ว้าวุ่น?

1497 Words
"อย่าเครียดนะป่าน" นรุติเดินมานั่งลงด้านข้าง เขารู้ว่าภรรยาอยากจะมีลูกมากแค่ไหนแต่ในเมื่อสวรรค์ไม่ส่งมาให้ใครก็ไม่สามารถจะไปบังคับได้ความจริงเขาอยากจะบอกเธอว่า 'เลิกคิดเถอะ' แต่ทุกครั้งที่เห็นความพยายามของภรรยาคำพูดนั้นก็ถูกกลืนลงท้องไป ยิ่งวันนี้คำแนะนำของหมอกานดาคือให้เขามีอะไรจริงๆกับเด็กลูกครึ่งคนนั้นเขาก็ยิ่งตกใจ..จากที่เขามองดู 'เฟบบริก้า' ความเจียมเนื้อเจียมตัวมีอยู่ในตัวเด็กคนนี้มากมาย เขารู้ว่าเฟบยังคงไม่เคยมีแฟนถ้าหากจะให้เขามีอะไรกับเด็กคนนี้เขาก็ทำไม่ลง ถึงแม้สายป่านจ่ายเงินไปแล้วถึงเจ็ดล้านบาทแต่มันก็ 'ไม่ถูกต้องนัก' ถ้าหากเขาทำจริงๆแล้วบทสรุปคือเฟบบริก้าคลอดลูกแล้วต้องออกไปอยู่นอกบ้านของเขางั้นเหรอ 'แล้วเฟบจะอยู่ได้ยังไง' นั่นคือเรื่องที่เขาหนักใจ แต่อย่างน้อยตอนนี้ขอให้เขาได้ลองฝากเชื้ออีกสักครั้งก่อน ไม่แน่ว่ามันอาจจะสำเร็จแม้จะรู้ว่าต้องพึ่งไข่ของเด็กคนนั้นแต่เมื่อคิดว่ามันเป็นการซื้อขายก็ยังวางใจลงได้บ้าง "รอบนี้ผมจะดูแลตัวเองดีๆเก็บเชื้อที่สมบูรณ์แข็งแรงเพื่อลูกที่จะเกิดมา" กอดภรรยา "ดีมั้ย?" เรื่องมันจะได้จบๆ "ฮืออ..ค่ะ ครั้งนี้เราต้องพยายามทำให้สำเร็จฉันจะต้องมีลูกให้ได้" สายตามุ่งมั่นหนักแน่น คำเยาะเย้ยถากถางจะต้องหายไป ​​​​​​ 'อดีตเดือนมหา’ลัยคงจะไร้น้ำยา' 'ผัวเธอไม่ทำการบ้านเหรอได้ข่าวว่าไปทำงานต่างจังหวัดบ่อยนี่' 'ระวังนะ ยิ่งหล่อๆแบบนั้นสาวๆคงรอคิวเข้าหา..ไม่ใช่ว่าวันหน้ามีสาวอุ้มท้องเข้ามาแล้วบอกว่าคุณรุติเป็นพ่อของเด็ก55' ทุกเรื่องที่พวกหล่อนถามมักจะทำให้เธอจิตตก สายป่านรู้ว่าเพื่อนๆหลายคนอิจฉาเธอที่เป็นแฟนกับนรุติเดือนมหาลัยตั้งแต่สมัยเรียนและคบกันมายาวนานจนถึงขั้นได้แต่งงานกันพอมารู้ว่าเธอกับนรุติอยู่ด้วยกันมาครบสิบปีแล้วแต่ยังไม่มีลูกจึงพากันเยาะเย้ยกระแนะกระแหน อยู่เป็นประจำ ความเจ็บช้ำน้ำใจมีมากจนเธอคิดที่จะหาคนมาช่วยอุ้มบุญตามคำแนะนำของกานดาหมอสูติฯ เพื่อนคนสนิทสมัยประถมที่เห็นเธอโดนถากถางทุกวันไม่ไหว 'ขอให้ครั้งที่สองนี้สำเร็จด้วยเถอะนะ' --------++++--- หนึ่งอาทิตย์ต่อมา โรงพยาบาลเอกชนชื่อดังที่หมอกานดาประจำอยู่นั้น ในวันนี้มีคู่สามีภรรยาพร้อมทั้งสาวน้อยอุ้มบุญได้เดินทางมาถึงในเวลา10.00น. เพื่อเข้าห้องตรวจตามเวลานัดและจัดการเก็บไข่กับเชื้ออสุจิของทั้งสองคนเพื่อทำการฟักตัวอ่อนก่อนจะทำการฉีดเข้าไปในครรภ์ของเฟบบริก้าเมื่อตัวอ่อนนั้นแข็งแรงดีแล้วแน่นอนว่าความหวังครั้งนี้จะมีอยู่เต็มเปียม ทางด้านเฟบบริก้าที่ได้รู้ความจริงจากหมอกานดาว่าจริงๆแล้วคุณสายป่านจะใช้ทั้งไข่ของเธอและท้องของเธอเพื่ออุ้มบุญ..เธอช็อคอย่างแรงพร้อมกับร้องไห้ออกมา คำถามมากมายเกิดขึ้น ทำไมคุณสายป่านไม่บอกเธอตรงๆ เพราะถ้าหมอกานดาทำจริงๆก็ไม่เท่ากับว่าขโมยไข่ของเธอโดยที่เธอไม่รู้ตัวงั้นเหรอ เมื่อร้องไห้จนพอใจเฟบบริก้าจึงบอกกับหมอว่า ‘เฟบดีใจค่ะที่หมอกานดาเป็นคนดีมาบอกเรื่องนี้กับเฟบ แต่คุณป่านก็เป็นคนดีที่เอาเงินมาให้เฟบจ่ายค่าที่ดินถ้าหมอกานดาจะทำตามที่คุณป่านบอก..เฟบก็จะยอม’ ใบหน้าสวยก้มลงอย่างจำยอม ทางด้านหมอกานดาได้แต่ถอนหายใจด้วยความสงสารจนแอบสรุปคำตัดสินในใจตัวเองว่า ‘ไม่ทำแน่’ &&&& หนึ่งเดือนผ่านไป “ฟังนะป่าน” หมอกานดามีสีหน้าเคร่งเครียดกว่าครั้งก่อนหน้า สายป่านเห็นแล้วอยากจะร้องไห้ออกมาดังๆ เมื่อรู้แล้วว่าเรื่องมันไม่เป็นอย่างที่เธอคิด “ถ้าเธอจะมาพูดว่ามันไม่สำเร็จ เธอไม่ต้องพูดก็ได้นะกานฉันเหนื่อยมามากพอแล้วล่ะ...พอแล้ว” สายป่านลุกขึ้นเดินหนีออกจากห้องไป หมอกานดามองสองคนที่ยังนั่งอยู่ตรงนี้พลางถอนหายใจ มันผิดตั้งแต่แรกแล้วที่เพื่อนเธอไปขอสาวน้อยลูกครึ่งจ๋ามาช่วยอุ้มบุญแถมยังจะเอาไข่ของเขา เปอร์เซ็นต์ที่สีตาของเด็กจะเป็นสีฟ้ามันต้องมีอยู่แล้ว ไม่รู้ว่าเพื่อนเก่าของเธอมันโง่หรือว่ามันจะคิดมากเกินไปไม่เหมือนคนอื่นเพราะจากที่เธอดูๆแล้วคุณรุติสามีของป่านก็ไม่มีท่าทีเดือดร้อนอะไรสักนิดกับเรื่องนี้ “ฉันถามคุณตรงๆนะคะคุณรุติ” “-” “คุณอยากมีลูกรึเปล่า?” “ให้พูดตามตรงผมก็อยากมีลูกนะหมอ แต่ในเมื่อผมไม่มีโอกาสนั้นผมก็ไม่ได้ซีเรียสอะไรอยู่แล้ว” หันมองเฟบบริก้า “ผมสงสารเฟบด้วย เธออายุยังน้อยถ้าหากเป็นไปได้ผมก็อยากจะให้ยกเลิกสัญญานี้ซะ” “คุณไม่บอกกับป่านตรงๆล่ะ” “ผมพยายามจะบอกเขาหลายครั้งแล้วแต่เขาเป็นคนที่ชอบฟังแต่ความคิดของตัวเองผมก็เลยปล่อยให้เธอลองพยายามดูให้จนสุดและรู้ด้วยตัวเองซะว่ามันเป็นไปไม่ได้...ครั้งนี้เขาคงจะรู้แล้วล่ะนะ” เฟบบริก้ามองคุณรุติอย่างขอบคุณแต่ว่า “แล้วเรื่องเงินล่ะคะ เฟบเป็นหนี้คุณป่านอยู่เจ็ดล้านบาท คุณก็รู้ว่าเฟบกับแม่ไม่มีปัญญาหามาจ่ายให้พวกคุณแน่ๆ” “ไม่เป็นไรหรอกไว้เธอเรียนจบได้ทำงานก็ค่อยๆหาเงินมาคืนฉัน” นรุติคิดว่าจะเอาเงินของตัวเองคืนให้สายป่านเมื่อกลับไปถึงบ้านและจบเรื่องนี้ได้แล้ว ตอนพวกเธอทำสัญญาตัวเขาเองก็ไม่ได้อยู่ด้วยตั้งแต่แรกและเมื่อมารู้ทีหลังทำเอาเขาเครียดแทนไปหมด เฟบบริก้ามองนรุติอย่างตื้นตันใจและยกมือขึ้นไหว้เขา เขารีบรับไหว้นั้นแทบไม่ทันก่อนจะผละมือออกไปแก้เก้อ “ฉันว่าพวกคุณพากันออกไปเถอะตอนนี้ไม่รู้ว่าป่านจะเดินไปที่ไหนแล้ว” หมอกานดาบอกคนทั้งคู่จนนรุติและเฟบบริก้าเดินออกจากห้องไป “ฉันไม่รู้ว่าเธอโง่หรือบ้านะป่าน เฟบสวยขนาดนี้ยังคิดที่จะให้ผัวเธออยู่ใกล้ได้อีก...แต่ก็นะ..ถ้ายอมให้พวกเขานอนด้วยกันอย่างที่ฉันเคยบอก ฉันก็คงจะคิดว่าเธอเป็นโรคประสาทแน่ๆ” ส่ายหัวให้เพื่อนสมัยเด็กผู้อยากมีลูกจนหนักข้อ ---+++----+++----- สายป่านนั่งอยู่ที่สวนด้านหน้าโรงพยาบาลคนเดียว เธอเห็นใครต่อใครต่างพากันอุ้มเด็กน้อยหัวร่อต่อกระซิกกันซึ่งเธอก็อยากจะมีแบบนั้นบ้าง สายตาแหงนหน้าขึ้นไปบนฟ้าต่อว่าเบื้องบนในใจ ‘ทำไมไม่ส่งลูกมาให้เธอสักคนนะ’ ความคิดต่อมาคือเธอจะไปขอเด็กน้อยมาจากสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าสักคนก็คงจะเข้าท่าดี ‘แต่เงินที่เธอให้เฟบบริก้าไปล่ะ’ มันไม่ใช่เงินน้อยๆและมันเป็นเงินส่วนตัวของเธอที่เก็บมานานมากแล้ว เมื่อคิดได้ดังนั้นเธอจึงเดินกลับไปยังห้องตรวจของหมอกานดาเพื่อนของตัวเอง สองขาในชุดกระโปรงเดินมาถึงพร้อมกับจังหวะที่คนด้านในพูดขึ้นมาว่า “ผมสงสารเฟบด้วย เธออายุยังน้อยถ้าหากเป็นไปได้ผมก็อยากให้ยกเลิกการอุ้มบุญนี้ซะ” “คุณไม่บอกกับป่านล่ะ” “ผมพยายามจะบอกเขาหลายครั้งแล้วแต่เขาเป็นคนที่ชอบฟังแต่ความคิดของตัวเองผมก็เลยปล่อยให้เธอลองพยายามให้สุดและรู้ด้วยตัวเองซะว่ามันเป็นไปไม่ได้...ครั้งนี้เขาคงจะรู้แล้วล่ะนะ” “แล้วเรื่องเงินล่ะคะ เฟบเป็นหนี้คุณป่านอยู่เจ็ดล้านบาท คุณก็รู้ว่าเฟบกับแม่ไม่มีปัญญาหามาจ่ายให้พวกคุณแน่ๆ” “ไม่เป็นไรหรอกไว้เธอเรียนจบมีทำงานก็ค่อยๆหาเงินมาคืนฉัน” และทั้งคู่ก็จับมือกันเพราะเด็กนั่นไหว้นรุติ
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD