บทที่ 2 เจ้าหญิงเย็นชา

1467 Words
"ไอ้ติวเตอร์มึงจะยอมๆให้น้องกูชนะมึงไม่ได้สักครั้งเลยหรือยังไงวะ ไหนว่าเราตกลงกันเรียบร้อยแล้วไงมึงต้องชนะแล้วทำให้น้องกูหมดความมั่นใจให้ได้ใช่ไหม" หลังจากที่พวกเราสี่คนออกจากสนามแข่งก็มานั่งดื่มสังสรรค์กันต่อที่ผับ พอเหล้าเข้าปากไอ้ธีร์ธามก็พ่นคำด่าใส่ผมสารพัดเรื่องน้องของมันไม่รู้ว่ามันจะปกป้องน้องของมันอะไรกันนักกันหนา ถึงกับขอร้องแกมบังคับให้ผมยอมตามใจน้องเหมือนที่พ่อๆของพวกผมสั่งไว้ให้ดูแลน้องสาวคนเดียวดุจเจ้าหญิงตัวน้อย ภาพจำในวัยหกขวบของผมคือเห็นเด็กผู้หญิงผมเปียหน้าตาน่ารัก ดวงตากลมโตใสแจ๋วแต่ใบหน้ากับไร้ความรู้สึก พ่อของพวกผมทั้งสี่คนเป็นเพื่อนรักกันไปมาหาสู่กันเสมอจึงทำให้เราเล่นด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก พ่อๆของพวกเราทุกคนจะมีแต่ลูกชาย พอแม่กันยาคลอดลูกสาวคนเล็กเพียงคนเดียวในกลุ่มของพ่อพวกผมทุกคนจึงเห่อและหลงหลานสาวตัวน้อยมาก ดังนั้นแก๊งพ่อๆจึงสั่งให้พวกผมที่เป็นเด็กผู้ชายแข็งแรงดูแลน้องสาวของไอ้ธีร์ธามทะนุถนอมดุจดวงใจช่วยปกป้องเจ้าหญิงตัวน้อยดุจไข่ในหิน ผมก็พยายามทำตามทุกอย่างพยายามทำตัวเป็นพี่ชายที่แสนดีคอยดูแลพูดคุย แต่ยัยนั่นไม่ยอมตอบสนองกว่าปริปากพูดผมแต่ละคำแทบง้างปากให้พูด ในบางครั้งเหมือนผมเป็นคนบ้าพูดคนเดียวทั้งวันเพื่อจะได้ยินเสียงน้องสาวตัวน้อยพูดสักคำ นั่นจึงเป็นจุดเปลี่ยนที่ให้ผมหมั่นไส้แอบแกล้ง แอบแหย่ให้ยัยเด็กหน้านิ่งมีอารมณ์ตอบโต้คนอื่นบ้าง ยิ่งผมแกล้งแล้วเห็นหญ้าหวานแหวใส่ผมกลับมาทุกครั้งผมยิ่งสนุก หาเรื่องชวนคุย ชวนปั่นไม่ให้โลกของเธอสงบสุขอีกต่อไป และทุกครั้งที่พ่อผมบอกให้รักเธอดูแลเธอเหมือนกับน้องสาวตัวเองผมยิ่งขัดใจผมไม่ได้อยากมีน้องสาวสักหน่อยขี้เกียจเอาใจ พ่อผมมักจะเน้นย้ำเรื่องนี้บ่อยๆจนผมเองแอบต่อต้านเล็กๆทุกครั้งที่ถูกสั่งให้คอยเอาอกเอาใจยัยเจ้าหญิงเย็นชาที่ดูเหมือนจะไม่ชอบขี้หน้าผมเหมือนกัน และบางครั้งฟาดสายตาเย็นเยือกไร้อารมณ์ดุจดั่งน้ำแข็งใส่ผมทุกทีที่เจอหน้ากัน แล้วเพื่อนผมสามตัวก็สปอยยัยเด็กแสบนั่นเกินไปจนผมอดหมั่นไส้ไม่ได้และผมมักจะทำตรงกันข้ามกับทุกคนเสมอแกล้งป่วนก่อกวนยัยมนุษย์น้ำแข็งให้ถึงจุดเดือดจนต้องระเบิดออกมา ยิ่งได้มองใบหน้าแววตาเรียบเฉยไม่แสดงความยินดียินร้ายว่าใครทำอะไรให้ตัวเองบ้าง ยิ่งทำให้ผมคิดว่ายัยเด็กหน้านิ่งจอมหยิ่งไม่อยากรับความช่วยเหลือจากผมเมื่อไม่อยากรับผมก็จะขัดแข้งขัดขาเธอทุกเรื่อง บางครั้งผมก็อยากจะชินชากับใบหน้าเรียบเฉยเธอที่ไม่เคยเอ่ยปากขอหรือแสดงคำขอบคุณสักครั้งตั้งแต่เด็กที่เราเล่นด้วยกัน และนั่นยิ่งทำให้ผมอยากเอาชนะยัยน้ำแข็งให้ได้ในทุกทาง ผมจะเป็นคนพิชิตยัยหน้านิ่งเปลี่ยนให้มาเป็นอย่างที่ผมต้องการ ผมจึงใช้ทุกวิธีทางป่วนยัยเด็กโลกส่วนตัวสูงให้ชีวิตเธอดูวุ่นวายทำลายความสงบสุขทุกครั้งที่มีโอกาสหรือหาโอกาสแกล้งตลอดไม่ว่างเว้น ไม่รู้ว่าเป็นอะไรทำไมผมถึงอยากเอาชนะหญ้าหวานนักหนานิ่งเห็นเธอโมโหหน้าดำหน้าแดงผมรู้สึกภูมิใจทุกครั้งที่ทำให้เธอวุ่นวายใจได้เพราะผม "น้องมึงไม่เกี่ยวกับกูหรือเปล่าวะ มึงจะตามใจยอมน้องมึงทุกเรื่องไม่ได้นะ อีกอย่างน้องมึงจะภูมิใจและมั่นใจในตัวเองจริงเหรอถ้าชนะกูได้โดยที่ไม่ได้มาจากฝีมือความสามารถของตัวเองจริงๆ ถ้ากูกับพวกมึงต้องยอมอยู่เรื่อยแล้วเมื่อไหร่ฝีมือน้องมึงจะพัฒนาขึ้นวะ" ผมพูดตามความเป็นจริง ยิ่งใบหน้าของเธอเรียบเฉยไร้อารมณ์ตอนลงสนามแข่งดูก็รู้ว่าเธอคงไม่ต้องการได้รับความช่วยเหลือจากคนอย่างผม สายตาเยือกเย็นดุจน้ำแข็งดูไร้หัวใจทำให้ผมหงุดหงิดไม่ชอบใจสายตาและความห่างเหินนั่น ยิ่งเป็นแรงดึงดูดทำให้ผมอยากเข้าใกล้เอาชนะหัวใจยัยเจ้าหญิงน้ำแข็งแห่งขั้วโลกเหนือให้ได้ไม่ว่าจะทางไหนก็ตาม ผมจะเป็นไฟร้อนๆละลายน้ำแข็งขั้วโลกเหนือให้เหลวเป็นน้ำไหลคล้อยตามเส้นทางที่ผมขุดไว้ นั่นคือจุดเริ่มต้นที่ผมยังคอนตามป่วนตามตอแยไม่เหมือนพี่ชายคนอื่นๆของหญ้าหวานที่แสดงตัวดป็นพี่ชายที่แสนดี "พวกมึงสองตัวยังไม่หยุดคุยเรื่องแข่งกันอีกเหรอวะ เรามาเที่ยวผ่อนคลายความตึงเครียดพวกมึงยังเสือกมานั่งเถียงกันเหมือนเด็กอยู่ได้" ไอ้หน้าตึงดีเดย์มันด่าพวกผมเสร็จมันก็กระดกเหล้าเข้าปากรวดเดียวจนหมดแก้วอย่างคนไม่กลัวเมาเพราะพวกเราขาดื่มขาเที่ยวจนได้ร่วมหุ้นสร้างผับเอาไว้เที่ยวเอง "นั่นสิน่ารำคาญฉิบหายพวกมึงดูสาวๆโต๊ะโน้นดิแม่งน่ากินฉิบหายพวกมึงสองคนเถียงกันให้พอส่วนกูจะไปหาห้องนอนคืนนี้กูรู้สึกเมาแล้วกลับห้องตัวเองไม่ไหวว่ะ" สายตาแพรวพราวดุจราชสีล็อคเป้าหมายในคืนนี้ พอพูดจบไอ้ไนท์กี้มันก็เดินตรงไปโต๊ะสาวสวยหุ่นเย้ายวนที่หงายการ์ดเชิญให้เดินเข้าหาเมื่อได้จ้องเขมือบและถูกเชิญชวนด้วยสายตาขนาดนั้นมีหรือจะปล่อยให้หลุดจากกรงเล็บไปได้ "เรื่องนี้อย่างเร็วไม่ยอมรอกูเลยนะมึง" ไอ้ดีเดย์บ่นงึมงำให้ไอ้ไนท์กี้มันก็ยังท็อปฟอร์มไม่ยอมเสียเชิงชายให้ไนท์กี้จอมกะล่อนแพรวพราว ไอ้ดีเดย์ยกแก้วเหล้าเทเข้าปากะรวดเดียวแล้วเดินตามไปติดๆถึงหน้ามันจะนิ่งตึงแต่ดันถูกใจสาวๆกับมาดแบดบอย ผมปล่อยให้เพื่อนมันทำแต้มนำไปก่อน นั่งดื่มอย่างใจเย็นเพื่อหลอกล่อให้เหยื่อลุ่มหลง สายตาของผมเฝ้ามองความแพรวพราวของเพื่อนรักและยิ้มมุมปากอย่างรู้ทัน นอกจากจะมองดูเพื่อนรักทั้งสองคนที่กำลังจะลากสาวไปขย้ำแล้ว สายตาคมลุ่มลึกแฝงความร้ายกาจของผมยังช่อนตัวตนรอบสำรวจด้วยความพึงพอใจก่อนจะสบประสานสายตาคู่หวานเชิญชวนและท้าทาย รอยยิ้มกรุ่มกริ่มแพรวพราวที่ส่งสัญญาณออกไปเป็นเข้าใจกันดีว่าสื่อถึงเรื่องอะไร แม่เสือสาววาดลวดลายลุกขึ้นยืนขยิบตาทอดสะพานให้เดินข้ามไปหายั่วยวนก่อนจะหมุนตัวหันหลังเดินฟูลเทิร์นอย่างมีจริตจะก้านออกไป วินาทีนี้หูผมอื้ออึงไม่ได้สนใจสิ่งที่ไอ้ธีร์ธามมันบ่นแข่งรถมาเหนื่อยๆร่างกายมันปวดเมื่อยไปหมดมันต้องหาคนมือนิ่มๆมานวดผ่อนคลายความตึงเครียดจากการแข่งในสนาม สายตาของผมจับจ้องสาวสวยที่สวมใส่เกาะอกสีแดงตัวจิ๋วที่ดูเหมือนจะมีขนาดเล็กกว่าภูเขาสองลูกล้นทะลักโชว์ความขาวอวบใหญ่สะโพกผายที่รัดติ้วจนนูนเด่นปลุกมังกรร้ายที่มันหลับไหลใต้ผ้าให้ตื่นขึ้นมาอย่างคึกคะนองและกระสันอยาก จนผมต้องหยิบแก้วเหล้าที่เหลือมาสาดลงคอจนหมดก่อนลุกเดินตามเสือสาวที่วางเหยื่อให้เดินตามออกไป และไม่รู้มันจะไปสิ้นสุดลงที่ตรงไหน "อ้าวไอ้เพื่อนเหี้ยนี่ทิ้งกูไปหมดไม่สนใจที่กูพูดเจอเหยื่อแล้วก็กระโดดขย้ำทันทีแล้วกูจะรออะไรวะ" ผมได้ยินเสียงไอ้ธีร์ธามมันบ่นตามหลังมาแต่ผมไม่คิดหันหลังกลับไปมอง เมื่อมีเนื้อรสฉ่ำมาเสิร์ฟให้ถึงปากจะไม่อ้าปากงับเข้าไปคงเสียศักดิ์ศรี และผมก็มั่นใจพวกเพื่อนของผมมันคงไม่ปล่อยให้ตัวเองโดนลบเหลี่ยมลบคมเช่นกัน สาวๆหลายคนแม้จะรู้กิตติศัพท์กลุ่มของพวกผมดีแต่ก็ยังยินดีลินเข้ากองไฟทั้งที่ว่าจะถูกแผดไหม้และไม่หวนย้อนคืนก็ตาม
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD