“ปรับความเข้าใจกันแล้วใช่ไหมคะ”
พนักงานคนเดิมเอ่ยถามเราทั้งสองคน
“ค่ะ ตอนนี้แฟนของฉันเขาหายงอนเรียบร้อยแล้วค่ะ”
ทำเนียนๆ กันไปให้สมกับคอนเซ็ปต์คู่รักสักหน่อย เพราะในเมื่อนูโวยังยอมให้ฉันแตะเนื้อต้องตัวได้เลย แต่ก็นั่นแหล่ะท่านผู้ชม กว่าจะตกลงเรื่องจับมือถือแขนได้ เล่นกินเวลาไปตั้งหลายนาที หวงเนื้อหวงตัวซะยิ่งกว่าอะไรทั้งปวง
“แหม น่ารักกันจังเลยนะคะ” พี่พนักงานแซว
“ค่ะ น่ารักมากเลย”
น่า ‘ลัก’ ขโมยไปทิ้งต่างหากล่ะ
“งั้นเชิญเล่นเกมส์กันเลยนะคะ คือว่าทางเราจะให้คู่รักป้อนคุกกี้กันทางปาก โดยจะมีคนหนึ่งนำคุกกี้ที่ได้รับจากอีกฝ่ายไปหย่อนใส่ชามนะคะ จะตกลงกันก่อนหรือเปล่าคะ ว่าใครจะเป็นฝ่ายนำคุกกี้ไปใส่ไว้ในชาม ภารกิจนี้ต้องดำเนินด้วยปากอย่างเดียวเท่านั้นนะคะ ห้ามใช้มือหรืออะไรทั้งสิ้นค่ะ”
ตายล่ะหว่า... เริ่มรู้สึกไม่อยากจะเล่นซะแล้วสิ ทำไมเกมส์มันถึงได้แลดูเสี่ยงต่อการที่จะ เอ่อ พลาดพลั้งจูจุ๊บกันได้ขนาดนี้
อย่านะ ขออย่าให้มีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้นเลย
ไม่หรอก ไม่มีแน่นอน เราคงไม่โชคร้ายมากมายขนาดนั้น
“ฉันจะเป็นคนเอาคุกกี้ไปใส่ชามเอง ส่วนเธอก็แค่มีหน้าที่ใช้ปากคาบคุกกี้พอ บ้าชิบ! ฉันไม่ชอบเกมส์บ้าบอคอแตกแบบนี้เลยจริงๆ ให้ตายเถอะ เลิกเล่นดีไหม”
ไม่ชอบเช่นกันเกมส์แนวนี้
“ไม่ได้นะ ฉันอยากได้เอสเจ” ฉันทำตาเว้าวอน
“เริ่มเกมส์กันเลยไหมคะ?”
พนักงานสาวเอ่ยถามพร้อมกับที่มือมีอุปกรณ์เตรียมพร้อมเต็มที่สำหรับกิจกรรมในครั้งนี้ อัลบั้มสุดฮอตฮิตของเอสเจวางตังตระหง่านอยู่บนโต๊ะอย่างสวยงาม ยิ่งเห็นมันก็ยิ่งกระตุ้นความอยากได้ให้พุ่งทะลุปอดซ้ายปอดขวาเข้าไปยกใหญ่
เอสเจที่รัก... รอเต่าตุ่นคนนี้ก่อนนะ
“เปลี่ยนใจฉันไม่เล่นแล้ว” นูโวพูดขึ้น
“อ้าว... ยังไงคะเนี่ย” พนักงานเริ่มเดาใจเราทั้งคู่ไม่ถูก
“เล่นค่ะเล่น” ฉันบอกกับพี่พนักงานก่อนที่จะหันไปกระซิบเบาๆ ที่ได้ยินกันแค่สองคนกับตัวต้นเหตุ
“นูโวนายอย่าเป็นแบบนี้สิ ขอร้องล่ะ พลีส”
“ชิ” นูโวทำเสียงไม่พอใจ
“พี่คะ เริ่มเล่นเกมส์กันเลยดีกว่าค่ะ”
“โอเคค่ะ ตกลงกันเรียบร้อยแล้วใช่ไหมคะ ว่าใครจะทำหน้าที่ไหน” พี่พนักงานถามฉัน ฉันจึงพยักหน้าแทนคำตอบ บัดนี้ฉันกับนูโวกลายเป็นที่สนอกสนใจต่อผู้คนมากมายในร้าน สายตาทุกคู่ต่างพากันจับจ้องมาที่เราทั้งสอง
“ทางเราจะให้เวลาแค่สิบนาที คุณทั้งสองจะต้องนำคุกกี้ใส่ลงชามให้ได้ในจำนวนสิบชิ้นนะคะ พร้อมนะคะ หนึ่ง...สอง...สาม เริ่มได้ค่ะ!” สิ้นเสียงของพนักงานฉันก็รีบประจำตำแหน่งในทันที เหลือบสายตาไปมองอัลบั้มเอสเจสุดที่รักอีกครั้งเพื่อเรียกขวัญและกำลังใจ ฉันก้มหน้าลงกับจานที่ใส่คุกกี้ ใช้ปากเรียวบางคาบเอาคุกกี้ชิ้นที่หนึ่งขึ้นมา กว่าจะคาบขึ้นมาได้ก็ลำบางอยู่ไม่น้อย แต่ฉันก็สามารถคาบชิ้นแรกขึ้นมาได้อย่างสวยงาม
ฉันไม่รอช้ารีบหันหน้าเข้าหานูโวยื่นปากที่คาบคุกกี้ส่งไปที่ปากของเขา สายตาของเราสบประสานกัน จะด้วยความตั้งใจหรือไม่ก็ตาม แต่มันก็ทำให้หัวใจของฉันเต้นแรงมากขึ้นกว่าเดิม
นูโวรีบหลบสายตาที่จ้องฉันในตอนแรกแล้วหันหลังวิ่งเอาคุกกี้ที่เขาคาบไว้ไปหย่อนลงใส่ในชามที่ตั้งอยู่บนโต๊ะ
ชิ้นที่สอง ชิ้นที่สาม และชิ้นต่อๆ ไป ผ่านไปอย่างค่อนข้างสบายไม่มีอุปสรรค์ใดๆ จนกระทั่งพวกเราเดินทางมาจนถึงชิ้นสุดท้ายของการเล่นเกมส์
“เหลือเวลาอีกแค่ 2 นาทีค่ะ!”
กรี๊ดดดด!!!!
สองนาทีเหรอ
ตายแน่ ทำไมชิ้นสุดท้ายมันถึงได้คาบยากคาบเย็นขนาดนี้ ฉันก้มหน้ามานานจนเลือดจะไหลลงมากองรวมกันอยยู่ที่หัวสมองหมดแล้วนะ แต่ก็ไม่ยักจะคาบไอ้คุกกี้ชิ้นสุดท้ายนี่ขึ้นมาได้เลย เอสเจของฉันต้องมาหลุดลอยไปเพราะไอ้คุกกี้บ้าชิ้นสุดท้ายนี้เหรอ
“ยัยบื้อ เธอคาบได้ยังเนี่ย!”
เสียงนูโวดังเข้ามาในโสตประสาท
“ก็กำลังพยายามอยู่ นายอย่าเพิ่งโวยวายได้ไหม”
ฉันพูดโดยไม่ได้เงยหน้ามองเขา
โอ๊ย! นี่ฉันชักเริ่มจะหมดความอดทนกับไอ้ชิ้นนี้แล้วนะ แง ~ ทางร้านเขาแอบติดกาวตราช้างไว้หรือเปล่าเนี่ย ทำไมมันถึงได้คาบยากคาบเย็นเยี่ยงนี้
“เหลือเวลาอีกแค่หนึ่งนาทีแล้วนะคะ เร็วๆ ค่ะ!”
หนึ่งนาทีแล้วพี่น้อง!
ฉันก็อยากจะเร็วเหมือนกันนั่นแหล่ะ แต่จะให้ทำยังไงได้ล่ะก็ในเมื่อมันคาบไม่ได้! ฉันลองเปลี่ยนมุมนั้นมุมนี้อยู่หลายต่อหลายครั้ง แต่มันก็ไม่ได้ทำให้อะไรๆ ดีขึ้นมาบ้างเลยสักนิดเดียว เพราะว่าผลสุดท้ายฉันก็ยังคาบมันไม่ได้อยู่ดี
จนกระทั่ง…
“ไอ้แอ้ว ไอ้แอ้ว อี๊ดด! ( ได้แล้ว ได้แล้ว กรี๊ดด! )”
เย้! ในที่สุดฉันก็สามารถคาบไอ้เจ้าคุกกี้ชิ้นสุดท้ายนี้ขึ้นมาได้สำเร็จ เอสเจสุดที่รักยังคงไม่หลุดลอยไปไหน
ขอบคุณสวรรค์ ขอบคุณพระเจ้า
“พูดมากอยู่นั่นแหล่ะ มาเร็วๆ สิ!”
ฉันรีบวิ่งเข้าไปหานูโวที่ยืนรออยู่นาน ฉันค่อยๆ ยื่นหน้าไปให้ใกล้กับใบหน้าของเขา เพื่อที่เขาจะได้คาบเอาคุกกี้ต่อจากปากของฉันได้อย่างสะดวก
“เหลือเวลาอีกแค่ยี่สิบวินาทีค่ะ เร็วค่ะเร็ว!”
เสียงของบรรดาพนักงานยังคงทำหน้าที่บอกเวลาเราทั้งคู่อย่างต่อเนื่อง เสียงเชียร์จากคนในร้านเริ่มดังขึ้นเป็นกำลังใจให้ฉันและนูโว แต่พวกเขาเหล่านี้จะรู้ไหมว่ากำลังสร้างความกดดัน
“อั้บไอ (รับไป)” เสียงพูดของฉันไม่ต่างอะไรกับมนุษย์ต่างด่าวในหนังฝรั่ง
“รู้แล้วล่ะน่า” นูโวทำเสียงรำคาญ
ใบหน้าของนูโวกำลังเคลื่อนใกล้เข้ามาหาฉัน ริมฝีปากของเขาใกล้กับริมฝีปากของฉันมาก เขากำลังจะคาบเจ้าคุกกี้ที่อยู่ในปากฉันไปไว้ในปากของตัวเอง แล้วเหตุการณ์ที่เคยคิดฝันแต่ไม่อยากให้มันเกิดขึ้นก็บังเกิดจนได้ เมื่อคุกกี้ที่ฉันคาบและตั้งใจจะส่งทอดมันไปให้กับนูโวได้ตกลงสู่พื้น
จึงทำให้...
จุ๊บ!
ริมฝีปากของฉันและนูโวสัมผัสซึ่งกันและกันโดยไร้คุกกี้ชิ้นใดมาบดบัง ฉันมองเขาตาค้างด้วยความตกใจ ส่วนเขาเองก็คงตกใจไม่น้อยไปกว่าฉัน เรากลายเป็นก้อนหินที่แข็งทื่อไร้ความรู้สึก ยืนนิ่งเป็นหุ่นยนต์อยู่กับที่ ในขณะที่ริมฝีปากของฉันและเขาก็ยังคงสัมผัสกันอย่างไม่มีทีท่าจะลดละ