"แกเล่ามาเดี๋ยวนี้เลยนะว่ารุ่นพี่ที่เดินเข้ามาหาแกที่โรงอาหารเมื่อตอนเที่ยงเป็นใคร ดูเหมือนพี่เขาจะรู้จักแกเป็นอย่างดีเลยนะ ทำไมพวกฉันสองคนถึงไม่เคยเห็นพี่เขามาก่อนแกมีอะไรปิดบังพวกฉันสองคนหรือเปล่า" วันนี้อาจารย์ยกคลาสช่วงบ่ายสบโอกาสให้พวกฉันสามคนมานั่งเล่นกันที่โต๊ะเดิมในสนามหญ้า และกำลังจะกลายเป็นโต๊ะประจำของพวกฉันในอีกไม่ช้าเพราะความร่มรื่นของต้นไม้ ฉันหย่อนก้นลงนั่งไม่ถึงสองนาทีคำถามชุดใหญ่จากข้าวปุ้นก็ผุดขึ้นเป็นดอกเห็ดจนแทบหายใจไม่ทันตามคนถาม
"แกหายใจทางเหงือกหรือไงข้าวปุ้นถึงได้ถามแบบลืมหายใจขนาดนี้" ฉันแกล้งพูดแหย่ข้าวปุ้นเพื่อเบรคคำถามยาวเหยียดไว้เสียก่อนที่จะลืมว่าเพื่อนถามอะไรไปบ้าง
"แกไม่ต้องมาเปลี่ยนเรื่องฉันก็อยากรู้ว่าไอ้รุ่นพี่นั่นเป็นใคร หน้าพี่เขาดูไม่น่าไว้วางใจมีเล่ห์เหลี่ยมเหมือนพวกมิจจี้ท่าทางมาไม่ดี ฉันอยากรู้มากเลยตอนนี้ว่าแกไปเจอพี่เขาได้ยังไงทำไมไม่ผ่านสายตาของพวกฉันสองคน" กวินท์กับข้าวปุ้นทำงานเข้าขากันเป็นอย่างดียิงถามรัวจนไม่เปิดโอกาสให้ฉันได้พูดแทรกเพื่อตอบคำถามฉันมองหน้าสองคนนั้นอย่างขำๆกับท่าทางกระตือรือร้นอยากรู้เต็มประดา
"โอ๊ย..พวกแกเนี่ยเล่นถามรัวขนาดนี้ไม่คิดจะเว้นช่องไฟให้ฉันตอบคำถามบ้างเลยหรือไง นัดการมาปะเนี่ย" ฉันถอนหายใจยาวๆดูสายตาสองคู่เพื่อนซี้นั่งจ้องหน้ากดดันยิ่งกว่าเล่นเกมส์โชว์ตอบคำถาม
"ก็รีบเล่ามาสักทีสินี่ฉันก็อยากรู้ใจจะขาดอยู่แล้วเนี่ย" ดูจากใบหน้าและอาการก็รับรู้ได้ว่าข้าวปุ้นและกวินท์ตั้งใจฟังมากแค่ไหนและรอคำตอบใจจดใจจ่อ
"พวกแกสองคนจำวันที่เราไปซ้อมรถวันนั้นได้ไหม แล้วฉันก็เล่าให้พวกแกสองคนฟังว่ามีคนมาอวดเบ่งอวดเก่งจนฉันอยากไปวัดฝีมือและเป็นฝ่ายเอาชนะอย่างฉิวเฉียด" ฉันจ้องหน้าเพื่อนรักทั้งสองของฉันนิ่งๆแล้วเริ่มเล่าเกริ่นเรื่องในสนามวันนั้นให้เพื่อนสองคนนั่งคิดภาพตามไปด้วย
"อย่าบอกนะว่าเป็นคนเดียวกันกับเมื่อตอนเที่ยง"
กวินท์หัวไวเข้าใจได้ในทันทีก่อนจะถามย้ำเพื่อความมั่นใจ
"อืม" ฉันพยักหน้าและตอบเพียงสั้นๆ
"แล้วพี่เขาตามมาหาแกทำไมอย่าบอกนะว่าแพ้แล้วพาลเลยตามมาตอแยกับแก" ฉันก็คิดอย่างเดียวกันกับที่ข้าวปุ้นคิด และฉันก็ไม่ชอบให้ใครเข้ามาวุ่นวายกับฉันถ้าไม่ใช่พี่ชายกับเพื่อน ฉันแทบจะไม่ไปยุ่งเกี่ยวกับใครให้โลกของฉันต้องวุ่นวาย
"ฉันว่าไม่น่าจะใช่มันอาจมีอะไรมากกว่านั้นก็ได้ ฉันคิดว่าแกต้องระวังตัวให้ดีๆ ฉันดูสายตาพี่คนนั้นออกว่ากำลังสนใจแกอยู่ไม่น้อย และคิดว่าพี่เขาคงไม่หยุดลงแค่นี้" ฉันนั่งคิดตามสิ่งที่กวินท์พูดออกมาถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงฉันจะรับมือพี่คนนั้นยังไง ฉันเกลียดการที่มีคนพยายามจะเดินเข้ามาในโลกของฉันมากที่สุด เพราะนั่นมันหมายถึงความเรียบง่ายความสงบสุขของฉันกำลังจะหายไปทันที แต่มีอยู่คนหนึ่งที่พยายามล้ำเส้นเดินเข้ามาอยู่ในโลกของฉันถึงแม้จะพยายามไล่เท่าไหร่กลับทำเป็นไม่สนใจไม่ยอมไปสักที แรกๆฉันก็รำคาญและเบื่อหน่ายหลังๆฉันคงจะชินเพราะฉันเองไม่ได้หงุดหงิดปล่อยให้เข้ามาป่วนได้เกือบทั้งวัน และฉันก็ดันเป็นคนชอบเอาชนะความพยายามของพี่เขาด้วยสิ ฉันเริ่มสับสนในตัวเองและคิดว่าฉันกำลังโดนพี่ติวเตอร์ละลายพฤติกรรมบางอย่างไปจนสูญเสียความเป็นตัวเอง
"หญ้าหวาน...หญ้าหวาน" ฉันสะดุ้งเฮือกหลุดออกจากภวังค์ความคิดเพราะเสียงแหลมๆของข้าวปุ้นที่ตะโกนเรียก
"แกเหม่ออะไรของแกเนี่ยฉันเรียกแกตั้งนานก็ไม่ได้ยิน" ฉันไม่รู้ตัวเองเลยว่ากำลังนั่งเหม่อเพราะเรื่องของพี่ติวเตอร์
"แกกำลังกังวลเรื่องของรุ่นพี่คนนั้นอยู่ใช่ไหม" เรื่องผู้ชายคนนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งแต่ฉันคิดว่าฉันเอาตัวรอดจากผู้ชายคนนั้นได้ ฉันอยากรู้เหมือนกันจะตื้อได้นานแค่ไหนถ้าฉันไม่สนใจทำเหมือนคนนั้นเป็นแค่อากาศที่ฉันมองไม่เห็นไม่นานเขาคงเบื่อเลิกตามไปเองเหมือนผู้ชายหลายๆคนที่เคยเข้ามาจีบแล้วหายไปเองในวันถัดไป
"ฉันว่าแกอย่าเพิ่งคิดมากเรื่องนี้เลยมันอาจไม่มีอะไรก็ได้ และฉันเชื่อว่าพี่ติวเตอร์คงไม่ปล่อยให้รุ่นพี่คนนั้นเข้าใกล้แกแน่ๆเล่นหวงซะขนาดนั้น" ข้าวปุ้นมันก็ทิ้งบอมเอาไว้ให้ฉันคิดหนักอีกแล้ว ฉันมองหน้าข้าวปุ้นด้วยความสงสัยแล้วมันเกี่ยวข้องอะไรกับพี่ติวเตอร์ที่เป็นเพียงเพื่อนของพี่ชาย เรื่องนี้มันควรเกี่ยวข้องกับพี่ธามพี่ชายของฉันมากกว่าที่หวงน้องหนักไม่ยอมให้ผู้ชายคนไหนเข้าใกล้ ไม่ยอมให้มีแฟน แต่ถึงพี่ธามจะไม่ห้ามฉันก็ไม่สนใจไม่อยากมีแฟน ฉันเห็นคู่รักหลายๆคู่แล้วมันวุ่นวายเกินไปหน่อยในความคิดของฉัน
"แล้วมันเกี่ยวอะไรกับพี่ติวเตอร์ด้วยล่ะ" ฉันถาม
ข้าวปุ้นในสิ่งที่ฉันสงสัยไม่อยากปล่อยให้มันค้างคาในใจ
"แกไม่เอะใจบ้างเหรอทำไมถึงไม่มีผู้ชายเข้ามาจีบแกทั้งที่แกสวยมากๆ ถึงจะมีเข้ามาวันต่อมาก็หายหน้าไม่มาตามจีบแกอีกเลย" ข้าวปุ้นมันชอบพูดตรงมักพูดจาอ้อมไปอ้อมมาให้คิดเอาเอง จากที่ไม่สนใจเรื่องพวกนี้อยู่แล้วพอมีประเด็นออกจากปากข้าวปุ้นทำให้ฉันอยากรู้ขึ้นมาทันที ฉันขยับตัวเข้าไปนั่งใกล้ๆข้าวปุ้นพร้อมยื่นหน้าเข้าไปใกล้ก่อนตอบเบาๆไม่เต็มคำเพราะไม่ค่อยมั่นใจในคำตอบ
"เป็นฝีมือพี่ธามพี่ชายขี้หวงของฉันยังไงล่ะ ฉันเห็นพี่ธามตามไปข่มขู่ผู้ชายพวกนั้นจนไม่กล้าเข้ามาใกล้ฉันอีก" ถึงฉันไม่เห็นกับตาตอนพี่ธามไปขู่ แต่ฉันได้ยินเพื่อนหลายคนซุบซิบพูดถึงเรื่องพี่ชายฉันไปสกัดดาวรุ่งให้เป็น
กลายเป็นดาวร่วง
"มีผู้ชายเข้ามาจีบแกไม่ใช่น้อยๆแกคิดว่าพี่ธามทำคนเดียวไหวเหรอ แล้วแกแน่ใจได้ยังไงว่าเป็นฝีมือพี่ธามชิงลงมือก่อนไม่ใช่คนอื่นทำ" ข้าวปุ้นชอบทิ้งปมให้ฉันคิดหนักจากสายตาจริงจังที่จ้องหน้าฉันพอจะเดาออกว่า
ข้าวปุ้นพูดถึงใคร แต่สมองส่วนหนึ่งมันคอยแย้งทำให้ฉันไม่อยากเชื่ออยู่ดีว่ามันจะเป็นไปได้ พี่ติวเตอร์เขาจะทำไปเพื่ออะไรถึงจะเป็นเพื่อนสนิทกันฉันก็ไม่เห็นความจำเป็นที่พี่ติวเตอร์ลงมือด้วยตัวเอง ที่ผ่านมาพี่ติวเตอร์คอยแกล้งฉันประจำเรื่องนี้พี่ติวเตอร์ควรจะดีใจมากกว่าที่เห็นชีวิตของฉันวุ่นวาย ฉันคิดว่าพี่ติวเตอร์น่าจะสะใจที่ฉันโดนแกล้งมากกว่า
"มันจะเป็นไปได้ยังไงแกก็รู้ว่าพี่ติวเตอร์ชอบแกล้ง ชอบแหย่ฉันจะตายไป"
"ฉันดูไม่ผิดหรอกว่าพี่เขาคิดอะไร ถ้าคนไม่ชอบไม่สนใจกันจะพยายามเข้ามาใกล้ คอยหาเรื่องมาคุยมาแหย่แกทำไม คนอย่างพี่ติวเตอร์ที่มีสาวๆเข้าหาตลอดกลับชอบมากวนใจมาแหย่แกเล่นให้แกอารมณ์เสียอยู่คนเดียวแกคิดว่าไงล่ะ" ฉันจะคิดว่าไงได้ล่ะไม่คิดด้วยซ้ำว่ามันจะเป็นอย่างที่ข้าวปุ้นพูด พี่เขาควงสาวๆเยอะจนนับไม่ถ้วนจะมาสนใจยัยหน้าที่นิ่งโลกส่วนตัวสูงอย่างฉันให้เหนื่อยใจทำไมกัน
"ถ้าแกไม่เชื่อแกก็ลองสังเกตดูเอง ขยันมาตามแหย่เช้าเย็นดีไม่ดีอาจจะมาหาแกตอนนี้ก็ได้" ถ้าเป็นอย่างที่
ข้าวปุ้นพูดจริงโลกส่วนตัวของฉันคงปั่นป่วนวุ่นวายน่าดู
"หญ้าหวาน" เสียงเรียกที่คุ้นเคยดังมาจากข้างหลังทำให้หัวใจฉันเต้นโครมครามผิดจังหวะอย่างไม่เคยเป็น สงสัยคงเป็นเพราะคำพูดกรอกหูของข้าวปุ้นพลอยทำให้ฉันสับสนหัวใจมันเลยเต้นผิดจังหวะ ฉันสาดสายตามองไปยังต้นเสียงด้วยความเต้นเต้นเป็นสองเท่า ไม่เพียงสบตาเจ้าของเสียงที่ทำให้หัวใจฉันสั่นไหว ยังมีพี่ธามตามมาอีกคน ฉันลืมเล่าให้ข้าวปุ้นฟังเมื่อเช้าฉันไม่ได้ขับรถมาเรียนเองเพราะพี่ธามบังคับให้มาด้วยกันผู้ชายมาวอแวแล้วตอนเย็นจะมารับกลับพร้อมกัน เมื่อเช้ามันฉุกละหุกหลายเรื่องแล้วเป็นจังหวะที่ข้าวปุ้นมาเรียนสายอาจารย์เดินเข้าสอนพอดีไม่ได้เมาท์มอยกัน แถมตอนเที่ยงก็มีเรื่องพี่คนนั้นมาทำให้เสียสุขภาพจิตอารมณ์ขุ่นจนลืมเรื่องของพี่ธามไปเลย
"นั่นไงฉันพูดผิดที่ไหน" ข้าวปุ้นนั่งหันหลังทำให้ไม่เห็นว่ามีสายตาของพี่ธามจ้องมองมาไม่วางตา ในขณะเอ่ยปากแซวฉันขึ้นได้เพียงนิดเดียว
"ข้าวปุ้น" เสียงเรียกที่คุ้นชินทำให้ข้าวปุ้นตกใจจนสะดุ้งหันหลังกลับไปมองต้นเสียง พี่ธามกับข้าวปุ้นเผชิญหน้ากันครั้งแรกในรอบสองปีหลังจากที่มันใช้ความพยายามอย่างสูงในการหลบหน้าพี่ธามมาตลอดสุดท้ายความพยายามของมันก็ล้มเหลว จากสายตาของพี่ธามครั้งนี้มันคงหนีไม่ไปไหนไม่ได้อีกแล้วนอกจากเผชิญหน้าเพราะสายตาพี่ธามดูเอาจริงเอาจังกว่าทุกครั้ง เรื่องของพวกเขาสองคนฉันจะปล่อยให้เพื่อนเป็นคนตัดสินใจเองและคอยสนับสนุนอย่างเต็มที่หากเพื่อนตัดสินใจแล้ว
"แกฉันนึกขึ้นได้ว่าต้องไปซื้อของกับกวินท์เข้าคอนโด ฉันไปก่อนนะแกกลับดีๆล่ะ" ข้าวปุ้นหยิบกระเป๋าแล้วลุกขึ้นลากแขนกวินท์รีบเดินออกไป
"หญ้าหวานวันนี้กลับกับไอ้ติวเตอร์ไปก่อนนะพี่มีเรื่องต้องไปเคลียร์ให้เรียบร้อย" ฉันเข้าใจดีว่าพี่ฉันมีอะไรที่ค้างคาอยู่ในใจ แต่มันใช่เรื่องไหมที่เอ่ยฝากน้องสาวสุดที่รักไปกับเพื่อนจอมกวนตัวเองแล้วยังไงพี่ธามจะทิ้งฉันกลับพี่ติวเตอร์นี่นะ แล้วทำไมฉันต้องตื่นเต้นหัวใจเต้นรัวหรือเป็นเพราะได้ฟังที่ข้าวปุ้นมันบิ้วฉันเรื่องพี่ตอร์ ทำไมฉันควบคุมการเต้นของหัวใจไม่ได้ฉันต้องบ้าไปแน่ๆ