“เบลแกเป็นอะไร เห็นออกมายืนตรงนี้นานแล้วนะ ข้างนอกหนาว เข้ามาได้แล้ว”
“อืม” เมเบลหันหน้ามาส่งยิ้มให้กับโรส ก่อนจะแหงนหน้าขึ้นไปบนท้องฟ้า มองดวงจันทร์ที่ส่องประกายทอแสงอยู่บนท้องฟ้ายามค่ำคืน ภายในใจของเธอคิดถึงใบหน้าของชายคนหนึ่ง นี้ก็ผ่านมาสองเดือนแล้ว ที่เธอไม่ได้ข่าวคราวของอเดล
“นี่ยังไม่เข้ามาอีก เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอก เลิกไปยืนเล่นเอ็มวีเพลงเศร้าอยู่ตรงนั้นได้แล้ว”โรสเดินออกมาที่ระเบียงอีกครั้ง เมื่อเธอเห็นว่าเมเบลยังไม่เข้ามาด้านใน “คิดอะไร บอกฉันมาสิ”
“คิดถึงเขาอ่ะ”
“เฮ้ยยย” โรสถอนหายใจยาว “ฉันไม่รู้จะพูดกับแกยังไงดี ตอนนี้เขากับแกเหมือนอยู่คนละโลกกันเลยนะ ไม่รู้เมื่อไหร่เขาจะได้ออกมา”
“ฉันจะรอ”
“นี่ ฉันพึ่งเคยเจอคนแบบแก เขาไม่รู้ชื่อแกด้วยซ้ำ แกจริงจังมากเกินไปไหม”
“การรักใครสักคนมันต้องมีเหตุผลด้วยหรอ”
“คิดถึงก็ไปหาสิ หรือไม่ก็เขียนจดหมายไปหาเขา”
“เอ่อใช่ ขอบใจมาก สมกับเป็นเพื่อนรักของฉัน”เมเบลเอ่ยออกมาอย่างดีใจ ก่อนที่เธอจะเดินเข้าห้องไป ปล่อยให้โรสเอามือขึ้นเกาศีรษะ กับอาการของเพื่อนรักที่เป็นอยู่ตอนนี้
“เอาจริงดิ ฉันแค่พูดเล่นนะ” โรสเอ่ยไล่หลังออกไป ก่อนจะเดินตามเมเบลเข้าไปด้านในห้อง
เมเบลเปิดโน๊ตบุคขึ้นมาเสริฟหาที่อยู่เรือนจำของชายหนุ่มที่ถูกฝากขัง เธอลงมือเขียนจดหมายด้วยลายมือของตัวเองทุกตัวบรรจงใส่ความรู้สึกที่มีภายในใจลงไปด้วย เธอแค่หวังว่าสักวันเขาจะมองเห็นว่ามีเธอยืนรอเขาอยู่ตรงนี้
“มันจะดีหรอ นี้แฟนพี่สาวแกนะ ถ้าพี่สาวแกรู้มีหวัง...แค่คิดก็สยองแล้ว” โรสทำหน้าจิตนาการถึงความโกรธของเฟรย่า ที่มีต่อเมเบล เธอรู้พี่สาวของเพื่อนสนิทมีนิสัยเช่นไร
“เขาไม่รู้หรอกว่าฉันคือใคร อย่างน้อยให้ฉันได้สารภาพรักเขาไปก็พอใจแล้ว”
“แกแน่ใจหรอ ถ้าเขารู้ว่าเป็นแก อีกหน่อยเขามาเป็นพี่เขยแก จะมองหน้ากันไม่ติดนะ”
“ไม่เป็นไร ความรู้สึกของฉันตอนนี้มันเก็บไว้ไม่อยู่แล้ว”
“เอาตามตรงนะ การสารภาพรักของแกมันไม่เวิค สารภาพรักแล้วจะทำไงต่อ”
“ก็ไม่ทำไง ฉันจะเขียนแค่ฉบับเดียวแค่นั้นพอ” เมเบลไม่รอช้าตั้งใจหันหน้าไปจดจ่อกับการเขียนจดหมายสารภาพรักอีกครั้ง มือเล็กเขียนจดหมายรักฉบับแล้วฉบับเล่าแล้วขย้ำมันลงถังขยะทิ้งจนเกือบเป็นสิบรอบ
“อะไรของแก ทำไม่มีแต่กระตาษเต็มไปหมดแบบนี้”
“การสารภาพรักทำไมมันยากขนาดนี้” เมเบลบ่นออกมา ก่อนจะทิ้งตัวเอนไปบนพนักเก้าอี้ตัวใหญ่อย่างเหนื่อยหน่าย
“พอเถอะไปนอนได้แล้ว พรุ่งนี้สอบวันสุดท้ายเอาเวลาไปทบทวนบทเรียน สอบเสร็จค่อยมาเขียนต่อ”
“อืม เป็นความคิดที่ดีมาก ตอนนี้ง่วงแล้ว อ่านหนังสือมาทั้งวัน ไปนอนกันเถอะ”
โรสไม่ตอบอะไร เดินไปทิ้งตัวลงบนเตียงนอนของตัวเอง เมเบลนึกคิดถึงใบหน้าหล่อของอเดลไม่ยอมหยุดทุกครั้งที่คิดถึงเขาหัวใจในอกด้านซ้ายมันเต้นแรงใบหน้าของหญิงสาวเต็มเปื้อนไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
วันเวลาล่วงเลยเข้าเดือนที่สองที่อเดลเข้ามาอยู่ภายในเรือนจำ พรุ่งนี้จะเป็นวันตัดสินคดีของเขา อเดลแทบอดใจรอไหมไหวเพราะเขาจะได้เจอเฟรย่าแฟนสาวสุดที่รักของตน เพราะเธอได้เข้ามาเยี่ยมแฟนหนุ่มเมื่ออาทิตย์ก่อน เฟรย่าบอกกับเขาว่าจะมาเป็นกำลังใจให้เขาในวันขึ้นศาล ความเงียบสงบปนกับเสียงกรนของนักโทษชายที่หลับสนิท แต่เขากลับนอนไม่หลับ ชายหนุ่มเอาแขนเกยหน้าผากอย่างคนคิดหนัก แล้วสุดท้ายเขาก็หลับไปโดยไม่รู้ตัว
“ตื่นได้แล้ว” เควินเดินเข้ามาปลุกอเดล เมื่อเห็นเขายังไม่ลุกจากที่นอน เหมือนเช่นทุกวันที่เขาต้องตื่นก่อนใครเพื่อน
“อืม”
“เมื่อคืนนอนไม่หลับละสิ ฉันก็เป็นนะ วันที่รอคอยก็มาถึง จะได้รู้สักทีว่าตัวเองจะต้องอยู่ข้างในนี้อีกกี่ปี” คาสเอ่ยออกมาคล้ายให้กำลังใจ
“ออกไปข้างนอกก็สูดอากาศเข้ามาให้เต็มปอดเพราะหลังจากวันนี้มึงจะไม่ได้ออกไปอีก นอกจากวันที่มึงจะได้กลับบ้านเท่านั้น” เควินตบมือลงบนไหล่ของชายหนุ่มรุ่นน้อง ก่อนทุกคนจะเดินออกไปทานข้าวเช้าที่โรงอาหาร
อเดลถูกนำตัวมาที่ศาลเมื่อทานอาหารเช้าเสร็จ เขาถูกผู้คุมจับให้อาบน้ำแต่งตัวด้วยเสื้อผ้าชุดใหม่ ก่อนจะออกเดินทางด้วยรถยนต์ไปที่ศาลเพื่อฟังคำตัดสินในคดีของตนเอง
“แกจะลากฉันมาด้วยทำไม” โรสโอดครวญออกมาเมื่อโนเมเบลบังคับให้มาเป็นเพื่อน เมเบลรู้ข่าวว่าวันนี้อเดลจะออกมาฟังคำตัดสินของศาล เธอจึงไม่รอช้าที่จะมาหาเขา ใช่!! แค่เห็นหน้าเขาแปบเดียวก็ยังดี อย่างน้อยคงทำให้เธอหายคิดถึงเขาได้บ้าง
เมเบลลากโรสเข้ามาภายในศาล ซึ้งตอนนี้มีผู้คนพร้อมนักข่าวมารอทำข่าวของเขามากมาย แทบจะไม่เหลือที่นั่งให้เธอ ร่างเล็กเดินฝ่านักข่าวเข้ามานั่งด้านในสุดหญิงสาวเลือกที่นั่งด้านในพยายามให้ใกล้ตรงที่เธอคิดว่าจะสามารถมองเห็นเขาได้อย่างชัดเจน
“แกเรารอมาเป็นชั่วโมงแล้วนะทำไมยังไม่มาอีก”
สิ้นเสียงโรส ประตูศาลก็ถูกเปิดออก เสียงนักข่าวดังเข้ามาด้านใน แต่ถูกผู้คุมกันเอาไว้ก่อนที่จะได้สัมภาษณ์นักโทษอเดล เมเบลมองตามเสียง เธอเห็นชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ที่เธอเฝ้าคิดถึงเป็นที่สุด เดินเข้ามานั่งตำแหน่งด้านหน้าสุดของศาล ทุกอย่างเป็นไปอย่างราบรื่น ศาลเริ่มทำการอ่านคำพิพากษา วินิจฉัยพยานหลักฐานทั้งปวงในคดี และไม่นานศาล จึงตัดสิ้นให้จำคุก 12 ปี
โป๊ก! โป๊ก!
เสียงเคาะค้อนของผู้พิพากษาดังก้องทั่วทั้งห้อง
“จำเลยรับสารภาพลดโทษครึ่งหนึ่ง ศาลขอตัดสิ้นให้จำคุก 6 ปี”
สิ้นเสียงคำพิพากษา เมเบลน้ำตาไหลพราก เธอมองชายหนุ่มที่แอบรักผ่านม่านน้ำตานองหน้า ด้วยความสงสารอเดล ชายหนุ่มมีสีหน้าเรียบเฉย เขามองไปที่พี่ชาย ที่วันนี้มานั่งฟังคำพิพากษา พร้อมนำทนายฝีมือดีมาด้วย ไม่เช่นนั้นเขาคงต้องได้รับโทษมากกว่านี้เป็นแน่
อเดลพยักหน้าให้กับพี่ชายเป็นการขอบคุณ ซึ้งอเดฟก็ยิ้มกลับให้เขา ก่อนที่อเดลจะกวาดสายตามองไปทั่งห้องเพื่อหาใครสักคนที่เขาคิดถึงเป็นที่สุด แต่แล้วเขาก็ต้องผิดหวังเมื่อไม่เห็นแฟนสาวที่เขาเฝ้ารอ สายตาคมพลันสะดุดเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่ง เธอร้องไห้อย่างหนักมองมาที่เขา สายตาเต็มไปด้วยความเป็นห่วง เขาสัมผัสมันได้ แต่ไม่ทันได้มองให้แน่ใจ ผู้คุมก็นำตัวของเขาออกไปขึ้นรถเพื่อกลับเข้าเรือนจำดังเดิม
“แกเห็นไหมโรส พี่เขามองมาทางฉันด้วย” เมเบลพูดออกมาด้วยความดีใจ พร้อมน้ำตาที่ไหลไม่ยอมหยุด สองมือเล็กยกขึ้นมาเช็ดน้ำตา รีบวิ่งตามชายหนุ่มออกไป แต่ก็ไม่ทันการ
“เลิกร้องไห้ได้แล้ว คงสบายใจขึ้นแล้วสินะได้มาเจอแล้วนิ”
“อืม ฉันจะรอเขาออกมา แล้วฉันจะจีบเขาด้วยตัวของฉันเอง” เมเบลพูดออกมาด้วยความจริงใจ คำพูดเหล่านี้แฝงไปด้วยความมุ่งมั่น เต็มเปี่ยมไปด้วยความหวัง ที่เป็นพลังให้หญิงสาวเฝ้ารอคอยผู้ชายที่แอบรัก
“สรุปจดหมายสารภาพรักจะเอาไง”
“ไม่ดีกว่า เอาไว้ฉันรอเขาออกมาฉันจะบอกกับเขาเอง”
“ดี”