พลั้งเผลอ

858 Words
ซัน… “เจ้าจะทำให้ซันหนีไปไหนไม่ได้อีก” คนที่เงียบไปผละออกจากแผงอกของผมพลางมองหน้าผมด้วยสายตาแปลก ๆ “ซันต้องอยู่กับเจ้า ต้องไม่หนีไปไหนอีก” แคว่ก! “คุณหนู!” ผมร้องเสียงหลงเมื่อมือเล็กเรียวกระชากเสื้อเชิ้ตที่ผมสวมอยู่ออกจากกันจนกระดุมช่วงบนกระจัดกระจายไปคนละทิศทาง “คุณหนูจะทำอะไรครับอื้ออ…” หัวใจผมแทบหยุดเต้นเมื่อเรียวปากนุ่มทาบลงมาประกบจูบ ถึงจะเป็นสัมผัสที่เงอะงะแต่กลับทำให้ผมอ่อนแรงจนยากจะปฏิเสธ คงเป็นอย่างที่ใครต่อใครเคยพูดเอาไว้ว่าอย่าให้ไฟอยู่ใกล้น้ำมัน และอย่าให้ผู้หญิงนั้นอยู่ใกล้ชิดกับผู้ชายมากเกินไปโดยเฉพาะคนที่มีความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน… แต่ว่าผมกับคุณหนูน่ะเราไม่ได้มีความรู้สึกเชิงชู้สาวต่อกันสักหน่อย… พรึ่บ! “คุณหนู! ทำไมทำตัวแบบนี้ครับ!” ผมตวาดคนตรงหน้าเมื่อดันคนตัวเล็กกว่าออกก่อนจะจัดแจงสายเดี่ยวสีแดงที่สายตกลงมาตรงต้นแขนเล็กให้เข้าที่เข้าทาง และไม่ลืมดึงชายกระโปรงสีแดงสดที่ร่นขึ้นเหนือเอวคอดลงมาเมื่อแพนตี้ตัวน้อยนั้นโชว็หราอยู่ ทว่าคนที่นั่งคร่อมตักผมอยู่กลับเอาแต่จ้องมองผมไม่รู้สึกเขินอายอะไร หรือเป็นเพราะว่าตอนนี้คุณหนูกำลังเมานะ? “จะเกลียดเจ้าเหรอ…” น้ำเสียงเบาหวิวเอ่ยถามก่อนที่หยาดน้ำสีใสจะไหลลงอาบแก้มเนียนทั้งสองข้างอีกครั้ง “เปล่าครับ ตอนนี้คุณหนูกำลังเมาเลยไม่มีสติ แต่ทีหลังอย่าทำแบบนี้อีกนะครับ” “แล้วขึ้นเสียงใส่ทำไม อึก” คนที่นั่งคร่อมผมอยู่เอ่ยถามก่อนจะยกมือขึ้นปาดน้ำตาออกจากพวงแก้มเนียนไปด้วย หากเป็นช่วงเวลาที่คุณหนูยังมีสติดีอยู่คงไม่ทำตัวแบบนี้ นี่คงเป็นเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่คุณหนูดื่มเข้าไป “ผมขอโทษ แต่คุณหนูอย่าทำแบบนี้อีกมันไม่ดีนะรู้ไหม” ผมเอ่ยบอกก่อนจะรั้งคนบนตักมากอดเอาไว้ ใบหน้าน้อย ๆ แนบกับแผงอกขณะที่แขนเรียวทั้งสองข้างกอดผมไว้แน่นราวกับเมื่อครั้งยังเป็นเด็กก่อนจะเงียบไป ผมได้แต่นอนลูบผมคนบนอกเบา ๆ เป็นการปลอบเมื่อเห็นว่าร่างเล็กยังสั่นระริกอยู่ ผมหวังเพียงว่าหลังจากคืนนี้ไปเราสองคนจะกลับมาเป็นเหมือนเดิม… ตกดึก… “อื้ออ” เสียงอู้อี้ของใครบางคนแว่วเข้ามาในหูขณะที่ผมกำลังนอนอยู่ พอลืมตาขึ้นมาถึงได้รู้ว่าเจ้าของเสียงกำลังจ้องมองผมอยู่ “จำผมได้แล้วเหรอครับ ทำไมถึงได้เข้าใกล้ขนาดนี้” ผมเอ่ยถามเจ้าของใบหน้าสะสวยขณะที่เอื้อมมือไปแตะแก้มเนียนเบา ๆ “ซันเหรอ?” คนตรงหน้าขมวดคิ้วพลางเอียงคอถามราวกับจำไม่ได้ “ครับ” “คิดถึงจังเลย” เสียงหวานเอ่ยบอกพลางคลี่ยิ้มบางออกมา “ผมก็คิดถึงคุณหนู” ผมตอบกลับก่อนจะรั้งคนตรงหน้ามาสวมกอดเอาไว้ ทว่าใบหน้าขาวเนียนกลับโน้มเข้ามาใกล้ก่อนจะทาบจูบลงบนริมฝีปากผม สัมผัสเงอะงะราวกับเด็กน้อยเพิ่งหัดจูบช่วยปลุกเร้าผมได้เป็นอย่างดี อีกทั้งกลิ่นกายหอม ๆ กับกลิ่นแอลกอฮอล์ที่โชยออกมาจากคนตรงหน้าก็ทำให้ผมเคลิ้มตาม “อื้มม” เสียงคลอเบา ๆ ในลำคอของคนบนร่างดังขึ้นขณะที่วงแขนเล็กเรียวสวมกอดรอบคอผมไว้แน่น ช่วงล่างที่แนบชิดกันเริ่มทำให้บางอย่างใต้ร่มผ้าของผมนั้นปวดหนึบ ทว่าสัมผัสที่เกิดขึ้นราวกับเป็นของจริงก็ทำให้ผมสะดุ้งตื่นด้วยความตกใจ “เชี้ยแล้ว…” ผมพึมพำเบา ๆ เมื่อตั้งสติได้ก่อนจะดันใบหน้าขาวเนียนออกห่าง ยังดีที่คนตรงหน้านั้นหลับไหลไม่ได้สติเลยไม่รู้ว่าเมื่อครู่นั้นเกิดอะไรขึ้น “ตกลงคุณหนูเริ่มก่อนหรือเราเริ่มก่อนวะ?” ผมสะบัดหัวไปมาก่อนจะดันร่างเล็กออกจากแผงอกแล้วค่อย ๆ ช้อนตัวคนที่หลับอยู่ขึ้นจากโซฟา “นอนตรงนี้นะครับ” ผมเอ่ยบอกคนบนเตียงขณะดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้ ทว่ายังไม่ทันจะเดินออกไปนอนข้างนอก ใบหน้าขาวเนียนน่ามองกลับสะกดผมให้หยุดอยู่ที่เดิม “นี่คุณหนูนะ เด็กที่มึงดูแลมาตั้งแต่ยังเด็ก” ผมพูดกับตัวเองขณะเอื้อมมือไปเกลี่ยเส้นผมออกจากรอบหน้าเนียน ไม่รู้เพราะอะไรผมถึงได้สั่นไหวแปลก ๆ เมื่ออยู่ใกล้คุณหนู เป็นเพราะผมอยู่คนเดียวมานานเกินไปพอได้มาอยู่ใกล้ผู้หญิงเลยทำให้รู้สึกแบบนั้นหรือเปล่า “หรือเพราะไม่สนิทกันเหมือนเมื่อก่อนตอนนี้ก็เลยยังไม่ชินนะ…”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD