“หนูเจ็บนะคะ” สาริศาร้องอูยเบาๆ เพราะแขนของเธอตอนนี้กำลังโดนบีบเต็มแรง
“เอาไปทิ้งไว้ที่ไหน ไปหามาเดี๋ยวนี้!” ชนาสั่งด้วยน้ำเสียงเผด็จการ นัยน์ตาคมฉายชัดถึงอารมณ์เอาเรื่อง
“หนูเอาไปทิ้งไว้ที่ถังขยะหน้าหมู่บ้าน คุณต้องการจะให้หนูหาอะไรคะ ในนั้นมีของสำคัญเหรอคะ?” สาริศาถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ เพราะเธอกำลังตกอยู่ในเงื้อมมือของผู้ชายที่มีพลังที่จะบีบเธอให้ตายคามือก็ยังได้
“รูปถ่ายที่ฉันทิ้งเอาไว้ ไปหามาซะ!”
“หนูเห็นว่าคุณฉีกทิ้งแล้วนี่คะ ไม่อย่างนั้นหนูไม่กล้าทิ้ง…”
“ยังจะเถียงอีก! อยากโดนดีใช่มั้ยถึงกล้ามาต่อปากต่อคำกับฉัน!!” ชนาปฏิบัติต่อสตรีเพศตรงหน้าโดยไม่คำนึงว่าเธอเป็นผู้หญิง มือหนายังคงบีบลำแขนเล็กแรงขึ้นเมื่ออารมณ์คุกรุ่น
“ปะ…ปล่อยหนูก่อนค่ะ เดี๋ยวหนูจะรีบไปหามาให้นะคะ” มือเล็กยกมือไหว้ ใบหน้าสวยก้มงุดไม่กล้าสบกับสายตาดุที่ไร้ซึ่งความปรานีของเจ้านาย ไม่นานร่างบางก็โดนเหวี่ยงออกจากประตูห้องนอนจนตัวกระเด็นไปกระแทกกับขอบตู้โชว์อย่างจัง
“ฮือๆ” สาริศาร่ำไห้อย่างน่าเวทนา หญิงสาวรีบวิ่งออกไปจากบ้านเพื่อไปคุ้ยหาขยะตามคำสั่งของเจ้านาย เสียงเล็กสะอึกสะอื้นเคล้ากับเสียงกรอบแกรบของถุงพลาสติกที่กองรวมกันเป็นภูเขารอรถขยะมาเก็บในอีกไม่ช้า
น้ำตาก็ไหลเป็นทางส่วนมือไม้ก็คุ้ยเขี่ยขยะอย่างไม่นึกรังเกียจ กลิ่นเหม็นก็ไม่หวั่นเพราะถ้าหากหาของสำคัญของเจ้านายไม่ได้เธออาจจะโดนเฉดหัวออกจากบ้านแน่ๆ คราวนี้ก็ไม่รู้จะตรากหน้าไปพึ่งใครเพราะญาติพี่น้องก็ไม่มีกับเขา
อยู่ไหน? อยู่ไหน? อยู่ไหน?
สาริศาคิดวนราวกับคนบ้า เหมือนโชคจะเข้าข้างจึงทำให้เธอเจอถุงพลาสติกที่ตัวเองมัดปมเอาไว้ มือเล็กรีบแกะปมออกอย่างรีบๆ ก่อนจะเทขยะลงตักตัวเองจนกระทั่งเจอรูปถ่ายที่ถูกฉีกออกเป็นสองท่อน พอจับมาเรียงต่อกันก็ได้เห็นแววตาของเจ้านายเมื่อครั้นจบการศึกษา เขาดูมีความสุขกับชีวิตซึ่งต่างกับตอนนี้ลิบลับ และหญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็คงจะสำคัญกับเขามากไม่เช่นนั้นเธอคงไม่โดนบีบแขนจนแดงเถือกเช่นนี้
สาริศาปาดน้ำตาหยดสุดท้ายออกจากใบหน้านวล ผมเผ้ารุงรังซ้ำยังโดนเศษกระดาษใบเล็กจากกองขยะปลิวมาติด พอถึงบ้านเธอก็ได้พบกับร่างสูงที่ยืนเท้าสะเอวรออยู่ก่อนแล้ว
“หนูเจอแล้วค่ะ” สาริศายืนเว้นระยะห่างกับชนามากเกือบถึงเมตรครึ่ง มือเล็กยื่นรูปถ่ายไปให้เขาอย่างกล้าๆ กลัวๆ หวั่นจะโดนดุซ้ำอีกรอบ
พอได้ของรักของหวงคืนมาชนาก็รีบปัดฝุ่นโดยไม่ปรายตามองคนที่ไปคุ้ยขยะหามาให้ว่าเนื้อตัวจะเลอะเทอะสักแค่ไหน
ชนาวางรูปถ่ายไว้แนบอกด้วยความรู้สึกอุ่นใจ รูปถ่ายใบนี้สำคัญกับเขามากเพราะไม่ว่าอีกนานแค่ไหนเขาก็ไม่มีวันได้ไปยืนข้างเพื่อนรักในแววตาที่มีความสุขอย่างในรูปใบนี้อีกแล้ว
“ทีหลังเธอไม่ต้องมายุ่งวุ่นวายกับห้องของฉันอีกนะ” ชนาพูดสั่งอย่างไม่สบอารมณ์
“แต่หนูต้องทำความสะอาดนะคะ”
“เออ! แค่กวาดๆ ถูๆ ก็พอ ไม่ต้องหยิบจับข้าวของเข้าใจใช่มั้ย?” คนเมายังคงพูดเสียงดุอย่างไม่สบอารมณ์
“ค่ะ เจ้านาย” สาริศาตอบเสียงเบา
“จะไปไหนก็ไป” เมื่อได้ของที่อยากได้สาริศาก็ไร้ความหมายในสายตาชายหนุ่ม ร่างสูงรีบเดินเข้าห้องของตัวเองในทันที
สาริศาปรายตามองคนที่ไล่เมื่อยามเธอหมดประโยชน์ด้วยความน้อยใจ ไม่มีแม้แต่ถ้อยคำเดียวที่บ่งบอกว่าขอบคุณ มีแต่สายตาเรียบเฉยที่ไร้ซึ่งความรู้สึกที่มองมา นั่นมันยิ่งทำให้เด็กสาวสำนึกได้ว่าเธอมีคุณค่าอะไรที่อีกฝ่ายจะเห็นใจ
หญิงสาวจำต้องยอมอาบน้ำอีกรอบอย่างเลี่ยงไม่ได้ เพียงไม่นานกลิ่นขยะที่หมักหมมถูกแทนที่ด้วยกลิ่นสบู่หอมๆ เคล้ากับกลิ่นแชมพูจากผมยาวสลวย สาวน้อยก้มหัวเป่าผมกับพัดลมตั้งโต๊ะพลางใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กสีขาวเช็ดผมไปด้วย กว่าผมจะแห้งก็ปาไปเกือบจะตีสี่เธอจึงไม่นอนต่อ แต่เพราะกลัวจะเผลอตื่นสายเลยใช้โทรศัพท์จอสัมผัสเครื่องเก่าเปิดดูบทเรียนออนไลน์ที่ลงไว้ในยูทูปพอให้เธอได้ศึกษาบ้างด้วยเพราะไม่มีโอกาสได้เรียนหนังสืออย่างคนอื่นเขา
น่าเสียดายตรงที่สาริศาเป็นเด็กหัวไวเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีแต่ต้องมาหมดอนาคตเพราะวิกฤติของครอบครัวที่ต้องสูญเสียเงินเกือบทั้งหมดไปกับการพนัน ซ้ำร้ายจากเด็กที่เคยสดใสเกิดมาในครอบครัวที่สมบูรณ์มีทั้งพ่อและแม่ที่คอยทะนุถนอม ในคราวนี้เธอไม่เหลือความรักจากใครแม้แต่คนเดียว ใบหน้าสวยแหงนมองนาฬิกาที่แขวนไว้บนผนังห้องบ่งบอกเวลาตีห้า สาริศาปิดโทรศัพท์แล้วชาร์จแบตเตอรี่ทิ้งเอาไว้ก่อนจะออกไปทำหน้าที่คนรับใช้อย่างที่ควรจะทำ
เวลา 07:30 น.
“คุณชนาจะทานข้าวเช้าไหมคะ” คำแรกของสาริศาเมื่อเห็นชนาเดินออกมาจากห้อง
“ไม่! เดี๋ยวฉันจะไปกินที่บริษัท” ต่อให้เขาทานข้าวเช้าแล้วทำให้เขาไม่ไปทำงานสายชนาก็ไม่คิดจะกิน เพราะสิ่งที่เด็กสาวทำกลับชวนให้เขารู้สึกหมั่นไส้อย่างไม่มีเหตุผล เขาไม่อยากแม้แต่จะมองหน้าใสซื่อของเธอคนนี้เลยด้วยซ้ำ