ตอนที่ 2

1228 Words
อรอิสราหันไปกระซิบบอกอดัมส์ซึ่งดูเหมือนชายหนุ่มยังรู้สึกว่าเขาไม่อยากปล่อยร่างนุ่มและหอมกรุ่นในอ้อมแขนให้เป็นอิสระ “แค่ให้พ่อแม่รู้ว่าเราเป็นผัวเมียกันก็ได้แล้วนะคะ” หญิงสาวยังกระซิบเสียงหวิว แก้มของเธอเป็นสีแดงปลั่งเพราะนี่เป็นครั้งแรกที่ผู้ชายซึ่งได้ชื่อว่าเป็น สามี กอดและหอมเธอต่อหน้าบุพการี “ถ้าอยากให้พ่อกับแม่ของคุณเชื่อว่าเราเป็นผัวเมียกันจริง ๆ เราก็ต้องกอดกันอย่างนี้รู้มั้ย เรนี่” “มันจะสมบทบาทเกินไปมั้ยคะ อดัมส์?” “มันโอเค...เราต้องแสดงบทบาทผัวกับเมียให้ลึกซึ้งและดูสมจริงมากที่สุดไม่ใช่หรือ” ดูเหมือนนั่นไม่ใช่คำถาม แต่เป็นการบอกกล่าวให้นายจ้างของเขาเข้าใจในบทบาทหน้าที่มากกว่าอย่างอื่น ใช่...นายแบบหนุ่มหล่อล่ำไม่ได้มาที่นี่ในฐานะสามีที่แท้จริงของอรอิสรา ชนะการ เบอร์ตัน สาวสวยเจ้าของบริษัทรับจัดงานอีเวนท์ซึ่งเขาเคยรู้จักเธอในฐานะรุ่นน้องตั้งแต่สมัยเรียนที่มหาวิทยาลัยในวอชิงตัน ดี.ซี และได้พบเธออีกครั้งในการเดินแบบเปิดตัวนาฬิกาแบรนด์เนมยี่ห้อหนึ่งก่อนหน้านี้แค่สัปดาห์เดียว มันเป็นความตื่นเต้นของนายแบบหนุ่มที่เขาก็บอกตัวเองไม่ได้เหมือนกันว่าทำไม อาจเป็นเพราะเขาเคยพูดคุยและรู้สึกกับอรอิสรา สาวสวยชาวไทยมากกว่าแค่รุ่นพี่กับรุ่นน้องที่เคยรู้จักกันตอนเรียนมหาวิทยาลัยกระมัง ชายหนุ่มไม่ปฏิเสธว่าเขาเคยแอบรักรุ่นน้องสาวคนนี้ แต่ดูเหมือนเธอไม่ได้แสดงออกว่าสนใจเขาแต่อย่างใด และเขาก็ไม่กล้าเอ่ยปากในตอนนั้นเพราะคิดว่าอรอิสราอาจจะมีคนรักอยู่แล้วก็เป็นได้ ครั้งแรกที่ได้พบอรอิสราอีกครั้งหลังจากเรียนจบและยึดอาชีพเป็นนาแบบจากการติดต่อของเอเยนซี่ชื่อดัง เธอเป็นผู้หญิงทำงานที่ดูแคล่วคล่องและมองภายนอกเป็นนักจัดงานสาวที่จัดเจนมากในการทำงาน ทว่าเมื่อได้พูดคุยกับเธอเป็นครั้งที่สองอดัมส์ถึงได้มองเห็นตัวตนที่แท้จริงของเธออย่างชัดแจ้ง อรอิสราเป็นผู้หญิงที่ไม่ได้มีดีแค่ความงามผุดผ่องด้วยวัยยี่สิบสี่ปีของเธอเท่านั้น แต่เธอยังเป็นผู้หญิงที่อ่อนหวานและในบางครั้งก็ออกจะไม่มั่นใจในตัวเองด้วยซ้ำ เธอเข้ามาขอพบเขาเป็นการส่วนตัวเพื่อบอกความต้องการที่จะให้เขาช่วยทำอะไรให้เธออย่างหนึ่ง ซึ่งสำหรับนายแบบและรุ่นพี่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยอย่างเขามันไม่ได้เป็นเรื่องที่ยากเย็นแม้แต่น้อย นั่นคือการแสดงละครตบตาพ่อแม่ของเธอในบทบาทของ สามี และอรอิสรายินดีตอบแทนค่าเหนื่อยให้เขาเป็นเช็คของขวัญที่เป็นใครก็ต้องตะครุบไว้ด้วยราคาหนึ่งแสนเหรียญ สำหรับเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่จะต้องมากับเธอในฐานะสามีภรรยาเพื่อให้พ่อแม่ของเธอเชื่อว่า อรอิสราแต่งงานและมีครอบครัวแล้วจริง ๆ เธอยังไม่พร้อมแต่งงานมีครอบครัวแต่ขัดความต้องการของบุพการีไม่ได้ เธอต้องการให้เขาช่วยแสดงบทสามีต่อหน้าบิดามารดาเพียงแค่หนึ่งอาทิตย์ในฟีนิกส์ อดัมส์คิดว่ามันไม่ใช่เรื่องยากเย็น เขาก็แค่ได้มาเที่ยวเปลี่ยนบรรยากาศกับรุ่นน้องสาวสวยซึ่งมีท่าทีเหนียมอายตลอดเวลาที่เดินทางมาพร้อมเขา นายแบบหนุ่มงดรับงานที่เอเยนซี่ในนิวยอร์คและเดินทางมายังเมืองฟีนิกส์พร้อมกับอรอิสราโดยไม่ให้ใครรู้ ทรงผมที่ย้อมเป็นสีทองอร่ามเปลี่ยนเป็นสีน้ำตาลเข้มซึ่งเป็นสีผมเดิม แต่ชุดสูทสุดเนี้ยบที่เขาเลือกมาสวมใส่เพื่อเปิดตัว สามี ของสาวสวย รวย และเพอร์เฟ็คอย่างอรอิสราเป็นอะไรที่ตรงกับบุคลิกของเขาอย่างมาก “ดูเหมือนกับว่า...พ่อแม่ของเธอ ท่านรักเธอมากนะเรนี่” อดัมส์เอ่ยขึ้นหลังจากอาหารมื้อค่ำผ่านพ้นไปพร้อมด้วยบทสนทนามากมายที่เขานั่งคุยอย่างถูกคอกับธนิตและอลิสา นายแบบหนุ่มและอรอิสรากลับมายังห้องพักซึ่งเป็นเพนท์เฮาส์สุดหรูกินเนื้อที่ทั้งหมดบนชั้นที่สามสิบของตึก หญิงสาวทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาตัวยาวแล้วถอนหายใจราวกับปลดเปลื้องความอัดอั้นออกมาจนหมด “ค่ะ...พวกท่านเป็นห่วงฉันมาก ฉันเลยไม่อยากให้พ่อกับแม่ต้องเป็นกังวลกับเรื่องที่ฉันยังไม่ยอมมีครอบครัวเสียที” “เธอเพิ่งจะยี่สิบสี่เท่านั้นนะเรนี่” อดัมส์ว่าพลางทิ้งตัวลงนั่งข้าง ๆ และพาดแขนไปบนพนักพิงในท่าสบาย ๆ แต่เขานั่งใกล้เธอมากและหญิงสาวก็รู้สึกไม่ค่อยสบายสักเท่าไหร่ เขาทำให้เธอหายใจขัดเล็กน้อย ไม่ใช่ไม่ชอบแต่เป็นเพราะเธอก็ตื่นเต้นที่ต้องมาอยู่ในห้องกันสองต่อสองกับผู้ชายที่แม้จะเคยรู้จักพูดคุยแต่ก็ไม่เคยต้องอยู่ใกล้ชิดสนิทสนมด้วยแบบนี้ “เรนี่...ถามจริง ๆ เถอะ เธอไม่เคยพาใครมารู้จักพ่อแม่เลยสักคนอย่างนั้นหรือ?” “มะ...ไม่เคยค่ะ” อรอิสราเผลอยกมือขึ้นลูบแขนตัวเอง ในห้องนั้นแอร์เย็นฉ่ำแต่ตัวเธอร้อนวูบวาบแปลก ๆ ก็จะไม่ให้ตื่นเต้นได้อย่างไรเมื่อต้องมาอยู่ใกล้ชิดกับรุ่นพี่ที่เธอเคยเกือบจะสนิทด้วยตอนเป็นนักศึกษา และสิ่งที่เธอเก็บงำไว้ไม่เคยบอกใครก็คือ เธอเคยแอบรักเขา อดัมส์ เบรลอน ที่สมัยเรียนเคยเป็นนักกีฬาและนักกิจกรรมตัวยงของมหาวิทยาลัย และตอนนี้เขาเป็นนายแบบหนุ่มหล่อลากอันดับหนึ่งของเอเยนซี่ชื่อดัง อรอิสราไม่เคยกล้าสบตากับผู้ชายคนนี้ เธอเคยพูดคุยกับเขาแต่ไม่เคยสบนัยน์ตาสีน้ำเงินเป็นประกายระยับคู่นั้นตรง ๆ เลยสักครั้ง มันเป็นเรื่องน่าเขินอายจะตายไป เธอแอบรักเขาข้างเดียวและไม่กล้าเอ่ยปากบอกใคร กระทั่งได้พบเขาอีกครั้ง และประโยคแรกที่เธอถามเขาก็คือ “อดัมส์...พี่มีแฟนหรือยังคะ?” นายแบบหนุ่มหัวเราะร่วนก่อนจะตอบกลับมาว่า “พี่เลิกกับผู้หญิงคนนั้นไปก่อนหน้าที่จะพบเธอ...สองสัปดาห์” อรอิสรานึกโล่งใจอย่างประหลาด เหนืออื่นใดเธอคิดว่าเขามีบุคลิกที่เหมาะจะให้มาแสดงบทบาท สามี เพื่อตบตาพ่อแม่ แต่ลืมคิดไปอย่างหนึ่งว่าเขาเป็นผู้ชายที่ทั้งหล่อและเสน่ห์แรงจนกระทั่งได้มาใกล้ชิด มีบางอย่างในตัวเขาที่เปล่งประกายและทำให้หญิงสาวลืมตัวเคลิ้มไปในบางเวลา อย่างเช่นตอนนี้ “มันเป็นไปไม่ได้เลยรู้ไหม ที่พี่จะเชื่อว่าผู้หญิงสวยอย่างเธอ...จะไม่เคยมีแฟน หรือผู้ชายคนไหนอยู่ใกล้เลยสักคน ตั้งแต่เรียนจบจากมหาวิทยาลัย”
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD