ไม่ได้ลืม

1384 Words
ซัน… “ถ้าจะเอาเรื่องสมัยเด็กมาอ้าง หนูก็เคยบอกไปแล้วนี่คะว่าจำไม่ได้ แล้วตอนนี้ก็ไม่ได้รู้สึกสนิทสนมด้วยแล้ว” "เฮ้อ! ทำไมถึงเปลี่ยนไปได้มากขนาดนี้นะ" ผมพึมพำกับตัวเองเมื่อนึกถึงประโยคที่ใครบางคนนั้นพูดออกมา “หรือเราต้องยอมรับความจริงแล้วว่าคุณหนูในตอนนี้กับคุณหนูในตอนนั้นไม่เหมือนกัน เวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน คงเป็นเหมือนที่คุณพายัพบอกไว้” “เฮ้อ!” ผมถอนหายใจออกมาเป็นรอบที่ร้อยเมื่อนึกถึงใบหน้าของเจ้านายตัวน้อยในเมื่อก่อน “ถ้าวันนั้นเราไม่หายไป วันนี้จะยังคุยกันดี ๆ ไหมนะ” “…ถ้าวันนั้นเราอดทนฟังเสียงร้องไห้หลังวางสายของคุณหนู แล้ววันนี้ทุกอย่างจะยังเหมือนเดิมไหม” แล้วคุณหนูในตอนนั้นเริ่มลืมเราตั้งแต่เมื่อไหร่… ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูที่ดังขึ้นทำให้ผมสะบัดความคิดเมื่อครู่ออก “เข้ามา” ผมบอกคนด้านนอกก่อนจะละสายตาจากทีวีตรงหน้า “คุณซันช่วยพาคุณหนูกลับห้องหน่อยครับ ตอนนี้เมาอยู่ในห้องพักรับรองที่เพื่อน ๆ พักอยู่” ประโยครายงานของลูกน้องคนสนิททำให้ผมถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่ ทั้งที่พาไปส่งที่ห้องแล้วแท้ ๆ แต่ยังแอบไปดื่มอีกจนได้ “ให้นอนกับเพื่อนก็ได้ คงไม่เป็นไรหรอก” “แต่เพื่อนคุณหนูบอกว่าให้คุณหนูไปนอนที่อื่นครับ เหมือนคุณหนูจะโวยวายจนเพื่อนไม่ได้นอนเลย” ผมไม่ได้ตอบอะไรกลับไปแต่ลุกออกจากโซฟาอย่างเงียบ ๆ เพื่อไปหาใครบางคน “อื้อ ~ คนใจร้าย ~” เสียงอู้อี้ของคนที่ฟุบหน้าลงบนโต๊ะกระจกหน้าโซฟาดังขึ้นขณะที่ผมเปิดประตูเข้าไปในห้องพักรับรอง “บุ้งกี๋ แกว่ายัยเจ้าโดนเทมาป่าววะ ทำไมพูดแต่เรื่องโดนผู้ชายทิ้งตลอดเลยอะ ตั้งแต่เริ่มเมาก็เพ้อไม่หยุดเลยนะ” เสียงเพื่อนผู้หญิงสองคนที่นั่งอยู่ข้างคุณหนูพูดขึ้น “ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน ถึงจะคบกันมาตั้งแต่เด็กแต่เรื่องส่วนตัวยัยเจ้าก็ยังไม่เคยเล่าให้ใครฟังนะ” ผู้หญิงที่เพื่อนเพิ่งเรียกเธอว่าบุ้งกี๋หันไปตอบ “นั่นไง พี่ซันมาแล้ว” เพื่อนของคุณหนูที่คุยกันอยู่พูดขึ้นเมื่อเห็นผมเดินเข้าไปในห้อง “พี่ช่วยพายัยเจ้าไปพักได้ไหมคะ พวกหนูง่วงแล้วแต่ยัยเจ้าชวนคุยชวนดื่มไม่หยุดเลย” เธอคนนั้นพูดต่อ “ครับ” ผมพยักหน้าตอบรับขณะเดินเข้าไปหาคนที่นั่งอยู่หน้าโซฟาท่ามกลางขวดเครื่องดื่มมากมาย “จาไปหาซัน ~” คนเมาพูดขึ้นพลางชูไม้ชูมือไปมาบนอากาศ “ก็นี่ไง พี่ซันเขามารับแกไปนอนแล้วเนี่ย” เพื่อนอีกคนหันไปคุยกับคนไม่ได้สติ “จาไปหาที่ร้ากก ~ ที่ร้ากกอุ้มหน่อย~” “แล้วที่รักแกอยู่ไหน ตกลงแกจะไปหาใครกันแน่ยัยเจ้า ไปหาพี่ซันหรือไปหาที่รัก?” สองสาวเริ่มซักไซร้เพื่อน สรรพนามคุ้นหูเมื่อสิบกว่าปีที่แล้ววันนี้ผมได้ยินมันอีกครั้ง ราวกับว่าคนที่เมาอยู่นั้นไม่เคยลืมเรื่องราวที่ผ่านมาเลยเพ้อออกมาแบบนั้น “ตกลงแกจะเอายังไงยัยเจ้า ที่รักแกอยูไหนแล้วเขาเป็นใคร” เพื่อนของคุณหนูซักไซร้ไม่หยุด “อยู่นี่ ~ คิก ๆ” เสียงหัวเราะคิกคักของเด็กสาวหัดเมาทำเอาเพื่อนทั้งสองถึงกับกุมขมับเมื่อนิ้วชี้เรียวยาวจิ้มเข้ากลางหน้าอกผมแรง ๆ ขณะที่ผมย่อตัวลงตรงหน้าเธอ “ตกลงไม่ได้ลืม แต่ยังโกรธอยู่ใช่ไหมครับ” ผมถามคนตรงหน้าก่อนจะช้อนร่างเล็กขึ้นในท่าเจ้าสาว “ที่ร้ากก ~ อุ้ม ๆ” เสียงยานของคนเมาเรียกผมพลางชูแขนเรียวขึ้นมาโอบเกี่ยวรอบคอผมเอาไว้แน่น “งั้นผมพาคุณหนูไปพักก่อนนะครับ ถ้ามีอะไรขาดเหลือบอกแม่บ้านได้เลยนะครับ” ผมละสายตาจากคนในอ้อมแขนก่อนจะหันไปบอกเพื่อนสาวทั้งสองของคุณหนูแล้วรีบเดินออกจากห้องมา “คนใจร้ายย~ ทำไมไม่กลับมากอดก่อน กลับมากอดจันทร์เจ้าก่อน~” เสียงอู้อี้ของคนในอ้อมแขนดังขึ้นตลอดทางที่ผมอุ้มกลับห้อง ภาพเมื่อครั้งก่อนตอนคุณหนูยังเด็กกลับมาวนเวียนอีกครั้งจนอดรู้สึกผิดไม่ได้ “กลับมากอดจันทร์เจ้าก่อน~ ฮือ ๆ” “คุณหนู… คุณหนูครับ” ผมเขย่าแขนคนที่เงียบไปเบา ๆ เมื่อพามานอนบนโซฟาในห้องพักของผม เหตุการณ์ก่อนหน้าที่โดนขู่ว่าจะเข้าไปทำมิดีมิร้ายเจ้าตัวในห้องทำให้ผมไม่อยากเดินผ่านกล้องในห้องคุณหนูอีก “เจ้าเล่ห์แบบนั้นไม่น่ารักเลยนะครับ” ผมเกลี่ยเส้นผมออกจากรอบหน้าแดงก่ำเบา ๆ เมื่อคนที่เมาไม่ได้สตินั้นเงียบไป “คิดถึง~” เสียงพึมพำเบา ๆ ดังเล็ดลอดออกมาจากเรียวปากสีชมพูอ่อน ขณะที่ดวงตากลมโตนั้นค่อย ๆ ปรือขึ้นมา “ไหนบอกว่าจะไม่กลับมา~” คนที่พยุงตัวลุกขึ้นนั่งบนโซฟามองผมที่นั่งอยู่กับพื้นตรงหน้าด้วยแววตาสั่นระริก “กลับมาแล้วก็จะกลับไปอีกเหรอ…” น้ำเสียงเบาหวิวค่อย ๆ จางหายไปเมื่อพวงแก้มแดงก่ำนั้นมีหยาดน้ำสีใสไหลอาบจนเปียกชุ่ม “ขอโทษครับ ต่อไปผมจะไม่ไปไหนอีกแล้ว” ผมบอกคนตรงหน้าขณะปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มเนียนก่อนจะลุกขึ้นไปนั่งข้าง ๆ เธอ “โกหก ซันโกหก อึก” มือเล็ก ๆ ผลักผมจนล้มลงนอนข้าง ๆ ก่อนจะปาดน้ำตาตัวเองออกอย่างลวก ๆ แบบไม่หันมามองหน้าผมอีก “ไหนบอกจะไม่กลับมา แล้วตอนนี้กลับมาอีกทำไม จะไปไหนก็ไปเลย!” ตุบ ตุบ ตุบ กำปั้นเล็ก ๆ ของคนที่หันกลับมากระหน่ำลงบนอกผมแรง ๆ ทว่าผมกลับไม่รู้สึกเจ็บ ได้แต่นั่งมองใบหน้าน้อย ๆ นั้นเปียกชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตา “แค่ให้กลับมากอดก็ไม่กลับมา อึก แล้วตอนนี้บอกว่าจะไม่ไปไหนไม่เชื่อหรอก ฮือ ๆ” “ผมขอโทษครับ” ผมรวบมือเล็กเอาไว้ด้วยกันก่อนจะใช้มืออีกข้างเช็ดน้ำตาให้คนตรงหน้า ดวงตาแดงก่ำที่จ้องมองมาทำให้หัวใจผมกระตุกวูบราวกับตกจากที่สูงหลายครั้ง ไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้เห็นใบหน้านี้แล้วหัวใจเต้นผิดจังหวะ มันเกิดขึ้นหลายต่อหลายครั้งนับตั้งแต่ที่เราเจอกันครั้งแรกที่บ้านคุณกันต์ “ส่งของขวัญมาให้เจ้าตลอดแต่ทำไมไม่โทรมาบ้าง อึก ถ้าตอนนั้นไม่อยากคุยเพราะเจ้างอแงแล้วหลังจากนั้นล่ะ อึก ทำไมไม่คุย ฮือ ๆ” “ขอโทษครับ…” “ซันลืมทุกอย่าง อึก ลืมทุกอย่างเลยฮือ ๆ ไปกินไอติมก็ไม่พาไป ฮือ ๆ ลืมทุกอย่างเกี่ยวกับเจ้าหมดเลย สัญญาไม่เป็นสัญญา คนโกหก” คนตรงหน้าหลั่งน้ำตาออกมาไม่ขาดสายก่อนจะค่อย ๆ ล้มตัวลงนอนบนอกผมซึ่งเอนตัวพิงพนักโซฟาด้านข้างข้างเอาไว้ ร่างบางสั่นระริกขณะสะอื้นไห้ราวกับจะขาดใจพลอยให้นึกถึงวันสุดท้ายที่เราเจอกัน “ไว้พรุ่งนี้ไปกินไอติมกันนะครับ ไปร้านที่คุณหนูชอบ” ผมบอกคนในอ้อมกอดขณะลูบผมเธอเบา ๆ เป็นการปลอบเมื่อเห็นว่าคนบนอกนั้นเงียบไปแล้ว “ผมขอโทษ แต่คุณหนูอย่าทำแบบนี้อีก” ผมเอ่ยบอกก่อนจะรั้งคนบนตักมากอดเอาไว้ ใบหน้าน้อย ๆ แนบกับแผงอกขณะที่แขนเรียวทั้งสองข้างกอดผมไว้แน่นราวกับเมื่อครั้งยังเป็นเด็กก่อนจะเงียบไป
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD