กีฬาสี 1/2

1737 Words
ภาค & ก้อย (ภาคต่อเพื่อนพระนางจากอาถรรพ์ลานเกียร์) ผมหัวใจล้มเหลวจากการสารภาพรักครั้งแรกไป แต่ในวันเดียวกันใครบางคนที่ผมได้เจอในห้องพยาบาลก็ทำให้หัวใจผมกลับมาเต้นแรงอีกครั้ง ***** ภาค... " พวกมึงเดี๋ยวกูมานะ " ผมตะโกนบอกเพื่อนในทีมที่ตอนนี้กำลังแต่งตัวเพื่อลงสนามแข่ง " เออๆ " เสียงเพื่อนในทีมบอกผมก่อนจะหันกลับไปผูกผ้าพันคอสีเหลืองซึ่งเป็นสีประจำคณะเราต่อ วันนี้ผมลงแข่งฟุตบอลในงานกีฬาสีของมหาลัยเหมือนกับทุกๆปีที่ผ่านมา ปกติผมไม่ชอบเล่นกีฬาในงานมหาลัยเท่าไหร่เพราะคนดูจะเยอะกว่าปกติแล้วผมก็ไม่ชอบเสียงเชียร์เสียงหวีดร้องของคนที่อยู่ตามขอบสนามนัก มันทำให้ผมไม่มีสมาธิ แต่เมื่อหลายปีที่แล้วใครบางคนที่นั่งเชียร์ฟุตบอลข้างสนามทำให้ผมอยากลงแข่งขึ้นมา ผมแค่อยากโดดเด่นในสายเธอแล้วก็อยากให้เธอสนใจผมเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆบ้าง แล้วก็เป็นจุดเริ่มต้นให้ผมลงแข่งฟุตบอลทุกๆปีของงานกีฬาสีมหาลัย " เอ่อ น้องครับ " เด็กผู้หญิงตัวเล็กๆเหมือนเด็กมอต้นกำลังนั่งรูดลูกชิ้นเข้าปากอย่างเอร็ดอร่อยใต้ต้นไม้ตรงหน้า ผมจำได้ว่าเธอรู้จักกับเดือนหนาวผู้หญิงที่ผมแอบชอบแล้วก็แอบมองเธอมานานหลายปีแล้ววันนี้ผมก็จะไปสารภาพรักกับเธอ ดูท่าทางแล้วเด็กคนนี้ก็เหมือนจะสนิทกับเดือนหนาวมากนะผมเคยเห็นเดือนหนาวชอบซื้อของไปให้บ่อยๆ เพราะผมแอบมองเดือนหนาวอยู่ไงล่ะ "พี่มีอะไรหรอคะ" คนตัวเล็กที่เคี้ยวลูกชิ้นจนแก้มตุ่ยถามขึ้น " เอ่อ เรารู้จักเดือนหนาวใช่มั้ย " ผมถาม " ค่ะ หนูเป็นหลานรหัสป้าหนาว " คนตัวเล็กพยักหน้าเบาๆพลางมองมาที่ดอกไม้ช่อโตที่ผมถืออยู่ หลานรหัสเลยหรอวะ " พี่ชื่อภาคนะ เรียนหมออยู่ปีหก " " ไม่ได้อยากรู้จักซะหน่อยมาบอกชื่อทำไม " อ้าวเวรกรรม " พี่อยากให้เราช่วยอะไรหน่อยได้มั้ย " " แลกกับอะไรคะ " คนตัวเล็กเอียงคอถาม เออนั่นสิ " พี่มีค่าจ้างให้เรา " ผมเสนอ " แบบนี้ค่อยหน้าสนใจหน่อย " คนตัวเล็กโยนถุงลูกชิ้นลงถังขยะก่อนจะหันมามองผมด้วยสีหน้าที่เริ่มสนใจขึ้น " พี่อยากคุยกับป้ารหัสเรา ให้ป้าเรามาเจอพี่หลังอัฒจรรย์ได้มั้ย " ผมรีบบอก " ค่าจ้างล่ะ " " สองร้อยเคป่าว " " พันนึงสิคะ เรียนหมอค่าเทอมแพงนะต้องมีตังเยอะสิ " ตรรกะไหนเนี่ยยัยตัวเล็ก " พันนึงก็พันนึง " ผมบอก " งั้นจ่ายมาก่อนเดี๋ยวถินจะไปบอกป้าให้ แล้วพี่ก็ไปรอหลังอัฒจรรย์ได้เลย " คนตัวเล็กเปลี่ยนสรรพนามพลางหรี่ตามองผมไปด้วย มือเล็กยื่นมากระดิกรอรับค่าจ้างด้วยท่าทางน่าหมั่นเขี้ยวเอาวะไหนๆก็ไหนๆแล้ว . . . " เอ่อคุณ... " เสียงของคนที่ผมแอบชอบมานานหลายปีเอ่ยขึ้นเมื่อเดินมาหยุดอยู่ตรงหน้าผม หัวใจผมเต้นระรัวจนแทบจะทะลุออกมากองตรงนี้ให้ได้ ทำไมน่ารักขนาดนี้วะ แอบมองไกลๆว่าน่ารักแล้วพอมาเจอตัวจริงใกล้ๆแบบนี้ก็ตายสิครับ " เดือนหนาวใช่มั้ยครับ " ผมถามคนตรงหน้าพลางเดินเข้าไปใกล้ๆ ในใจก็ข่มอารมณ์ตื่นเต้นเอาไว้ ความรู้สึกเหมือนปลื้มไอดอลสักคนแล้วพอมาเจอตัวจริงก็ทำอะไรไม่ถูกเป็นแบบนั้นเลย " ใช่ค่ะ " คนตรงหน้าตอบพร้อมกับส่งยิ้มชวนใจละลายมาให้ผม หัวใจผมยิ่งเพิ่มอัตราการเต้นเร็วขึ้นไปอีก " ขอโทษนะครับที่ผมรบกวนเวลา แต่ที่ผมนัดเดือนหนาวมาก็เพราะว่าผมมีบางอย่างอยากจะบอก " ผมรีบพูดออกไปก่อนที่หัวใจจะเต้นทะลุออกมา ไหนๆก็เรียนปีสุดท้ายแล้วถ้าบอกตอนนี้แล้วเขาไม่ชอบเราก็ไม่เป็นไร อีกไม่กี่เดือนก็เรียนจบคงไม่ได้เจอกันหรอก ผมคิดในใจ " .......... " " ผมแอบชอบเดือนหนาวมานานแล้วครับ ได้แต่มองอยู่ห่างๆไม่กล้าเข้าหาสักที " อย่าเอาแต่เงียบสิครับ " .......... " " ผมแอบมองเดือนหนาวตอนที่แวะไปหาอาจารย์หมอที่โรงพยาบาลบ่อยๆ อยากเข้าไปคุยด้วยหลายครั้งแต่ก็ไม่กล้า มีอยู่วันหนึ่งผมเห็นเดือนหนาวอยู่ที่ห้องพยาบาลของมอเรา ผมอยากเข้าไปช่วยนะแต่ผมกลัวทำตัวไม่ถูกเลยได้แต่ยืนมองห่างๆ " ผมบอกคนตรงหน้า เดือนหนาวเธอเป็นลูกสาวของอาจารย์หมอซึ่งทำหน้าที่สอนนักศึกษาแพทย์ที่เข้าไปขึ้นวอร์ดในโรงพยาบาลของมหาลัยและผมก็เป็นหนึ่งในลูกศิษย์ของอาจารย์หมอ ผมแอบเห็นเธอแวะไปหาอาจารย์หมอบ่อยๆและนั่นยิ่งทำให้ผมไม่กล้าเข้าไปจีบเธอ " .......... " " แต่ตอนนี้ผมรวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีได้แล้วนะครับ ผมชอบเดือนหนาวนะ เราคบกันได้มั้ย " ผมรีบสารภาพความรู้สึกทั้งหมดที่มีออกไปและคนตรงหน้าได้แต่ยืนฟังอย่างอึ้งๆ ผมก็อึ้งเหมือนกันก็เธอเอาแต่เงียบอย่างเดียว หรือเธอจะเกลียดผมไปแล้ววะ ไม่ชอบก็ปฎิเสธมาเลยนะครับผมรับได้แต่อย่าเกลียดผมก็พอ " หนาวก็มีอะไรที่อยากจะบอกหมอภาคเหมือนกันนะคะ " คนตรงหน้าพูดยิ้มๆ " หนาวก็แอบชอบหมอภาคมานานแล้วเหมือนกันค่ะ " ตึก ตัก ตึก ตัก Yes!! " ผมดีใจมากเลยนะครับ " ผมยิ้มจนแก้มแทบแตกมือไม้สั่นไปหมด พอรู้ว่าคนที่เราแอบชอบเขาก็ชอบเราเหมือนกันคือมันโคตรดีอะ " แต่ตอนนี้...หนาวมีแฟนแล้วค่ะ เขาดีกับหนาวมาก เขาชัดเจนกับหนาวมากและเราก็รักกันมากเลยล่ะค่ะ " อ้าว... " อ่าครับ อกหักแล้วสินะ " ผมพูดเสียงแผ่วพลางเกาหัวแก้เขินไปด้วย แต่ก็ไม่เป็นหรอกครับเธอบอกแบบนี้ก็ดีแล้วชัดเจนดีผมชอบนะผู้หญิงแบบนี้หายาก เพราะส่วนมากจะบอกใครต่อใครว่าไม่มีแฟน " ก็ไม่รู้สิคะ ฮ่าฮ่า แต่ตอนนี้หนาวไม่ได้คิดอะไรกับหมอภาคแล้วนะคะ มีแฟนแล้วรักแฟนมาก " คนตรงหน้าพูดต่อพลางขำไปด้วยซึ่งผมก็ได้แต่ยิ้มตาม ดูเธอมีความสุขเวลาที่พูดถึงแฟนเธอนะ " งั้นไม่เป็นไรครับ ผมขอให้เดือนหนาวกับแฟนรักกันนานๆนะครับ " " ขอบคุณค่ะ " " ไหนๆดอกไม้นี้ผมก็ตั้งใจเอามาให้เดือนหนาวแล้ว...งั้นเดือนหนาวช่วยรับมันไว้ได้มั้ยครับ คิดว่ารับไว้ในฐานะรุ่นพี่หรือเพื่อนคนหนึ่งก็ได้ " ผมบอกพลางยื่นช่อดอกกุหลาบสีขาวช่อโตให้เธอ อย่างน้อยทุกอย่างก็จบด้วยดีล่ะว้าชัดเจน ไม่ยืดเยื้อ ไม่ให้ความหวังถึงแม้ว่าใจผมจะ...พัง!! ก็เถอะ แต่ไม่เป็นไรผมยังไม่ได้ถลำลึกขนาดนั้นแป๊บเดียวเดี๋ยวก็หาย " งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ขอบคุณเดือนหนาวมากที่มาเจอผม " " ค่ะ " หลังจากที่ผมสารภาพรักกับเดือนหนาวไปผมก็รู้สึกโล่งนะที่ไม่ต้องเก็บอะไรไว้อีกแล้ว ตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมามันทำให้ผมอึดอัดพอสมควร อยากพูดแต่ไม่กล้า อยากบอกแต่ก็อาย อีกอย่างจะโทษใครก็ไม่ได้หรอกผมเองแหละที่บอกรักเธอช้าไป " มาก่อนแท้ๆ แอบรักก่อนแท้ๆ แต่ก็แพ้คนที่มาทีหลังที่ชัดเจนกว่านะมึง " ผมพรึมพรำกับตัวเองพลางนั่งลงข้างขอบสนามเพื่อรอแข่งในรอบถัดไป " ไงมึงไหนบอกว่าวันนี้จะไปบอกชอบเขา ทำไมทำหน้าเหมือนติดห่ามาแบบนั้น " เพื่อนในกลุ่มที่รู้ว่าผมชอบเดือนหนาวถามขึ้น " สารภาพรักกับเขาไปแล้ว แล้วเขาก็ชอบกูด้วยนะ " ผมบอกมัน " ก็ดีแล้วนี่หว่า ได้ข่าวว่าคนนี้ไม่มีใครจีบติดเลยสักคน " เพื่อนผมว่า " แต่กูบอกเขาช้าไปว่ะ ตอนนี้เขามีแฟนแล้วแถมยังบอกกูอีกด้วยนะว่าเขารักแฟนเขามาก " ผมบอกมันเซ็งๆ " อ้าวเวร " " กูบอกเขาช้าเกินไปว่ะ " " เออช้าแต่ก็ช่างแมร่งเหอะ เอาไว้ค่อยแก้ตัวใหม่กับคนต่อไปแล้วกัน " มันตบไหล่ปลอบผมเบาๆ " อืมกูก็ว่างั้น " " คนต่อไปมึงก็อย่าช้าล่ะ ชอบก็จีบ รักก็รุก จะได้ไม่เป็นแบบนี้ " " อืมกูก็ว่างั้นแหละ " ผมเห็นด้วยกับมัน " งั้นก็แสดงว่าไอ้เด็กวิศวะคนนั้นคงเป็นแฟนคนที่มึงแอบชอบจริงๆสินะ กูเห็นเขาลือกัน " เพื่อนผมบุ้ยปากไปทางอัฒจรรย์ของสีฟ้าที่ตั้งอยู่อีกฝั่งของสนาม " คนไหนวะ " ผมหันไปถาม " ก็นั่นไง นั่งหงอยเป็นหอยป่วยอยู่น่ะ " เพื่อนผมว่า คนนี้ชื่อไวน์นี่หว่าดังพอสมควรผมเห็นแวะไปหาอาจารย์หมอบ่อยๆคิดว่าเป็นหลานหรือเป็นลูกอาจารย์ซะอีก ว่าที่ลูกเขยเองหรอเนี่ย ทำไมคิดไม่ได้วะ " ปกติคนนี้มันจะระริกระรี้นะออกจะแรดๆด้วยซ้ำ แต่วันนี้มันดูหงอยเหมือนหอยโดนยาเลยมึง " เพื่อนผมพูดต่อยิ้มๆ " เขาก็ดูเหมาะกับเดือนหนาวดีนะมึง " ผมว่า " เออเหมาะ แล้วนี่มึงรู้ยังว่านัดต่อไปเรากับเขาต้องแข่งกัน " อะไรอีกวะเนี่ย " กูจะมีแรงแข่งได้ยังไงวะเพิ่งโดนตัดกำลังใจไปเมื่อกี้ แล้วนี่ต้องมาแข่งกับเขาอีก " ผมหันไปบอกมันเซ็งๆ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD