บทที่ 2.1 - ปัญหารุมเร้า (ชีวิตที่ดีกว่าเดิม)

1112 Words
พิภพกินไม่ได้นอนไม่หลับหลังจากบุตรสาวคนโตขนข้าวของย้ายออกจากบ้านไป ผิดกับสองแม่ลูกที่ดูมีความสุข จะทุกข์ก็ต่อเมื่อเงินเดือนข้าราชการเก่ากินบำนาญของพิภพไม่ได้มากพอให้ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่ายเหมือนเดิม “ทานข้าวค่ะคุณ” ผกายกสำหรับจัดวางบนโต๊ะ รดาที่กำลังนอนเล่นมือถือพอได้กลิ่นอาหารก็รีบปรี่มานั่งประจำที่ก่อนใครเพื่อน รอให้คนเป็นแม่ตักข้าวสวยร้อนๆ ใส่จานให้ พิภพยังคงนั่งเหม่อมองวิวทัศน์ยามเย็นผ่านหน้าต่างไม้บานใหญ่ สายลมพัดพลิ้วไม่ได้ช่วยให้หัวใจหายเครียด นัยน์ตาเศร้าหมองราวกับคนกลัดกลุ้มเต็มประดา “ทานข้าวจ้ะพ่อ” รดาเรียก “อย่าบอกนะว่ามัวแต่คิดถึงนังลูกไม่รักดีอยู่” ผกาทนไม่ไหว เห็นท่าทางจะเป็นจะตายของสามีก็อดแขวะไม่ได้ “แม่!” รดาเสียงสูง ลองถ้าได้เปิดศึกวาทะกรรมแบบนี้เรื่องไม่จบง่ายๆ แน่ “พี่นิ่มมันทำตัวเอง พ่อจะไปคิดถึงทำไม แม่ก็นะ” “น้อยไปสิ อย่างแกจะไปรู้อะไร พ่อแกน่ะเขารักเขาห่วงมันยังกับอะไรดี” ผกาหยันเสียงแหลม พิภพถอนหายใจเหนื่อยหน่าย ถ้าเลือกได้ก็ไม่อยากตอบโต้ให้ความบานปลาย “ก็อย่างว่าล่ะนะ รักแม่มันมากก็ต้องห่วงใยอีตัวลูกเป็นของธรรมดา!” คนฟังทนไม่ไหวขว้างแก้วน้ำชาลงพื้นอย่างแรง รดากับผกาสะดุ้งโหยง สายตาน่ากลัวจดจ้องภรรยาที่อยู่กินกันมาเป็นระยะเวลากว่าสิบปี คนที่บอกว่าเข้าใจเขาทุกอย่าง คนที่สัญญาว่าจะดูแลและไม่ตอกย้ำอดีตแสนเลวร้าย ไม่ใช่เลย… หลังจากได้เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ผกากลับทำทุกอย่างตรงกันข้าม หล่อนตั้งแหง่รังเกียจบุตรสาวคนโตที่เกิดกับภรรยาคนแรก กลั่นแกล้งดูแคลนสารพัด ใช่ว่าเขาไม่รู้ แต่ที่เงียบเพราะไม่อยากมีปัญหา แต่กลายเป็นยิ่งทำให้ผกาได้ใจ คิดว่าเขาไม่ใยดีณิชา แม้ว่ามารดาของณิชาจะคบชู้สู่ชาย แต่ยังไงเขาก็เป็นพ่อ ขึ้นชื่อว่าลูกเขารักทั้งนั้น “ฉันไม่หิว!” พิภพกระชากเสียงใส่ ร่างสูงโปร่งผอมแห้งคงความทะมัดทะแมงเดินหายเข้าห้องนอนทันที ปัง! เสียงประตูปิดกระแทกตามแรงอารมณ์ ผกาเบ้ปากพลางทิ้งตัวนั่งลงตรงข้ามกับบุตรสาว “แม่นี่ยังไง อุตส่าห์กำจัดนังนิ่มออกไปได้แล้วก็น่าจะพูดจาดีๆ กับพ่อเขาบ้าง” รดาไม่เห็นด้วยกับพฤติกรรมของผกา “คนอย่างพ่อแกพูดดีด้วยก็เท่านั้น แหม! วันนั้นทำเป็นแข็งขึงไล่มันออกจากบ้าน แล้วนี่อะไร ยังไม่ทันข้ามเดือนก็นั่งอาลัยอาวรณ์จะเป็นจะตาย คิดว่าฉันดูไม่ออกหรือยะ หนอยแน่… อีผกามันไม่ได้โง่นะโว๊ย!” “โอ๊ยแม่! พูดมากน่ารำคานจริง” รดาหงุดหงิด ร่างบางลุกเดินหนีแม่จอมบ่น “แล้วนั่นแกจะไปไหน” “ไปกินข้าวนอกบ้าน” “แกรวยนักหรือไงยัยนุ๊ก หะ! รวยนักเหรอถึงได้กระแดะไปกินข้าวนอกบ้าน ฉันทำกับข้าวไว้ตั้งเยอะตั้งแยะจะไปซื้อเขากินให้เปลืองทำไม” ผกาเสียงดัง และนั่นยิ่งทำให้รดาเบื่อจะฟัง “กินข้าวปนเสียงด่าของแม่ใครมันจะไปกระเดือกลง!” “อีลูกเวร กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ อีนุ๊ก! อีนุ๊ก!” ผกาตะโกนไล่หลังรดา หงุดหงิดที่ใครๆ ก็ไม่อยากสนทนาด้วย ทั้งลูกทั้งผัวต่างหันหน้าหนี คิดว่าไม่มีมารหัวใจอย่างลูกนอกไส้แล้วอะไรๆ จะดีขึ้น เปล่าเลย ทุกอย่างยังคงเหมือนเดิม พิภพถ้าไม่พะวงหาลูกก็เพ้อพกถึงแม่ ไม่รู้จะรักใคร่อะไรนักกับเมียเก่าใจวันทองพรรณนั้น “กินไม่ลงเว้ย เซ็ง!” ชีวิตของณิชาเปลี่ยนไปมากพอสมควร… เธออาศัยอยู่ที่คอนโดฯ ของเควินร่วมอาทิตย์กว่าได้แล้ว ทุกอย่างราบรื่นดี ระบบรักษาความปลอดภัยก็ไว้ใจได้ สมกับเป็นที่พักอาศัยระดับไฮโซมีเงิน ณิชาตื่นแต่เช้าเตรียมตัวไปทำงานเหมือนทุกวัน หลังจากทิพย์อัปสรแต่งงานกับบรูโน่แล้วลาออกไป เธอก็เหมือนตัวคนเดียวในออฟฟิศ เพื่อนร่วมงานหาความจริงใจไม่มี วันๆ คอยแต่หาเรื่องนินทา จริงบ้างใส่ไข่บ้างคละเคล้ากันไป ซึ่งณิชาชินเสียแล้ว สมัยเข้ามาทำงานใหม่ๆ เธอเองก็โดนไม่ใช่น้อย “ขอบคุณนะคะ” ณิชายิ้มหวานพลางรับถุงแกงจากแม่ค้า หญิงสาวมองแกงถุงในมือแล้วถอนหายใจ คิดถึงผู้เป็นพ่อขึ้นมา ป่านนี้ไม่รู้จะได้ทานข้าวหรือยัง ถ้ามีเธออยู่ใกล้ๆ เรื่องสุขภาพและอาหารการกินของบิดา ณิชาไม่เคยให้ขาดตกบกพร่อง ภาพหญิงสาวเดินถือแกงถุงเข้าคอนโดฯ ระดับหรูกลายเป็นหัวข้อสร้างความฮือฮาไม่น้อย แน่ล่ะ… คนที่นี่ทานอาหารตกมือละเป็นหมื่น คุณภาพชีวิตสูงลิบลิ่ว แตกต่างจากคนระดับล่างอย่างเธอโดยสิ้นเชิง แม้จะถูกมองด้วยสายตาตั้งคำถามระคนดูถูก หากณิชากลับนิ่งเฉย คิดซะว่าไม่มีใครเกิดมาแล้วไม่โดนนินทา ปลงตกเช่นนั้นจิตใจก็พลอยไร้ทุกข์ “กลับมาแล้วเหรอ” “อุ๊ย!” แม่สาวตัวอวบสะดุ้งโหยง ยกมือกุมหน้าอกตัวเองพลางหายใจหอบถี่ “คุณเควิน” “ใช่น่ะสิ เห็นเป็นณเดชหรือไง” ชายหนุ่มแสร้งว่า ร่างสูงหยัดกายลุกขึ้นยืน เดินไปหาสาวน้อย “ซื้ออะไรมากินล่ะ?” เขาชะโงกหน้ามองถุงแกงในมือณิชา “พะแนงไก่ค่ะ” “พะแนงไก่” เควินทวนคำ คิ้วหนาเข้มขมวดสงสัย “มันเป็นยังไงไอ้พะแนงไก่ที่ว่าเนี่ย” “อย่าบอกนะคะว่าไม่เคยทานพะแนงไก่” ณิชาหลุดขำ คนฟังหน้าง้ำหน้างอ “เข้าใจค่ะ คนรวยๆ คงไม่เคยทานอาหารบ้านๆ ข้าวถุงแกงถุงแบบนี้” ณิชาไม่ได้มีเจตนาประชดแต่อย่างใด หล่อนพูดไปตามวิถีชีวิตที่เห็นๆ กันอยู่ทั่วไป พูดจบก็เดินหายเข้าไปในครัว จัดการเทพะแนงไก่ใส่ชาม เควินได้กลิ่นเครื่องเทศลอยแตะปลายจมูก น่าแปลกที่มันหอมชวนเรียกน้ำย่อย ปกติเขาไม่ค่อยชอบทานเครื่องแกงของไทย รสชาติเผ็ดร้อนไม่เหมาะกับคนทานจืดอย่างเขา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD