“เธอโกรธฉันเหรอ”
“เปล่าค่ะ” ณิชาตอบทันควัน หากกระนั้นก็ไม่ยอมหยุดเดิน จนทั้งสองก้าวพ้นประตูรั้วของบ้าน
“ให้ฉันไปส่งนะ” คนที่รู้สึกผิดอยากแสดงความรับผิดชอบ
“ไม่เป็นไรค่ะ ฉันไม่อยากรบกวน”
“แต่ฉันเป็นคนทำให้เธอเดือดร้อนนะ”
“ไม่เกี่ยวกับคุณหรอกค่ะ บ้านฉันมันก็เป็นแบบนี้อยู่แล้ว พวกเขาแค่หาเรื่องเฉดหัวฉันทิ้งเท่านั้น”
ว่าแล้วน้ำตาก็รินไหล เควินตกใจที่เห็นผู้หญิงร่าเริงเศร้าหมอง ปกติเธอผู้นี้มักแจกรอยยิ้มสดใสให้คนรอบข้างเสมอ ชอบสร้างบรรยกาศสนุกสนานให้ทุกคนได้หัวเราะเฮฮา เควินเลยไม่คาดคิดว่ารุ่นน้องของเพื่อนสนิทจะมีมุมอ่อนแอ
เธอคนนี้ก็ช่างน่าสงสารไม่แพ้ใคร
“แล้วมีที่ไปหรือไง”
ณิชาส่ายหน้าแทนคำตอบ จะมีที่ไปได้อย่างไรในเมื่อตั้งแต่เกิดจนโตบ้านไม้สองชั้นก็เป็นที่พักพิง คุ้มแดดคุ้มฝนมาโดยตลอด
“งั้นไปอยู่คอนโดฯ ฉันก่อนไหม” ไม่รู้ว่าอะไรดลใจให้พูดออกไปแบบนั้น เควินไม่ชอบให้ใครวุ่นวายกับพื้นที่ส่วนตัวยกเว้นทิพย์อัปสร แต่ทำไมกลับเลือกที่จะชวนผู้หญิงคนนี้ไปอยู่ด้วย ไม่สิ… ต้องพูดว่าให้พักอยู่ชั่วคราวถึงจะถูก
“หะ! อยู่กับคุณเนี่ยนะ” ณิชาชี้เธอและเขา
“เปล่า ฉันมีคอนโดฯ สองที่ เธอก็อยู่อีกที่หนึ่งส่วนฉันก็อยู่อีกที่หนึ่ง” เควินรีบปฏิเสธ ณิชาพยักหน้าโล่งใจ
“ขอบคุณมากนะคะ แต่ฉันคงรับน้ำใจจากคุณไม่ได้ ต้องขอโทษด้วยค่ะ” หญิงสาวส่งยิ้มบางเบา
“เดี๋ยวสิ!” เควินรีบคว้าข้อมือก่อนที่เธอจะเดินจากไป เสี้ยววินาทีที่ทั้งสองสบมองกันผ่านสายตาอันเต็มไปด้วยความสงสัย และก่อนที่ณิชาจะทันได้เอ่ยอะไร ชายหนุ่มก็ลากเธอไปยังรถคันหรูที่จอดห่างออกไปไม่ไกลนัก
“ขึ้นไป” เขาสั่ง
“เห้ย! อะไรของคุณเนี่ย”
“ขึ้นๆ ไปเถอะน่า”
มือหนาดันร่างอวบอัดเข้าไปในรถ ณิชาไม่อาจต้านทานแรงมหาศาลของเขาได้ จำต้องยอมนั่งบนรถพลางเกาศีรษะไปมา
“เดี๋ยวๆ นี่คุณจะพาฉันไปไหน”
“ไปคอนโดฯ ฉัน” เขาตอบหน้าตาย
“ก็บอกว่าไม่ไปไง คุณพูดไม่รู้เรื่องเหรอ”
น้ำเสียงเริ่มหงุดหงิด เธอว่าเธอพูดชัดเจนแล้วนะ ทำไมเขาถึงเข้าใจอะไรยากเย็นนัก
“แต่ฉันเป็นคนทำให้เธอเดือดร้อน ฉันต้องรับผิดชอบ” เควินยืนยันที่จะทำตามความต้องการของตน
“ไม่เกี่ยวกับคุณเลย เรื่องครอบครัวฉันมันแบบ คือ… โอ๊ย! เอาเป็นว่าคุณไม่ต้องมารู้สึกผิดต่อฉัน เรื่องนี้ฉันจัดการเองได้”
ณิชาพยายามเรียบเรียงคำพูดให้เขาเข้าใจ แต่ดูเหมือนเสียงของเธอเป็นเพียงอากาศธาตุเท่านั้น เควินยังคงขับเคลื่อนยานพาหนะไปเรื่อยๆ โดยไม่สนสิ่งใด
“คุณเควิน”
“ฉันไม่ได้ทำเพราะว่ารู้สึกผิดต่อเธอนักหรอก ความจริงกลัวถูกทิพย์ว่าต่างหาก”
เควินอ้างถึงทิพย์อัปสร ณิชาขมวดคิ้ว
“พี่ทิพย์จะมาว่าอะไรคุณ”
“เอ้า! ก็ฉันเป็นคนทำให้เธอถูกไล่ออกจากบ้าน ขืนฉันปล่อยเธอระเห็จไปอยู่ข้างนอกโดยไม่ยื่นมือช่วยเหลือ ทิพย์รู้เข้าได้มาแหกอกฉันแน่”
แค่คิดก็ขนลุกขนพอง ทิพย์อัปสรเป็นผู้หญิงใจเย็นก็จริง ทว่าพอโกรธขึ้นมาหน้าอินทร์หน้าพรหมหล่อนก็ไม่สน
ไอ้บรูโน่รู้ฤทธิ์ไปคนหนึ่งละ โดนปืนจ่อยิงดีไม่ตายห่า!
“ไม่ต้องห่วงค่ะ เดี๋ยวฉันจะบอกพี่ทิพย์ว่าเรื่องนี้คุณไม่ผิด เพราะฉะนั้นจอดรถเถอะค่ะ ฉันจะลง”
ณิชาไม่อยากรบกวนคนนอก
“แค่รับน้ำใจจากฉันมันจะตายนักหรือไง” คนที่มีความอดทนต่ำเริ่มไม่พอใจ ตวัดตามองค้อนอีกฝ่าย
“ฉันช่วยเพราะเห็นแก่ทิพย์ หรือคิดว่าที่ช่วยเพราะพิศวาส” ชายหนุ่มหรี่ตาถาม ณิชาหน้าแดงก่ำ
“บะ บ้า พิศวาสอะไรของคุณ ฉันไม่ได้คิดอะไรแบบนั้นสักหน่อย” เควินลอบยิ้มยามเห็นสีหน้าแดงระเรื่อ เขาแกล้งพูดไปงั้นแหละ รู้นิสัยอยู่บ้างว่าหล่อนไม่ใช่พวกผู้หญิงไวไฟที่ระริกระรี้เวลาเห็นผู้ชาย
“ถ้างั้นก็ไม่ต้องพูดมาก คิดซะว่าไปอยู่ก่อนแล้วพอหาที่อยู่ได้ก็ค่อยย้ายออก” ดวงตาคมคายเหลือบมองคนข้างกาย เห็นหล่อนทำหน้านิ่งก็รีบเสริมต่อ
“เป็นผู้หญิงตัวคนเดียวออกจากบ้านกลางคันแบบนี้มันอันตราย คอนโดฯ ฉันระบบรักษาความปลอดภัยดีเลิศ รับรองว่าไม่มีใครทำอะไรเธอได้”
ณิชาคิดตามที่เขาพูด นั่นสินะ… เธอมันก็หัวเดียวกระเทียมลีบ หนำซ้ำที่ซุกหัวนอนก็ยังไม่มี ถ้าระเห็จระเหไปตามทางคงไม่แคล้วเกิดภัย
“แล้วคุณจะคิดค่าเช่าเดือนละเท่าไหร่ล่ะ” ณิชายอมจำนน เควินยิ้มย่องในใจ เขาทำท่าครุ่นคิด
“เอ… จะคิดเท่าไหร่ดีน้า คอนโดฯ ฉันหรูหราซะด้วยสิ”
คอนโดฯ ที่ว่าต้องแพงมากแน่ๆ คนรวยระดับเขาคงไม่อยู่ห้องเล็กๆ เท่ารูหนูหรอก แล้วแบบนี้เธอจะมีปัญญาจ่ายค่าเช่าไหมเนี่ย ณิชาครุ่นคิดด้วยความกังวลจนอาการออกเห็นได้ชัด เควินส่ายหน้ายิ้มเอ็นดู
“ไม่คิดหรอก อยู่ไปเลยฟรีๆ” หญิงสาวตกใจกับคำตอบ
“ได้ไง ทำแบบนั้นฉันเกรงใจตายเลย” พอเขาไม่คิดเงินก็กระอักกระอ่วนใจชอบกล
“พอดีฉันรวยอ่ะนะ ไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน” เควินไหวไหล่
ณิชาแอบเบ้ปากหมันไส้ความอวดมั่งอวดมีของเขา
“อยู่ๆ ไปเหอะน่า ถ้าเกรงใจนักระหว่างนี้ก็รีบหาที่อยู่ซะ จะได้ไม่ต้องรบกวนฉันนานไง”