ณ เชียงใหม่
บ้านไม้ใต้ต้นลำไยของยาย 🌳
แพรวานั่งแกว่งขาอยู่บนขั้นบันได ยายเด็ดผักบุ้งใส่ตะกร้า กลิ่นดินชื้นหลังฝนตกทำให้บรรยากาศสดชื่น
จู่ ๆ โทรศัพท์ของยายก็ดังขึ้น 📞
ยายมองแล้วยิ้ม “แม่แกโทรมาน่ะแพรวา”
แพรวารีบรับ “ฮัลโหลแม่ เป็นไงคะ?”
เสียงแม่ดังแบบตื่นเต้นสุด ๆ
“แพรวา! แม่กับพ่อจะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นนะลูก แม่อยากให้แพรวากลับมาอยู่ด้วย มาเรียนที่กรุงเทพด้วยกัน”
แพรวาชะงัก ก่อนยิ้มกว้าง
“จริงเหรอแม่!? หนูจะได้ไปกรุงเทพจริง ๆ เหรอ!?”
พ่อพูดแทรก “จริงสิลูก พ่อกับแม่อยากให้แพรวามานะลูก”
ตาแพรวาเป็นประกายทันที เธอโผเข้ากอดยายแน่น “ไปเถอะลูกยายอยู่ได้ แพรวาต้องไปเรียนมีอนาคตดี ๆ ของตัวเองนะ”
เมื่อย้ายมาอยู่กรุงเทพ ร้าน “แพราวาอาหารญี่ปุ่น” เปิดได้หนึ่งเดือนทุกอย่างยังวุ่นวายแต่เต็มไปด้วยความสุข กลิ่นน้ำซุปดาชิ ข้าวปั้น และเสียงหัวเราะของแม่คือสิ่งที่แพรวาคุ้นเคยมาตลอด
“แพรวา” อายุ 22 ปี เด็กสาวผมยาว ผิวขาวอมชมพู หน้าตาน่ารัก เธอชอบใส่เสื้อยืดผ้าธรรมดา แววตาเธอเป็นคนเด็ดขาด ฐานะเธอไม่ได้จน แต่พอมีพอกินและก็ไม่ได้รวย ชีวิตของเธอผ่านคำว่า “อดมื้อกินมื้อ” มาเยอะ
พ่อเธอเคยเป็นผู้ช่วยเซฟชื่อดังในต่างประเทศ แต่กลับบังเอิญไปมีเรื่องกับแก๊งมาเฟียในต่างประเทศเลยต้องลาออกกลับมาอยู่ที่ไทย
ส่วนแม่เธอเป็นแม่ค้าขายของชำ พ่อกับแม่ของเธอบังเอิญได้เจอกัน ได้รักกัน ทั้งสองคนได้ทำงานหาเงินอย่างหนัก ทั้งคู่ตัดสินใจกัดฟันสู้ที่จะเปิดร้านอาหารญี่ปุ่นเล็ก ๆ ชื่อ “แพรวาอาหารญี่ปุ่น” หลังจากเก็บเงินกันมาหลายปี และมีตัวน้อย ๆ อยู่ในท้องและนั้นคือ แพรวา
แพรวาโตมากับเสียงสับเขียงของแม่ ที่แม่มีความสุขกับการทำอาหารอยู่ในครัว ทุกเย็นหลังเลิกเรียน เธอจะกลับมาล้างจาน เสิร์ฟอาหาร เก็บโต๊ะ พอมีเวลาว่างก็ไปรับงานแปลภาษา งานพาร์ตไทม์ ร้านกาแฟ เรียกได้ว่าทำได้ทุกอย่างที่ได้เงิน
เธอพูดน้อย พูดคม แต่ถ้าได้สนิทกับใคร เธอจะเป็นคนพูดมากคนหนึ่งเลยทีเดียว เธอจิตใจดี แต่ไม่ยอมคน ใครดีมาดีกลับ ใครร้ายมาร้ายกลับ และเตรียมรับแรงกระแทกกลับได้เลย
ชีวิตเธอไม่มีอะไรให้เสียอยู่แล้ว เพราะสิ่งที่เธอมีคือ “ความฝัน” กับ “ครอบครัว” เท่านั้น
วันหนึ่ง.. เธอกำลังยกของช่วยแม่อยู่หลังร้าน เธอเหงื่อซึมเล็กน้อย แต่ยังยิ้ม เพราะนี่คือสิ่งที่เธอทำมาตั้งแต่เด็ก
ในขณะนั้นเอง เสียงหวานใสดังขึ้นจากด้านหลัง
“พี่คะ ๆ ขอซื้อน้ำเปล่าหน่อยค่ะ”
แพรวาสะดุ้ง “คะ ๆ ได้ค่ะ! รอสักครู่นะคะ!”
เธอก็ได้เจอกับ “รดา” โดยบังเอิญ เธอเป็นสาวสวยในชุดเดรสขาว กระเป๋าแบรนด์หรู แต่เธอมีอะไรบ้างอย่างที่ดึงดูดสายตาของแพรวาให้มองเธอโดยไม่ละสายตา จากเสียงหวาน ๆ กับรอยยิ้มสวย ๆ ที่ไม่ถือตัว ทำให้แพรวาเผลอยิ้มตอบแบบงง ๆ
เธอคือ “รดา” ลูกสาวไฮโซตระกูลใหญ่ เจ้าของธุรกิจโรงแรมและผับหลายแห่งทั้งในไทยและต่างประเทศ และมีพี่ชายหนึ่งคนชื่อ ธารา กำลังเรียนบริหารธุรกิจอยู่ต่างประเทศ ครอบครัวของรดาไม่ค่อยถือตัว ชอบช่วยเหลือสังคม ไม่แบ่งชนชั้น
หลังจากวันนั้น ทั้งคู่ก็ได้ติดต่อ พูดคุยกัน ปรึกษาปัญหากันบ้าง ไปเที่ยวบ้างถ้ามีเวลาว่างตรงกัน จากแค่เรื่องน้ำเปล่าไปถึงเรื่องราวในชีวิตของแพรวาและของรดา จนสุดท้ายทั้งสองคนก็กลายเป็นเพื่อนสนิทกันโดยไม่รู้ตัว
“เธอทำงานเยอะขนาดนี้ไม่เหนื่อยเหรอ?”
“เหนื่อยสิ แต่ก็ต้องทำอะ ไม่อยากลำบากพ่อกับแม่และอีกอย่างถ้าไม่ทำร้านพ่อแม่ฉันก็ไม่น่าจะรอด”
“โห เธอนี่สุดยอดเลยอ่ะ ฉันโตมาขนาดนี้ยังไม่เคยล้างจานเองเลยนะ”
“อยากลองมั้ยละ ฉันใจดีนะ เดี๋ยวให้ล้างฟรี ๆ”
“บ้านะ ฮ่า ๆ ฉันแค่พูดเล่น! 🤣”
“แต่ฉันเอาจริงนะ บอกเลย 😏”
จากวันนั้น “รดา” ก็กลายเป็นเพื่อนสนิทคนแรก ที่มีฐานะแตกต่างกัน ทั้งสองสาวนิสัยต่างกันสุดขั้ว คนหนึ่งลูกคุณหนูไฮโซ อีกคนลูกชาวบ้านธรรมดาทั่วไป แต่พวกเธอสองคนกลับคุยกันรู้เรื่อง รดาเป็นคนทเล้นชอบแซว ชอบหยอก ชอบชวนแพรวาออกไปเที่ยว ส่วนแพรวาก็ขี้บ่นแต่ก็ตามใจเพื่อนทุกทีไม่เคยปฏิเสธรดาเลยแม้แต่ครั้งเดียว
วันหนึ่ง ทั้งคู่ไปเดินเล่นที่ห้างใกล้ มอ.เทวากร มหา’ลัยชื่อดังที่ใคร ๆ ใฝ่ฝันอยากเข้าเรียนเพราะจบมามีงานทำทันที เพราะมีบริษัท ห้างร้านต่าง ๆ รองรับเด็กที่จบจากสถาบันนี้มากมาย
“อ่อ รดา ๆ นั่นมอ.เทวากรที่เธอเรียนอยู่นี่ใช่มั้ย!” แพรวาทำตาโต
“ใช่จ้า ทำไม อยากเข้าเหรอ ฉันช่วยเธอได้นะ แต่เดี๋ยวเธอก็ปฏิเสธฉันอีกแน่”
“เธอนี่รู้ใจฉันจังเลย คุณหนูรดา 😏”
“ฮึ ฉันลืมบอก! ช่วงนี้มอ.มีโครงการสอบชิงทุน ‘เรียนเด่น เรียนดี’ รับแค่คนเดียว คนที่สอบได้คะแนนสูงสุดเพียงคนเดียวเท่านั้น”
“หืม แบบนี้สิค่อยท้าทายสำหรับคนอย่างฉันหน่อย”
“เออสิ ต้องแบบนี้ถึงจะเหมาะกับเธอ ยายแพรวาจอมดื้อ!”
“พอกลับถึงบ้านฉันจะรีบไปสมัครเลย”
“ใช่ ๆ ต้องรีบแล้วเพราะว่าวันนี้ เปิดรับวันสุดท้ายจ้า”
“ฉันจะทันไหมเนี้ยแกร่?”
“ทันสิ! ฉันเชื่อว่าเธอต้องได้!”
“ขอบใจนะ รดา ฉันจะลองดู!”
“ถึงแล้วครับคุณหนู” เสียงคนขับรถดังขึ้น
รดาหันมายิ้ม “ไปกันต่อเลยมั้ย?”
“ไปสิจ้า รออะไรละ เดี๋ยวฉันถือถุงช่วยเธอเอง”
“ดีมากจ้าาาาาาา”
ทั้งคู่เดินช็อปจนหมดแรง
ระหว่างทางกลับไปส่งแพรวาที่บ้าน รดาหันมาถาม “เย็นวันศุกร์นี้เธอว่างมั้ย”
“ว่างสิ ถ้ามีของกินฟรี เข้าฟรี ไม่เสียตังฉันว่างเสมอ 😎”
“จ้าาา แพรวาจอมงก ก็วันศุกร์นี้วันเกิดฉันไง อย่าบอกนะว่าลืม!”
“เอ่อ.. ใช่ ฉันลืมจริง ๆ 😅”
“แพรวา!!”
“ล้อเล่นหน่าาา ใครจะลืมวันเกิดเพื่อนสนิทได้ล่ะ!”
“เออดีมาก ฉันว่าฉันจะจัดงานวันเกิดที่ผับร้านของที่บ้านฉัน อยู่ใกล้ ๆ มอ.เทวากร เธอต้องไปนะ ห้ามเบี้ยว!”
“โอเค ฉันก็ต้องไปสิ งานวันเกิดเพื่อนฉันทั้งคนนะ แต่ว่าชุดฉันคงจะธรรมดาทั่วไปนะรดา ฉันไม่มีชุดหรูไฮโซแบบเธอแน่”
“ไม่เป็นไร เดี๋ยวฉันพาไปเลือกชุดที่บ้านฉัน เธออยากได้ตัวไหนเอาไปได้เลยฉันให้!”
“นี้สิ เพื่อนฉันขอบใจเธอมากนะ คุณหนูรดา”
“เธอนี่มันร้ายกาจจริง ๆ 😆”
ช่วงเย็นวันนั้น รดาไปส่งแพรวาถึงหน้าร้าน
“ขอบใจนะ กลับดี ๆ ล่ะ” แพรวาพูดแหย่ พรางหันหน้าไปหาพี่คนขับรถ
“ขัดคำสั่งไปเลยนะคะคุณน้า”
“นี่เพื่อนหรือแม่คนที่สองเนี้ย ได้จ้ารับทราบคะ ไว้เจอกันงานวันเกิดฉันนะ อย่าเบี้ยวนะ!”
“จ้า ๆ 😏”
คืนวันนั้นแพรวาเปิดเว็บมอ.เทวากร เหลือเวลาสมัครไม่ถึงชั่วโมง เธอรีบกดสมัครสอบชิงทุนในวินาทีสุดท้ายก่อนหมดเวลา
“ฉันจะต้องทำให้ได้..เพื่อครอบครัว เพื่ออนาคตของฉันเอง”
เช้าวันพฤหัสบดี
เหมือนท้องฟ้าจะเป็นใจ รถเมล์สายเดิมจอดเทียบป้ายหน้าเทวากร แพรวาสูดลมหายใจเข้าลึก ๆ ก่อนก้าวลงจากรถ อากาศยามเช้าเย็นสบาย แต่หัวใจเธอเต้นแรง
นี่แหละ จุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ของฉัน
เธอเดินเข้าไปในรั้วมหา’ลัย สายตากวาดมองรอบ ๆ ต้นไม้เขียวขจี อาคารหรูหราจนแทบไม่กล้าเหยียบพื้น แต่เธอไม่ยอมถอย
“เอาวะ ยายแพรวามาถึงขนาดนี้แล้ว ถอยไม่ได้ละ” เธอพึมพำกับตัวเองก่อนเดินไปจุดลงทะเบียนสอบ
รายชื่อผู้เข้าสอบขึ้นเต็มบอร์ด เธอหารายชื่อของเธอ และกวาดสายตาไล่หาไปตามลำดับจนไปหยุดตรงลำดับที่ 200 เธอเป็นคนสุดท้ายพอดี
แพรวาเผลอขมวดคิ้ว
“ห๊า! สองร้อย เยอะเกินไปมั้ยวะเนี้ย!”
แต่สุดท้ายก็หัวเราะเบา ๆ
“เอาเถอะ คนที่ต้องได้คือต้องได้”
สามชั่วโมงของการสอบผ่านไป
เสียงสัญญาณเตือนหมดเวลาสอบดังขึ้น เธอลุกขึ้นเดินไปส่งกระดาษคำตอบด้วยท่าทางที่มั่นใจ
ตอนกลับบ้าน แพรวาเล่าให้พ่อแม่ฟังอย่างตื่นเต้น
“ข้อสอบแอบยากอยู่นะแม่ แต่หนูว่าหนูทำได้แน่นอนหนูมั่นใจค่ะ”
“แม่รู้ว่าลูกแม่ทำได้อยู่แล้ว” แม่ยิ้ม
พ่อมองลูกสาวอย่างภูมิใจ “ลูกพ่อคนนี้เก่งที่สุดแล้ว”
ครอบครัวนั่งกินข้าวเย็นด้วยกันอย่างมีความสุข อยู่ภายในร้านของพวกเขา ไม่มีใครรู้เลยว่า..หลังจากนี้
ชีวิตของ “แพรวา” กำลังจะเปลี่ยนไปตลอดกาล 🤭