ตอนที่ 2

1032 Words
“ใช่ครับ...แดเนียล และคุณก็รู้ดีว่าคุณได้ค้นพบอะไร ถึงผมจะไม่ใช่อัจฉริยะทางด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์แต่ก็พอจะรู้ว่าการค้นพบธาตุลำดับที่ 94 หรือพลูโทเนียมทำให้สหรัฐสามารถพัฒนาระเบิดปรมณูลูกแรกได้ และไซออนเนตก็เช่นเดียวกัน พวกเขาอาจไม่ใช่อัจฉริยะด้านนิวเคลียร์ฟิสิกส์เหมือนผม แต่เขารู้วิธีการต่อยอดว่าทำยังไงถึงจะใช้ธาตุชนิดใหม่ที่พวกคุณเพิ่งค้นพบไปพัฒนาเป็นอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างร้ายแรงยิ่งกว่านิวเคลียร์” “พระเจ้า! เออร์วิ่ง คุณรีบบอกพวกเรามาเถอะว่าไอ้หัวขโมยนั่นมันเป็นใครกันแน่” มอโรว์เป็นฝ่ายถามอย่างร้อนใจ เขาก็เหมือนกับอีกหลายคนในที่นั้นซึ่งนั่งแทบไม่ติดเก้าอี้ทว่าตรงข้ามกับแดเนียลที่แม้เคร่งเครียดมากกว่าใคร ๆ แต่เขากลับมีทีท่าเยือกเย็นลงอย่างเห็นได้ชัด “เออร์วิ่ง...ผมไม่รู้ว่านี่เป็นโชคดีหรือโชคร้ายที่เรายังไม่ได้แจ้งให้คณะกรรมาธิการร่วมของสหภาพเคมีบริสุทธิ์และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศรู้เรื่องนี้ แต่สิ่งหนึ่งที่ผมรู้คือเราโชคดีที่มีคุณ” “ผมตั้งใจกับงานทุกอย่างที่ได้รับอยู่แล้วครับ คุณแดเนียล” เออร์วิ่งกล่าวก่อนเคาะปลายนิ้วลงบนแล็ปท็อปให้หน้าจอมอนิเตอร์แสดงใบหน้าตรงของหญิงสาวผมยาวดำขลับตัดกับสีนัยน์ตาประกายน้ำตาลแกมเขียวสว่าง จมูกโด่งรั้นและริมฝีปากอิ่มเผยอเล็กน้อยบนโครงหน้ารูปไข่ “ผู้หญิงคนนี้เป็นสายลับมือหนึ่งที่เข้ามาฉกข้อมูลลับของคุณถึงในคฤหาสน์ไพรซ์ เธอทำงานให้กับไซออนเนต...มันเป็นองค์กรลับที่มีเครือข่ายอยู่ในอเมริกาและยังเชื่อมโยงกับพวกผลิตอาวุธและนักค้าอาวุธสงครามข้ามชาติ น่าแปลกที่ไซออนเนตเหมือนไม่มีความซับซ้อนอย่างองค์กรลับทั่วไป แต่กลับเข้าถึงได้ยาก เป็นองค์กรที่ดูสะอาดแต่แฝงอันตรายไว้รอบด้าน” “เธอน่าจะไปเป็นนางแบบหรือไม่ก็พวกเมียเก็บเศรษฐีมากกว่าจะมาทำงานเสี่ยงตายแบบนี้” “ออโซลย่า คือชื่อที่ใช้เรียกเธอในองค์กร...ผมก็คิดแบบเดียวกับคุณนั่นแหละ แดเนียล ว่าผู้หญิงที่ทั้งสวยและฉลาดขนาดนี้ไม่น่าจะทำงานอันตรายอย่างการเป็นสายลับ” “โอเค!” มอโรว์แทรกขึ้นขณะลุกจากเก้าอี้ “นี่พวกคุณสองคนคงได้ข้อสรุปกันแล้วซีนะว่าไอ้หัวขโมยที่มันกล้าเข้ามาจารกรรมข้อมูลถึงที่นี่เป็น...เอ้อ...สายลับที่สวยที่สุดเท่าที่พวกคุณเคยพบ ให้ตายเถอะ! ผมกับทีมนักนิวเคลียร์ฟิสิกส์ในห้องนี้อยากรู้มากกว่าว่าตอนนี้แม่สายลับแสนสวยของพวกคุณน่ะไปอยู่เสียที่ไหนแล้ว” “ผมคิดว่าหลังจากนี้คงเป็นการส่งมอบข้อมูลครับ สายสืบของผมรายงานมาว่ามีคนเห็นเธออยู่ที่นิวยอร์ค” เออร์วิ่งตอบอย่างรวดเร็ว “แดเนียล ในเมื่อรู้ว่าเจ้าหัวขโมยอยู่ที่ไหนเราก็ควรจะแจ้งตำรวจให้รวบตัวแม่นั่นเสียเลยจะดีกว่า” มอโรว์รีบออกความเห็นแต่คนที่เขาให้ข้อเสนอกลับเยือกเย็นจนน่าหวาดหวั่น นัยน์ตาสีน้ำเงินอมม่วงส่องประกายวาววับราวกับมีบางอย่างแอบแฝง “เราจะยังไม่แจ้งตำรวจ เพราะถ้าเจ้าหน้าที่รัฐทราบเรื่องนี้มันจะกลายเป็นข่าวใหญ่ทันที” “แล้วคุณจะทำยังไง?” “ผมจะออกตามหาออโซลย่า เอาชิปข้อมูลกลับมาและปิดคดีด้วยตัวผมเอง!”             ดูเหมือนไม่มีผู้ใดในที่นั้นแสดงข้อกังขาต่อคำกล่าวของแดเนียล แม้เขาจะมีอายุน้อยที่สุดในทีมปฏิบัติการแต่ทายาทมหาเศรษฐีหนุ่มกลับได้รับการยอมรับมากที่สุดจากนิสัยจริงจังเด็ดขาดและความเป็นอัจฉริยะของเขา ทว่าเออร์วิ่งก็อดที่จะแสดงความกังวลออกมาไม่ได้ “คุณแดเนียล...แน่ใจหรือครับว่าคุณจะจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเองจริง ๆ “ นักสืบหนุ่มมองตรงไปยังบุรุษร่างสูงใหญ่ตรงหน้า ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเจ้าของนัยน์ตาสีน้ำเงินอมม่วงลึกล้ำนั้นดูคมเข้มน่าเกรงขามมากแค่ไหน แดเนียลยกยิ้มมุมปากก่อนตอบ “ผมอยากจัดการเรื่องทุกอย่างด้วยตัวผมเอง คุณเออร์วิ่ง ไม่เคยมีใครกล้ากระทำการอุกอาจแบบนี้ในอาณาจักรของผม โดยเฉพาะการทดลองที่เป็นปฏิบัติการลับอย่างที่สุด สาบานได้ว่าถ้าผมลากคอตัวต้นเหตุมาลงโทษไม่สำเร็จ ผมคงไม่มีวันนอนหลับได้อย่างสบายใจ เพราะนี่เป็นเรื่องที่รบกวนความรู้สึกของผมอย่างมาก” “คุณต้องการความช่วยเหลืออะไรบ้างหรือเปล่า?” เออร์วิ่งถามขณะอีกฝ่ายเลื่อนสายตาคมวับกลับไปจับจ้องบนหน้าจอแล็ปท็อป แดเนียลขบกรามก่อนเค้นเสียงหนัก “ผมขอแค่ประวัติโดยละเอียดของออโซลย่า ส่วนที่เหลือ...ผมจะจัดการเอง!”   กาแฟในถ้วยเย็นชืดไปนานแล้วและดูเหมือนว่าเจ้าของร่างระหงในเชิ้ตขาวสวมทับด้วยแจ็คเก็ตหนังเข้ารูปสีเบอร์กันดีและกางเกงลีวายส์ทรงกระบอกสีซีดจะไม่สนใจเครื่องดื่มที่มีเพียงอย่างเดียวบนโต๊ะตรงหน้านอกจากสอดส่ายสายตาคู่คมไปมาผ่านบานกระจกซึ่งมีผู้คนเดินขวักไขว่ภายนอกร้านกาแฟในมหานครอันตระการอย่างนิวยอร์ค บ่อยครั้งที่หญิงสาวผมยาวประกายน้ำตาลหม่นก้มลงมองเรือนนาฬิกาบนข้อมือทว่าก็มีทีท่าใจเย็นแม้เวลาจะล่วงมาหลายนาทีแล้ว “ขอโทษที่ทำให้คุณรอนานนะสาวน้อย” เสียงทุ้มหนักดึงความสนใจของอลินทิราจากด้านนอกบานกระจกให้หันกลับมามองร่างสูงของชายผิวสีแทนในโค้ทหนังซึ่งนั่งลงก่อนถอดหมวกแบเรต์เพื่อปัดฝุ่นออกอย่างเบามือเผยให้เห็นใบหน้าดุของบุรุษวัยเกือบสี่สิบปี “คุณมาช้าไปยี่สิบห้านาทีค่ะ เฟลรอฟ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD