“ฝนยังไม่หยุดตก แต่ในใจของแพรวา รอยสัมผัสคืนนั้นยังไม่ได้จางหายไปไหน”
“เธอไม่รู้เลยว่า…พรุ่งนี้ เธอจะต้องเจอคนที่อยู่ในฝันคืนนั้นอีกครั้ง ในแสงเช้าเดียวกัน”
พายุเช้าวันจันทร์ กับไฟที่รอระเบิด
🌤️ เช้าวันจันทร์ที่เริ่มไม่ปกติ
เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นรัว ๆ
“ติ๊ด—ติ๊ด—!”
แพรวาปัดปิดอย่างแรงจนเกือบตกจากโต๊ะ ก่อนนั่งนิ่งดั่งคนยังไม่พร้อมเจอโลก เธอสูดลมหายใจเข้าลึก พยายามดึงสติกลับมา
“วันนี้แล้วสินะ วันแรกของมอ.เทวากร”
มือเธอสั่นเล็กน้อย ไม่รู้ว่าเพราะตื่นเต้น หรือเพราะยังกลัวอะไรบางอย่างที่ตามมาจากคืนวันนั้น
เธอรีบอาบน้ำ แต่งตัวเรียบร้อย รวบผมเป็นหางม้าเรียบ เคร่งระเบียบตามสไตล์เด็กทุน ชุดนักศึกษาที่เหมือนธรรมดา แต่พออยู่บนเธอ มันกลับดูเรียบร้อยแบบดื้อ ๆ อย่างประหลาด
“ยัยแพรวา สู้” เธอยิ้มใส่เงาในกระจก แม้หัวใจจะเต้นแรงจนแทบหลุดออกมานอกอก
แม่ทำข้าวต้มร้อน ๆ ให้
“กินก่อนนะลูก วันนี้วันแรก ขอให้ผ่านไปได้ดี”
แพรวากินไม่ค่อยลง แต่ฝืนยิ้ม
“หนูจะไม่ทำให้แม่ผิดหวังค่ะ”
เธอไม่รู้เลยว่าวันนี้ มีคนอีกคนที่ “ไม่ยอมให้เธอหายไปจากหัวเขา” เหมือนกัน
🚌 ทางไปมหาลัยที่เริ่มมีบางอย่างผิดปกติ
รถเมล์จอดหน้า มอ.เทวากร ตึกหินอ่อนสูงสง่า โลโก้สีทองสะท้อนแดดเช้าอย่างอลังการ
แพรวามองรอบ ๆ ด้วยความประหม่า เสียงกระซิบจากทุกทิศทำให้ไหล่เธอตึง
“นั่นแหละ เด็กทุนคนใหม่”
“ได้ข่าวว่าสอบได้ 100 เต็ม?”
“บ้านไม่รวยแต่สวยนะเว้ย”
แพรวาก้มหน้า เก็บสมาธิไว้กับลมหายใจตัวเอง
แต่เสียงเครื่องยนต์คำราม “วืด!” ดังแหวกอากาศมาจากด้านหลัง
รถสปอร์ตสีดำเงาแล่นผ่านเธออย่างรวดเร็ว ลมแรงจนเอกสารในมือปลิวว่อน
“เฮ้ย!” เธอก้มเก็บแทบไม่ทัน
มือใหญ่คู่หนึ่งยื่นลงมาช่วย
“ค่อย ๆ ครับ เดี๋ยวผมช่วยเก็บครับ”
แพรวาเงยหน้า พบกับรอยยิ้มอบอุ่นของผู้ชายผิวขาวจัด ใบหน้าคมละมุนเกินกว่าจะอยู่คณะบริหารแบบคนอื่นทั่วไป
“ผมชื่อ กันเองครับ ยินดีที่ได้รู้จัก”
เธอยิ้มตอบ
“แพรวาค่ะ เด็กทุนใหม่”
“อ้อ! คนที่สอบได้ 100 เต็ม?” เขายิ้มอ่อนโยน “เก่งมากเลยครับ”
ยังไม่ทันที่เธอจะตอบ
เสียงปิดประตูรถ ปัง! ดังขึ้นจากด้านหลัง
รอบตัวเหมือนถูกดึงให้เงียบลงโดยอัตโนมัติ
ใครบางคนลงจากรถ
ผู้ชายร่างสูง เสื้อลินินขาวพับแขน ดวงตาคมเฉียบเหมือนใบมีด เขาไม่มองใคร แต่มุมปากยกขึ้นนิด ๆ อย่างรู้ว่ามีคนกำลังจับตามอง
แพรวาแทบลืมหายใจ
… เพลิงทิวา
คนที่เธอพยายามไม่คิดถึง แต่กลับคิดถึงทุกคืน
คนที่ใบหน้าเขาวนในหัวจนเธอแทบไม่ได้นอนเมื่อคืน
กันเองกระซิบ
“เพื่อนผมเองครับ อย่าถือสา มันดูนิ่ง ๆ หน่อย”
นิ่งเหรอ…?
สายตาที่เพลิงกวาดมามองเธอเมื่อครู่ มันไม่ใช่นิ่งเลย
มันคือสายตาของคนที่ “จำเธอได้” และไม่คิดปล่อยให้หลุดรอดไปอีกครั้ง
หัวใจเธอสั่นแบบควบคุมไม่ได้
ทั้งอาย ทั้งตกใจ ทั้งโวยวายในใจว่าไม่อยากเจอเขาอีก
แต่ร่างกายเธอกลับตอบสนองเหมือน “อยากรู้ว่าเขาจำอะไรได้บ้าง”
⭐ จุดแตกหัก
รดาโผล่มา
“ยัยเด็กทุน! วันแรกก็ซุ่มซ่ามซะแล้วนะ!”
แพรวาเถียงกลับแบบอารมณ์ขึ้นง่ายผิดปกติ
กันเองมองงง ๆ ทุกอย่างเหมือนปกติ
จนเด็กปี 2 วิ่งมาชนเธอ ปึ้ง! กล่องซูชิหลุดมือหมุนกลางอากาศ แล้วตกใส่หัวใครบางคน โป๊ก!
โถงเรียนเงียบทั้งชั้น
เพลิงลูบหัวตัวเอง แล้วเงยหน้าขึ้นมาจ้องเธอตรง ๆ
แพรวาหน้าชา เสียงเริ่มสั่น
หัวใจเต้นผิดจังหวะราวกับหล่นจากชั้นสิบ
เพลิงพูดเสียงเรียบ
“ใครมันโยน?”
รดารีบโค้ง “เพลิง ขอโทษ! อุบัติเหตุนะ!”
แต่แพรวาตอบกลับ แบบไม่รู้เอาความกล้ามาจากไหน
“เราก็ขอโทษแล้วไง! นี่นายจะอะไรนักหนา?!”
เด็กทั้งคณะหายใจไม่ออก
และเพลิงยิ้มมุมปากนิดเดียว เหมือนเขากำลังเห็นอะไรที่ ‘เขาชอบมาก’
เขาก้าวเข้ามา หนึ่งก้าว สองก้าว
จนหน้าเขาใกล้เธอเสียจนเธอจะถอยก็ถอยไม่ได้แล้ว
“นี่เธอ เราเคยเจอกันมาก่อนไหม?”
คำถามนั้นเหมือนปลายมีดกรีดลงกลางหัวใจ
เธอหันหนี สะบัดเสียง
“ไม่เคย!”
แต่เพลิงก้มมาข้างหู
ลมหายใจเขากระทบแก้มเธอจนรู้สึกวูบ
“แน่ใจเหรอว่าจำไม่ได้? คืนที่คอนโดฉัน เธอยัง—”
เขายกนิ้วแตะริมฝีปากเธอ เบา ๆ
แต่ร้อนวาบจนเธอแทบทรุด
แพรวาหลบสายตา รีบลากรดาออกไป
“ไปดา!”
เพลิงมองตาม ดวงตาเขาคม หยุดนิ่ง
เหมือนจะเก็บทุกอารมณ์บนหน้าเธอไว้ในหัวทีละเสี้ยววินาที
และนั่นคือจุดที่ “เขาตัดสินใจแล้วว่าเขาจะไม่ปล่อยเธออีก”
🔥 เมื่อเพลิงไม่คิดจะรออีกต่อไป
หลังคณะบริหารในช่วงสายเงียบผิดปกติ
ไม่มีใครใช้เส้นนี้ ยกเว้นคนของตระกูลเทวากร
แพรวาเดินลัดมาตรงทางเดินแคบเพื่อไปห้องน้ำ
เธอกำลังหายใจแรง เพราะเหตุการณ์เมื่อครู่ยังทำใจไม่ทัน
แต่ยังไม่ถึงสิบก้าว เสียงฝีเท้าแน่นหนักดังขึ้นด้านหลัง
กึก…
กึก…
กึก…
ไม่ต้องหันก็รู้ว่าเป็นใคร
กลิ่นน้ำหอมโทนไม้ของเขายิ่งยืนยัน
เธอหันกลับอย่างรวดเร็ว
เพลิงยืนพิงกำแพง รออยู่เหมือนรู้เวลาเธอจะเดินมาพอดี
ดวงตาเขายังเหมือนเดิม นิ่งเฉียบ แต่จุดลึก ๆ ข้างในเดือดร้อนจนแทบกลืนเขาไปทั้งคน
“ นายตามฉันมาเหรอ?”
เพลิงไม่ตอบ
เขาเพียงเดินเข้ามา ทีละก้าว ทีละก้าว
จนเธอต้องถอยหลังเองโดยไม่รู้ตัว
แผ่นหลังชนกำแพงเบา ๆ
หัวใจเธอเต้นแรงจนแทบได้ยิน
เพลิงก้มลงใกล้
เสียงเขาแผ่วต่ำเหมือนควันไฟลอดผ่านฟัน
“ฉันถามอะไรเธอหลายอย่าง แต่เธอไม่ตอบสักอย่าง”
แพรวากลืนน้ำลาย
“น…นายไม่มีสิทธิ์ตามฉันนะ”
เขายิ้มมุมปาก
“งั้นเธอไม่ควรจูบฉันคืนนั้น ถ้าไม่อยากให้ฉันตามหาเธอ”
หน้าแพรวาร้อนวาบ
“พะ–พอได้แล้ว! ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำ”
เพลิงยกมือขึ้น
วางบนกำแพงเหนือศีรษะเธอ
โอบระยะไว้แบบไม่แตะตัว แต่ทำให้เธอหนีไม่ได้
เขาไม่กักเธอ
แต่ อารมณ์เขากักพื้นที่ทั้งทางเดินไว้หมดแล้ว
“จำไม่ได้?” เขากระซิบใกล้แก้ม
“งั้นทำไมเธอถึงสั่นตอนฉันพูดถึงมัน”
แพรวารู้สึกได้เลยว่าหน้าตัวเองซีดแล้วแดงสลับกันไปหมด
เพลิงค่อย ๆ เลื่อนมืออีกข้างขึ้นมาจับปลายคางเธอเบา ๆ
“ฉันไม่แตะเธอถ้าเธอไม่ต้องการ แต่เธออย่ามองฉันแบบนี้”
“มองแบบไหน?”
เขาก้มลงจนริมฝีปากห่างกันแค่ลมหายใจ
“แบบที่ทำให้ฉันอยากจูบเธอที่นี่ จนลืมว่ามีคลาสเรียนต่อ”
แพรวาหอบเบา ๆ ทั้งที่ยืนนิ่ง
“ฉัน ไม่ได้”
เขาแตะหน้าผากกับเธอ
ลมหายใจสองคนกระทบกันร้อนจัด
“ถ้าไม่ต้องการ แค่บอกว่าไม่”
ความเงียบกดทับจนเธออยากร้องไห้ ไม่ใช่เพราะกลัว
แต่เพราะไฟในอกมันกำลังจะพุ่งออกมาจากสายตาของเขา
ในที่สุดเธอก็เผลอพูดออกมาเบา ๆ
“ฉันไม่ได้บอกว่าไม่”
เพลิงหยุดนิ่งหนึ่งวินาที
ก่อนจะยิ้มช้า ๆ แบบอันตรายที่สุดเท่าที่เธอเคยเห็น
เขาจูบเธอ ปากเข้าประกบเข้าปากเธออีกครั้ง และครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 จูบที่ลึกซึ้ง ดูดดื่ม ช้าๆ ค่อยๆ เป็นค่อยๆ ไป
แต่แรงพอทำเอาจนหัวใจเธอเหมือนตกเหว
มือเขาวางที่เอวเธอ
ดึงเธอเข้าใกล้จนลมหายใจทั้งร่างผสมกัน
ไฟในตัวเขาเหมือนระเบิดออกชัดเจนในแรงจูบนั้น
แพรวากำเสื้อเขาเหมือนพยุงตัว
เพลิงขยับริมฝีปากตามจังหวะหอบของเธอ
ความร้อนพุ่งขึ้นจนหัวเธอว่างเปล่าไปชั่วขณะ
เขาผละออกเพียงนิดเดียว
เสียงเขาแหบพร่า
“วันนี้ เธอต้องคุยกับฉันให้รู้เรื่อง”
แพรวาตอบไม่ออก
ทำได้แค่จ้องเขาทั้งที่ลมหายใจยังสั่น
เพลิงยกนิ้วลูบแก้มเธอแผ่ว ๆ
“ฉันจะไม่ให้เธอหนีอีกแล้ว…แพรวา”
เสียงทุกอย่างรอบตัวเหมือนหายไป เหลือเพียงความอุ่นที่ซึมลึกจนถึงหัวใจ ไม่ใช่แค่คลายความกลัว แต่เหมือนยืนยันเงียบ ๆ ว่า เขาอยู่ตรงนี้
“เพลิง…” เสียงแพรวาเบาจนแทบไม่มีเสียง แต่เพลิงหันมองทันที ดวงตาคมจ้องตรงมาที่ตาเธอ เหมือนเธอโดนมนต์สะกดไว้
ฝ่ามืออุ่น ๆ ลูบไล้ตามแขนจนเธอขนลุก เพลิงโน้มตัวเข้ามา ใช้มือหนึ่งข้างจับไปที่หน้าอกเธอ อีกหนึ่งข้างจับที่สะโพกเธอ กระแทกเบา ๆ แล้วค่อยเพิ่มระดับการกระแทกขึ้นเรื่อย ๆ ตามระดับความสุข เธอหลับตาช้า ๆ ปล่อยให้ความรู้สึกพาไป “เพลิง…เบาหน่อยได้ไหม ฉันจะเสร็จก่อนนายนะ เดี๋ยวไม่ได้ท่าอื่น” เพลิงตกใจกับคำพูดของเธอที่เธอกล้าเผยความเป็นตัวเธอออกมาชัดเจน
เพลิงก็ต้องปล่อยความเป็นตัวเองออกมาเหมือนกัน
“ได้ ๆ เดี๋ยวฉันจัดเบาให้ฉันก็กล้วไม่เสร็จเหมือนกัน”
แพรวาส่งเสียงคางเบา ๆ “อื้ม ๆ ๆ อ้า~ ๆ เอานาน ๆ นะเพลิง” เพลิงอุ้มแพรวาไปนั่งที่โต๊ะทำงานในห้องส่วนตัวของตึกบริหาร เขาจับเธอนั่งตรงกลางโต๊ะจับเธอคว่ำลงกับโต๊ะ หน้าอกเธอแนบกับโต๊ะไม้ และหันหลังให้กับเพลิง เพลิงใช้มือจับสะโพกของเธอสองข้างกระแทกเบา ๆ
“โอ้ย ๆ ๆ อ้า ~ ~ เพลิงเอาอีก เอาแรงกว่านี้”
“ได้ ๆ เดี๋ยวฉันจัดให้นะยัยเด็กทุน” เขาสองคนมีความสัมพันธ์กันอย่างมีความสุขในคืนนั้น เพียงกลิ่นสะอาดคุ้นเคยของเขา กับอากาศเย็นที่หายไปรอบตัว เหลือแค่เขาเท่านั้น
มือที่เคยจับหลังมือ เลื่อนขึ้นมาประคองไหล่กับต้นคอเธออย่างมั่นคง อ่อนโยนแต่มีแรงในตัว เหมือนย้ำว่าเขาจะไม่ปล่อย
หัวใจแพรวาเต้นแรงจนแทบหลุดจากอก ความอุ่นซ่านไปทั่ว ยิ่งชัดเมื่อเขาโน้มลงจนปลายจมูกเกือบแตะกัน
ความเงียบดังที่สุดในวินาทีนั้น ทุกอย่างกลายเป็นความลับในความมืดที่มีเพียงเธอกับเขา
และวันนั้น แพรวาหลับไปพร้อมความอุ่นที่ซึมลึก ไม่ใช่แค่ทำให้ความกลัวหายไป แต่คือความรู้สึกที่เธอรู้ว่าจะไม่มีวันลืม
🔥 กลับสู่โถงคณะ – ไฟยังไม่จบ
เธอกลับเข้าโถงคณะพร้อมหน้าแดงจัด
รดาเห็นก็แทบกรี๊ด
“แกไปโดนแดดที่ไหนมาวะ?! หน้าแดงเหมือนโดนอบไอน้ำ! ดูเสื้อผ้าเธอสิ ไปแอบหลับที่ไหนมาเนี่ย”
แพรวารีบก้มหน้า
“เปล๊า ไม่มีอะไร!”
กันเองเดินเข้ามาพอดี ยิ้มให้อย่างสุภาพ
แต่สายตาเพลิงที่เดินตามเข้ามา ไม่ได้สุภาพเลย
เขามองแพรวาเหมือนคนที่ “รู้แล้ว” ว่าไฟในอกเธอลุกไหม้แค่ไหนเมื่ออยู่ใกล้เขา
กันเองเอ่ยถาม
“เจอกันอีกแล้วนะครับแพรวา”
เพลิงปรายตามองกันเอง
สายตานั้นคมกริบ เย็นเฉียบ
และหึงจนเดือดแบบไม่ปิดบัง
แพรวาได้แต่ยืนตัวเกร็ง หัวใจเต้นดังอยู่ในหู
เพราะเธอรู้ ไฟที่เขาปล่อยไว้หลังตึกเมื่อครู่
มันยังไม่ได้ดับเลย
และวันนี้
บางอย่างจะต้องเกิดขึ้นแน่นอน 🔥💋👉