บทที่1 เมียหรือลูกสาว

2922 Words
บทที่1 เมียหรือลูกสาว มือบางยกสมาร์ทโฟนหรูขึ้นมาก่อนจะกดโทรศัพท์หาตัวการใหญ่อย่างโมโหเกือบทั้งวันที่ผ่านมาเธอต้องแกล้งฉีกยิ้มหวานจนเมื่อยปากกว่าที่งานจะจบ และที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะเพื่อนรักทรยศนั้นเอง "หมายเลขที่ท่านเรียกไม่สามารถติดต่อได้ในขณะนี้ กรุณาติดต่อใหม่ในภายหลัง" เสียงหวานๆที่ดังแว่วมาจากสมาร์ทโฟนเกือบทำให้เธอปาของในมือทิ้ง ตืด ตืดดดด เสียงสั่นของสมาร์ทโฟนเครื่องหนึ่งที่ตั้งอยู่บนโต๊ะหัวเตียงทำให้กรรณณาราเอี้ยวตัวไปมองอย่างสงสัยก่อนที่เจ้าของมันจะเดินมารับ " ได้เรื่องมั้ยเมฆ ไม่เป็นไรหาไปเรื่อยๆ ไปดูที่ไร่ไพพนาด้วยนายชัชอาจไปที่นั้น เพิ่มคนอีกก็ได้ฉันอนุญาต วันนี้พอแค่นี้ก่อนก็ได้ไม่ต้องเครียด" พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยบอกปลายสายทั้งคู่สนทนากันสักพักก่อนที่ชายหนุ่มจะตัดสายก่อนจะเอ่ยคาดโทษคนก่อเรื่องอย่างโมโหกับความไม่รู้จักโตของหลานชาย กลับมาล่ะน่าดูไอ้เด็กนิสัยเสีย "ไม่ใช่ตรงนี้" เสียงหวานตวาดขึ้นเมื่อเห็นหนุ่มเกือบใหญ่ทำท่าจะทรุดตัวลงนอนบนเตียง พ่อเลี้ยงชนะชลมองภรรยาหมาดๆก่อนจะเอ่ยขึ้น " รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่บ้างกรรณณารา อาจะนอนตรงนี้ก็ไม่มีใครห้ามอาได้ " " แต่เค้าเป็นเจ้าของห้องตัวเป็นแค่คนอาศัย เค้าว่าไม่ก็คือไม่ " เด็กไม่รู้จักสัมมาคารวะในสายตาพ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยอย่างเอาแต่ใจ ที่ผ่านมาเธอกับเขาไม่ค่อยจะลงรอยกันในหลายๆเรื่องและตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิม "แม่กระแตป่า อย่าหวงนักเลยน๊ากะอีแค่เตียงเนี่ยเก็บความเอาแต่ใจไว้หวงอย่างอื่นดีกว่า อาเหนื่อยมาทั้งวันแล้วนอนซะ พรุ่งนี้เราต้องกลับเชียงใหม่กัน" พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยบอกก่อนล้มตัวลงนอนเพราะเขาวิ่งวุ่นตั้งแต่เช้าทั้งเรื่องความเรียบร้อยของขบวนขันหมากพานขันหมาก ตามหาหลานชายจนกระทั้งต้องเข้าพิธีแทนพ่อหลานชายตัวดีทำให้เหน็ดเหนื่อยจนไม่อยากต่อปากต่อคำกับเด็กที่ไม่รู้จักโต ไว้กลับถึงไร่ของเขาเมื่อไหร่รับรองเขาจะเคี่ยวเข็ญจนเป็นผู้ใหญ่ที่มีสัมมาคารวะและเรียบร้อยไม่ซนเป็นลิงเอาแต่ใจแบบนี้แน่ " ชิส์ กลับไปคนเดียวสินี่บ้านเค้า ใครจะไปกับตัว แบร่" หญิงสาววัยใสเอ่ยก่อนจะแลบลิ้นใส่คนที่นอนหันหลังอยู่ก่อนจะทิ้งตัวลงนอนด้วยความเหนื่อยล้าก่อนจะหลับไปในเวลาไม่นาน เช้าวันรุ่งขึ้นพ่อเลี้ยงชนะชลยืนเท้าสะเอวก้มลงมองคนที่ยืนเท้าสะเอวทำท่าเอาเรื่องตรงหน้า เขากำลังจะเข้าไปอาบน้ำแต่แม่ตัวเล็กที่นอนข้างๆกันมาทั้งคืนก็กำลังจะเข้าไปเช่นกันศึกแย่งชิงห้องน้ำจึงเกิดขึ้น " นี่ห้องเค้า เค้าต้องเข้าก่อน" เด็กเอาแต่ใจเอ่ยขึ้นหลังจากเล่นสงครามจ้องหน้ากันมานานจนเธอเริ่มเมื่อยคอที่ต้องเงยหน้าขึ้นมอง ถ้าผู้ชายตรงหน้าจะสูงน้อยกว่านี้สักนิดหรือเธอจะสูงกว่านี้สักหน่อยก็คงดีทำไมเธอรู้สึกเหมือนยืนคุยกับยักษ์อยู่ล่ะเนี้ย "เธอมาทีหลังอาตื่นก่อน เธอไม่มีสิทธิ์มาทำตัวเอาแต่ใจแบบนี้กระแต" พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยบอกชักเริ่มเข้าใจแล้วว่าคบหาเป็นเพื่อนกับหลานชายเขาได้ยังไง ก็เอาแต่ใจและไม่รู้จักโตด้วยกันทั้งคู่ "ไม่ยังไงเค้าก็ต้องได้เข้าก่อน เลดี้เฟิร์ส เข้าใจมั้ย" สาวน้อยที่มักพูดถึงความเท่าเทียมระหว่างเพศเอ่ยออกมาอย่างเอาแต่ใจ "ไหนเคยบอกเท่าเทียมไง อันนี้มันเรียกร้องสิทธิสตรีในโลกแห่งความเท่าเทียมชัดชัด" พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยเยาะ ก่อนจะเอื่อมมือไปเปิดประตูแต่ด้วยความตัวเล็กของสาวน้อยทำให้เธอแทรกตัวเข้าไปในห้องน้ำได้ก่อน " เร็วไปสิบชาติลุง แบร่" กรรณาราเอ่ยเยาะเย้ยก่อนจะแลบลิ้นใส่พร้อมถึงคำพูดอันแสนเจ็บปวดไว้ ก่อนปิดประตูอย่างสบายใจเฉิบ "ยัยลูกหมากระเป๋าเอ๋ย ลุงเลยเหรอ ฝากไว้ก่อนเถอะยัยแคระ " พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยคาดโทษก่อนจะนั่งรอยัยตัวแสบไปพรางสายตาหันมองไปรอบๆห้อง ห้องของหญิงสาวถูกตกแต่งด้วยโทนสีฟ้าอ่อน มีรูปถ่ายตั้งแต่เป็นทารกจนถึงรับปริญญาถุกแขวนไว้อย่างสวยงานเกือบทุกรูปจะมีเจ้าหลานชายตัวดีอยู่ในเฟรมตลอด ดวงตาคมจับจ้องรูปถ่ายต่างๆอย่างเพลิดเพลินก่อนสาวตาจะเลื่อนไปเห็นถ้วยรางวัลต่างๆพร้อมทั้งรูปคู่กับหลานชายเขาเรียงรายอยู่ในตู้โชว์กระจกทั้งสองสนิทกันมากแต่ความสัมพันธ์กลับไม่มีวันพัฒนาแล้วนับประสาอะไรกับเขาที่มาแม่ฮ่องสอนสัปดาห์ละครั้งแถมไม่ค่อยได้เจอกันบ่อยอย่างเขาล่ะ ชีวิตคู่ที่มารดาและพี่ชายและคนอื่นๆปรารถนาอยากให้เป็นมันจะเกิดขึ้นได้แน่เหรอ "เฮ่ออออ " พ่อเลี้ยงชนะชลถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจก่อนจะนอนลงเพื่อพักสายตา กรรณณาราที่อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเปิดประตูห้องน้ำออกมาก่อนจะเหลือบไปเห็นคนร่วมห้องอย่างคิดไม่ตก เธอกับเขาต่างกัน ทั้งความคิด และวัยที่ต่างกันชีวิตครอบครัวมันจะไปรอดจริงๆเหรอ เป็นไปได้เธอไม่อยากจะแต่งงานกับใครด้วยซ้ำเพราะคิดเสมอว่าจะแต่งแค่ครั้งเดียวเท่านั้นดังนั้นจะต้องคิดให้ดีก่อนที่จะเลือก *'คงต้องแล้วแต่ดวงละนะ เฮ่อออ'* หญิงสาวคิดในใจก่อนจะเดินออกจากห้องไป "อ้าวยัยแตลงมาแล้วเหรอ ชลล่ะ" แม่เลี้ยงกานดาเอ่ยถามบุตรสาวที่เดินเข้ามานั่งที่โต๊ะอาหาร แต่ไร้แววบุตรเขย "นอนอยู่มั่งค่ะ สงสัยรอเข้าห้องน้ำจนเผลอหลับไป" กรรณณาราเอ่ยบอกอย่างไม่ใส่ใจก่อนจะตักข้าวต้มกุ้งเข้าปากและเคี้ยวมันอย่างเอร็ดอร่อย พ่อเลี้ยงกรณ์และภรรยามองลูกสาวคนสวยที่ไม่ยอมโตสัก "แล้วนี่เตรียมตัวพร้อมรึยังลูก" พ่อเลี้ยงไร้ส้มเอ่ยถามบุตรสาว "ก็ชลจะกลับเชียงใหม่วันนี้ ลูกก็ต้องไปด้วย" เจ้าชองไร่ส้มเอ่ยอธิบายเมื่อลูกสาวทำหน้างง "ไม่ไปค่ะ แตจะอยู่กับพ่อกับแม่ ให้แตอยู่นี่นะค่ะ" หญิงสาวเอ่ยอย่างออดอ้อนก่อนจะลุกขึ้นไปกอดบิดาอย่างออดอ้อน "แต่งงานแล้วก็ต้องอยู่กับสามีจะอยู่กับพ่อแม่ได้ยังไง ฟังนะกระแตหนูโตแล้วและก็มีสามีแล้วต่อไปคนที่จะเป็นที่พึ่งพิงให้หนูคือชลไม่ใช่พ่อแม่อีกแล้ว อย่าดื้อกับพี่เขามากนัก" แม่เลี้ยงกานดาเอ่ยบอกพร้อมใช้มือเรียวที่มีร่องรอยเหี่ยวย้นตามวัยลูบไล้ไปตามผมยาวสลวยของลูกก่อนจะเอ่ยต่อไป "แม่อยากให้แตแต่งงานแค่ครั้งเดียวมีสามีแค่คนเดียว แม่อยากให้แตประคับประคองชีวิตคู่ไปให้ตลอดลอดฝั่ง " กรรณณาราฟังมารดาพูดอย่างไม่โต้แย้งแต่ในใจนึกหวั่น เธอกับชนะชลจะประคับประคองชีวิตคู่ไปได้ยังไงในเมื่อพูดกันยังจะเถียงกันเลย "อรุณสวัสดิ์ครับพี่กรณ์ พี่กานต์" เสียงพ่อเลี้ยงชนะชลทำให้สามคนพ่อแม่ลูกผละออกจากกัน พ่อเลี้ยงหนุ่มไม่พูดอะไรแค่มองก่อนจะนั่งลงข้างๆกรรณณาราเขาลงมาตั้งแต่ที่แม่เลี้ยงกานดาเอ่ยกับหญิงสาวแล้วแต่ไม่อยากขัดจังหวะครอบครัว "ทานข้าวต้มก่อนสิชล แล้วนี่จะกลับไร่ตอนไหนล่ะ ให้ยัยแตเตรียมตัวอีกสักวันดีมั้ย" พ่อเลี้ยงกรณ์เอ่ยถามลูกเขยหมาดๆ พ่อเลี้ยงยังหนุ่มิ้มขอบคุณแม่บ้านที่ยกชามข้าวต้มมาให้ก่อนจะเอ่ยตอบ "ทานข้าวเสร็จก็จะกลับเลยครับ ส่วนกระแตไปแต่ตัวก็ได้ครับแล้วค่อยให้ส่งข้าวของไปทีหลังเรื่องเสื้อผ้าผมว่าคงต้องเปลี่ยน แต่งตัวอย่างกับเด็กม.ปลายแบบนี้ล่อตาล่อใจพวกคนงานกลัดมันเสียเปล่าๆ " " นี่อาชล เค้าไม่ใช่เด็กแล้วนะแล้วแต่งตัวแบบเนี้ยก็สมวัยด้วยอย่าทำตัวเป็นคนแก่หัวโบราณนัก เหมือนเด็กม.ปลายตรงไหนชิส์ " กรรณณาราเอ่ยอย่างหมั่นไส้คนแก่หัวโบราณเธอไม่ได้แต่งตัวเหมือนเด็กซะหน่อยแค่หน้าเด็กเท่านั้น คนถูกหาว่าแก่ถึงกับสะอึก ให้ตายเถอะไม่เคยถูกหาว่าแก่เลยสักครั้งสาวๆที่มาชอบเขายังคิดว่าเขาเพิ่ง27 —28เลย ยัยกระแตป่านี่ยังไงชอบหาว่าแก่อยู่เรื่อย เจ็บจี๊ดที่หัวใจเลยแฮะ "กรรณณาราพ่อแม่สอนแล้วไม่จำรึไงถึงได้ไม่รู้จักเด็กรู้จักผู้ใหญ่แบบนี้ระวังจะถูกดัดนิสัย แบบไอ้ชัชยังน้อยไปอย่างเธออาว่าต้องโดนหนักกว่านั้น" พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยบอกเขาเลือกใช้สั่งสอนแล้วไม่จำเพราะทราบดีว่าพ่อแม่ของหญิงสาวสั่งสอนเสมอแต่เธอไม่ค่อยจะฟังเสียมากกว่าก่อนที่จะขู่ขวัญหญิงสาวด้วยบทลงโทษที่หนักกว่าที่ชัชรินทร์เคยเจอ ด้านคนฟังถึงกับฉุนกึกเจ็บจี๊ดที่ถูกว่าถูกสั่งสอนแล้วไม่จำแต่ก็เกรงกลัวบทลงโทษที่ว่าอยู่บ้างเพราะเพื่อนทรยศมักจะมาเล่าให้ฟังบ่อยๆ "ชิส์กลัวตายแหละ" กรรณณาราแกล้งเอ่ยทั้งที่ใจหวาดหวั่น "เอาเถอะๆ ตกลงว่าของอื่นๆแม่จะให้คนส่งไปให้แล้วกัน กลับพร้อมพี่เขาก่อน พี่เขามีงานต้องทำอย่าเรื่องมากนะยัยแต" แม่เลี้ยงกานดาเอ่ยบอกห้ามศึกที่ใกล้จะเกิดขึ้น ทำไมถึงได้ทะเลาะกันนักนะสองคนนี้แต่ก็ดีโบราณว่าทะเลาะกันมากๆจะมีลูกดก " พี่ฝากยัยแตด้วยนะ มาคราวหน้าพาหลานมาฝากพี่สักคนจะดีมาก" พ่อเลี้ยงเจ้าของไร่ส้มเอ่ยบอกเมื่อเดินออกมาส่งลูกสาวและลูกเขยที่รถ แม่เลี้ยงกานดาและกรรณณาราเดินนำไปถึงรถแล้วส่วนตนเดินคุยกับพ่อเลี้ยงชนะชลในเชิงฝากฝังแถมประโยคหลังนั้นเขาหวังอย่างนั้นจริงๆ "กระแตยังเด็กเกินไปพี่กรณ์ " พ่อเลี้ยงยังหนุ่มเอ่ยบอก การแต่งงานหรือการเป็นแม่ยังเร็วไปสำหรับเด็กสาวที่อายุเพิ่งจะ20ไม่ถึงสามเดือน "ยัยแตมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ที่เราคาดไม่ถึง และผู้หญิงทุกคนมีสัญชาติญาณในการเป็นแม่ไม่ว่าอายุเท่าไหร่ก็ตาม ปีนี้38แล้วนะชลระวังนะรอให้เด็กโตตัวเองจะตายก่อนเห็นหน้าหลาน" พ่อเลี้ยงกรณ์เอ่ยบอกก่อนพ่อเลี้ยงชนะชลจะยิ้มขำออกมาก่อนทั้งสองจะเดินไปที่รถ "อาชลแวะซื้อกาแฟเย็นก่อนได้มั้ย" กรรณณาราเอ่ยขอเมื่อทั้งสองเดินทางมาใกล้ร้านกาแฟร้านโปรดของหญิงสาว พ่อเลี้ยงหนุ่มได้แต่ส่ายหน้าก่อนจะจอดในจุดจอดรถ "ลงไปดื่มด้วยกันป่ะ" หญิงสาววัยใสเอ่ยชวนและเขาก็ไม่ปฏิเสธคำชวนไม่ เขากับเธอก็แบบนี้แหละบางครั้งก็ทะเลาะกันแต่บางครั้งก็ยังมีน้ำใจให้กัน "อ้าวพ่อเลี้ยงพาลูกสาวมาทานขนมเหรอครับ" เสียงสินชัยสามีเจ้าของร้านเอ่ยทักเพื่อนอย่างหยอกเย้า แต่กลับทำให้คุณถูกว่าพาลูกสาวมากินขนมถึงกับจุกนี่เขาดูแก่ขนาดนั้นเลยเหรอ "อยากโดนตีนผมมั้ย ไอ้คุณสิน คาปูชิโน่แก้ว เธอจะเอาอะไรกระแต" พ่อเลี้ยงยังหนุ่มเอ่ยก่อนจะหันมาถามภรรยาสาวทางนิตินัย "เอาเค้กส้มกับเอสเปรสโซ่ค่ะคุณพ่อออออ" กรรณณาราเอ่ยบอกก่อนจะเดินไปนั่งที่โต๊ะที่ยังว่างอยู่ " พ่อเหรอยัยกระแตป่า เดี๋ยวจะได้พ่อแน่แต่เป็นพ่อของลูก ฮึย" พ่อเลี้ยงชนะชลเอ่ยก่อนจะเดินตามไปทิ้งให้สินชัยยืนหัวเราะกับอาการหัวฟัดหัวเหวี่ยงของเพื่อน " อุ๊ยตาย พ่อเลี้ยงชลพาลูกมาทานกาแฟหรือค่ะ ไม่ยักรู้มาก่อนว่าพ่อเลี้ยงชลมีลูกสาวแล้ว สวยจริงๆม.ไหนแล้วลูก" เสียงดัดให้เล็กและหวานดังขึ้นพร้อมกับร่างของพิชชี่พี่เลี้ยงนางงามหนุ่มหัวใจสาวเอ่ยทักพ่อเลี้ยงคนดังของเชียงใหม่ที่เด็กๆในสังกัดของเธอมักเอาตัวเข้าไปใกล้เพื่อสานสัมพันธ์แต่ก็ไม่เคยมีคนไหนได้เป็นตัวจริงแถมอายุต่ำกว่า30ยิ่งไม่ต้องหวังเมื่อชายหนุ่มบอกชัดเจนว่าไม่ควงเด็ก ด้านกรรณณาราที่ถูกหาว่าเป็นเด็กมัธยมถึงกับทำหน้าหงอ เธอพอจะรู้จักพิชชี่อยู่บ้างและทราบดีว่าหนุ่มหัวใจสาวคนนี้คอยเสนอเด็กๆให้คนข้างๆจากการบอกเล่าของชัชรินทร์ "ไม่ใช่ลูกค่ะ แต่เป็นเมียแล้วฉันก็20แล้วไม่ใช่เด็กม.ปลาย แล้วต่อไปไม่ต้องเอาเด็กๆมาเสนอพ่อเลี้ยงแล้วนะค่ะไม่งั้นหน้าเละส่งเข้าประกวดไม่ได้นะ ชัดนะลุง" กรรณณาราเอ่ยกระแทกเสียงก่อนจะทิ้งท้ายด้วยถ้อยคำแสนเจ็บแสบ "เมีย นี่พ่อเลี้ยงไปมีเมียตั้งแต่เมื่อไหร่ค่ะเนี้ยไหนบอกไม่ชอบเด็กไงแล้งไง๊ล่อเด็ก20ได้ละค่ะ" พิชชี่เอ่ยโวยวาย ไอ้เรานำเสนอเด็กเออะๆให้ไม่สนปากบอกไม่กินเด็กแล้วทำไมมาทำตัวเป็นโคแก่เคี้ยวหญ้าอ่อนซะงั้น "เมื่อวานนี้ครับ ผมขอตัวก่อนแล้วกัน ไปกินบนรถกระแต" พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยบอกก่อนจะลากภรรยาสาวที่ทำหน้าบึ้งตึงด้วยความโมโหที่ถูกเรียกเป็นเด็กไปเอาของที่ส่ง พ่อเลี้ยงหนุ่มจ่ายเงินก่อนจะลากหญิงสาวออกไปจากร้าน " ยัยกระเทยแม่เล้าเอ๋ย ถามมาได้ไงว่าม.ไหน " สาวหน้าหงอเอ่ยเมื่อขึ้นมานั่งบนรถ พ่อเลี้ยงชนะชลได้แต่ยิ้มขำ " เพราะอย่างนี้ไงอาถึงบอกว่าต้องเปลี่ยนการแต่งตัวใหม่ เราอาจจะคิดว่าสมวัยแต่หน้าเรามันทำให้ดูเหมือนเด็กม.ปลาย หรือเผลอๆคนอาจมองเป็นเด็กม.ต้นด้วยยิ่งเตี้ยๆอยู่ด้วย" พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยบอกในเชิงซ้ำเติม " ยังมาซ้ำเติมกันอีก ก่อนถึงไร่แวะห้างด้วย" หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนจะหันมาจัดการเค้กส้มตรงหน้าอย่างโมโห พ่อเลี้ยงยังหนุ่มหันมองอย่างเอ็นดูก่อนจะสตาร์ตเครื่องรถเพื่อเดินทางต่อ " เด็กไป ไปลองใหม่" เสียงพ่อเลี้ยงชนะชลดังขึ้นหลังจากกรรณาราออกมาจากห้องลองชุดในห้างสรรพสินค้าดัง กรรณณาราหยุดยืนเท้าสะเอวอย่างสุดทน นี่เป็นรอบที่9แล้วที่ชายหนุ่มเอ่ยแบบนี้ เด็กไป ไม่ผ่าน แก่เกิน เด็ก เด็ก และเด็ก เธอล่ะอยากจะบีบคอคนเรื่องมากแต่ยังพอรู้กาลเทศะ กรรณณาราเดินกลับเข้าไปในห้องลองชุดด้วยใบหน้าหงิกงอก่อนจะออกมาในชุดเดรสคุมเข่าสีฟ้าทำให้ดูเหมือนสาววัย25-26อยู่มาก "โอเคผ่าน เอาชุดประมาณนี้อีกสัก4ชุดแล้วก็ชุดที่ลอง5ชุดแรกด้วยนะครับคุณรัมภา" พ่อเลี้ยงหนุ่มเอ่ยบอกพนักงานขายที่รู้จักกัน " นี่ค่ะพ่อเลี้ยง ไม่รู้มาก่อนเลยนะค่ะว่าพ่อเลี้ยงมีลูกสาวโตขนาดนี้แล้ว จบม.ต้นรึยังจ๊ะเนี่ย" รัมภาพรรณ เอ่ยขึ้นหลังจากจัดการชุดต่างๆให้พ่อเลี้ยงหนุ่มเสร็จ ด้านกรรณณาราได้แต่ฉุน ลูกสาวอีกแล้ว ทำไมใครๆชอบพูดแบบนี้จริง "ขอโทษค่ะภรรยาไม่ใช่ลูก และก็ไม่ใช่เด็กด้วย20แล้ว อย่าทึกทักไปเองสิป้า" หญิงสาวเอ่ยบอกก่อนจะเดินออกไปจากร้านอย่างหงุดหงิดไม่ผิดกับคนจ่ายเงินที่เริ่มจะสูญเสียความมั่นใจในตัวเองตลอดทั้งวันมีคนเข้าใจว่าเขากับเธอเป็นพ่อลูกกันหลายคนแล้ว นี่แค่วันแรกนะชักอยากจะย้อนเวลากลับไปเมื่อคืนก่อนแล้วเปลี่ยนใจนอนเฝ้าไอ้หลานไม่รู้จักโตไว้ไม่ให้มันหนีไปเขาจะได้ไม่ต้องเป็นแบบนี้ พ่อเลี้ยงยังหนุ่มคิดในใจก่อนจะเดินตามไปไม่สนใจพนักงานสาวที่ยังอึ้งกับคำพูดของหญิงสาว เมียเด็กพ่อเลี้ยงเนี้ยปากร้ายจริง ถ้าพวกสาวๆรู้หล่อนแย่แน่ยัยหนูเอ๋ย พนักงานสาวได้แต่บ่นพึมพำก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาและโพสต์รูปหญิงสาวที่ทีแรกกะจะโพสต์ถึงลูกสาวพ่อเลี้ยงคนดังแต่คราวนี้กลับเป็นภรรยาเด็กรับรองว่าเรื่องถึงหูสาวๆที่ติดพันพ่อเลี้ยงคนดังเมื่อไหร่คนที่เรียกเธอว่าป้าซวยแน่ๆก็แต่ละคนแรงๆทั้งนั้นเด็กหัดเดินหรือจะสู้คนที่ผ่านโลกมามากอย่างสาวๆพวกนั้น" โดนดีแน่ยัยเด็กปากมอม 555"
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD