“ทำยังไงไฟแทบจะไหม้บ้านผมอย่างนี้”เสียงเรียบเริ่มจะเข้มขึ้นมา และใบหน้านิ่งนั้นเกิดริ้วสีแดงบางอย่างมีอารมณ์ขึ้นมาบ้างแล้ว
“ก็ลองก่อไฟ แต่พอราดน้ำมันลงไปมันก็เป็นอย่างที่เห็น”
“เธอ...”เขาหมดคำจะด่าเธอ ได้แต่สงบจิตใจของตนเองให้เย็นลง
“ไปนั่งรอในบ้านไปเดี๋ยวผมให้คนเอาอาหารมาให้”
“ค่ะ”เธอหันหลังเดินเข้าไปในบ้านใบหน้าสวยแอบอมยิ้มอยู่อย่างผู้ชนะ
สุดท้ายแล้วแผนที่เขาตั้งใจจะทดสอบความอดทนเธอกลับโดนเธอทดสอบความอดทนกลับซะงั้น เขาต้องไปคิดบัญชีกับไอ้คนที่มันเสนอวิธีนี้ให้เขาสักที โทษฐานที่มันเกือบทำบ้านเขาไหม้
เมื่อทั้งคู่ทานอาหารเช้าที่มีคนเอามาส่งให้เรียบร้อย รามิลเดินเข้าไปในห้อง หยิบตะกร้าผ้าที่ยังไม่ได้ซักของเขามาวางตรงหน้าเธอ
“อะไรคะ”
“เสื้อผ้าไง ซักให้ด้วย”
“แล้วก็ทำความสะอาดบ้านให้เรียบร้อยก่อนผมกลับมาจากทำงานนะ”
“ถ้าฉันบอกว่าฉันทำไม่เป็น คุณก็คงบอกให้ฉันฝึกเหมือนเดิมใช่มั้ย”
“อืม”พูดแค่นั้นรามิลก็เตรียมจะก้าวลงไปจากบ้าน
“เดี๋ยวค่ะ เราทำความรู้จักกันหน่อยมั้ยดีไหมคะ”
“ผมรู้จักคุณแล้ว”
“แต่ฉันไม่รู้จักคุณ”
“ผมบอกไปแล้วว่าชื่อรามิล”
“ชื่อเล่นละ อายุ แล้วทำงานอะไรคะ”
“ราม อายุ35 ทำงานอยู่ที่เกาะรังนก”
“เกาะรังนก ที่นี่ขายรังนกด้วยเหรอคะ”จอมขวัญที่เคยแต่กินรังนก แต่ไม่เคยเห็นแหล่งผลิตเอ่ยถามขึ้น
“อืม”
“อายุ35งั้นฉันต้องเรียกคุณว่าอะไรดี”
“แกกว่าเป็นสิบปี เรียกคุณลุงดีไหม”เขาหันมามองหญิงสาวตาขวาง สงสัยจะไม่อยากให้เรียกว่าลุง
“งั้นเรียกน้าราม พี่ราม แล้วคุณจะให้ฉันเรียกยังไงละ”พูดไปเขาก็เอาแต่ยืนเงียบ กลัวดอกพิกุลมันจะหลุดออกมาจากปากรึไงกัน
“ผัว”
“ซ้อมเรียกไว้ละ”บอกจบเขาก็เดินลงจากบ้านหายไปทันที
“ผัวเหรอ ฮึ ด้ายยย จอมขวัญคนนี้จะจัดให้”
เธอมองไปยังตะกร้าเสื้อผ้า เริ่มต้นจากอันนี้ก่อนแล้วกัน จากนั้นก็ค่อยจัดการกับบ้านหลังนี้เป็นอย่างต่อไป
ในตอนแรกจอมขวัญคิดจะเป็นคนดีเลิกแกล้งทำลายข้าวของของคนหน้านิ่งนั่นแล้ว หากเพียงแต่ในระหว่างที่เธอเดินหาเครื่องซักผ้าพร้อมกับสำรวจตัวบ้านไปในตัวนั้นเธอกลับไปพบเข้ากับห้องห้องหนึ่ง ที่ทำให้เธอต้องกัดฟันและพูดออกมาด้วยความโมโห
“ไหนบอกว่าไม่ได้แกล้งกันไง แล้วนี่มันอะไรแกล้งกันชัดๆ”ใช่ เขาจงใจแกล้งเธอชัดๆ เมื่อตรงหน้าเธอมันคือห้องครัวแบบทันสมัยเต็มรูปแบบ มีอุปกรณ์ไฟฟ้าและอุปกรณ์ทำครัวแบบครบครัน แล้วที่เมื่อเช้าบอกเธอว่าไม่ได้แกล้งคืออะไรกัน เรื่องนี้เธอเอาคืนแน่
คิดได้ดังนั้นเธอจึงก้มลงมองตะกร้าเสื้อผ้าในมือ ตอนแรกพวกแกก็รอดจากการโดนทำร้ายไปแล้ว แต่ต้องโทษเจ้าของพวกแกเอาเองนะ ช่วยไม่ได้ เธอก้มลงพูดกับเสื้อผ้าในตะกร้าก่อนจะเดินไปหาเครื่องซักผ้าให้เจอ เพราะเธอเชื่อว่ามันต้องมี
และเธอก็เจอเครื่องซักผ้าจริงอย่างที่คิด จอมขวัญจัดการยัดเสื้อผ้าทั้งตะกร้าลงไปในเครื่องซักผ้า โดยที่ไม่คิดจะแยกผ้าสีผ้าขาว หรือแม้แต่จะแยกกางเกงในของเขาออกมา จากนั้นเธอจัดการเทผงซักฟอก น้ำยาซักผ้าขาวลงไปลงไปจนหมดขวด แล้วกดให้เครื่องทำงานไปโดยอัตโนมัติ
เมื่อซักเสร็จเธอนำมันไปตากที่ราวด้านล่างของตัวบ้าน เสื้อผ้าหลากสีสันแขวนเรียงตากแดดอยู่บนราวอย่างสวยงามสีสันของมันช่างสะดุดตาคนมองยิ่งนัก ต่างไปจากตอนแรกที่มีแค่เสื้อยืดและกางเกงสีพื้นธรรมดา แต่ตอนนี้เกือบทุกตัวมีรอยสีกระด่างไปทั่ว บางตัวก็มีสีอื่นตกใส่อยู่ที่ไม่ใช่สีเดิมของมัน จอมขวัญยืนยิ้มอย่างภูมิใจในผลงานของตัวเอง
ต่อไปก็ทำความสะอาดบ้านสินะ เธอจะล้างให้สะอาดเลย ยิ่งเป็นบ้านไม้อย่างนี้คงจะต้องขัดให้มันวาวเลยสินะ ถึงจะเรียกว่าสะอาด คิดได้ดังนั้นจอมขวัญไม่รอช้าที่จะจัดการทำความสะอาดบ้านให้สะอาดอย่างที่ชายหนุ่มสั่ง
เวลาผ่านไปจนถึงตอนเย็น รามิลที่กลับมาถึงบ้านต้องยืนนิ่งมองเสื้อผ้าของตนที่ตากอยู่ มือหนากำหมัดไว้แน่นเพื่อระงับอารมณ์ที่เริ่มปะทุขึ้นมาให้เย็นลง
ปกติเขาเป็นคนที่ใจเย็นมาก ไม่ค่อยมีอารมณ์ร่วมกับสิ่งใด แต่วันนี้ตั้งแต่ผู้หญิงคนนั้นที่เขาคิดจะเอาเธอมาเป็นเมียตื่นขึ้นมา ความใจเย็นของเขาก็ลดลงเรื่อยๆ
เธอทั้งพูดมาก ทั้งชอบโวยวายกรีดร้องจนเขาอยากจะอุดปากเธอให้เงียบไปหลายครั้งหลายครา ไหนจะที่เธอก่อเรื่องจะเผาบ้านเขาอีก แล้วตอนนี้เขาต้องมายืนมองเสื้อผ้าของเขาพังยับทุกตัว เธอทำสีตกใส่เสื้อขาวของเขา แถมเสื้อสีมีรอยกระด่างทุกตัว
สายตาเย็นยะเยือกมองหาหญิงสาวตัวต้นเหตุ ก่อนจะเดินขึ้นไปบนบ้าน แต่เพียงแค่เขาก้าวเท้าเข้าไปในบ้านโดยไม่ได้ก้มลงมองพื้น
รามิลต้องลื่นล้มก้นกระแทกพื้นอย่างจัง
“โอ๊ยยยย”เขาร้องออกมาอย่างเจ็บระบบตรงก้น รามิลยกมือหนาที่ค้ำพื้นไว้ขึ้นมาดู พบว่ามือเขานั้นมันวาวไปด้วยคราบน้ำมันพืช เขาหันมองไปรอบๆพื้นบ้านจึงพบว่าทั่วทั้งพื้นบ้านเงางามไปด้วยคราบน้ำมันพืช ใบหน้าที่เคยนิ่งเฉย เผยความแดงก่ำขึ้นมาโดยเฉพาะตรงใบหูของเขาที่แดงจนบ่งบอกอารมณ์ของเขาได้เป็นอย่างดี