสาวต้องเอื้อมมือไปสัมผัสที่วงแขนล่ำสัน เพื่อบอกให้เขาใจเย็นลง
ต่างฝ่ายต่างสบตากันอยู่ครู่หนึ่ง พลันหญิงสาวก็เอ่ยปาก
"ไม่เป็นไรหรอกค่ะ แก้วพอจะคิดวิธีไว้บ้างแล้ว"