“ไหวค่ะ พอดีรองเท้าสูงไปหน่อย” ฉันเอียงตัวซบที่ไหลของเขาปล่อยให้เขาโอบประคองฉันไว้แบบนั้น
“ขอตัวก่อนนะครับ” เขายิ้มให้เพื่อนฉันเล็กน้อยแล้วโอบประคองฉันออกมาจากคลับ ฉันนั่งบนรถหรูคันโตสีดำคันหนึ่งที่มองไม่ถนัดตานักว่าเป็นรถรุ่นไหน แบรนด์อะไรแต่ภายในนับว่าหรูหราสะดวกสบายมากจริงๆ
“เราจะไปที่ไหนกันเหรอคะ” ฉันเอียงตัวมองหน้าเขาแล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงอ่อนหวาน นี่นับเป็นครั้งแรกที่ฉันทอดสะพานให้ผู้ชายแบบนี้ แต่ฉันตั้งใจแล้ว ครั้งแรกของฉัน ถ้าเกิดขึ้นกับหนุ่มหล่อคนนี้ฉันไม่ขาดทุนแน่ เขาหล่อตรงสเปกของฉันทุกอย่าง และฉันก็ไม่ได้จะจับเขา แค่อยากให้เขาเป็นครูสอนเรื่องบนเตียงเท่านั้น ฉันอยากรู้ว่าเรื่องพวกนี้เป็นยังไง ทำไมพวกผู้ชายถึงอยากจะทำมันนัก
“ผมพักโรงแรมใกล้ๆนี้ เราไปดื่มต่อที่นั่นได้หรือเปล่า ห้องผมอยู่ชั้นบนสุด วิวสวยมาก คุณเห็นแล้วต้องชอบแน่” เขาหันมายิ้มให้ฉันเล็กน้อย แล้วกุมมือของฉันขึ้นพร้อมกับจูบที่หลังมือเบาๆแล้วก็กุมมือฉันไว้แบบนั้น นี่เขาเองก็กำลังอ่อยฉันเหมือนกันสินะ
“คงต้องพิสูจน์ ว่าวิวที่ห้องคุณจะสวยอย่างที่คุณพูดหรือเปล่า” ฉันยิ้มเล็กน้อยอย่างเชิญชวนเมื่อเขาหันมาสบตาฉันอีกครั้ง
โรงแรมหรูใจกลางเมือง
เขาพาฉันขึ้นมาชั้นสูงสุดของโรงแรมอย่างที่เขาพูดไว้ ห้องชุดสุดหรูห้องนี้คงเป็นห้องที่ดีที่สุดของโรงแรม ทันทีที่ฉันก้าวเท้าเข้ามาก็พบกับความหรูหราอลังการของห้องที่แบ่งโซนแยกสัดส่วนเหมือนกับห้องพักในคอนโดหรูห้องหนึ่งไม่มีผิด เขาโอบประคองฉันเดินผ่านโซนรับแขกที่มีชุดโซฟาขนาดใหญ่พร้อมกับทีวีเครื่องโตที่ปิดเอาไว้ มายังระเบียงขนาดใหญ่ที่มีชุดโซฟาให้นั่งพักผ่อนชมวิว และที่แห่งนี้ยังมีสระว่ายน้ำขนาดย่อมอีกด้วย ภายนอกระเบียงแห่งนี้ประดับตกแต่งด้วยต้นไม้ประดับทรงพุ่มเตี้ยขนาดเล็กตามจุดต่างๆ ให้ความร่มรื่นและมีแสงไฟให้ความสว่างเพียงเล็กน้อย เมื่อมองออกไปก็จะพบกับวิวเมืองหลวงยามค่ำคืนให้บรรยากาศสุดแสนโรแมนติก
“สวยอย่างที่ผมพูดใช่ไหมครับ” เขาเข้ามายืนซ้อนทางด้านหลังของฉัน แล้วกระซิบถามเสียงแผ่วหวาน ทำเอาฉันใจสั่นไปหมด
“สวยค่ะ สวยมาก” ฉันเขินเกินกว่าจะหันไปตอบคำถามนั้น จึงแกล้งทำเป็นชมวิวเมืองยามค่ำคืนแทน
“คุณนั่งรอผมตรงนี้ก่อนนะ ผมขอตัวไปเตรียมเครื่องดื่มสักครู่” เขาพาฉันมานั่งยังโซฟาขนาดใหญ่ริมสระว่ายน้ำ จากนั้นก็เดินเข้าไปด้านใน ฉันมองตามเขาไปก็พบว่าเขาหยิบแก้วไวน์สองใบ หยิบผลไม้ออกมาจากตู้เย็นล้างพวกมันแล้วจัดใส่จานอย่างคล่องแคล่ว จากนั้นก็หยิบถังสเตนเลสออกมา แล้วเดินหายไปในห้องๆหนึ่งไม่นานก็พบว่าเขาถือขวดไวน์เดินออกมาแล้ววางขวดนั้นลงในถัง จากนั้นก็เดินไปเปิดตู้เย็นเอาน้ำแข็งใส่ในถังใบนั้น ทุกการเคลื่อนไหวของเขาช่างมีเสน่ห์ดึงดูดใจ ทำฉันเผลอยิ้มมองทุกการเคลื่อนไหวของเขาโดยไม่รู้ตัว
“คุณต้องการอะไรเพิ่มอีกหรือเปล่า” เสียงทุ้มนุ่มพร้อมกับใบหน้าหล่อเหลาเรียกสติของฉัน ฉันจึงได้รู้ว่าตัวเองเผลอเดินมาหาเขาโดยที่ไม่รู้ตัว แรงดึงดูดของผู้ชายคนนี้จะมีมากเกินไปแล้ว
“มีอะไรให้ช่วยหรือเปล่าคะ” เมื่อเรียกสติของตัวเองกลับมาได้อีกครั้ง ฉันไม่ยอมตอบคำถามของเขา แต่กลับเท้าแขนเข้ากับโต๊ะด้วยท่วงท่าที่คิดว่าเซ็กซี่ที่สุดแล้วตั้งคำถามกับเขาแทน
“ถือจานผลไม้ได้หรือเปล่าครับ” เขายิ้มให้ฉันเล็กน้อยพร้อมกับดันจานผลไม้มาตรงหน้าฉัน
“ได้ค่ะ” ฉันหยิบจานผลไม้และหยิบแก้วไวน์สองใบที่เขาวางไว้แล้วเดินมารอที่เดิม
“ผมเอาน้ำเปล่ามาด้วยเผื่อว่าคุณอยากจะดื่ม” เขาวางขวดน้ำเปล่าและถังน้ำแข็งที่มีขวดไวน์นอนอยู่
“ขอบคุณค่ะ” ฉันยิ้มให้เขาแล้วมองวิวตรงหน้าอย่างให้ความสนใจ
“สำหรับคุณครับ” เขานั่งลงข้างๆฉัน แล้วรินไวน์ของเราทั้งคู่ จากนั้นก็ยื่นแก้วไวน์ใบหนึ่งให้ฉัน
“ขอบคุณค่ะ” เราชนแก้วกันเบาๆ แล้วชิมรสชาติของไวน์ขวดนั้น ฉันยิ้มให้เขาเมื่อรู้สึกพึงพอใจกับรสและกลิ่นหอมของไวน์ขวดนี้
“คุณชอบผมก็ดีใจ” ฉันยิ้มให้เขาแล้วทำใจกล้าขยับเข้าอิงแอบแนบชิดเขาอย่างจงใจ เขาเองก็โอบแขนลงบนไหล่ของฉันพร้อมกับลูบไล้อย่างแผ่วเบา
“คุณพักที่นี่นานหรือยังคะ” ฉันหาเรื่องคุย อยากซึมซับบรรยากาศในตอนนี้ก่อน
“เพิ่งเข้าพักวันนี้ครับ ผมเพิ่งกลับจากอเมริกาเมื่อเช้า เลยอยากผ่อนคลายหน่อย เพื่อนชวนผมไปที่คลับ แล้วผมก็พบคุณ” เขากระซิบเสียงเบาที่ข้างหูฉันในท้ายประโยค ฉันรู้สึกขนลุกเมื่อได้ยินเสียงแหบพร่าเย้ายวนของเขา
“เหรอคะ” ฉันประหม่าจากการรุกเพียงเล็กน้อยของเขา ถึงฉันจะอยากเรียนรู้บทเรียนรักบนเตียงที่ลึกซึ้งขนาดไหน แต่ฉันก็ยังใจไม่กล้าพอที่จะรุกเขามากกว่าการอิงแอบแนบชิดกันแบบนี้
“คุณชื่ออะไรครับ” นั่นสินะเราคุยกันมาสักพักแล้วแต่ยังไม่ได้แนะนำตัวกันเลยนี่
“พิชชาค่ะ” ฉันเอียงตัวออกห่างจากเขาเล็กน้อยพร้อมกับยื่นมือไปทักทายเขา เขาจับมือของฉันขึ้นมาจุมพิตที่หลังมือพร้อมกับส่งสายตาหวานเยิ้มมาให้ฉัน หวานซะจนฉันเขินทำตัวไม่ถูกเลยทีเดียว
“วิวครับ”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะคะคุณวิว” ฉันเอนตัวเข้าซบเขาอีกครั้งพร้อมกับมองออกไปด้านหน้าด้วยหัวใจเต้นรัว
“ยินดีมากครับ ต่อจากนี้ เราจะทำความรู้จักกันมากกว่านี้ได้หรือเปล่า” เขากำลังรุกฉันจริงจังแล้วสินะ
‘ตั้งสติเข้าไว้ยัยพิชชา ฝากตัวเป็นลูกศิษย์เขาซะตอนนี้เลย’
“ขอดื่มอีกแก้วได้หรือเปล่าคะ” ฉันยกแก้วไวน์ขึ้นดื่มย้อมใจจนหมดแก้ว
“ได้สิครับ ถ้าคุณชอบ ผมรอจนคุณดื่มหมดทั้งขวดก็ยังได้เลยนะ” เขายิ้มล้อเลียนฉันแล้วรินไวน์บริการฉันอีกแก้ว
“หมดขวดไม่น่าจะไหวค่ะ” ฉันยกไวน์ขึ้นจิบเล็กน้อย แล้ววางแก้วไวน์ลง ในสมองก็คิดหาเรื่องคุยกับเขา พร้อมกับควบคุมหัวใจของตัวเองไม่ให้เต้นรัวมากไปกว่านี้
“ที่ว่าไม่ไหวนี่หมายถึงผมหรือเปล่า”
“เปล่านะคะ ฉันหมายถึงตัวเอง”
“อึดอัดเหรอครับ” เขาขยับตัวออกห่างเล็กน้อยเมื่อเห็นว่าฉันหายใจเข้าออกแรงๆหลายครั้ง
“ไม่ใช่ค่ะ วันนี้ดื่มมากไป รู้สึกมึนหัวนิดหน่อย เลยหายใจเข้าออกปรับออกซิเจนในร่างกายสักหน่อยค่ะ” ฉันขยับตัวมาเผชิญหน้ากับเขาตรงๆพร้อมกับจ้องมองใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาแล้วยิ้มให้ แต่ก็ทำได้ไม่นาน ต้องยอมเป็นฝ่ายหลบสายตาร้อนแรงคู่นั้นที่มองมาเหมือนกับว่าต้องการหลอมละอายฉัน
“คุณพิชชารู้หรือเปล่าว่าคุณมีมุมที่ทั้งสวย น่ารัก และยังมีดวงตาที่เซ็กซี่มากนะครับ” เขาเอียงตัวเข้าหาฉันพร้อมกับจับปอยผมของฉันทัดเก็บไว้ที่ใบหู จากนั้นเขาก็บรรจงจับปลายคางของฉันให้หันมามองที่เขา
“ทราบค่ะ” ฉันจ้องมองดวงตาของเขาและตอบเสียงแผ่วเบาคล้ายกับต้องมนต์
“ผมไม่รู้ว่าคุณมีใครหรือยัง” เขาจ้องมองดวงตาของฉันเหมือนว่ากำลังค้นหาคำตอบ แต่เขาต้องการคำตอบเรื่องอะไรล่ะ
“ใคร อย่างนั้นเหรอคะ คุณหมายถึง”
“คุณมีใครหรือเปล่า ผมหมายถึง คุณมีแฟนหรือยังครับ” แล้วเขาก็จ้องมองฉันด้วยสีหน้าที่จริงจังขึ้น