“พ่อจ๊ะ พี่นิ่มหนีไปนอนกับผู้ชายมาจ้ะ”
“ยัยนุ๊ก!” ณิชาเบิกตากว้าง ไม่คิดว่าน้องสาวจะเล่นตนดื้อๆ ทั้งๆ ที่หล่อนเพิ่งตื่นแล้วไม่รู้ว่าอะไรจริงหรือเท็จ
“อะไรนะ?” แก้วหูคนเป็นพ่อสั่นระริก ส่งสายตาน่ากลัวไปยังบุตรสาวคนโต “ที่น้องมันพูดจริงหรือเปล่า”
“ไม่จริงพ่อ หนูไม่ได้ไปนอนกับใครทั้งนั้น หนูไปเยี่ยมพี่ทิพย์ที่บ้านสวนมา แล้วพอดีเกิดเรื่องขึ้นนิดหน่อยเลยต้องอยู่ต่อถึงสองวัน” ทิพย์อัปสรที่เกิดคลั่งลั่นไกรใส่บรูโน่ทำให้เธอไม่กล้าทอดทิ้งหญิงสาวให้อยู่ตามลำพัง ณิชาจึงตัดสินใจอยู่ต่อเป็นเพื่อนพี่สาวคนสนิท เวลาเธอมีเรื่องเดือดร้อนก็ได้ทิพย์อัปสรคอยช่วยเหลือเสมอมา ยามอีกฝ่ายมีเรื่องทุกข์ร้อนถ้าจะให้เธอนิ่งเฉยก็กระไรอยู่
“แต่เมื่อเช้ามีผู้ชายมาส่งมันที่หน้าบ้านด้วยนะคุณ ท่าทางกระหนุงกระหนิงกันเชียว”
ได้ทีผกาจึงรีบใส่ไฟลูกเลี้ยงสาว ณิชายิ้มหยันเมื่ออีกฝ่ายปั้นน้ำเป็นตัวหวังทำลายความเชื่อใจที่บิดามีต่อเธอ
“จริงเหรอ” ชายสูงวัยกดเสียงต่ำในลำคอ
“พ่อเชื่อที่เขาพูดเหรอ พ่อน่าจะรู้จักหนูดีกว่าใครนะ”
“ก็เพราะว่ารู้ไงถึงต้องถาม แกมันก็เหมือนแม่ของแกนั่นแหละ บ้าผู้ชายจนทอดทิ้งลูกผัว!”
ความแค้นในอดีตฝังแน่นทำให้กล่าววาจาสุดร้ายกาจออกไป ณิชาปวดร้าวความรู้สึก บิดาที่เธอเคารพรักบัดนี้กลายเป็นเพียงผู้ชายที่หลงเมียใหม่จนหน้ามืดตามัว ผกาพูดอะไรก็เห็นดีเห็นงามจนหมด เข้าตำราชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้
“ในสายตาพ่อหนูเป็นแบบนั้นเหรอ” บุตรสาวย้อนถามเสียเครือ อาการน้อยเนื้อต่ำใจตีตื้นจนอกกลัดหนอง
“แม่มันเป็นยังไง ลูกมันก็เป็นแบบนั้น!”
ยิ่งมองใบหน้าของบุตรสาวคนโต พิภพ ก็ยิ่งฉุนเฉียว เครื่องหน้าที่เหมือนกับผู้หญิงแพศยาทุกกระเบียดนิ้ว เปรียบดั่งคมมีดที่กรีดใจของเขาให้ตายทั้งเป็น!
“ถ้าพ่อคิดแบบนั้นหนูก็หมดคำพูด”
เรียวปากอิ่มยิ้มเยาะในโชคชะตาของตัวเอง ร่างบางตั้งท่าจะเดินเข้าห้องแต่น้ำเสียงเข้มห้าวกลับหยุดชะงักสองเท้าเล็กเอาไว้
“นังนิ่ม! ถ้าแกไม่รักดีก็ไสหัวออกไปจากบ้านของฉันเดี๋ยวนี้!” ผกาและรดาตาโต ไม่คิดว่าแค่พูดใส่ไฟนิดๆ หน่อยๆ จะทำให้ณิชาถูกคนเป็นพ่อไล่อย่างเลือดเย็น สองแม่ลูกลอบส่งยิ้มร้ายกาจให้กันและกัน
“พ่อ…” ณิชาน้ำตานอง กลั้นความเจ็บปวดไม่อยู่เสียแล้ว
“ในเมื่อทำตัวร่านนักก็ออกไปเลย ใครที่มันมาส่งแกเมื่อเช้าก็ไสหัวไปอยู่กับมันซะ ฉันเกลียดลูกไม่รักดีแบบแก!”
บิดาชี้นิ้วไล่ไม่ไว้หน้า บุตรสาวมองผู้มีพระคุณที่ครั้งหนึ่งเคยรักและถนอมเธอดุจนางฟ้าตัวน้อยๆ หากตอนนี้ไม่มีอีกแล้ว ทุกอย่างเปลี่ยนไปตามกาลเวลา พิภพไม่ต้องการลูกที่เกิดกับเมียคนแรกอีกต่อไป
“ก็ได้… ถ้าพ่อคิดว่าหนูเลวนักหนูไปก็ได้”
พูดจบหญิงสาวก็รีบเดินเข้าห้อง จัดการเก็บเสื้อผ้าลงกระเป๋าเดินทางใบใหญ่อย่างลวกๆ ณิชากวาดเอาข้าวของเครื่องใช้บางส่วนลงไปด้วย ใช้เวลาไม่นานก็เดินออกมาจากห้องพร้อมด้วยกระเป๋าเดินทางใบใหม่และใบเก่าที่เพิ่งเอากลับมาจากบ้านสวนของทิพย์อัปสร ผกาและรดายืนกอดอกมองคนที่เกลียด ยิ่งผกานั้นชังหล่อนสุดหัวใจ ลูกของผู้หญิงที่สามีรักนักรักหนากำลังจะไปให้พ้นทาง ในที่สุดเวลาแห่งความสุขก็มาถึง
“ไปแล้วก็ไม่ต้องย้อนกลับมานะยะ” น้ำเสียงแหลมสูงของแม่เลี้ยงกล่าวเหยียดๆ
“ใช่ ไปแล้วไปลับ ตายไปเลยยิ่งดี!” รดาโบกมือไล่พลางเบ้ปากใส่
“ไม่ต้องห่วงหรอก ฉันไปแล้วไม่ย้อนกลับมาแน่ ห่วงแต่ตัวเองเถอะ” ณิชาจ้องตาสองแม่ลูก
“หมายความว่าไง” ผกาถามเสียงเขียว
“อย่าลืมหาการหางานทำด้วยล่ะ ค่าใช้จ่ายที่บ้านมันเยอะ ไม่มีฉันสักคนจะกินจะใช้อะไรก็ประหยัดๆ หน่อยละกัน”
ณิชาเหยียดยิ้มทิ้งท้ายประโยคเด็ดให้สองแม่ลูกได้ฉุกคิดก่อนเดินลงบันไดไปพร้อมกระเป๋าเดินทางสามใบ แม้จะเสียใจแต่เธอจะไม่ขออาลัยอาวรณ์ต่อสถานที่ที่ไม่มีใครต้องการ แม้กระทั่งผู้ให้กำเนิดยังเกลียด แล้วจะให้อยู่ไปเพื่ออะไร สู้ไปตายเอาดาบหน้ายังดีซะกว่า
ณิชาปาดน้ำตาทิ้งลวกๆ แล้วรีบสาวเท้าเดินโดยไม่ทันมองเบื้องหน้า หญิงสาวชนเข้ากับร่างสูงใหญ่ที่ยืนจังก้าขวางทาง
“อุ๊ย!”
มือหนารีบคว้าแขนกลมกลึงเอาไว้ก่อนที่ร่างท้วมจะล้มลงกับพื้น ดวงตากลมโตเบิกกว้างไม่คิดว่าจะเป็นเขา
“คุณเควิน!” ณิชาอุทานเสียงหลง สาวเจ้ารีบผละตัวออกจากอ้อมกอดของชายหนุ่ม “ทำไมคุณยัง…”
“เธอลืมมือถือไว้ที่รถ ฉันเลยวกกลับเอามาคืนให้”
เควินบอกเสียงทุ้ม เขาไม่พูดว่ามาทันได้ยินทุกบทสนทนาระหว่างเธอกับครอบครัว
และรู้สึกผิดที่ตัวนั้นเป็นต้นเหตุให้อีกฝ่ายต้องเดือดร้อน
“เพราะเหตุผลนี้ใช่ไหมเธอถึงไม่อยากให้ฉันขับรถมาส่ง”
ถ้ารู้ว่าจะเป็นเช่นนี้เขาจะไม่รั้นคำพูดของเธอเลย ณิชาเลยต้องตกเป็นจำเลยให้คนเป็นพ่อด่าทอ และถ้าเดาไม่ผิดผู้หญิงคนนั้นคงไม่แคล้วเป็นแม่เลี้ยงใจร้ายที่คอยหาเรื่องกลั่นแกล้งลูกเลี้ยงเป็นแน่
“ไม่ใช่เรื่องของคุณ” ณิชาไม่ชอบให้ใครมายุ่มย่ามเรื่องส่วนตัว เธอก้าวเท้าเดินต่อโดยมีร่างสูงตามติดไม่ห่าง
“แล้วนี่จะไปอยู่ที่ไหน” น้ำเสียงนั้นแฝงไปด้วยความห่วงใย
“เรื่องของฉัน”
“เธอโกรธฉันเหรอ”