ตอนที่9

2682 Words
แล้วก็ถึงวันหยุดและผมจะไปเที่ยวตามที่ได้นัดกับเพื่อนเอาไว้ แม่ให้ทองมาด้วย2เหรียญ ให้พกไว้จะได้ไม่ขายหน้าพ่อแม่ แต่ถ้าเหลือก็ต้องเอาไปคืน ตั้ง2เหรียญทองแน่ะ ผมจะเอาเหรียญทองแลกเป็นเหรียญเงิน1เหรียญ และจะเก็บเหรียญทองไว้1เหรียญ แต่ผมจะบอกแม่ว่าใช้ไปหมดแล้ว ดีไหมนะ? แบบนั้นจะโดนตีหรือเปล่า รู้สึกผิดอยู่เหมือนกันแฮะ แต่คิดดูดีๆ บางทีแม่อาจแบ่งทองให้เราใช้ก็ได้ งั้นคงไม่ให้มาเยอะขนาดนี้หรอก พวกพี่ยังได้ไปคนละตั้ง10เหรียญ อันนี้แม่คงให้เราแหละ นาราคิดช่างใจ ขณะที่สมองด้านดีและร้ายกำลังเถียงกันอยู่ เสียงบีบแตรก็ดังเรียกสติพร้อมเสียงตะโกนเรียกจากเซนชิน “ทางนี้” นายเซนโบกมือหย็อยๆ นาราเดินเข้าไปหารถครอบครัวสีดำที่จอดรออยู่ไม่ไกลพร้อมกระเป๋าเป้ใส่ของใบหนึ่ง “สวัสดีครับ” นารากล่าวทักทายพ่อแม่เพื่อน “สวัสดีจ้ะ” พวกท่านส่งยิ้มและทักทายตอบ หน้าตาไม่เหมือนกันเลยแฮะพ่อแม่ลูกเนี่ย (ตัวเองก็เหมือนกัน) พ่อของนายเซนจะใส่แว่นท่าทางสุภาพ ส่วนแม่จะผิวขาวผมหยิกมาก (ถึงมากที่สุด) ท่าทางใจดีเหมือนกันทั้งคู่ เราขับรถมุ่งหน้าไปที่สถานีรถไฟ ผมโดนซักประวัตินิดหน่อยพอให้รู้จักกันมากขึ้นและด้วยความเป็นมิตรของครอบครัวนี้ ทำให้เราสนิทใจกันได้เร็ว “ขอบใจนะจ๊ะที่ยอมเป็นเพื่อนกับลูกชายป้า เขาไม่เคยมีเพื่อนเลยตั้งแต่สมัยเด็ก” แม่นายเซนเล่า “แม่อะ อย่าเผากันสิ เขาเรียกเลือกคบหรอก” เซนชินว่า ก็แต่ละคนมีที่ดูไว้ใจได้ที่ไหน ผมก็ไม่มีใครคบเหมือนกันครับป้า นารายิ้มพรางคิดในใจ เขารู้สึกผ่อนคลายมาก พวกเขาช่างเป็นมิตร คิดไม่ผิดเลยที่ตามนายเซนมาด้วย แค่เริ่มก็รู้สึกสนุกแล้ว คุณพ่อของนายเซนขับมาเรื่อยๆ จนถึงสถานีรถไฟ แล้วเราก็ขับเลี้ยวเข้าไปซื้อตั๋วยังช่องขายตั๋วจำนวนมากที่เปิดให้บริการอยู่ เมื่อได้ตั๋วเสร็จแล้ว เราก็ขับเข้าไปยังโบกี้ตามเลขที่ที่ระบุไว้ในตั๋ว และรอให้รถไฟออกจากสถานี ระหว่างนั้นผมกับนายเซนก็เล่นเกมส์มือถือกันโดยไม่ได้สนใจรถคันข้างๆที่จอดนิ่งเป็นแถวยาวในขบวนรถไฟเดียวกัน ชาวเมืองส่วนใหญ่จะใช้บริการขนส่งรถไฟเพราะสะดวกรวดเร็ว ถึงจะมีราคาแพงก็ตาม เมืองทางใต้ที่ห่างออกไปเกือบครึ่งทวีป เราใช้เวลาเดินทางแค่20นาทีก็ถึง นาราตื่นเต้นเพราะไม่เคยไปไหนไกลบ้านมาก่อน ถ้าตอนอยู่ในรถไฟได้เห็นวิวข้างนอกด้วยก็ดีสิ แต่ตู้ขนรถก็อย่างเนี่ย มืดทึบไปหมดอย่างกับอยู่ในกล่อง.......... เมืองทางใต้ที่เคยเห็นแค่ในรูปภาพ ทะเลสีนมชมพูกับธรรมชาติเขตร้อนที่อุดมสมบูรณ์ อยากเห็นเร็วๆจัง และทันทีที่ประตูโบกี้รถไฟเปิดออก.....นาราก็อดตื่นเต้นกับที่แปลกใหม่ไม่ได้จนต้องชะเง้อมองก่อนที่รถจะทันพ้นออกมาจากตู้รถไฟเสียอีก จอแจๆ ง่ะ!! นี่มันอะไรกัน มันไม่ได้น่าประทับใจเหมือนในโปสเตอร์เลยนะ นี่คนหรือมดแตกรังกันเนี่ย คลื่นมนุษย์ทำเอานารายู่หน้าผิดหวัง ฝูงชนมากมายเดินกันขวักไขว่จนแทบไม่มีที่แทรก ถ้ามาด้วยกันแล้วเผลอปล่อยมือคือมีหลงแน่ๆ มันทำให้พาลคิดไปถึงภาพที่หาด ถ้าคนจะเยอะขนาดนี้นอนเล่นเกมส์อยู่ที่ห้องน่าจะบันเทิงกว่า คุณพ่อนายเซนขับรถฝ่าฝูงชนออกมาอย่างช้าๆ เพราะรถติดมาก ระยะห่างแค่นิดเดียวแต่ใช้เวลาเดินทางผ่านนานพอสมควร นานกว่าการเดินทางผ่านครึ่งทวีปเมื่อกี้เสียอีก โอ๊ย อารมณ์เหมือนนั่งอยู่บนหอยทากยักษ์เลยครับ ห้องพักอยู่ที่ไหนครับ ขอวิ่งไปรอที่นั่นเลยได้ไหม พอขับฝ่าความแออัดจอแจของเมืองท่าไปได้ ถนนก็เริ่มโล่งขึ้นถนัดตา บรรยากาศสองข้างทางเป็นทุ่งกว้างสลับกับภูเขาหิน เฮ่อ...ค่อยหายใจสะดวกขึ้นมาหน่อย เราออกมาไกลจากเมืองมากก็ถึงที่หมายในที่สุด “ถึงแล้วจ้า” แม่เขาบอกน้ำเสียงดี้ด้า เราจอดรถกันที่ลานจอดรถกว้าง นารามองไปทางไหนก็ไม่เห็นว่าจะมีวี่แววของตัวอาคาร แต่ก็เดินตามคนอื่นไปโดยไม่ปริปากบ่นไม่ได้ถามซักอะไรให้มากความ เราเดินผ่านหาดไปเรื่อยๆ ก็เจอกับทางลงสถานีรถไฟใต้ดิน ข้างใต้นี้ค่อนข้างเย็นถึงหนาว ต่างจากบรรยากาศหน้าร้อนข้างบน ซับซ้อนจังแฮะ ต้องต่อรถไปอีกหรอ นาราคิด คุณป้าเข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่ตัวโตท่าทางน่ากลัวที่ยืนประจำอยู่ตรงทางเข้าหลายสิบคน “ประตูแดนใต้4คนค่ะ” คุณป้าบอกพร้อมยื่นเอกสารประจำตัวให้เจ้าหน้าที่ ที่นี่บรรยากาศตึงเครียดแปลกๆ ทั้งยังใช้เวลาตรวนสอบนานพอสมควร เข้มงวดกันจัง ก็เข้าใจนะครับว่าเพื่อความปลอดภัย ป้องกันพวกหนีคดีหนีออกนอกโลกบ้างอะไรบ้าง แต่คือต้องดีงามมากแน่นๆ เลย ครอบครัวนี้ถึงยอมเสียเวลาขนาดนี้เพื่อมาที่นี่ “นายมานี่บ่อยไหมเซน” นาราเอ่ยถามหลังจากเงียบกันอยู่นาน “ไม่ค่อยอะ มันนานหงุดหงิดจะแย่”เซนชินว่า อ่า นึกว่าเราเป็นคนเดียว “ความจริงมาเพราะงานพ่อ เลยถือโอกาสมาเที่ยวด้วยซะเลย” เซนชินว่าต่อ “งานหรอ?” “ใช่ พ่อเป็นนักพืชวิทยา” “ว้าว ไม่เห็นเคยเล่า” นารามองตาโตเป็นประกาย “ไม่เจ๋งหรอก” เซนชินว่าด้วยอารมณ์แบบอยากได้พ่อทำงานก่อสร้าง ถึก บึกบึน “เท่สุดๆ เลยแหละ” “ชอบขนาดนั้นทำไมไม่เรียนซะล่ะ” “ไม่มีตังค์” นารายิ้มบอก เป็นเหตุผลที่ดูสิ้นหวังเสียจริง “งั้นฉันบอกพ่อให้ ถ้านายอยากรู้อะไร” “ไม่ล่ะ ไม่ต้อง ให้คุณลุงทำงานไปเถอะ เราไม่ได้อยากรู้ขนาดนั้น แค่ชื่นชอบเท่านั้น” ผ่านไปกว่า2ชม.ที่เราต้องนั่งกร่อยอยู่ตรงนั้น ในที่สุดเราก็ได้ไปด่านต่อไปเสียที พวกเขาให้เราขึ้นกระสวยแก้วที่นั่งได้4คน และเราต้องใช้เจ้านี่ตอนขากลับด้วย มันเป็นกระสวยอัจฉริยะวิ่งได้เองตามเส้นทางเดิม แรงดึงดูดของขั้วแม่เหล็กทำให้มันลอยไปตามทางในอุโมงค์ และไม่นาน เจ้ากระสวยก็พาเรามายังประตูไปโลกแดนอสูรใต้ ประตูเชื่อมมิติสวยมาก มีลักษณะเป็นวงรี รอบๆ ประตูถูกก่อด้วยหินเวทสีอ่อน ที่เมื่อสมัยเริ่มสงบศึก พวกมีพลังเวทและทรงปัญญา สร้างผนึกกั้นไม่ให้ประตูกว้างไปกว่านี้เพื่อกันเราจากพวกสัตว์อสูรที่แสนจะอันตราย รอบๆ ขอบยังมีแสงคล้ายกระแสไฟฟ้าที่กำลังรั่วอยู่ตลอดเวลา เกิดลูกไฟสีฟ้าหยดลงมาตามแรงโน้มถ่วงดูสวยงาม ยิ่งเมื่อเข้าไปใกล้แสงยิ่งจ้ามากจนต้องหลับตาลงชั่วขณะ เราไม่สามารถมองเห็นอีกฟากของประตูได้ จนกว่าเราจะข้ามไปถึง พรึ่บ~~~ พอรู้สึกว่าการเคลื่อนตัวหยุดลง นาราก็ลืมตาขึ้น “ว้าว” นาราตื่นตาตื่นใจกับภาพแรกที่เห็น แตกต่างกับหาดเมื่อกี้ลิบลับ ทะเลนมชมพูที่สีเข้มกว่า น้ำนิ่งกว่า หาดทรายขาวสีเม็ดเกลือ ต้นไม้สูงใหญ่อย่างกับอยู่ในเมืองยักษ์ เราจอดกระสวยไว้ที่สถานีด่านประตูที่มีการคุ้มกันแน่นหนา “ต้องเดินเท้าไปอีกหน่อย” พ่อของนายเซนบอก นาราเดินตามคนอื่นๆ ไป ที่นี่เงียบมาก นอกจากกลุ่มผู้ชายตัวใหญ่กล้ามโตถือปืนแล้ว ก็มีคนอื่นแค่ปะปลาย แต่นาราอดแปลกใจไม่ได้ที่ยังหลงเหลือธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ในยุคนี้ให้ได้เห็น “ทำไมไม่มีใครย้ายมาอยู่นะ ออกจะน่าอยู่ขนาดนี้” นาราพึมพำ “มันอันตราย แม้แต่กับอสูรตัวโตเอง” เซนชินที่เดินอยู่ข้างๆ บอก “พวกสัตว์อสูร แรงเยอะตัวใหญ่ อันตราย อาจมีบางตัวใหญ่เท่าภูเขา” พ่อเล่าถึงสัตว์อสูร “นั่นมันในตำนาน พ่อก็เล่าให้ลูกกล้ว” แม่ว่า “ไม่ต้องกลัวนะจ๊ะ แถวนี้อย่างมากก็เท่ารถไฟเอง” เธอว่าต่อยิ้มๆ คือต้องกลัวแล้วล่ะครับคุณป้า “อ่อครับ ผมก็เคยได้ยินมาอยู่เหมือนกัน แต่ไม่มีใครคิดจะมาล่าพวกมันหรอครับ” นี่มันยุคความเห็นแก่ตัวนะเออ “ล่าแค่ตัวที่พอจะเป็นยาได้ แต่ก็น้อย เพราะแค่ตัวเดียวยังต้องใช้ทั้งอาวุธและคนอีกจำนวนมาก เรียกว่าได้ไม่คุ้มเสีย” คุณลุงบอก “ที่นี่ก็มีหลุดมาบ้าง บ้านพักแถบนี้สร้างไม่รู้ตั้งกี่รอบ” เซนชินเล่าบ้าง “อันตรายขนาดนี้ ยังมีคนมาเที่ยวอีกหรอครับ” “ก็มันสวยใช่ไหมล่ะ” คุณลุงบอก “ถ้าคนไม่เยอะมันก็ไม่ได้กลิ่นหรอก อย่าห่วง แต่คอยฟังคอยดูให้ดีล่ะ ถ้าเห็นผิดสังเกตก็วิ่งไปที่ประตูเลยรู้ไหม” เซนชินว่าอย่างห่วงๆ เอ่อ ช่างเป็นความหฤหรรษ์ นารากับเซนชินแยกย้ายไปเก็บของในห้อง แม่ไปอาบแดดที่หาด ส่วนพ่อเข้าป่าไปธุระที่ว่าบนเขา นาราออกมายืนรับลมที่ชานบ้าน ทอดมองออกไปไกลสุดลูกหูลูกตา ท้องฟ้าสีครามตัดกับน้ำทะเลสีชมพู เห็นแล้วอยากเล่นน้ำอยู่เหมือนกันแต่เกรงว่าจะมีบางอย่างภายใต้น้ำนิ่งนั่นอย่างแน่นอน “ไปเล่นน้ำกัน” เซนชินเดินมาเกาะหลัง “ไว้วันสุดท้ายค่อยเล่น” นาราบอก จริงๆตอนนี้ก็แค่อยากนั่งโง่ๆ เฉยๆ ด้วยซ้ำ อาจจะด้วยเพราะนั่งรถทั้งวันจนเมื่อยไปหมดก็เป็นได้ “อ่าว นายไม่เล่นแล้วเราจะเล่นยังไงคนเดียว” “งั้นเล่นก็ได้” เออ มาเที่ยวฟรีแล้วยังจะมาไม่สำนึกอีกนะเรา “ไม่เอาอะ ก็นายไม่อยากเล่นหนิ” “เล่นก็ได้ ไม่ได้ไม่อยากขนาดนั้น” “ไม่เอาเปลี่ยนใจและ เข้าป่ากันดีกว่า” เซนชินว่าพรางวิ่งกลับเข้าไปเปลี่ยนชุดในห้อง นาราส่ายหน้า ตามความคิดเขาไม่ค่อยจะทันเลย แต่มาแบบนี้ก็ดีนะ สบายใจจัง รู้สึกดีเหมือนเป็นอิสระ พอโตขึ้นเราคงรู้สึกดีแบบนี้แหละ เฮ้อ..สงบ น่านอนจัง เสียอย่างเดียว ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต นารามองไปรอบๆ อันที่จริงเราน่าจะหาอะไรไปฝากพ่อกับแม่ก็ดีนะ “เรียบร้อย ป่ะไปกัน” เซนชินในชุดเดินป่าเตรียมพร้อมบอก  ณ ป่า “ตรงนี้ไม่เป็นไรหรอ (ไม่อันตรายแน่นะ) ” นาราถามสงสัย “อือ มีสัญลักษณ์บอกเห็นไหม” นายเซนชี้ไปที่แนวลูกบอลกลมสีแดงที่ติดอยู่ตามจุดต่างๆ เป็นแนวยาว “มันเป็นตัวส่งสัญญาณ มันจะส่งคลื่นรบกวนกันไม่ให้สัตว์ร้ายเข้ามาในเขตนี้ได้” เซนชินอธิบาย “อ่อ งี้เอง” คนไม่เคยได้ออกไปเที่ยวพยักหน้าเข้าใจ “นี่ อันนี้เรียกเห็ดหลงใหลล่ะ กินแล้วเมานะ ใช้เป็นยาละมั้ง” เซนชินชี้ชวนบอกพืชพรรณที่เขาพอรู้จัก ” เอากลับไปได้ไหม” นารานั่งมองเจ้าเห็ดหลากสีอย่างสนใจ “ได้ดิ แต่จะเอาไปทำไร” “ไม่รู้สิ มันแปลกดี” นาราว่า ไว้ตอนถึงวันกลับเขาจะไม่ลืมเก็บมันไปด้วย สองเพื่อนเดินลึกเข้ามาในป่า ต้นไม้ก็เริ่มหนาขึ้นเรื่อยๆ แต่สิ่งแปลกใหม่ที่น่าสนใจดึงดูดให้พวกเขายังลึกเข้าไปอีก “นี่อะไร” นาราถามพร้อมหยุดดูบางอย่างที่หน้าตาคล้ายหัวผักกาดมีตากลมๆ บ้องแบ๊วเหมือนเด็ก มันโผล่ขึ้นมาจากดินแค่พอเห็นตากลมๆ ของมัน “ไม่รู้อะ” เซนชินว่าพร้อมดึงส่วนใบมันขึ้นมาจากใต้ดิน เจ้าหัวผักกาดตัวกลมดิกร้องอ้อแอ้โยเย “น่ารักอ่า” น่ารามองมันตาเชื่อม จะเอาๆ เก็บไปด้วยดีไหมนะพืชหรือสัตว์ก็ไม่รู้ ต้องถามคุณลุงว่าเลี้ยงมันยังไง ก่อนอื่นหาอะไรใส่มันก่อน งั้ม!!!! อ๊ากกก!!!! เซนชินเคี้ยวงั้มๆ “กรอบอะ หวานด้วย อร่อย” ว่าพร้อมยื่นให้เพื่อน เป็นเชิงว่าสักคำไหม นาราอ้าปากค้าง “นายชิน!!!!!” นารางอนหนักมาก มันน่ารักอะ กินเข้าไปได้ยังไง ไอ้คนใจร้ายใจดำอำมหิตผิดมนุษย์ “นี่ เลิกงอนได้แล้วน่า มันไม่ได้มีต้นเดียวเสียหน่อย” เซนชินว่า นาราพองแก้ม “แต่เราผูกพันกับต้นนั้น” ” เฮ้อ..จะบ้าตาย ความผูกพันกับหัวมันเมื่อแรกเห็น” “หยุดพูดเลย ตัวเองผิ...อ๊ากกกก” “เฮ้ย!!!!!” เซนชินตกใจเมื่อจู่ๆ เพื่อนก็โดนเถาพืชสีเขียวลากขึ้นไปห้อยโตงเตงอยู่กลางอากาศ “นี่มันตัวอะไรเนี่ย!?” “ใจเย็นเพื่อน ในป่านี่ไม่มีอะไรเป็นอันตราย อย่าดิ้น เดี๋ยวหามีดแปบ” เซนชินบอกอย่างใจเย็นแล้วเอากระเป๋าเป้ที่หลังออกมาค้นหาอาวุธ พรึ่บ~~~” ว๊ากกก” แต่ก่อนที่นายเซนจะทันได้หยิบมีดเล่มยาวในเป้ เถาพืชเส้นหนึ่งก็มาเกี่ยวเอาขาของเซนขึ้นไปห้อยหัวไม่ต่างจากนาราแล้ว “นายเซ๊นนนน” นาราแทบอยากร้องไห้ “เหอะๆ เอาน่า ไม่เป็นไรหรอก” เซนชินปลอบใจ มั่นใจว่าในป่าเขตนี้ไม่มีต้นไม้กินคน “แล้วทีนี้จะลงยังไง ต้นไม้นี่มันจะกินเราหรือเปล่าก็ไม่รู้ อ่ะ!!! มัน...” เส้นเถาพืชหลายเส้นค่อยๆ เลื้อยมารัดตัวพัวพันเต็มตัวนาราไปหมด “อ่อ นึกออกแล้ว ฉันเคยเห็นผ่านไวนหนังสือของพ่อ มันคือต้นอูลา...” เซนชินบอกเหมือนนึกขึ้นได้ “แล้ว??” “มันเป็นพืชตระกูลพืชกินแมลงแต่มันดักสัตว์กิน” “มันจะกินเรา!!??” “มันกินแค่น้ำหวาน...จากเรา” เซนชินบอก “เรามีน้ำหวานที่ไหน!!” “น้ำ...หวาน!!” “ม่ายยยยย” นาราดิ้นเมื่อรู้ความหมาย “อย่าดิ้น ยิ่งดิ้นมันยิ่งรัดแน่น อา...”  ” ไอ้พืชลามก อุก!!!”นาราดิ้นและตั้งท่าจะด่าสาปส่งเถาไม้บ้า แต่เจ้าพืชเอาปลายเถามาอุดช่องทางที่เกิดความถี่จากการส่งเสียงของนาราเสียก่อน นาราดุนลิ้นสู้กับมันและไม่ยอมให้มันได้น้ำเขาไปง่ายๆ “อึ่ก!!!” นาราร้องอู้อี้อย่างตกใจเมื่อโดนมันถูส่วนปลายเถาไปตามร่องหลืบเพื่อหารูน้ำ “ถ้าไม่ได้น้ำ มันไม่หยุดหรอก ขัดขืนไปก็เท่านั้นแหละ ยอมๆ มันไปเถอะ อื้ออ่า...” ฝั่งเซนชินนอกจากจะไม่ขัดขืน ยังให้ความร่วมมือโดยดีด้วยการขยับอ้าขาเปิดช่องทางให้เจ้าพืชคลำหารูเจอ ‘ขะ เข้าไปแล้ว....’ ****ค่าเงินในโลกยุคนี้มีแค่เหรียญเงิน (ยุคอดีตเรียกทองคำขาว) กับเหรียญทอง (ทองคำแท้99%) เท่านั้น ไม่มีเป็นกระดาษเหมือนสมัยก่อน ซึ่งแน่นอนว่าเหรียญทองจะมีค่ามากที่สุด คือ1เหรียญทอง แลกได้1000เหรียญเงินขนาด3 (เนื่องจากทองนั้นเริ่มหาได้ยากและจำเป็นต้องใช้ในการเล่นแร่แปรธาตุ) เหรียญเงิน แบ่งออกเป็น3ขนาด คือ1 -2 -3 เหรียญเงินขนาด1 เป็นขนาดเล็กสุด จำนวน50เหรียญ แลกเหรียญเงินขนาด2ได้1เหรียญ เหรียญเงินขนาด2 จำนวน100เหรียญ แลกเหรียญเงินขนาด3ได้1เหรียญ เหรียญเงินขนาด3 จำนวน1000เหรียญ แลกเหรียญทองได้1เหรียญ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD