ฟรานเชสโกพาพริกหวานเดินเข้ามาในห้องนอน เขากดให้เธอนั่งลงบนขอบเตียงนุ่ม ส่วนตัวเองก็ปลดเนคไทที่รัดแน่นออกอย่างเหนื่อยอ่อน ก่อนจะถอดเสื้อสูทตัวนอกพาดไว้กับเก้าอี้
พริกหวานนั่งมองใบหน้าอิดโรยของเขาด้วยความสงสารและเป็นห่วงจับใจ แม้เขาจะบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่เธอก็ดูออกว่าเขาเหนื่อยล้ามากแค่ไหนจากการจัดการเรื่องราวต่างๆ มาทั้งคืน
"เหนื่อยไหมคะ" เธอเอ่ยถามเสียงเบา พลางยื่นมือไปสัมผัสที่แก้มสากของเขาแผ่วเบา
ฟรานเชสโกหลับตาลงรับสัมผัสนั้นราวกับมันคือยาชูกำลังที่ดีที่สุด เขายกมือขึ้นกุมมือเธอไว้แล้วจูบที่ฝ่ามือ "นิดหน่อย... แต่พอเห็นหน้าเธอก็หายเหนื่อยแล้ว"
คำพูดหวานๆ ของเขาทำให้เธอหน้าแดงขึ้นมาเล็กน้อย "นั่งรอตรงนี้แป๊บนึงนะคะ"
เธอพูดจบก็รีบลุกเดินออกจากห้องนอนไปที่ส่วนครัวของเพนท์เฮาส์ เปิดตู้เย็นแล้วรินน้ำเย็นๆ ใส่แก้วอย่างรวดเร็ว ก่อนจะรีบเดินกลับมาส่งให้เขา "ดื่มน้ำก่อนนะคะ จะได้สดชื่น"
ฟรานเชสโกรับแก้วน้ำมาดื่มรวดเดียวจนหมด เขายื่นแก้วเปล่าคืนให้เธอพร้อมกับรอยยิ้มจางๆ "ขอบคุณครับ... ที่รัก"
การดูแลเอาใจใส่เล็กๆ น้อยๆ แบบนี้เป็นสิ่งที่เขาไม่เคยได้รับจากใครมาก่อน มันทำให้หัวใจที่เคยแข็งกระด้างของเขาอ่อนยวบลงอย่างง่ายดาย
"ไปอาบน้ำก่อนดีไหมคะ จะได้สบายตัว" พริกหวานพูดต่อ "เดี๋ยวหนูเตรียมชุดนอนไว้ให้"
เขาพยักหน้ารับ "ก็ดีเหมือนกัน"
ในขณะที่เขาลุกขึ้นเดินไปยังห้องน้ำ พริกหวานก็รีบไปที่ห้องแต่งตัว เลือกหยิบเสื้อยืดเนื้อนุ่มกับกางเกงนอนขายาวที่สวมใส่สบายมาวางเตรียมไว้ให้เขาบนเตียง เธอจัดหมอนและเปิดผ้าห่มรอไว้อย่างเรียบร้อย ทำหน้าที่ภรรยาที่ดีอย่างไม่รู้ตัว
ไม่นานนัก ฟรานเชสโกก็เดินออกมาจากห้องน้ำด้วยสภาพที่สดชื่นขึ้น เขาสวมเพียงกางเกงนอนที่เธอเตรียมไว้ให้ เผยให้เห็นแผงอกและกล้ามท้องที่แข็งแกร่งซึ่งยังคงมีหยดน้ำเกาะพราวอยู่
เขาเดินตรงมาที่เตียงแล้วทิ้งตัวลงนอนอย่างหมดแรง
พริกหวานรีบขึ้นไปนอนบนเตียงข้างๆ เขา ขยับเข้าไปใกล้ๆ แล้วสอดตัวเข้าไปในอ้อมแขนของเขาอย่างคุ้นเคย
"ขอกอดหน่อยนะคะ" เธอกระซิบ
ฟรานเชสโกรวบตัวเธอเข้ามากอดไว้ในอ้อมอกอย่างที่เธอต้องการ เขากดจูบลงบนผมนุ่มของเธออย่างรักใคร่ "ทั้งคืนเลยก็ได้"
พริกหวานซบหน้ากับอกกว้างของเขา รู้สึกถึงไออุ่นและความแข็งแกร่งที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยอย่างที่สุด เธอยกมือขึ้นลูบแผงอกของเขาเบาๆ
"คืนนี้... กอดหนูแน่นๆ นะคะ" เธอพูดเสียงอ้อน "หนูกลัว... กลัวว่าถ้าตื่นมาแล้วคุณจะหายไปอีก"
คำพูดของเธอทำให้เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีก "ฉันไม่หายไปไหนทั้งนั้น" เขายืนยันเสียงหนักแน่น "ฉันจะอยู่ตรงนี้... อยู่ข้างๆ เธอเสมอ"
เขาก้มลงจูบที่เปลือกตาของเธอแผ่วเบา "หลับซะนะ... คนดี... พักผ่อนได้แล้ว ไม่ต้องกังวลอะไรอีกแล้ว"
ไออุ่นจากร่างกายของเขา เสียงหัวใจที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ และอ้อมกอดที่มั่นคง... มันคือยานอนหลับที่ดีที่สุดในโลก ความเหนื่อยล้าและความง่วงที่อัดอั้นมาทั้งคืนถาโถมเข้าใส่พริกหวานทันทีที่เธอรู้สึกปลอดภัย เปลือกตาของเธอค่อยๆ หนักอึ้งลง...
"ฝันดีนะคะ... ฟราน" เธอกระซิบเป็นคำสุดท้ายก่อนจะจมดิ่งสู่ห้วงนิทราในอ้อมแขนของเขา
ฟรานเชสโกมองใบหน้าที่หลับใหลอย่างสงบของหญิงสาวในอ้อมแขน... โลกภายนอกอาจจะโหดร้ายและวุ่นวายเพียงใด... แต่ในวินาทีนี้... โลกทั้งใบของเขาได้หยุดหมุนลงตรงนี้... ที่มีเธออยู่เคียงข้าง... ที่นี่คือบ้าน... คือที่พักพิงเดียวที่หัวใจของเขาต้องการอย่างแท้จริง
แสงแดดจ้าที่ลอดผ่านม่านทึบเข้ามาในห้อง ไม่ได้รบกวนการนอนหลับของคนทั้งสองบนเตียงเลยแม้แต่น้อย พริกหวานหลับสนิทอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนในรอบหลายปี ความเหนื่อยล้าทางกายและใจที่สะสมมาทั้งคืนถูกปลดปล่อยออกไปจนหมดสิ้นในอ้อมกอดที่แสนปลอดภัยของเขา
จนกระทั่ง... "คร่อก..."
เสียงท้องร้องของตัวเองดังขึ้นมาจนน่าอาย ทำให้พริกหวานสะดุ้งตื่นขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เธอลืมตาขึ้นมาอย่างงัวเงีย สิ่งแรกที่เห็นคือแผงอกกว้างที่เธอใช้ต่างหมอนหนุนนอนมาทั้งคืน แขนแกร่งของฟรานเชสโกยังคงโอบกอดรอบเอวเธอไว้แน่นไม่ปล่อย ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของร่างกายไปแล้ว
พริกหวานค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองใบหน้าของเขาที่กำลังหลับใหลอย่างสงบ แสงแดดยามบ่ายที่ส่องกระทบใบหน้าคมคายของเขา ทำให้เขาดูอ่อนโยนลงกว่ายามตื่นหลายเท่า ขนตายาวเป็นแพ จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหยักได้รูปที่เธอได้ลิ้มลองรสชาติมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน... เขาหล่อ... หล่อจนเธอเผลอจ้องมองอยู่นานสองนาน
เธอยกมือขึ้นลูบสันกรามของเขาที่เริ่มมีไรหนวดสีเข้มขึ้นมาเบาๆ อย่างกลัวว่าจะทำให้เขาตื่น... ความรู้สึกรักใคร่และเอ็นดูเอ่อล้นขึ้นมาในหัวใจ
อดใจไม่ไหว... เธอค่อยๆ ยันตัวขึ้นช้าๆ โน้มใบหน้าลงไป แล้วกดจมูกฝังลงไปที่แก้มสากของเขาเบาๆ... ฟอด...
เธอสูดดมกลิ่นกายเฉพาะตัวของเขาเข้าเต็มปอด เป็นกลิ่นที่ทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยและอุ่นใจอย่างน่าประหลาด
ฟรานเชสโกขมวดคิ้วเล็กน้อยและขยับตัวเล็กน้อยเมื่อถูกรบกวน แต่ก็ยังไม่ตื่น พริกหวานยิ้มออกมาอย่างขบขันก่อนจะตัดสินใจว่าควรจะลุกจากเตียงได้แล้ว
เธอค่อยๆ แกะแขนที่เหมือนคีมเหล็กของเขาออกจากเอวอย่างทุลักทุเลที่สุด พยายามไม่ให้เขารู้สึกตัว เมื่อเป็นอิสระ เธอก็ย่องลงจากเตียงด้วยฝีเท้าที่เบาราวกับขนนก
พริกหวานมองสำรวจสภาพตัวเองในกระจก... ผมเผ้ายุ่งเหยิง ตาบวมเล็กน้อยจากการร้องไห้เมื่อคืน... แต่บนใบหน้ากลับมีรอยยิ้มจางๆ ประดับอยู่ตลอดเวลา
เธอรีบเข้าไปอาบน้ำชำระร่างกาย เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดอยู่บ้านสบายๆ แล้วเดินตรงไปยังห้องครัวที่เธอไม่เคยได้ใช้งานอย่างจริงจังเลยสักครั้ง
เธอเปิดตู้เย็นขนาดใหญ่ออกดู... ข้างในเต็มไปด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศจากทั่วทุกมุมโลก ทั้งเนื้อวัววากิว แซลมอนนอร์เวย์ ผักออร์แกนิกสดใหม่... ทุกอย่างถูกจัดเตรียมไว้อย่างดี
"เขาคงยังไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เมื่อคืน..." เธอพึมพำกับตัวเอง
ความคิดที่จะทำอาหารให้เขาทานผุดขึ้นมาในหัวทันที ที่ผ่านมาเธอเป็นฝ่ายรับการดูแลจากเขามาตลอด วันนี้... เธออยากจะเป็นฝ่ายดูแลเขาบ้าง
พริกหวานไม่ใช่แม่ครัวมืออาชีพ แต่พื้นฐานการทำอาหารที่ต้องดูแลตัวเองมาตลอดก็พอมีอยู่บ้าง เธอตัดสินใจทำเมนูง่ายๆ ที่คิดว่าเขาจะชอบ... สปาเก็ตตี้คาโบนาร่าสูตรต้นตำรับ กับซุปหัวหอมร้อนๆ
เธอลงมือทำอาหารอย่างคล่องแคล่วและมีความสุข เสียงหั่นผัก เสียงน้ำเดือด เสียงผัดเส้นในกระทะ กลายเป็นเสียงดนตรีที่ไพเราะที่สุดในเพนท์เฮาส์ที่เคยเงียบเหงา กลิ่นหอมของเบคอนทอด ชีส และครีมค่อยๆ อบอวลไปทั่วห้อง ปลุกชีวิตชีวาให้กับที่นี่
เมื่อทุกอย่างเสร็จเรียบร้อย เธอจัดวางอาหารลงบนจานอย่างสวยงาม ยกไปจัดไว้บนโต๊ะอาหารพร้อมกับรินไวน์แดงเตรียมไว้ให้เขา
พริกหวานยืนมองผลงานของตัวเองด้วยรอยยิ้มแห่งความภาคภูมิใจ... นี่คือมื้อแรก... ที่เธอตั้งใจทำให้ "ผู้ชายของเธอ"
ตอนนี้ก็เหลือแค่... รอให้ราชาของบ้านตื่นขึ้นมาเสวยอาหารมื้อนี้เท่านั้นเอง