บทที่ 3.1 - เป้าหมายมีไว้พุ่งชน (แผนเสี่ยงอันตรายอยู่นะเนี่ย)

1090 Words
“ขนาดนั้นเลยเหรอแก ทำท่ารังเกียจผู้หญิงมากเลยนะนั่น” “อืม ฉันเครียดมากเลย เอาไงต่อดี” หลังจากเหตุการณ์น่าสะพรึงกลัวเมื่อช่วงกลางวันได้ผ่านพ้นไป ตอนนี้ก็เป็นเวลาเลิกเรียน ฉันจึงเล่าเรื่องทุกอย่างให้ยัยกระปุกฟัง พอยัยนี่ฟังจบสีหน้าท่าทางตกใจก็มาเป็นกระบวนการ “รังเกียจเพศตรงข้ามซะขนาดนี้ ฉันก็เริ่มจะไปต่อไม่เป็นแล้วว่ะ” “อ้าว เฮ้ย อย่ามาเล่นลิ้นแบบนี้นะยะ ไหนแกรับปากแล้วไงว่าจะช่วยฉันน่ะ” ฉันรีบเหวใส่ “ไอ้ช่วยมันก็ช่วย แต่ว่า… เห้ย! นั่นมัน” ระหว่างที่เราทั้งสองคนรอรถเมล์อยู่นั้น สายตาของยัยกระปุกได้เหลือบไปเห็นใครคนหนึ่งเข้า ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนหรอกนะ คนที่ตกเป็นประเด็นในการสนทนานั่นแหล่ะ “นายนั่นขับรถมาโรงเรียนเลยเหรอ” ฉันพูดขึ้นมาลอยๆ “อาหะ” กระปุกพยักหน้า “…” “…” “…” “ไอ้เต่าฉันคิดอะไรออกแล้ว!” เสียงพูดของยัยกระปุกเรียกเอาสติและสายตาของฉันให้กลับมาจ้องหน้าตัวเองอย่างรวดเร็ว มาอีกแล้วครับท่าน ทั้งสีหน้าและแววตาที่ฉายออกมาซึ่งความมั่นใจ แผนที่ว่าคงไม่พ้นให้ฉันได้มีเรื่องขายหน้าเหมือนที่ผ่านมาอย่างแน่นอน “อะไรเหรอ” ฉันถามในน้ำเสียงสุดเนือง ถึงจะอยากให้ยัยเพื่อนคนนี้ช่วยเหลือแค่ไหนก็ตาม แต่ในบางครั้งแผนการของยัยนี่ก็ชวนงามไส้ชะมัด “แกต้องกลับบ้านพร้อมกับนายเกย์นั่น” ยัยกระปุกพูดพร้อมฉีกยิ้มกว้าง “ให้หมีออกลูกเป็นควายยังจะง่ายกว่าเลยนะนั่น” ยัยกระปุกมันกำลังฝันกลางวันอะไรอยู่หรือเปล่า ช่วยบอกให้มันตื่นทีเถอะ “ฉันมีแผน รับรองเลยว่าแกต้องได้ขึ้นไปนั่งอยู่บนรถคันหรูของนายนั่นอย่างแน่นอน” ยัยกระปุกทำสีหน้าท่าทางได้มุ่งมั่นและเด็ดเดี่ยวเป็นที่สุด ยัยเพื่อนตัวดียกนาฬิกาที่อยู่บนข้อมือข้างซ้ายขึ้นมาดูพลางนับอะไรพึมพำๆ ที่ฉันเองก็ได้ยินไม่ถนัดนัก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมองฉันสลับกับนูโวที่กำลังจะขึ้นรถคันหรู “แกพร้อมสำหรับแผนการของฉันไหมเต่าน้อย” “แผนอะไร แกบอกฉันก่อนสิ” “ตามมาแล้วแกก็จะรู้เอง” “เฮ้ย... กระปุก!” ยังไม่ทันที่ฉันจะได้พูดจบ ยัยกระปุกก็ลากแขนฉันให้ออกวิ่งตามตัวเองไปด้วยความเร็วสูง ดีนะที่ฉันขืนตัวเอาไว้ได้ทัน ไม่งั้นมีหวังหน้าได้ไถลไปกับพื้นถนนอย่างแน่นอน ยัยกระปุกพาฉันวิ่งเข้าออกซอยนั้นซอยนี้มั่วไปหมด จนฉันเริ่มจับต้นชนปลายไม่ถูก แล้วนี่ถ้าจะให้เดินกลับไปที่เดิมจะกลับออกไปได้ไหม “แฮ่ก ฉันนะ...เหนื่อยแล้วนะแก” ฉันบ่นอุบหลังจากที่ยัยกระปุกพาฉันมาหยุดอยู่ที่ซอยๆ หนึ่งซึ่งฉันก็ไม่คุ้นเคยกับซอยนี้มาก่อน ยัยกระปุกไม่ได้สนอกสนใจในเสียงบ่นของฉันเลยสักนิด นอกจากเอาแต่ทอดสายตาจ้องมองนาฬิกาบนข้อมืออย่างร้อนรน จนฉันอดตั้งคำถามไม่ได้ “แกกำลังทำอะไรอยู่เนี่ย ช่วยบอกฉันหน่อยได้ไหม จู่ๆ ก็มาพาฉันวิ่งเข้าวิ่งออกซอยนั้นซอยนี้ ฉันเหนื่อยนะยะยิ่งหุ่นบางร่างน้อยอยู่ แกนี่ทำไมทำอะ กรี๊ด!” ร่างทั้งร่างของฉันถูกยัยเพื่อนตัวดีผลักออกมายืนเด่นหราอยู่กลางถนนหน้าซอย รถปอร์เช่เปิดประทุนคันหนึ่งกำลังเคลื่อนที่เข้ามาทางฉันด้วยความเร็ว ใกล้แล้ว มันมาแล้วว อ๊าก! ยัยกระปุกคิดจะฆาตกรรมฉันเหรอ ฮือๆ ป๊าม๊าจ๋า ชาตินี้หนูบุญน้อยนักเกิดมายังไม่ได้ตอบแทนพระคุณป๊ากับม๊าเลยก็ต้องมาตายซะแล้ว ลาก่อนพี่ไก่ทองสุดที่รัก ลาก่อนเรื่องวุ่นวายต่างๆ นานาที่เกิดขึ้น และ... ลาก่อนนายนูโว (คนที่ฉันยังไม่ทันได้เริ่มจีบ) เอี๊ยด! ชนแล้วฉันถูกชนแล้ว ฮือๆๆ นี่คือความตายใช่ไหม ความตายมาเยือนฉันแล้วจริงๆ ใช่ไหม ฮือๆๆ “นี่เธอ! อยากตายมากหรือไงหะ ถึงได้วิ่งตัดหน้ารถฉันน่ะหะ!” โอ๊ย ยมบาลดุแท้หนอ “ยัยบื้อลืมตาขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ เธอบ้าหรือเปล่าเนี่ย!” ยมบาลสั่งให้ฉันลืมตาแล้ว ท่านจะเอาหนูไปคิดบัญชีดำใช่หรือเปล่า โฮกฮาก “กรี๊ด!” ร่างของฉันถูกเขย่าอย่างแรงจนศีรษะสั่นคลอนไปหมด “ลืมตาเดี๋ยวนี้!” ว้าว ยมบาลทำไมหล่อจังเลย อร๊าย แบบนี้ความตายก็ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิดน่ะสิ แต่เดี๋ยวก่อน? ทำไมฉันถึงได้รู้สึกคุ้นหน้าคุ้นตายมบาลท่านนี้จังเลยแฮะ เหมือนเคยได้เห็นที่ไหนมาก่อนเลย มองหน้าให้ชัดเจนอีกทีเลยดีกว่า เผื่อจะเป็นคนรู้จักกัน นะ... นูโว “นายเองหรอกเหรอ” ฉันถามอย่างเลื่อนลอยเมื่อเพ่งสายตาดูอีกที ก็รู้เลยว่าคนตรงหน้าไม่ใช่ใครที่ไหน หากแต่เป็นนายนูโวนั่นเอง “ก็ฉันน่ะสิ ทำไมหะยัยบื้อ เธออยากตายมากถึงขนาดเที่ยวมาวิ่งตัดหน้ารถคนอื่นเขาเลยหรือไง!” นูโวตวาดฉันอย่างไม่ลดละ ฉันยอมรับว่าเขาน่ากลัวมากเลยในยามที่โกรธสุดขีดแบบนี้ มือใหญ่ส่งแรงบีบมายังต้นแขนของฉันประหนึ่งว่าอยากจะหักกระดูกให้แหลกคามือ ฉันนิ่วหน้าด้วยความเจ็บปวดเมื่อเริ่มได้สติขึ้นมา “นาย ปล่อยแขนฉันก่อนได้ไหม ฉันเจ็บนะ” ฉันพูดกับนูโวที่กำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ “เหอะ” นูโวสะบัดแขนฉันออกอย่างแรงจนฉันเซไปเล็กน้อย ก่อนที่เจ้าตัวจะส่งสายตาเพชฌฆาตกลับมายังที่ตัวปัญหาอย่างฉันอีกครั้ง “ทีหลังถ้าอยากจะตายมากนักก็ไปกระโดดตึกตาย หรือไม่ก็ไปเดินใกล้ๆ บ่อจระเข้ให้มันเขมือบไป ยังจะมีประโยชน์ยิ่งกว่ามาคิดตายแบบสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่นแบบนี้!” “นายหยุดด่าฉันสักทีได้ไหม ฉันเองก็ขวัญเสียเป็นเหมือนกันนะ แล้วอีกอย่างฉันก็ไม่ได้คิดอยากจะตายอย่างที่นายพูดสักหน่อย” “ถ้าไม่อยากตายแล้ววิ่งมาตัดหน้ารถฉันทำไมล่ะหะ!” อีตานี่มันยังคงตวาดฉันไม่ยอมเลิกรา
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD