บทนำ

703 Words
บทนำ โอ้ว่าน่าเสียดายตัวนัก เพราะเชื่อลิ้นหลงรักจึงช้ำจิต จะออกชื่อลือชั่วไปทั่วทิศ เมื่อพลั้งคิดผิดแล้วจะโทษใคร เสียแรงหวังฝังฝากชีวี พระจะมีเมตตาก็หาไม่ หมายบำเหน็จจะรีบเสด็จไป ก็รู้เท่าเข้าใจในทำนอง ด้วยระเด่นบุษบาโฉมตรู ควรคู่ภิรมย์สมสอง ไม่ต่ำศักดิ์รูปชั่วเหมือนตัวน้อง ทั้งพวกพ้องสุริยวงศ์พงศ์พันธุ์ แต่นี้สืบไปภายหน้า จะอายชาวดาหาเป็นแม่นมั่น เขาจะค่อนนินทาทุกสิ่งอัน นางรำพันว่าพลางทางโศกา [1] ความงดงามอ้อนช้อยที่ร่างแบบบางกำลังกรีดกรายตามคำตัดพ้อต่อว่า โดยมีร่างกำยำอีกร่างร่ายรำปลอบโยนทำให้กิตติกรจ้องมองไม่วางตาด้วยขุ่นขวางอย่างบอกไม่ถูก ไม่รู้สึกซึมซับประทับใจกับความอ่อนช้อยงดงามเลยแม้แต่น้อย แน่นอนว่าบทละครนี้เขาเคยมีโอกาสได้ดูมาแล้วเพราะน้องสาวของเขาเรียนวิทยาลัยนาฏศิลป์มีงานให้แสดงเสมอไม่ขาด หลายครั้งก็มักจะเป็นบทละครรำเรื่องอิเหนาอย่างเช่นคราวนี้ และเขาก็แปลกใจเหลือเกินว่าทำไมต้องเป็นแบบนี้ทุกที “จินตะหราสวยหวานถูกใจจริงว่ะ ไม่แปลกใจทำไมอิเหนาถึงหลง” “แต่ไม่สวยสะกดเท่าบุษบา ถึงต้องเป็นแค่เมียรอง” เสียงผู้ชายสองคนข้างหลังเขากระซิบกันในประโยคที่เขาเองก็เคยได้ยินมาไม่น้อย และเป็นสิ่งที่ทำให้เขาหงุดหงิดเสมอ “แต่ตัวจริงตอนไม่แต่งหน้าจินตะหราก็น่ารักนะ หน้าออกไทยแบบหวานๆ ลูกสาวฉันชอบมาก” “ลูกสาว?” “ใช่ เธอเป็นครูที่โรงเรียนสอนรำของลูกสาวน่ะ เจอกันบ่อย น่ารัก ยิ้มหวานหยดเลยล่ะ” “โห น่าอิจฉาจัง เสียดายฉันไม่มีลูกสาวจะได้ส่งไปเรียนมั่ง” คนนั่งด้านหน้าที่ได้ยินทุกประโยคคิ้วกระตุก นึกไม่อยากนั่งอยู่ตรงนี้ขึ้นมา ไม่เข้าใจว่าทำไมเขาต้องอารมณ์ขุ่นที่ได้ยิน “ว่าแต่ชื่ออะไรล่ะครูคนนี้” “ลูกฉันเรียกครูปราง ครูโรงเรียนนี้สวยๆ ทั้งนั้น แต่เห็นว่าแต่งงานไปแล้วคนหนึ่ง น่าจะเป็นคนที่แสดงเป็นบุษบานะ เท่าที่จำได้” บุษบาก็น้องสาวเขา ‘กัญญานัน’ นั่นเอง “โอ้โห แบบนี้ก็สวยทั้งโรงเรียนจริงน่ะสิ อยากมีลูกสาวจริงๆ เลยว่ะ” เสียงหัวเราะพอใจเบาๆ ของสองคนข้างหลังทำเอากิตติกรถอนหายใจยาวอย่างพยายามสงบใจ แม้อยากหันไปโพล่งใส่หน้าว่า นี่หรือข้าราชการที่คนให้ความเคารพนับถือ พูดถึงผู้หญิงแบบนี้ไม่มีมารยาทเสียเลย แต่เขาก็ต้องนิ่งไว้เพราะเขาเองก็เพิ่งมาลงหลักปักฐานเปิดร้านจิวเวลรีที่นี่ อาจจะต้องพึ่งพาผู้หลักผู้ใหญ่ที่นี่ ไม่ควรสร้างศัตรูเอาไว้ก่อน ชายหนุ่มมางานจัดสัมมนาระดับภูมิภาคหัวข้อสืบสานวัฒนธรรมไทยสี่ภาค โดยงานนี้มีการจัดโชว์นาฏศิลป์ของภาคต่างๆ ทั้งสามวันที่มีการสัมมนา กิตติกรมาดูการแสดงโชว์ที่เป็นงานเปิด เพราะเขาสนใจจะทำเครื่องประดับในแบบไทยประยุกต์เพื่อสามารถนำมาสวมใส่เข้าไปชุดไทยร่วมสมัย หรือจะใส่ในชีวิตประจำวันก็ได้ และชายหนุ่มก็รู้ว่าน้องสาวเขามาร่วมแสดงในงานด้วยจึงรอดู กิตติกรจ้องร่างอรชรบนเวทีด้วยแววตาดุคมไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือเปล่าว่าอีกฝ่ายมองเห็นเขาเพราะเหมือนเธอชะงักไปเสี้ยววินาที ก่อนจะแสดงต่อได้อย่างราบรื่นน่าสงสารเรียกความเห็นใจจากคนดูได้เต็มๆ เพราะเสียงพึมพำรอบตัวเขามีแต่คำว่าน่าสงสารเต็มไปหมด คงมีเพียงกิตติกรที่ไม่คิดแบบนั้น สำหรับเขาทุกครั้งที่ดูเรื่องนี้ เขาจะรู้สึกว่าจินตะหราก็ยังได้รับความรักจากอิเหนาอยู่ แค่ไม่ได้เป็นที่หนึ่งเท่านั้น เธอโลภมากเกินไปจึงต้องทุกข์ใจ [1] บทละครรำเรื่องอิเหนา ตอน ศึกกะหมังกุหนิง พระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัยรัชกาลที่ ๒ ======
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD