Chapter .1 **ทายาทอสูรตัวร้าย**..

1560 Words
“ไม่เห็นจะกลัว และครูจะลงโทษแด๊ดวินเซ้นต์ด้วยตัวเอง ที่เขาทำให้วินเซ้นต์เป็นแบบนี้...ไม่รู้จักสั่งสอนลูก...ปล่อยให้เอาแต่ใจตัวเองและไร้เหตุผล” หญิงสาวกระซิบเสียงเข้ม เธอนึกแบบนั้นในใจเช่นกัน ผู้ปกครองของเด็กชายต้องได้รับการอบรม เขาจะได้รู้วิธีกำหลาบบุตร ไม่ใช่ปล่อยปละ ละเลยจนเขากลายเป็นเด็กกร้าวร้าวเช่นนี้ “แด๊ดงานเยอะ!! เค้ายังไม่ค่อยได้เจอเลย” เสียงหงอยๆ นั่นและแววตาที่สลดลง มณีรินจับสังเกตได้ เด็กคนนี้แค่อยากเรียกร้องความสนใจจากผู้ปกครองแค่นั่นเอง... หญิงสาวลองเสี่ยง ยื่นข้อเสนอให้ หากเธอทำสำเร็จ จะได้เด็กชายที่น่ารักจนโลกต้องชื่นชมเพิ่มอีกหนึ่งคน “แล้วถ้าครูทำให้แด๊ดหันมาสนใจวินเซ้นต์มากขึ้นได้ล่ะ จะเปลี่ยนนิสัยแย่ๆ แบบนี้ไหม?” หล่อนย้ำ!! “จริงป่าว!! อย่ามาโกหกนะ โกหกตกนารกด้วยขอบอก...แด๊ดยุ่งมาก...ขนาดโทร. ไปยังไม่อยากรับสายเลย” เด็กชายบ่นเบาๆ ขยับเข้าใกล้มณีรินอีกนิด เขาบ่นๆ เมื่อการติดต่อบิดาเป็นเรื่องที่ไม่ได้ทำกันง่ายๆ เพราะแอลเจลโร่งานยุ่งแทบไม่มีเวลาเป็นส่วนตัว หากอยากเจอบิดาอย่างน้อยต้องแจ้งล่วงหน้า3 วันเป็นอย่างต่ำ... “ถ้าทำได้ล่ะ จะเชื่อที่ครูพูดไหม?...การทำตัวเป็นเด็กดี เด็กน่ารัก พ่อแม่จะได้รักมากขึ้นกว่านี้ไง” “เค้าไม่มีแม่ มีแต่แด๊ดคนเดียว” น้ำเสียงขึ้นจมูกตอบเสียงสะบัดเมื่อพูดถึงคนในครอบครัว หญิงสาวพยักใบหน้ารับรู้ อืม...มีปัญหาครอบครัว พ่องานยุ่ง ไม่มีแม่เป็นคนคอยอบรม อยู่กับพี่เลี้ยงและบอดี้การ์ด เด็กตัวเท่านี้มีบอดี้การ์ดเพื่อ? สงสัยเธอจะต้องคุยกับผู้ปกครองของเด็กชายวินเซ้นต์เป็นการส่วนตัวสักครั้ง เพื่อที่เด็กจะได้มีพัฒนาการดีๆ ไม่ใช่ฉุนเฉียวเอาแต่ใจตัวเองแบบนี้ “ครูก็ไม่มีแม่อยู่ด้วยหร๊อก!! แต่ครูไม่เห็นเป็นไรนี่นา อยู่มาได้จนถึงตอนนี้ ไม่เกเร ไม่งอแงด้วยค่ะ” “จริงอ่ะ...ทำไมไม่มีล่ะ” เด็กชายเผลอตัว เมื่อคุณครูคนสวยหลอกล่อด้วยเรื่องที่เขาคิดถึง “จริงสิ!! แม่ครูอยู่ไกล...ข้ามน้ำข้ามทะเลไปไกลแสนไกล” มณีรีนยิ้มกว้าง เธอทรุดนั่งเบื้อหน้าเด็กชาย ยกมือขึ้นเกลี่ยรอยน้ำตาให้พร้อมกับยิ้มกว้างขวาง เมื่อวินเซ้นต์ขยับตัวหนี “แต่แม่เค้าไม่ได้ตายนะ... แค่ไม่ได้อยู่ด้วย อยู่คนล่ะที่...แต่เค้าก็ไม่อยากเจอแม่หรอก แม่ชอบแต่งตัวโป้ๆ ชอบออกเที่ยวกลางคืน” หญิงสาวอุทานในใจ เห้ย!! ผู้ปกครองของเด็กนี่ทำไมประพฤติตัวอย่างที่ไม่ดีให้เด็กเห็น เท่าที่ฟังมณีรินไม่อยากจะนึก หากเธอโตมาแบบนี้ คงไม่แคล้วเป็นแบบเด็กชายคนนี้แน่ๆ พ่อไปทาง แม่ไปทาง อีกคนบ้างาน อีกคนบ้าเที่ยว โอ้ย!! อยากจะจับทั้งพ่อและแม่มาอบรมเสียใหม่ เด็กๆ เหมือนผ้าขาว มันขึ้นอยู่กับว่าเราจะแต้มสีอะไรลงไป ดูเหมือนว่าเด็กคนนี้จะมีหลากสีเพราะครอบครัวขาดๆ เกินๆ นี่เอง ชักอยากเจอผู้ปกครองของวินเซ้นต์ทั้ง2 คนเสียแล้วสิ!! “วินเซ้นต์ มาให้ครูกอดทีสิ” ความสงสารพุ่งพรวดๆ เธออ้าแขนออกและพยักหน้าเรียกเด็กชาย แม้เขาจะฝืนปั้นหน้าว่าข้าไม่แคร์!! ข้าอยู่ได้แม้จะไม่มีใคร? แต่เด็กก็คือเด็ก เขาปรารถนาอ้อมกอดที่อบอุ่นจากคนรอบข้าง ไม่ใช่ปล่อยให้เขาอ้างว้างอยู่กับความเหงาและเดียวดาย วินเซ้นต์มีท่าทีลังเลเล็กน้อย มือเล็กๆ นั่นกำแน่น...เขามองสบสายตากับมณีรินนิ่งๆ เมื่อเธอคลี่ยิ้มเต็มหน้า ร่างเล็กๆ นั่นก็ถลาเข้ามาซุกอก พร้อมทั้งสะอื้นฮักๆ จนตัวโยน เธอวางมือบนแผ่นหลังเด็กน้อย ลูบขึ้นลูบลงและกระซิบปลอบใจ รู้สึกเห็นใจเด็กชาย เขาคงสะสมความเดียวดายอยู่ในใจเป็นนาน คงโหยหาอ้อมกอดแสนอบอุ่น แต่กลับแสดงออกด้วยความแข็งกระด้างแทน เพื่อตบตาทุกๆ คน แสร้งทำเป็นเข้มแข็ง ทั้งที่หัวใจอ่อนแอ ช่างน่าสงสารและน่าเห็นใจ!! เธอคงต้องทำอะไรสักอย่าง!! เพื่อเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของวินเซ้นต์ และต้องหาทางไปคุยกับผู้ปกครองเขา สร้างความเข้าใจเสียใหม่ งานสำคัญสำหรับการยังชีพก็จริง แต่คนในครอบครัวสำคัญกว่า ยิ่งเขายังเป็นเด็กน้อยยิ่งต้องการความอบอุ่นและการปกป้องดูแล ไม่ใช่การปล่อยปละละเลยเหมือนอย่างที่วินเซ้นต์ได้รับ ไม่เช่นนั้น เหล่าผู้ปกครองทั้งหลายจะเสียใจภายหลัง หากบุตร หรือหลานเกิดความผิดพลาดเดินทางผิด เพราะตั้งใจประชดประชันโลก “ปล่อยมาให้หมดเลยจ้ะ แล้วมาช่วยครูเก็บของดีกว่านะคะ ครูสัญญาว่าจะตามแด๊ดของวินเซ้นต์ให้!!...หนูจะได้เจอหน้าแด๊ด บ่อยๆ หลังจากนี้” มณีรินลูบมือบนแผ่นหลังเด็กชาย เธอย้ำให้เขารู้ ครูอนุบาลคนนี้ของเขา จะตามล่าและลากบิดาของเขาให้แวะมาหาให้ได้ “จริงนะ!! อย่าโกหกนะครับ” “จริงสิ!! ครูสัญญาแล้วนี่คะ เอาล่ะ...เรามาช่วยกันเก็บของดีกว่าไหมจ้ะ” เธอขยี้ศีรษะทุยได้รูปของวินเซ้นต์ จับโยกไปโยกมาด้วยความเอ็นดู อย่างนี้ค่อยเหมาะสมกับหน้าตาดีๆ นี่หน่อย ปากนิดจมูกหน่อย ผิวขาวผ่อง แหมๆ ชักอยากเห็นหน้าพ่อแม่ของเด็กชายนี่แล้วสิ!! ลูกรูปงามขนาดนี้ พ่อแม่คงน้องๆ เทพบุตรหรือไม่ก็นางฟ้านางสวรรค์ เด็กชายวิ่งตื้อ!! ออกจากอ้มอกของมณีริน เขาเดินไปเก็บกองของเล่นที่ตัวเองอาละวาดขวางปา เก็บในที่เดิมๆ ของมัน เพื่อให้มณีรินพอใจ จนยอมทำอย่างที่ตัวเองพูด ‘แด๊ด’ วินเซ้นต์เรียกบิดาในใจ เขาอยากกอดท่าน แต่แองเจลโล่ไม่ค่อยมีเวลา “เก็บเสร็จแล้วคร๊าฟ” เด็กชายยิ้มแผล่ เขาจัดการเก็บของที่หล่นเกลื่อนจนหมด แม้จะไม่เรียบร้อย แต่ก็ถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีขึ้นในระดับหนึ่ง ที่ดีขึ้นกว่าเก่าเยอะแยะ “ดีมาก...ทีนี้ครูจะพาวิน...ไปขอโทษเพื่อนๆ วินทำให้พวกเค้าตกใจ...” หญิงสาวพูดเสียงอ่อน “ทำไมต้องขอโทษด้วยล่ะคร๊าฟ?” ใบหน้าเล็กๆ หงิกงอ เขาก้มใบหน้าลงจนปลายคางจรดหน้าอก ไม่อยากทำอย่างที่ครูคนสวยบอกสักนิด มันเสียหน้าที่ต้องต้องลดตัวไปขอโทษเด็กขี้แงพวกนั้น “เชื่อครูพูดไหมล่ะจ้ะ?” มณีรินไม่ตอบทันใด เธอย้อนถามเพื่อให้เวลาเด็กชายเพิ่มขึ้น “ก็...เชื่อ แต่...” เขาพยักหน้ารับ แต่ก็ยังมีข้อแม้ สมเป็นวินเซ้นต์เด็กมีปัญหาคนเดิม “เพื่อนคือคนที่เราต้องอยู่ด้วยทุกๆ วัน ในโรงเรียน...เพราะฉะนั้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันไว้ มันก็เป็นประโยชน์กับตัวเราในอนาคต วินชอบรอยยิ้ม หรือว่าชอบให้คนอื่นๆ รักหรือเปล่าล่ะ ถ้าชอบแบบที่ครูว่า ก็ทำอย่างที่ครูบอกสิ” “ก็ได้ๆ ทำก็ทำ” ปากยื่นๆ ใบหน้างอๆ แต่ก็ยอมรับคำทำตามที่มณีรินสอน เธออดใจไม่ไหวเลยดึงร่างเล็กๆ นั้นมากอดอีกครั้ง แถมกดปลายจมูกที่พวงแก้มยุ้ยๆ นั้นหนึ่งฟอดเป็นรางวัล เด็กชายดิ้นขลุกขลัก ผิวแก้มแดงปลั่ง ร้องกรีดๆ แต่ก็ไม่ยักกับผลักไสเหมือนทุกๆ ที “ลาออกไปซะ!! อย่าสะเออะมาให้ฉันเห็นหน้าอีกครั้ง... สิ่งที่แกทำลงไปฉันฝืนใจให้อภัยไม่ได้จริงๆ ว่ะ” เสียงตวาดก้อง ฝ่ามือหนาๆ กระแทกปังบนผิวโต๊ะดังปัง!! เมื่อลูกน้องในบริษัทริอ่านเอาความลับของบริษัทไปขายให้ฝ่ายตรงข้าม แต่ทีมงานของเขาจับได้เสียก่อน “ได้โปรดเห็นใจผมเถอะครับ ผมจำเป็นต้องใช้เงิน” เสียงวิงวอนร้องขอความเห็นใจจากคนทรยศ ชายหนุ่มเบ้ปากกรอกตามองบน!! เขาอยากกระแทกหน้าไอ้หมอนี่เต็มทน หนอยๆ ทำเป็นอ้างความจำเป็น ใครๆ ก็มีเรื่องเดือดร้อนกันทั้งนั้นแหละ แต่ไม่มีใครกล้าทรยศเขา ไม่มีใครกล้าสร้างความสูญเสียให้กับอู่ข้าวอู่น้ำของตัวเอง “ที่ฉันให้แกลาออก นี่ยังไม่ใช่ความเมตตาอีกรึ!!” เสียงเย็นเฉียบตอบกลับไป เขาผินตัวมองไปทางอื่น กลัวจะกลั้นอารมณ์ตัวเองไว้ไม่อยู่ เดี๋ยวไอ้หมอนี่จะกลายเป็นที่รองมือรองตีนของเขาเสียเปล่าๆ “แต่ผมไม่มีที่ไป... ผมอยู่กับโรเรนโซ่มาตั้งแต่สมัยคุณท่าน...ผมอายุมากแล้ว จะไปหางานที่ไหนทำได้ล่ะครับ” “ถามหน่อย...ฉันต้องใส่ใจคนที่คิดร้ายกับฉันด้วยรึ? อย่างนี้ฉันไม่ต้องวิ่งแล่ไปขอบคุณพวกมันหรือไง ที่รับซื้อข้อมูลบริษัทจากแกน่ะห่ะ!!” แองเจลโร่ตวาดสุดเสียง เขาหมดความอดทนกับไอ้คนหน้าด้านนี่แล้วนะ “แค่นี้ไม่ทำให้โรเรนโซ่ล้มคลืนลงมานี่ครับ...ผมรู้ผมถึงทำ”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD