วันนี้คือวันที่หมอกานดานัดกับเพื่อนของตัวเองมันเป็นวันที่เธอหนักใจที่สุดกับการโกหกครั้งใหญ่ การโกหกของเธอมันยากกว่าการโกหกของสายป่านลิบลับที่เพื่อนไม่ยอมบอกความจริงกับเฟบเรื่องการอุ้มบุญครั้งนี้และถ้าหมออย่างเธอทำตามสายป่านว่าแล้วลูกเกิดมาตาสีฟ้าอย่างคนอุ้มบุญ เฟบบริก้าจะต่อว่าเธอมากมายขนาดไหนที่ไปหลอกเอาไข่ของเด็กสาวมาใช้ดังนั้นก็หลอกกันวนไปให้หมดนี่แหละ
“ทำใจให้สงบนะเฟบไม่ต้องกลัว หมอจะฝากตัวอ่อนที่ผสมแล้วเข้าไปในผนังมดลูกของเธอ” แกล้งล้วงๆช่องคลอดขลิบผนังมดลูกนิดหน่อย
“อ้ะ!!” เฟบบริก้าร้องออกมา
“เอาล่ะเสร็จแล้ว” เอานิ้วออกและทำเป็นเก็บของ “นอนพักสักครึ่งชั่วโมงนะถ้าไม่มีอะไรผิดปรกติก็ค่อยๆลุกขึ้นนั่งแล้วเข้าห้องน้ำตามหมอออกไปด้านนอก”
“ค่ะ”
---+++++--------
ในห้องประจำของหมอกานดา
“เรียบร้อยใช่มั้ย? ฝากตัวอ่อนแล้วใช่มั้ย?”
“ใช่” ที่จริงแล้วมันไม่ง่ายขนาดนี้หรอกแต่หมอโกหก
“แล้วเธอจะให้ฉันมาฟังผลเมื่อไหร่”
“รอสามีเธอมาก็มาฟังได้เลย”
“เขาก็มาตลอดแต่ไม่ค่อยว่างเดี๋ยวรออีกสองอาทิตย์นะ เขาจะได้รู้ไปพร้อมกับฉัน”
“เอาสิ” ด้วยความสงสัยหมอกานดาจึงถามเพื่อนว่า “ทำไมเธอไม่บอกเฟบบริก้าว่าเธอจะใช้ไข่ของเขา”
“บอกทำไมล่ะ จะไข่ใครก็ต้องเป็นลูกของฉันอยู่ดี ฉันจ่ายไปตั้งสิบล้านจะบอกหรือไม่บอกก็มีค่าเท่ากัน”
“มันไม่เกินไปหน่อยเหรอป่าน”
“อะไรคือเกิน..เธอแค่ทำตามที่ฉันบอกก็พอแล้วกาน ไม่ต้องถามมากเพราะไหนๆเธอก็ทำมันไปแล้ว”
เฟบบริก้าเดินออกมาได้ยินตอนในท้าย “ทำอะไรคะ?”
ผู้ใหญ่ทั้งคู่เงียบไป
“ไม่มีอะไร กลับกันเถอะ” สายป่านเดินนำเฟบบริก้าออกไป
“ขอบคุณนะคะหมอกาน” ยกมือไหว้หมอ
“อืม ไม่เป็นไร” หมอกานดาพยักหน้ารับในใจรู้สึกผิดลึกๆ
---+++++--------
สองอาทิตย์ต่อมาที่ห้องตรวจของหมอกานดาจากการที่หมอบอกไว้ว่าได้ฝังตัวอ่อนไว้ในมดลูกของเฟบบริก้าแล้วแต่เมื่อมาตรวจดูผลในวันนี้ปรากฎว่า ตัวอ่อนที่ฝังไว้นั้นไม่มีการเจริญเติบโตจึงต้องทำการขูดมดลูกออก
เมื่อผลไม่เป็นไปอย่างที่คิดสองสามีภรรยาต่างมองหน้ากันอย่างผิดหวัง เฟบเห็นพวกเขากุมมือกันก็ได้แต่ถอนหายใจ เธอไม่รู้ว่าความรู้สึกของเธอที่แท้จริงแล้วเป็นแบบไหนระหว่างดีใจที่ยังไม่ท้องหรือว่าเสียใจที่เรื่องมันจะจบช้าลง ความคิดของสาวน้อยวัยรุ่นแบบเธอซึ่งแฟนก็ยังไม่เคยมี ความรักก็ยังไม่เคยรู้จักถ้าหากไม่ถูกสถานการณ์บังคับ ตัวเธอเองก็อยากจะลองมีคนรักดูสักครั้ง เพื่อนๆในโรงเรียน กศน.ของเธอส่วนใหญ่แล้วต่างก็มีครอบครัว มีสามีด้วยกันทั้งนั้นแน่นอนว่าเธอเป็นคนที่อายุน้อยที่สุดในกลุ่มอารมณ์หวงห่วงรักใคร่จึงไม่เคยมี
ท่ามกลางความเงียบงันหมอกานดาได้แต่ถอนหายใจและพูดออกมาว่า "ขนาดใช้ไข่ของน้องเฟบก็ยังไม่ได้ผลฉันก็ไม่รู้จะช่วยเธอยังไงแล้วนะป่าน"
เฟบบริก้าหันหน้าไปมองอย่างรวดเร็ว ‘ไข่เธองั้นเหรอ’ ความไม่ชอบมาพากลทำให้เธอคิดหนักแต่ก็ยังคงนิ่งเงียบฟัง
สายป่านฟังเพื่อนตัวเองด้วยสายตาเศร้าสร้อยเธอกำมือสามีแน่นมาก "ไม่มีทางอีกแล้วเหรอ ฉันจะไม่มีลูกสืบสกุลแล้วใช่มั้ย" สายป่านทำหน้าเหมือนกับจะร้องไห้
"ถ้าเธอยังยืนยันที่จะให้น้องเฟบตั้งท้องฉันก็มีอีกทางเลือกหนึ่ง..แต่มันคงไม่ดีกับทั้งสามคนนัก" หมอกานดาถอนใจออกมาหนักหน่วง ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าสายป่านหวงนรุติและรักเขามากขนาดไหนแต่ในเมื่อสายป่านยอมจ่ายเงินถึงสิบล้านเพื่อเรื่องนี้โดยเฉพาะแล้ว ยังไงเธอก็ต้องลองพูดทั้งๆที่รู้ว่าสายป่านไม่มีวันยอมแน่ๆเธอก็ยิ่งต้องพูดให้เรื่องมันจบง่าย สายป่านจะได้ไปหาคนอื่นที่เคยมีลูกและอายุมากกว่านี้มาแทน "ให้คุณรุตินอนกับน้องเฟบจริงๆไปซะ" ความเงียบปกคลุมไปทั่วห้องราวกับมันคือห้องว่างเปล่าไม่มีคนอยู่
ทั้งสามคนที่รับฟังถึงกับตกใจ โดยเฉพาะสาวน้อยลูกครึ่งตาสีฟ้า
"ไม่เอานะคะ" เธอส่ายหน้าอย่างแรง ทำไมถึงให้เธอไปนอนกับสามีคนอื่น เรื่องนี้สาวบริสุทธิ์แบบเธอทำใจยอมรับได้ยาก ข้อตกลงตั้งแต่แรกก็ไม่ได้ระบุ อีกทั้งตลอดเวลาเกือบสามเดือนที่เธอมาอยู่บ้านคุณสายป่านทุกคนในบ้านจะบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า 'อย่าเข้าใกล้คุณรุติเด็ดขาด' ไม่อย่างนั้นคุณสายป่านเอาตายแน่..วีรกรรมสุดแสนจะร้ายกาจถูกเล่าขานให้สาวน้อยฟังจากแม่บ้านผู้อาวุโสที่เห็นเธอเหมือนลูกเหมือนหลานคนหนึ่ง แน่นอนว่าเธอก็ไม่คิดที่จะทำแบบนั้นกับผู้มีพระคุณแน่ๆ บ่อยครั้งที่เฟบพบเจอคุณรุติตรงทางเดิน เธอไม่เคยรอให้อีกฝ่ายได้พูดคุยแต่จะรีบหนีหน้าทันทีราวกับเขาเป็นของร้อนทุกครั้งไป
สายป่านมีสีหน้าบิดเบี้ยวตวาดลั่น "พูดอะไรออกมากานดา!!"
"ฉันแค่พูดตามความเป็นไปได้ถ้าเธอไม่ตกลงฉันก็จะลองดูอีกครั้งแต่ถ้ายังไม่ได้ผลอีกฉันก็ไม่รู้จะช่วยยังไงแล้วนอกจากเปลี่ยนวิธี" หมอกานดานั่งปรึกษากับเพื่อนสนิทอีกครั้งถึงเรื่องการดูแลสุขภาพและเรื่องทั่วๆไปที่เกี่ยวการตั้งครรภ์
เฟบนั่งบีบมือตัวเองแน่น ความหวาดหวั่นเกิดขึ้นในดวงตาสีสวยทั้งสองข้าง ในใจภาวนาขอให้การฝากไข่ครั้งที่สองสำเร็จไปได้ด้วยดีเรื่องราวบ้าๆนี้จะได้จบลงไปเสีย..แต่ถ้าหากไม่สำเร็จล่ะ เธอเงยหน้าขึ้นมองไปทางคุณหมอกับคุณสายป่านพูดคุยกันอย่างเคร่งเครียด หันมองไปทางคุณรุติ....เขากำลังมองเธออยู่ 'ทำไมกัน'
---++++------++-
รถเก๋งคันหรูราคาแพงถูกขับออกมาจากโรงพยาบาลชื่อดังในตัวจังหวัดด้วยความเร็วคงที่โดยมีลุงสมเป็นคนขับเหมือนทุกครั้ง ด้านข้างเป็นเฟบบริก้าสาวน้อยลูกครึ่งนั่งมองวิวข้างทางด้วยสายตาเหม่อลอย ด้านหลังเป็นคู่สามีภรรยากำลังนั่งปลอบใจกันอยู่นานนับครึ่งชั่วโมงจนกลับมาถึงบ้านสองชั้นหลังใหญ่ที่สุดในอำเภอ
ปึ่ง!! ปึ่ง!! เสียงปิดประตูรถจากเจ้าของบ้านหญิงทำให้คนสวนหลายคนต้องสะดุ้งโหยง พวกเขาพอจะรู้ได้จากอาการที่เจ้านายแสดงออกเป็นอย่างดีว่ามันคงไม่สำเร็จอีกตามเคย ชีวิตคนเรามันก็แปลก คนจนมีลูกดกแบบปีเว้นปีแต่คนรวยที่อยากมีลูกกลับมียาก แต่ก็นั่นล่ะดวงชะตาคนเราเอาแน่เอานอนไม่ได้เด็กที่จะเกิดกับคนรวยๆต้องมีบุญมากกระมังเด็กที่บุญไม่ถึงก็มาเกิดกับคนจนๆเสียหมดเหล่าคนสวนหยุดเสียงซุบซิบแผ่วเบาลงเมื่อเสียงประตูรถดังขึ้นอีกครั้ง
ปึ่ง! เสียงประตูรถจากด้านข้างคนขับถูกเปิดออกมาก็พบว่าเป็นสาวน้อยลูกครึ่งคนนั้น
"อย่าสนใจเลยหนูเฟบอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด พอเกิดแล้วก็จะพ้นวิบากกรรมลุงเชื่อว่าการที่หนูทำบุญครั้งนี้จะส่งผลให้หนูได้ดีในอนาคต" ลุงสมพูดปลอบใจแม้ว่าลุงจะรู้แค่ว่าเฟบยังไม่ท้องแต่ก็รู้ว่าจะต้องได้ฝากไข่อีกครั้ง เฟบบริก้าทำเพียงแค่พยักหน้าแล้วเดินออกไปยังห้องพักคนงานที่เธอพักอาศัยอยู่ ในใจพลางครุ่นคิด 'ขอให้ครั้งต่อไป..เธอท้องเสียที' สาธุ
----+++----+++-----
บนห้องนอน
"ฮือออ...ออ" สายป่านร้องไห้สะอึกสะอื้นเพราะความอัดอั้นตันใจ ทำไมการมีลูกมันถึงได้ยากเย็นนักตลอดเวลาเจ็ดปีที่ผ่านมาเธอท้องสามครั้งแท้งทั้งสามครั้งเป็นเพราะร่างกายและมดลูกของเธอไม่แข็งแรง นานวันเข้าไข่ของเธอก็เริ่มฝ่อจนไม่สามารถมีลูกได้ แม่สามีเคยบอกกับเธอเมื่อนานมาแล้วว่า รุติเป็นลูกชายคนเดียวของท่าน ญาติพี่น้องฝั่งสามีมีแต่หลานสาวดังนั้นถ้ารุติมีลูกแม่เขาก็อยากจะให้มีลูกผู้ชาย สองปีที่ผ่านมาเธอไม่เคยกลับไปเยี่ยมบ้านแม่สามีเลยสักครั้งเพราะเบื่อคำถามที่ว่า 'เมื่อไหร่จะมีลูก' จากคนบ้านนั้นที่ถามอยู่บ่อยๆจนเธอเครียด ยิ่งวันนี้กานดามาบอกว่าให้สามีเธอมีอะไรกับเด็กคนนั้นจริงๆ เธอก็ยิ่งเครียดหนักขึ้นไปอีก เฟบบริก้าเด็กสาวที่ทั้งสวยกว่าและสาวกว่า หน้าตาลูกครึ่งที่เธอคาดหวังว่าลูกจะต้องออกมาหน้าตาดีแน่ๆแม้เฟบบริก้าจะมีนัยน์ตาสีฟ้าสวยแต่เธอคิดว่าลูกที่เกิดมาอาจจะไม่มีสีตาแบบนั้นเพราะมีเปอร์เซ็นต์น้อยมาก แต่ตอนนี้ความหวังนั้นหายไป