ก้อย...
" นี่ยัยก้อย แกบอกฉันมาซะดีๆว่าแกกับพี่หมอภาคนี่ยังไงกัน "
ยัยหนาวเพื่อนซี้ของฉันหรี่ตามองเมื่อเดินลงมาถึงลานจอดรถของบริษัท
" ไม่มีอะไรทั้งนั้นแหละแก พี่เขาก็เป็นหมอที่ดูแลแม่ฉันอยู่ไง "
ฉันตอบนางที่ตอนนี้กำลังทำหน้าเหมือนไม่เชื่อในสิ่งที่ฉันพูดอยู่
" เป็นหมอที่ดูแลแม่แต่เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่มาถึงแกด้วยใช่ป่ะ "
ยัยเพื่อนซี้พูดยิ้ม ๆ
" มั่วแล้วแก ฉันกลับล่ะไม่คุยกับแกแล้ว "
ฉันยู่หน้าใส่ยัยเพื่อนซี้ก่อนจะเดินหนีนางออกมา แต่นางก็ยังคงเดินตามฉฮันมาติด ๆ
" เขินอะเด้ "
ยัยเพื่อนซี้เดินมาขวางพลางทำสีหน้าล้อเลียนจนฉันต้องยิ้มตามนางไปด้วย
" เขินบ้าอะไรของแกยัยหนาว ฉันจะกลับบ้านแล้วไม่ต้องมาขวางทางเลยนะ "
ฉันว่ายิ้มๆ
" จะกลับบ้านหรือจะเดินออกไปหลบมุมรอใคร ข้างนอกแดดร้อนน้า ให้พี่เขาเข้ามารับแกข้างในก็ได้ "
ยัยเพื่อนซี้รู้ดียังไม่ยอมหยุดพูด
" แกหยุดพูดเลยนะ กลับบ้านแกไปเลย "
ฉันว่า
" ชิ คบก็บอกคบดิตอนนี้ฉันเลิกปลื้มพี่เขาแล้วรู้ไว้ซะ แล้วอีกอย่างถ้าแกคบกับพี่เขาฉันก็ยินดีมากๆเลยอะแก "
ยัยเพื่อนซี้ทำท่าระริกระรี้ทำให้ฉันคิดถึงตอนสมัยเรียนมหาลัยที่ฉันชงนางกับแฟนนางให้คบกัน เหมือนเวรกรรมกำลังตามสนองเลยแฮะ
" นั่นไงแกรถพี่เขามาแล้วฉันจำได้ "
ยัยเพื่อนซี้ชี้ไปยังมุมรั้วที่ฉันบอกให้คนที่จะมารับฉันไปจอดอยู่บ่อยๆ
" รู้ดี "
ฉันจิกนางยิ้มๆก่อนจะหยิกแก้มเนียนๆของนางไปทีนึง
" ถ้าสะดุดลานเกียร์แล้วได้เป็นเมียวิศวะแล้วเมียหมอล่ะจ๊ะต้องสะดุดอะไรถึงจะได้เป็น!! "
เสียงยัยเพื่อนซี้ตะโกนตามหลังฉันมาจนฉันต้องวิ่งหนีให้พ้นๆนางทั้งๆที่ปากยิ้มไม่หุบ
" ยัยหนาวบ้า "
ฉันหันไปว่านางเบาๆก่อนจะเข้าไปนั่งในรถที่มีใครบางคนขับมารับ
" เราหิวมั้ยอยากแวะกินอะไรก่อนไปเยี่ยมแม่หรือเปล่า "
ทันทีที่เข้าไปนั่งด้านในผู้ชายที่ใส่เสื้อเชิ้ตสีฟ้าอ่อนพร้อมกับผูกไทด์ก็ถามฉันขึ้น
" ฉันจะกลับบ้านเลยค่ะ ว่าจะไปทำอะไรกินง่ายๆ "
ฉันหันไปตอบคนข้างๆที่ตอนนี้กำลังตั้งหน้าตั้งตาขับรถอยู่
" งั้นพี่ขอกินข้าวไข่เจียวที่บ้านที่นึงนะครับ "
" ถึงบอกว่าไม่เดี๋ยวพี่ก็ทำกินเองอยู่ดี "
ฉันหันไปยู่หน้าใส่คนข้างๆ
" ช่วยไม่ได้นี่ครับ ด้านได้อายอด "
คนข้างๆตอบยิ้มๆ จริง จริงมาก!! เขาอะด้าน!!
.
.
.
หลังจากเย็นวันศุกร์เมื่อวานฉันก็มานอนเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลเหมือนกับทุกครั้ง และที่เปลี่ยนไปนับตั้งแต่วันนั้นที่ฉันตื่นขึ้นมาเจอพี่เขาในห้องนี้ ฉันก็ต้องมานอนในนี้ทุกคืนถ้าพี่เขาเข้าเวรดึกซึ่งแม่ฉันพอรู้เรื่องนี้ก็เห็นดีเห็นงามด้วย เพราะแม่กลัวว่าเวลามีหมอหรือพยาบาลเข้าไปตรวจอาการแม่เขาจะทำงานกันไม่สะดวก พอเป็นแบบนี้ฉันก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันว่าจะมานอนเฝ้าแม่ทำไม
" ตื่นแล้วหรอครับ งานพี่เสร็จพอดีเลย เรากลับบ้านกันเลยมั้ยครับ "
คนที่นั่งอยู่ตรงโต๊ะหันมาถามฉันที่นั่งหาวอยู่บนโซฟา
" กลับเลยก็ได้พี่ ฉันเริ่มหิวแล้วอะอยากกินไข่เจียวร้อนๆ "
" งั้นขอไข่เจียวให้พี่ด้วยนะครับกำลังหิวอยู่เหมือนกัน "
ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาทุกเช้าวันเสาร์พี่เขาก็จะมาส่งฉันที่บ้านและมาขอกินข้าวไข่เจียวพร้อมกับนอนพักจนถึงบ่ายก่อนจะกลับไปเข้าเวรต่อ
และฉันก็เพิ่งรู้ว่าพี่เขากับแม่ฉันสนิทกันมาก ฉันที่เป็นลูกแม่ได้อยู่และคุยกับแม่แค่อาทิตย์ละสองวันส่วนห้าวันที่เหลือแม่ก็อยู่กับพี่เขาที่ตอนนี้กลายเป็นลูกชายของแม่ไปเรียบร้อยแล้ว
" ก้อย "
" คะ? "
ฉันหันไปมองคนข้างๆที่ขับรถอยู่ อะไรของเขาอยู่ๆก็เรียกชื่อฉันขึ้นมา
" เป็นแฟนกันมั้ย "
" พี่ว่าไงนะ "
ฉันไม่แน่ใจว่าฟังผิดหรือเปล่าแต่ขมวดคิ้วพลางหันไปถามคนข้างๆ
" ถามว่าเป็นแฟนกันมั้ย "
หันมาตอบได้หน้าตาเฉยมาก เป็นผู้ชายที่ไม่มีความโรแมนติกเอาซะเลย
" เล่นอะไรของพี่เนี่ย "
ฉันหันไปพูดยิ้มๆแบบไม่ได้ใส่ใจอะไรก่อนจะนั่งเล่นเกมส์ต่อ หลังจากที่รู้จักกันได้สักพักฉันก็รู้แล้วแหละว่าเขาปั่นประสาทเก่งแค่ไหน
" ไม่ได้เล่น พูดจริงๆ "
" ขอกันง่ายๆอย่างงี้เลยหรอ "
ฉันขมวดคิ้วถาม นี่พวกหมอเขาเป็นแบบนี้กันทุกคนหรือเปล่านะฉันชักอยากรู้แล้วสิไปถามยัยหนาวดีมั้ยนะว่าอาหมอเป็นแบบนี้หรือเปล่า
" ไม่ได้ขอแต่งงานซะหน่อยจะทำให้ยุ่งยากทำไมล่ะ เป็นแฟนกันนะ นะ นะ "
เฮ้ย แบบนี้ก็ได้หรอ
" ไม่อะ "
ฉันส่ายหน้ารัวๆ
" ทำไมอะ นะเป็นเหอะ ทั้งชีวิตนี้พี่เจอแต่อะไรยากๆมาก็มากพออยู่แล้ว ตอนมัธยมก็เรียน ทั้งเรียนพิเศษ อ่านหนังสือเยอะเพราะจะสอบเข้าหมอ ตอนมหาลัยก็เรียนหนักแถมยังฝึกหนักอีก ตอนนี้เป็นหมอก็ต้องหนักกับการเข้าเวรอีก ตอนนี้พี่อยากมีแฟนก็เป็นให้พี่ง่ายๆหน่อยไม่ได้หรือไง "
อะไรของเขา มันไม่ใช่การซื้อขนมนะที่จ่ายเงินแล้วจะได้มาง่ายๆอะ
" พี่จีบใครไม่เป็นอันนี้พูดจริงๆ พอมีผู้หญิงเข้าหาพี่ก็กล้าๆกลัวๆ พี่เห็นเราน่ารักดีเลยอยากได้เป็นแฟนแถมยังดูแลแม่ดีอีกด้วยพี่ชอบผู้หญิงรักครอบครัว "
หืม นี่พี่เขาพูดจริงๆหรอไม่ใช่หลอกอำฉันเล่นนะจะตบกะโหลกให้ลืมวิชาหมอเลย
" ไม่อะ "
ฉันตอบกลับ ถ้าเขาพูดเล่นๆก็ดีที่ฉันตอบกลับแบบนี้จะได้ไม่หน้าแตกแต่ถ้าเขาพูดจริงก็ดีที่ฉันปฎิเสธเพราะฉันไม่มีเวลาให้ใครหรอก
แกร๊ก!!
ทันทีที่รถจอดตรงประตูหน้าบ้าน ประตูรถทั้งคันก็ถูกล็อคอัตโนมัติโดยฝีมือของคนข้างๆที่นั่งส่งยิ้มเจ้าเล่ห์มาให้ฉัน
" นี่พี่ทำอะไรเนี่ย ฉันไม่เล่นนะไม่ตลกด้วย "
ฉันโวยวายพลางเขย่าประตูเปิดยังไงก็ไม่ออก
" มานี่มา "
" ว๊ายพี่!! ปล่อยฉันนะ "
แขนยาวแข็งแรงเอื้อมมาคว้าเอวฉันไปนั่งบนตักทั้งๆที่เรายังอยู่ในรถ จมูกโด่งๆกำลังหายใจเป่ารดข้างๆใบหูฉันอยู่ ฉันได้แต่ตกใจและนั่งนิ่งอยู่แบบนั้นเพราะไม่เคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ เขาเป็นหมอโรคจิตเหมือนในข่าวหรือเปล่า หรือเขาจะทำอะไรฉันใช่มั้ยอ่า แม่จ๋า
" ให้เลือกสองข้อ ว่าจะเป็นแฟนพี่หรือจะเป็นเมีย "
เสียงทุ้มกระซิบข้างหูทำเอาฉันชาวาบไปทั้งตัว ใครเขาขอเป็นแฟนแบบนี้กันเล่า เรียนหมอเขาไม่สอนหรือไงว่าห้ามข่มขู่ผู้หญิงอะ
" พี่คือฉัน.... "
" ถ้าตอบแล้วจะปล่อย ถ้าไม่ตอบจะปล้ำ คำตอบให้เลือกข้อใดข้อนึง "
โธ่โว้ยไอ้หมอบ้า ใครเขาขอผู้หญิงเป็นแฟนแบบนี้กันใครสอนแกมา!!
" ว่าไง ถ้าไม่ตอบจะปล้ำแล้วนะ "
" โอเคๆ ฉันเป็น...แฟนพี่ก็ได้ "
ฉันตอบหน้ามุ่ยแต่คนข้างๆที่กอดเอวฉันเอาไว้กลับยิ้มออกมา
ฟอด ฟอด
" หึ้มหอมกว่าคืนนั้นอีกแฮะ "
" พี่ภาค!! "
ฉันหันขวับไปหาคนข้างๆที่นั่งตักเขาอยู่เมื่อปลายจมูกโด่งๆกดลงบนแก้มทั้งสองข้างของฉัน หอมกว่าวันนั้น...งั้นแสดงว่าเขาแอบหอมแก้มฉัน...