“โทษๆ มึงก็ใจเย็นดิว้า” นทีรีบขยับหนี แต่ไม่วายหันไปยิ้มทะเล้นกับศักดิ์ชาย
เควินกระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวหมดแก้ว คราแรกตั้งใจจะมาแค่พูดคุยกับเพื่อนฝูงให้คลายเหงา หากพอหัวข้อสนทนาเกี่ยวกับบิดาแสนชังอารมณ์ร้อนก็บังเกิดทันที จนต้องดื่มเพื่อให้แอลกอฮอล์เข้าไปดับความเกลียดข้างใน
“ว่าแต่ทิพย์เป็นไงมั่งวะ” จู่ๆ นทีก็ถามถึงหญิงสาวอีกคน
“นั่นดิ ได้ข่าวว่าคืนดีกับเพื่อนเก่ามึงแล้วนี่” ศักดิ์ชายตีไหล่เควินเบาๆ
“เออ!” ชายหนุ่มเอนกายพิงพนักโซฟา “ไอ้บรูโน่แม่งเกือบตาย พวกมึงรู้ปะ มันท้าให้ทิพย์ยิงมัน”
“เห้ย! จริงดิ แล้วทิพย์ยิงไหมวะ” นทีและศักดิ์ชายตื่นเต้น
“จะเหลือเหรอ!” เควินหยันเสียงสูง ทำเอาเพื่อนสองคนอ้าปากหวอ เขาจึงเอ่ยต่อว่า “แต่โชคดีที่กระสุนโดนหัวไหล่ ถากๆ เลยไม่ตาย”
“กูไม่อยากเชื่อว่าทิพย์จะกล้า” ศักดิ์ชายครางเสียงแผ่ว เขากับนทีเคยเจอทิพย์อัปสรอยู่บ่อยครั้ง เธอเป็นคนอ่อนหวาน ใจดีพูดเพราะ กิริยานุ่มนวลไม่มีพิษมีภัยต่อใคร
“เพราะมันเลวไง ทำชั่วกับทิพย์ไว้เยอะเลยโดนซะ”
เควินนึกถึงบรูโน่ก็อดสมน้ำหน้าไม่ได้ ทั้งยังไม่ค่อยเห็นด้วยที่ทิพย์อัปสรกลับไปคืนดีกับคนอย่างมัน แต่ในเมื่อมันเป็นความสุขของคนที่เขารัก เขาก็พร้อมที่จะยินดีเสมอ
“ไม่ต้องห่วง ไอ้พวกที่ร้ายกาจกับเขามากๆ สุดท้ายลงเอยด้วยการกลัวเมียทุกราย” นทีหัวเราะร่วน
“ข้อนี้กูฟันธง บอกไอ้บรูโน่เพื่อนมึงเตรียมเข้าสมาคมพ่อบ้านหัวหดได้เลย ฮ่าๆ” ศักดิ์ชายเสริมคำพูดนที ทำเอาเควินถึงกับหลุดขำออกมา
“เห้ยๆ ไอ้เควินๆ” เสียงหัวเราะหยุดชะงักเมื่อนทีสะกิดแขน
“อะไรวะ?”
เควินวางแก้วเหล้าลงบนโต๊ะ ชายหนุ่มนั่งไขว่ห้างหยิบบุหรี่ขึ้นมาจุดสูบ พ่นควันขาวขุ่นลอยคว้างเหนือศีรษะ
“มึงเห็นผู้หญิงใส่เดรสสีแดงคนนั้นไหม”
“เห็น… ทำไมวะ?”
เควินมองตามตำแหน่งที่เพื่อนรักชี้นิ้ว สตรีรูปร่างสูงเพรียวระหงส์ในชุดเกาะอกสีแดงเพลิงกำลังตกเป็นเป้าสายตาของภมรผู้ใบหน้าสวยเฉี่ยวแต่งแต้มเครื่องสำอางค์จัดจ้าน
“นั่นแหละ ว่าที่แม่เลี้ยงของมึงในอนาคต” ศักดิ์ชายรีบดันสาวข้างกายลงจากตักแล้วขยับตัวไปดูใกล้ๆ
“ไหนๆ โห… สวยฉิบเลยมึง!” คนพูดตาวาว ผิดกับเควินที่นั่งกำหมัดแน่น
“มึงกำลังจะบอกกูว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็น…” เขาไม่อยากเอ่ยให้เสนียดปาก นทีพยักหน้าแทนคำตอบ
“ดี! งั้นกูว่ากูมีอะไรสนุกๆ ให้เล่นแล้วว่ะ” เควินยิ้มร้าย ชายหนุ่มอัดบุหรี่เข้าปอดอึกใหญ่ก่อนใช้เท้าเหยียบขยี้ซากของมันจนดับมอด จากนั้นร่างสูงสง่าก็พุ่งตรงไปยังเป้าหมายทันที นทีและศักดิ์ชายพยายามร้องห้ามแต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว
“ไอ้ห่านที! มึงไม่น่าไปบอกมันเลยว่าใครเป็นใคร เห็นไหมเนี่ย กูว่าแม่งต้องสร้างเรื่องอีกแน่ๆ” ศักดิ์ชายต่อว่าเพื่อน
“เอ้า โทษกูซะงั้น กูก็แค่หวังดีปะวะ อยากให้มันรู้จักว่าที่แม่เลี้ยงของมันนี่น่า”
“เดี๋ยวกูโบกเข้าให้ คอยดูมันด้วย ซวยแน่ๆ งานนี้”
นิสัยเควินเป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น ตั้งแต่เด็กจนโตเป็นไม้เบื่อไม้เมากับบิดามาช้านาน คนเป็นพ่อสั่งห้ามสิ่งใดเป็นอันต้องแหกกฏทุกอย่าง ไม่เคยเดินตามเส้นทางที่ผู้มีพระคุณขีดไว้ พ่อสั่งซ้ายลูกไปขวา พ่อสั่งขวาลูกไปซ้าย ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อลูกไม่เคยไปในทิศทางเดียวกัน
ไม่เคยเลยสักครั้ง…
“สวัสดีครับ” น้ำเสียงทุ้มทักทายตามมารยาท ดวงตาเฉี่ยวกรีดกรายมองชายหนุ่มแปลกหน้าตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า รอยยิ้มเหยียดผุดขึ้นบนเรียวปากบางได้รูป
“หวัดดี” หญิงสาวพูดเสียงห้วน หากกระนั้นสายตากลับไม่ละห่างจากใบหน้าหล่อเหลา เธอยอมรับว่าเขาตรงสเปกเธอทุกอย่าง รูปร่างสูงกำยำมาพร้อมดวงตาคมเข้มดุจพญาเหยี่ยว จมูกโด่งเป็นสันช่างรับกับริมฝีปากสีน้ำตาลหยักลึก ผิวสีแทนยิ่งขับให้เขาดูเป็นผู้ชายในฝันของสาวๆ ได้ไม่ยาก
แบบนี้แหละที่เธอต้องการ
“มาคนเดียวหรือครับ?” เป็นคำถามพื้นๆ ที่บรรดาผู้ชายใช้เป็นสะพานในการเข้าหาผู้หญิง
กลางคืน!
“ค่ะ มานั่งชิลล์” หล่อนตอบ เควินดูออกว่าเธอเล่นตัวเพื่อสร้างมูลค่า จริตจะก้านแบบนี้สิท่าถึงจับพ่อเขาได้อยู่หมัด
“จะรังเกียจไหมครับถ้าผมจะขอนั่งด้วยคน” เขาลองหยั่งเชิง
“เชิญค่ะ” ถึงสร้างกำแพงให้ดูเข้าถึงยากยังไง แต่หล่อนก็ไม่คิดเล่นตัวจนเกินงาม เควินยิ้มย่องในใจ เขาผ่านสตรีมามาก ทำไมจะดูไม่ออกว่าเธอมีใจให้
“มานั่งชิลล์คนเดียวแบบนี้แฟนคุณไม่ว่าเหรอครับ”
“ถามแบบนี้หมายความว่ายังไงคะ” หล่อนช้อนสายตามองเขาเล็กน้อย มือเรียวยกค็อกเทลขึ้นดื่มอย่างมีจริต
“แล้วคุณคิดว่ายังไงล่ะครับ?”
นอกจากไม่ตอบยังย้อนถามพลางยิ้มเจ้าเล่ห์ ทุกองค์ประกอบหล่อหลอมให้เขามีเสน่ห์กว่าชายใดที่เคยพานพบ
“ฉันยังไม่มีแฟนค่ะ”
คำตอบที่ได้รับส่งผลให้มือหนาลอบกำหมัดแน่น เควินยิ้มกลบเกลื่อนแม้ในใจนั้นเดือดดาล ช่างกล้าพูดว่าไม่มีแฟนทั้งที่ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้หญิงของพ่อเขา ทำแบบนี้คิดจะสวมเขากันชัดๆ
ซึ่งหล่อนก็เหมาะสมกับผู้ชายเจ้าชู้พรรณนั้นแล้ว
“ถ้าอย่างนั้นก็แปลว่าผมมีสิทธิ์”
“ไม่รู้สิคะ ฉันไม่ใช่คนที่จะตัดสินอะไรง่ายๆ” หญิงสาวยิ้มมุมปาก
“ผมเองก็ไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ เช่นกัน”
เควินโน้มหน้ากระซิบใกล้ใบหูเล็ก กลิ่นน้ำหอมคละคลุ้งติดปลายจมูก เครื่องหน้าสุดเพอร์เฟคยิ่งมองยิ่งชวนให้เกิดความหลงใหล แต่น่าเสียดายที่ความงามของเธอใช้ไม่ได้ผลกับผู้ชายอย่างเขา
“เควินครับ” มือหนายื่นนามบัตรไปตรงหน้าหญิงสาว เธอปรายตามองชื่อนามสกุลเล็กน้อย
“รมิตาค่ะ”