โรงเรียนมัธยมแห่งหนึ่ง
เสียงออดเข้าเรียนดังอยู่นาน นักเรียนทุกคนต่างรีบวิ่งกันจ้าละหวั่นเพื่อขึ้นตึก
เรียนให้ทันเวลา
มีเพียงเด็กสาวรูปร่างบอบบางสะพายกระเป๋านักเรียนเดินทอดน่องอย่างไม่สนใจสิ่งใดๆรอบตัวเลย
เธอเดินขึ้นตึกเรียนไปอย่างไม่เร่งรีบผ่านไปทีละชั้นๆจนถึงชั้น 4 ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องม.4/2 ห้องเรียนที่เธอต้องเข้าเรียน
เสียงอาจารย์ขานชื่อนักเรียนอยู่ด้านหน้าทำให้เธอต้องหยุดชะงักเท้า
"พิมพิชา รัตนพงษ์พันธ์" เสียงอาจารย์ขานชื่อดังเป็นครั้งที่สอง
"มาค่ะ" เจ้าของชื่อขานรับแล้วยืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
ทุกสายตาหันไปมองตามเสียงที่ดังมาจากประตูหลัง
"ชื่อพิมพิชา เหรอเราน่ะ" อาจารย์ถามอีก
"ค่ะ หนูชื่อพิมพิชา รัตนพงษ์พันธ์"หญิงสาวตอบแต่ยังไม่ยอมเดินเข้าห้องมา
"แล้วทำไมยังไม่เข้ามา ไปนั่งที่ได้แล้ว"เสียงเข้มสั่งมาอีก แต่ไม่ได้ทำให้พิมพิชานึกกลัวแต่อย่างใด เธอเดินตรงไปยังที่ว่างหลังสุดซึ่งดูเหมือนจะเป็นที่เดียวและที่สุดท้ายด้วย
"มาช้ากว่าใครๆก้อนั่งหลังสุดไปละกันนะ"เสียงอาจารย์ดังมาอีก
ถึงจะเป็นที่นั่งหลังสุดแถมยังต้องนั่งคนเดียวไม่มีคู่เหมือนคนอื่นๆแต่พิมพิชาก้อไม่ได้คิดว่าแย่
กลับเป็นที่ๆดีสำหรับเธอด้วยซ้ำ เพราะเธอได้นั่งริมหน้าต่าง วิวจากชั้น 4 มองลงไปเห็นทั่วบริเวณโรงเรียน ทำให้พิมพิชาผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี
เสียงออดพักเที่ยงดังขึ้นนักเรียนทุกคนต่างทะยอยเดินออกจากห้องเพื่อไปโรงอาหาร แต่พิมพิชากลับนั่งเฉย เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเลือกเพลงแล้วเสียบหูฟังอย่างสะบายใจ พิมพิชาวางแขนเรียวพาดไปตามความยาวโต๊ะแล้วฟุบหลับทันที เธอหลับไปนานเท่าไหร่ไม่รู้
รูตัวอีกทีเมื่อรู้สึกมีอะไรเย็นๆมาแตะแขน
เธอลืมตาขึ้นเหลือบมองคนที่ยืนอยู่ข้างโต๊ะ เขาตัวสูงมากๆหน้าตาออกฝรั่งนิดๆผมสีน้ำตาลผิวขาวจัดอย่างคนตะวันตก
"ซื้อมาฝากเห็นไม่ลงไปกินข้าว"เขาพูดกับเธอเสียงทุ้มน่าฟัง
พิมพิชาเมินกล่องนมหันหน้าหนีไปอีกทางทำเหมือนไม่มีคนยืนอยู่ข้างๆ
"นี่เธอ!!คนเค้าอุตส่าห์มีน้ำใจไม่รับก้อขอบคุณซักคำป่ะวะ" เขาต่อว่าออกมาตรงๆ
เธอยังทำเฉย คนมีน้ำใจถึงกับอ้าปากหวอนึกโมโหเด็กใหม่ตะหงิดๆ
เขาเดินไปนั่งที่นั่งตัวเองซึ่งอยู่ด้านหน้าของพิมพิชา และไม่นานก้อมีอีกคนเดินมานั่งลงข้างๆเขา
"ที่แท้มึงซื้อนมมาให้ยัยนั่นเหรอวะไอ้ลอยด์" ภูมิหรือภูมิพลเอ่ยถามเพื่อน เขาเห็นเพื่อนรักซื้อนมติดมือขึ้นมากล่องนึงยังนึกสงสัยเพราะเพื่อนไม่ชอบกินนมกล่องถ้าเป็นนมสาวๆก้อไม่แน่
"อือ เห็นไม่ลงไปกินข้าวน่ะ"ลอยด์หรืออติรุจ ลอยด์ แบงค์เคอร์ หนุ่มลูกครึ่งไทย-อเมริกันหนุ่มฮอทของโรงเรียนเอ่ยตอบเพื่อนรัก
"แต่ดูเหมือนนมกล่องของมึงจะถูกเมินนะ555"ภูมิพลขำเพื่อนออกมาอย่างสะใจ
"ขำเชี่ยไรของมึงวะไอ้ภูมิ"ลอยด์ดุเพื่อนเสียงเข้ม
"ขำมึงไง เคยถูกสาวเมินซะที่ไหน555"เขายังหัวเราะอีก
"กูไม่คิดเลยว่ามึงจะมีวันนี้ ถูกสาวเมิน555" ภูมิยังไม่หยุด
"มึงหุบปากเลยนะไอ้ภูมิอย่างยัยนั่นกูไม่นับเป็นสาวๆเว้ย" พูดพลางพยายามเอามืออุดปากเพื่อน
ภูมิพลผลักมือเพื่อนออก
"ตรงไหนที่มึงว่ายัยนั่นไม่ใช่สาวๆวะเอวบางร่างน้อยซะขนาดนั้น ผิวก้อขาวซะ มึงดูดินอกเสื้อยังนมโตขนาดนี้เนื้อในจะขนาดไหนวะ"ภูมิพลชี้ให้เพื่อนดู
พิมพิชาเงยหน้าขึ้นจ้องมาที่ภูมิพลนิ่งอย่างเอาเรื่อง
ลอยด์มองสบตาแล้วยังนึกกลัวสายตาพิฆาตนั่น
"ไอ้ภูมิ มึงหยุดวิจารณ์เค้าได้แล้ว"ลอยด์เตือนเพื่อน
ภูมิพลหันมามองตามสายตาเพื่อน
"อุ้ย!!ตื่นแล้วเหรอเธอ" เขาส่งยิ้มเจื่อนๆให้
"ไม่มีใครสอนพวกนายเหรอว่าไม่ควรวิจารย์ผู้หญิง"เสียงหวานเปล่งออกมาพร้อมมือบางที่เอื้อมไปคว้าคอเสื้อภูมิพลหมับเข้าให้
"เฮ้ย!!อะไร..แค่พูดป่ะวะแล้วกูก้อพูดแต่เรื่องดีๆนะเว้ย!!"ภูมิพลรีบแก้ตัวนึกกลัวตวงตากลมโตที่จ้องอย่างเอาเรื่องอยู่
"เรื่องดีเหรอ งั้นนายก้อไปวิจารย์ญาติผู้หญิงของนายโน่นไป"เสียงตวาดแว้ดเอาเรื่องอีก เพื่อนๆในห้องต่างเข้ามามุงดูอย่างสนใจเสียงวิพากษ์วิจารย์เซ็งแซ่
"พิมพิชาเราว่าเธอปล่อยคอเสื้อไอ้ภูมิก่อนเหอะ มันไม่ได้พูดอะไรให้เธอเสียหายนะมันแค่ปากหมาไปหน่อยอย่าถือสามันเลย"ลอยด์พยายามช่วยเพื่อน
"ไม่ให้ถือสางั้นถ้าเพื่อนนายพูดถึงพี่นายน้องนายรึแม่นายแบบนี้นายก้อโอเคงั้นสิ" พิมพิชาตวาดกลับไปอีก
"นี่!!อย่าลามปามถึงแม่เรานะ"ลอยด์ชักเลือดขึ้นหน้ามั่ง
"ทำไมนายกับเพื่อนพูดถึงคนอื่นได้แต่พอคนอื่นพูดเรื่องของญาตินายมั่งทนไม่ได้รึไง" เสียงหวานถามกลับไปอีกอย่างไม่กลัวเกรง
"พิมพิชา!!"ลอยด์ความอดทนขาดผึงปัดมือบางที่คว้าคอเสื้อเพื่อนอย่างเต็มแรง
"อย่าคิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วเราจะไม่กล้าทำอะไรนะ"ลอยด์เอ่ยออกมาเสียงเข้มจ้องสบตาอย่างเอาเรื่อง
"เอาล่ะๆทั้งสองคนอย่าให้เรื่องมันลุกลามใหญ่โตไปเลย พิมพิชาเราขอโทษเธอนะที่พูดเกี่ยวกับเธอไป"ภูมิพลเห็นท่าไม่ดีรีบห้ามทัพ
"รู้ว่าตัวเองผิดแล้วขอโทษก้อดี"พิมพิชานั่งลงที่เดิม
"ต่อไปหวังว่าจะไม่ได้ยินอะไรแบบนี้อีก"
"ไอ้ภูมิมันขอโทษเธอละเธอก้อควรจะขอโทษที่พูดพาดพิงแม่เรานะ"ลอยด์ยังไม่ยอม
"เราไม่ได้พูดอะไรที่เสียหายหนิทำไมต้องขอโทษ" หญิงสาวตอกกลับหันไปเตรียมตัวเรียน
เธอหยิบนมกล่องไปวางคืนบนโต๊ะข้างหน้า
"เราไม่ชอบกินของคนแปลกหน้า"
ลอยมองนมกล่องตรงหน้าแล้วมองหน้าคนดื้อที่ไม่ยอมรับไมตรีจากเขา
"เราให้ของใครแล้วก้อไม่รับคืนเหมือนกัน" เขาพูดจบก้อหยิบนมกล่องโยนลงถังขยะหลังห้องอย่างแม่นยำ
พิมพิชามองสบตาคนตรงหน้านิ่งก่อนจะหันไปสนใจกับอาจารย์ที่เดินเข้ามา
ลอยด์นั่งเรียนแทบไม่รู้เรื่องดวงตากลมใสแจ๋วอย่างกับลูกแก้วยังติดอยู่ในห้วงคิดคำนึงทั้งๆที่พยายามโฟกัสกับตำราที่วางอยู่ข้างหน้าแล้ว
หลังเลิกเรียน
นักเรียนทุกคนต่างทะยอยกลับบ้านกันรวมถึงพิมพิชาที่รีบสะพายกระเป๋าเป้ไว้ที่ไหล่แล้วเดินดุ่มๆออกประตูโรงเรียนไป
ลอยด์ขับรถมอเตอร์ไซต์คันใหญ่ของเขาออกมาอีกทางมุ่งสู่ถนนใหญ่ เขาขับรถไปเรื่อยๆจนบังเอิญไปเจอพิมพิชาที่เดินอยู่ริมถนนห่างจากโรงเรียนพอสมควร
เขาขับรถไปจอดดักด้านหน้าพิมพิชาที่เดินใจลอยอยู่จนเกือบชนเข้ากับรถของเขาถ้าไม่เรียกไว้
"เดินใจลอยไปไหนพิมพิชา"ลอยด์ทักขึ้นก่อน
พิมพิชาทำเป็นไม่ได้ยินเดินเลี่ยงไปอีกทาง
"นี่!!หูหนวกรึไงคนถามไม่ตอบ"เขายังตะโกนถามไปอีก
แต่คนถูกถามกลับเดินเฉยจนถึงป้ายรถเมล์ ลอยด์มองตามหลังร่างบางไปจนเธอก้าวขึ้นรถเมล์แล้วเขาก้อขับรถกลับบ้านไป
ผ่านไปหลายสัปดาห์
เสียงหนุ่มๆเอะอะโวยวายลั่นห้องเปลี่ยนเสื้อผ้าหลังจากผ่านชั่วโมงพละมาหมาดๆ
"วันนี้อยู่ซ้อมบาสกันด้วยนะเว้ยคุณชายทั้งหลาย"เสียงโจ๊กเกอร์ประธานชมรมบาสดังอยู่หน้าล็อกเกอร์
"ครับพี่โจ๊ก"ลอยด์ตอบกลับรุ่นพี่ที่ตามมาคุมน้องๆไปซ้อม
"เดี๋ยวพวกผมตามไปครับพี่"ภูมิเอ่ยหลังเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย
โจ๊กเกอร์เดินออกไปหลังจากได้เตือนน้องๆแล้ว
"เอาไงดีวะกู วันนี้นัดเลี้ยงไอติมปุยฝ้าย4/4ว่ะ"ภูมิพลหันมาปรึกษาเพื่อนๆ
"มึงก้อรู้อีก2อาทิตย์มีแข่งยังเสือกนัดสาว"ลอยด์ต่อว่าเพื่อนตรงๆ
"มึงโดดซ้อมวันนี้โดนตัดออกจากตัวจริงแน่..เอาสิ"โจอี้เตือนเพื่อน
"แม่ง..พูดซะกูไม่กล้าโดด"ภูมิพลคิดหนัก
"ไอ้ลอยด์มีรุ่นน้องมาหาหน้าห้องแน่ะ"เสียงเพื่อนอีกคนตะโกนเข้ามาจากหน้าประตู
"น้องไหนวะ"ลอยด์ทำหน้างงๆ
"น้องอีฟ3/1ไงมารอมึงนานละ"โจอี้หันมาบอกเพื่อน
"ตะกี้กูเดินเข้ามาเห็นยืนถือกล่องขนมกับน้ำอยู่หน้าประตูน่ะ"โจอี้เล่าต่อ
"น้องอีฟที่น่ารักๆน่ะนะ"ภูมิพลทำหน้าตื่นเต้น
"อือ..ปีนี้น้องเค้าเป็นเชียร์ลีดเดอร์ด้วยนะมึงอย่างแจ่มว่ะ"โจอี้ทำหน้าปลื้มน้องเอามากๆ
"แจ่มมึงไม่จีบล่ะไอ้โจ"ลอยด์ถามเพื่อน
"จีบกะผีดิมายืนรอมึงขนาดนี้คงสนกูหรอก" หนุ่มลูกครึ่งจีนหน้าตาตี๋ๆพูดอย่างปลงๆ
"มึงไม่จีบงั้นกูไปดูหน่อยละกันน้องเค้ามายืนรอนานคงเหนื่อย"ลอยด์บอกเพื่อนยิ้มๆแล้วเดินออกไป
"เชี่ย!!กูนึกว่ามันไม่สน..ที่ไหนได้"โจอี้บ่นตามหลังไป
"คนอย่างไอ้ลอยด์มันปฏิเสธสาวเป็นที่ไหนมึงก้อรู้"ภูมิพลเอ่ยถึงเพื่อนรักอย่างรู้ใจ
"งั้นคืนนี้คอนโดไอ้ลอยด์ก้อไม่ว่างแล้วสิ"โจอี้พูดขึ้นอีก
"เออดิ!!คืนนี้กูกับมึงคงต้องไปหาที่สิงสถิตย์ที่อื่นกัน"ภูมิพลพูดขำๆ
"ห้องยัยปุยฝ้ายอ่ะดิมึงอ่ะ"โจอี้พูดอย่างรู้ทัน
ภูมิพลยักคิ้วให้เพื่อนอย่างรู้กัน
แล้วหนุ่มๆก้อไปรวมตัวกันที่สนามบาส
หลังจากซ้อมเสร็จทุกคนก้อต่างแยกย้ายกันไปหาสาวๆของตัวเองที่มานั่งรออยู่ข้างสนาม
ลอยด์กำลังจะเดินไปหารุ่นน้องแสนสวยก้อถูกรุ่นพี่เรียกไว้ซะก่อน
"เฮ้ย!!ลอยด์พี่ขอคุยด้วยหน่อย"โจ๊กเกอร์เรียกรุ่นน้องสุดหล่อไว้
"มีไรครับพี่โจ๊ก"ลอยด์หันไปส่งสัญญาณบอกให้รุ่นน้องรอแล้วหันมาหารุ่นพี่
"พี่มีเรื่องขอช่วยหน่อย"รุ่นพี่เกริ่นนำ
"ว่ามาเลยครับพี่โจ๊ก"
"ได้ข่าวว่าเรานั่งติดกับพิมพิชาคงสนิทกัน"
"ก้อนั่งติดนะครับแต่ไม่สนิทยัยนั่นไม่ค่อยสุงสิงกะใคร"ลอยด์พูดตามความเป็นจริง
"ไม่สนิทจริงอ่ะ..เป็นไปได้เหรอวะที่สาวสวยน่ารักขนาดนั้นจะพ้นเงื้อมมือมึงไปได้"รุ่นพี่พูดอย่างไม่เชื่อเพราะรู้จักนิสัยรุ่นน้องเป็นอย่างดี
"สวยก้อสวยอยู่หรอกครับแต่หน้าไม่รับแขกเลยวันๆยัยนั่นเอาแต่นอนไม่ยอมพูดจากับใครแถมยังชอบทำหน้าแบกโลกไว้ทั้งใบด้วย"เขาพูดอย่างเอือมระอา
"ขนาดนั้นเชียว"รุ่นพี่ถามเสียงสูง
"ครับ..อย่าบอกนะว่ารุ่นพี่ชอบยัยนั่น"เขาพูดพลางมองอย่างจับผิด
"ชอบห่าไร มึงจะหาเรื่องให้แม่เสืออ้อมมาฉีกอกพี่รึไง"พูดพลางชำเลืองตาไปมองทีมบาสหญิงฝั่งตรงข้ามซึ่งแม่เสืออ้อมก้อคือประธานชมรมบาสหญิงนั่นเอง
อ้อม หรือ อมาวดี หันหน้ามาจิกตาใส่แฟนหนุ่มพอดี
"อุ้ย!!"โจ๊กเกอร์เจอสายตาพิฆาตของแฟนสาวก้ออุทานทันทีหนุ่มร่างยักษ์ใจแมวถึงกับหงอยหันมาหารุ่นน้อง
"อย่าได้พูดหมาๆอีกนะมึงเสียวสันหลัง"
ลอยด์ขำออกมาเบาๆอย่างเกินจะกลั้น
"พี่อ้อมนี่แกเอาอยู่จริงๆ555"
"พอๆไม่พูดเรื่องกูละเอาเรื่องที่จะขอช่วยดีกว่า"ทำเสียงจริงจัง
ลอยด์ตั้งใจฟัง
"พี่อ้อมน่ะเค้าใช้ให้กูมาขอร้องมึง"
"เรื่องอะไรครับ รึจะเป็นเรื่องปิ่นกับแป้งลูกทีมพี่อ้อม ผมก้อเลิกยุ่งไปแล้วนะครับ"ลอยด์ยังสงสัย
"ไม่ใช่เรื่องสองคนนั่นหรอก อ้อมเค้าอยากให้มึงช่วยไปขอให้น้องพิมพิชามาเข้าทีมน่ะ" รุ่นพี่เอ่ยออกมาในที่สุด
"ยัยนั่นเหรอครับที่พี่อ้อมอยากได้มาเข้าทีม"ลอยด์อุทานอย่างไม่อยากเชื่อ
"เออ..น้องพิมพิชานั่นแหละมึงพอจะช่วยได้มั๊ย"
"จะไหวเหรอครับพี่ยัยนั่นเล่นบาสเป็นรึเปล่าก่อน"
"มึงยังไม่รู้อะไร นั่นน่ะเซ็นเตอร์คนดังของทีมจังหวัดเชียวนะ"
"เซ็นเตอร์คนดัง..ใคร..พี่หมายถึงใคร"ยังงงเป็นไก่ตาแตก
"ก้อน้องพิมพิชาไง..ฉายาพิช่า3แต้ม..มึงไม่เคยได้ยินเหรอ"โจ๊กเกอร์รีบอธิบาย
"เดี๋ยวนะพี่..พิช่า3แต้มน่ะผมเคยได้ยินชื่อนะเห็นว่าเก่งมากๆลูก3แต้มไม่เคยพลาด ตัวล่ำๆดำๆไม่ใช่เหรอ คงไม่ใช่ยัยนั่นหรอก"รีบค้านทันที
"ใครบอกมึงว่าน้องเค้าล่ำๆดำๆ...ไอ้ควาย!!"
รุ่นพี่อวยยศให้ไปอีก
"ผมก้อได้ยินสาวๆเค้าเล่ากันเห็นว่าทั้งถึกทั้งล่ำทั้งดำขี้เหร่สุดๆ"
"ควายเรียกพี่แล้วมึงอ่ะ..อีพวกสาวๆของมึงป่ะที่พูด"
"อืม" ตอบรับเบาๆ
"ไม่มีผู้หญิงคนไหนยอมให้ผู้ชายของตัวเองสนใจผู้หญิงคนอื่นหรอก ยิ่งเป็นพิช่าผู้หญิงที่สาวๆหลายคนอิจฉาในความเก่งความสวยน่ารักด้วยน่ะนะ...ยิ่งไปกันใหญ่เลยล่ะ"โจ๊กเกอร์บอกรุ่นน้อง
"มันใช่เหรอวะรุ่นพี่ พี่ไม่ได้จำคนผิดนะ"ยังไม่อยากเชื่อ
"จำผิดบ้านมึงสิ ถ้าเป็นพิมพิชา รัตนพงษ์พันธ์ ละก้อ คนเดียวกันชัวร์" โจ๊กเกอร์บอกอย่างมั่นใจ
เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาเซิร์ดชื่อพิช่า3แต้มแล้วส่งให้รุ่นน้องดู
ลอยด์มองภาพตรงหน้าอย่างไม่อยากเชื่อ เขาไม่เคยสนใจคนในรูปเลยเพราะได้ยินคำร่ำลือเสียๆหายๆของเธอมาโดยตลอด อีกอย่างพิมพิชาในตอนนี้ก้อดูบอบบางจนเขาไม่คิดว่าเธอจะยกลูกบาสรอดด้วยซ้ำ
"เชื่อรึยังละทีนี้"รุ่นพี่ถามอีก
"ไม่อยากเชื่อก้อต้องเชื่อครับ"เขาตอบรุ่นพี่
"ว่าแต่ทำไมพี่อ้อมไม่ไปพูดเองละครับ"
"เค้าไปมาแล้วแต่เด็กนั่นทำเมินแถมยังบอกว่าตัวเองไม่ใช่พิช่า3แต้มด้วย"
"ถ้าขนาดพี่อ้อมไปพูดยังไม่สำเร็จผมก้อคงทำไรไม่ได้หรอกครับ"ลอยด์บอกตามตรง
"แต่พี่เชื่อมึงนะลอยด์ มึงหล่อมากๆเรียนเก่งมากๆแถมรวยซะขนาดนั้นฮอตสุดๆในโรงเรียนมึงต้องทำได้แน่ๆ"รุ่นพี่บอกอย่างเชื่อมั่น
"แต่ที่พี่พูดมาทั้งหมดใช้ไม่ได้กับยัยนั่นครับผมเคยลองมาแล้ว ยัยนั่นเมินผม จนผมขาดความมั่นใจไปพักนึงเลย"ลอยด์บอกเสียงเศร้า
"จริงเหรอวะ ในโลกนี้ยังมีสาวคนไหนเมินมึงอีกเหรอวะ"รุ่นพี่พูดอย่างไม่เชื่อ
"พี่เห็นมีแต่สาวๆตามกรี๊ดมึงเหมือนจะบ้าตายอย่างพิช่าก้อไม่น่ารอดนะ"
"รอดไปแล้วครับรุ่นพี่อย่าให้ผมพูดเรื่องนี้อีกเลย...ผมยังนอยไม่หายเกิดมาไม่เคยโดนใครเมินใส่ขนาดนี้เลย"พูดอย่างท้อแท้
"เอาน่า...ลองดูอีกทีเพื่อพี่สะใภ้นะมึง"รุ่นพี่อ้อนอีก
"เอางี้..ถ้ามึงจัดการเรื่องนี้สำเร็จมึงเคยบอกกูอยากได้โมเดลฟอร์มูล่าวันรุ่นลิมิเต็ดของกูใช่ป่ะ"ยื่นข้อเสนอไปอีก
"รุ่นพี่จะยกให้" ลอยด์ยิ่มแฉ่ง
"เออ!!กูยกให้มึง!!"กลั้นใจพูดทั้งน้ำตา
"จริงๆนะ"ย้ำไปอีก
"เอ๊อ!!เพื่อเมียกูยอมสละได้ทุกอย่าง"ร้องไห้ไปอีก
"โห..อภิชาตสามี..สายเปย์ที่แท้ทรู"รุ่นน้องยิ้มอย่างถูกใจที่จะได้ของรักของรุ่นพี่
แต่อีกใจก้อกำลังคิดหนัก
....จะหาทางเข้าหายัยนั่นยังไงดีวะ....
วันต่อมา...หลังเลิกเรียน
ร้านน้ำปั่นเจ้าประจำหน้าโรงเรียน หนุ่มๆกำลังนั่งเสวนากันถึงเรื่องที่มาที่ไปของเพื่อนร่วมห้องอยู่อย่างออกรส
"ใช่เหรอวะไอ้ลอยด์ที่มึงบอกกูว่ายัยผีดิบนั่นคือพิช่า3แต้ม"ภูมิถามเพื่อนให้แน่ใจ
จากสายตาเขาไม่น่าที่ยัยนั่นจะเป็นนักบาสได้เลย ด้วยสภาพที่เขาเห็นตอนนี้
"กูก้อไม่รู้นะรุ่นพี่บอกมางั้นหนิ ไม่เชื่อก้อต้องเชื่อแหละ"ลอยด์บอกเพื่อนพลางดูดน้ำปั่นพรืดเดียวหมดแก้ว
"ถ้ายัยผีดิบนั่นคือพิช่าจริงก้อต้องแสดงออกมั่งป่าววะเวลาเห็นพวกเราเล่นบาส"ภูมิยังสงสัย
"อย่างยัยนั่นจะแสดงไรออกได้วะ วันๆกูเห็นทำอยู่หน้าเดียว เย็นชาสุดๆ"โจอี้วิจารย์อีก
"แล้วแบบนี้กูจะเข้าหายัยนั่นยังไงวะ"ลอยด์ถอนหายใจแรงๆ
"หนุ่มฮอตอย่างมึงยังคิดหนัก อย่างพวกกูจะทำไรได้วะเนี่ย"ภูมิพลพูดปลงๆ
"กูละเสียดายความสวยน่ารักของยัยนั่นว่ะ ไม่รู้จักใช้ความสวยให้เป็นประโยชน์เอาแต่ตีหน้ายักษ์เหมือนแบกโลกทั้งโลกอยู่ได้"โจอี้พูดอย่างเสียดาย
"แค่ตีหน้ายักษ์น่ะไม่เท่าไหร่หรอก ยัยนั่นน่ะดันชอบทำตัวประหลาดไม่ยอมเปิดใจให้ใครเข้าใกล้ด้วยนี่สิ"ลอยด์พูดอย่างหงุดหงิด
พิมพิชาเดินสะพายกระเป๋าผ่านโต๊ะไปพอดี หนุ่มๆต่างหุบปากกันทันที
"มึงว่ายัยผีดิบได้ยินที่เราพูดป่ะวะ"ภูมิเอ่ยอย่างเกรงๆ
"ชั้นไม่ได้หูหนวก" พิมพิชาเดินกลับมาอีกรอบเธอหยุดยืนอยู่ข้างโต๊ะ
"เฮ้ย!!"ภูมิพลอุทานอย่างตกใจเมื่อจู่ๆคนที่พูดถึงก้อมายืนอยู่ข้างๆ
"พวกนายนี่คงจะว่างกันมากนะถึงได้มีเวลานินทาผู้หญิง"เอ่ยเสียงเย็นชาสุดๆ
"พวกเราขอโทษนะพิช่าที่นินทาเธอ"ลอยด์เอ่ยขึ้น
พิมพิชาหันมาขึงตาใส่คนพูด
"ชั้นไม่ได้ชื่อพิช่า!!"ตวาดแหวออกมา
"อย่าปิดพวกเราอีกเลย..เธอมีชื่อเล่นว่าพิช่า..ฉายาเธอคือพิช่า3แต้ม"ลอยด์พูดจ้องสบตากลมโตแสนดื้อรั้นนิ่ง
"นายจำคนผิดละ"ปฏิเสธเสียงแข็งแล้วเดินออกประตูร้านไป
ลอยด์คว้ากระเป๋าวิ่งตามไปทันที
"นั่นมึงจะไปไหน"ภูมิถามเพื่อน
"กูจะไปพิสูจน์ไรหน่อย พวกมึงกลับก่อนเลย"เขาบอกเพื่อนๆแล้ววิ่งออกไป
เขาวิ่งออกประตูร้านหันมองตามทางเดินเห็นพิมพิชากำลังจะเดินข้ามถนนไปอีกฝั่ง
รีบวิ่งตามไปจนทันคว้ามือหญิงสาวไว้
"พิช่า..เดี๋ยวก่อน"เขาเรียกเสียงดัง
คนถูกเรียกหันขวับสะบัดมือเต็มแรง
"ปล่อยนะ!!!"ตวาดเสียงสูง
"ไม่ปล่อย!!เรามีเรื่องจะพูดกับเธอ"เขาบอกเสียงจริงจังฉุดมือบางให้เดินตามเขาไปอีกทาง
"ปล่อยนะจะพาชั้นไปไหน"พยายามแกะมือขัดขืนเต็มที่ แต่ก้อสู้แรงคนตัวโตไม่ได้
"ไม่ต้องถามเดี๋ยวถึงก้อรู้"
เขาเอ่ยออกมาลากให้เดินตามอย่างไม่สนใจ พิช่าก้าวเท้าเร็วๆตามขายาวๆของเขาแทบไม่ทัน
ถึงเธอจะสูงถึง 178 ซม.แต่พอมาเทียบกับเขาซึ่งสูงถึง 190 ซม.ก้อดูตัวเล็กตัวน้อยไปเลยทีเดียว
เขาพาพิมพิชาเดินกลับไปยังประตูโรงเรียนซึ่งอยู่ไม่ไกลนักแล้วตรงไปโรงยิมทันที
ตลอดระยะทางที่ทั้งสองเดินผ่านล้วนมีสายตาหลายคู่หันมองอย่างสนใจและอิจฉาที่พิมพิชาถูกชายหนุ่มที่สาวๆต่างคลั่งไคล้จับมือพาเดินไปอย่างนั้น
เขาพาเธอเดินกลับเข้าไปยังสนามบาสซึ่งตอนนี้ภายในสนามเงียบกริบเพราะเป็นช่วงที่เลิกซ้อมกันแล้ว
"พามาที่นี่ทำไม"ตวาดแหวออกมาอีก
"ก้อบอกว่ามีเรื่องจะคุยด้วยไง"เขาตวาดกลับ
"มีไรก้อคุยข้างนอกก้อได้ป่าววะ"สะบัดมือจนหลุดสีหน้าโกรธจัด
ลอยด์ยอมปล่อยมือ เขาจ้องคนตรงหน้าอย่างเอาจริง
"พูดข้างนอกจะไปได้เรื่องอะไร"เขาพูดพลางเดินไปที่ตะกร้าใบใหญ่ที่ใส่ลูกบาสไว้เต็ม
"คิดจะทำอะไร"พิมพิชามองอย่างสงสัย
"จะพิสูจน์ไงว่าเธอใช่พิช่า3แต้มรึเปล่า"
เขาพูดเสียงห้วนจัดพร้อมทั้งหยิบลูกบาสในตะกร้าโยนอัดใส่พิมพิชาอย่างแรง
"ตุ๊บ!!"เสียงลูกบาสกระแทกเข้าใส่พิมพิชา
"ตุ๊บ..ตุ๊บ..ตุ๊บ" ดังตามมาอีกหลายลูกแต่พิมพิชาก้อยืนเฉยปล่อยให้เขาขว้างลูกบาสอัดเข้าตามลำตัวเหมือนไม่รู้สึกอะไร
"บ้าไปแล้วเหรอพิชาทำไมไม่รับล่ะ..ไม่เจ็บรึไง"เขาตะคอกอย่างหัวเสียขว้างลูกบาสใส่อีกอย่างโมโห
พิมพิชายืนนิ่งไม่ไหวติงจนเขาต้องยอมหยุดเอง
ลอยด์เดินตรงเข้ามาหาเธอที่เอาแต่ยืนจ้องหน้าเขาด้วยสายตาเย็นชา
"เธอมันบ้าพิมพิชา" เขาตะคอกใส่เธออีกอย่างโกรธจัด ยื่นมือไปคว้าเอวบางเข้ามาประชิดตัว
พิมพิชาไม่ทันระวังตัวปลิวไปตามแรง
เขาจับปลายคางเธอให้เชิดขึ้นแล้วจูบลงมาหน้าตาเฉย
"อื้ออ.."เสียงประท้วงดังอยู่ในลำคอมือบางผลักอกเขาไว้อย่างแข็งขัน
เขาจูบเอาๆ พิมพิชากลั้นใจผลักอกเขาอีกเต็มแรง
เขายอมถอยออกมาแต่มือยังเกาะกุมเอวบางไว้
"นายทำบ้าไรของนายเนี่ย!!"เสียงตวาดแหวดังแสบแก้วหูตามมาทันที ใบหน้าแดงเถือกไปจรดใบหูอย่างแสนอายและโกรธจัด
เธอกำหมัดยกขึ้นจะต่อยแต่เขาคว้าหมัดเล็กๆไปกุมไว้เฉย
"เราก้อจูบเธอไง อยากรู้นักไอ้หน้าตาบูดบึ้งแสนเย็นชาของเธอมันจะเป็นไงถ้าโดนเราจูบ"
เขายิ้มใส่ดวงตากลมโตแสนหวานที่ตอนนี้จ้องอย่างจะกินเลือดกินเนื้อเขาอยู่
แถมยังยักคิ้วล้อเลียนไปอีก
"เห็นชอบทำหน้ายังกะกินยาเย็นไม่นึกเลยริมฝีปากเธอจะนุ่มหอมน่าจูบชะมัด"เขาก้มลงมาหาพูดชิดริมฝีปากไปอีก
เธอรีบยกมือขึ้นยันคางเขาไว้
"ไอ้คนบ้า นายกล้าดียังไงมาจูบเรา"เสียงแหลมสูงไปอีก
"ไม่เห็นต้องใช้ความกล้าอะไรเลยก้อแค่จูบ"
"ไอ้คนบ้า!!แค่จูบงั้นเหรอ นั่นมันจูบแรกของชั้นนะ"
"จูบแรกแล้วไง เธอคงไม่คิดเก็บมันไว้ให้คนที่เธอรักหรอกนะ เชยชะมัดสมัยนี้ละใครเขายังจะคิดแบบเธอกันอีก"
เขาพูดยืดยาวจ้องสบตาอย่างล้อเลียน
"นาย!!"เธอเรียกเขาเสียงลอดไรฟัน กัดกรามอย่างโกรธจัด
"ทำไมเรียกทำไมรึอยากให้จูบอีก"ยื่นหน้าเข้ามาหาอีก
เธอตัดสินใจยกเข่าขึ้นตั้งฉาก
"โช๊ะ!!"เข้ากึ่งกลางลำตัวเขา
"โอ๊ย!!!"เสียงเขาดังขึ้นทันทีหน้าตาแดงก่ำยกมือกุมเป้าแล้วทรุดลงไปกองกับพื้น
"โอยยย...ยะ..ยัย..ผีดิบ..เธอ..ทำร้ายน้องชาย..เรา"เสียงเขาแหบพร่าพูดอย่างยากลำบาก
เขาร้องโอดโอยกุมเป้าครวญครางอยู่กับพื้นสนาม
พิมพิชายืนมองอย่างสะใจก่อนจะก้มลงไปยกมือบางตบที่แก้มของเขาเบาๆ
"นี่มันยังน้อยไปสำหรับคนที่บังอาจมาขโมยจูบแรกอย่างนาย..ไอ้คนบ้า!!"
"เพี๊ยะ!!"เสียงฝ่ามือกระทบแก้มดังมาอีก
"โอ๊ย!!ยัยผีดิบซาดิสต์" เสียงลอยด์สบถออกมาอย่างหัวเสียและเจ็บปวด
"จำไว้อย่ามายุ่งกับเราอีก" เธอพูดจบก้อเดินไปหยิบกระเป๋าที่หล่นอยู่ไม่ไกลแล้วเดินก้าวข้ามเขาไปหน้าตาเฉย
ลอยด์ไม่ทันหลบเขาถึงกับตาเบิกโพลงเมื่อเธอก้าวข้ามตัวเขาไป กระโปรงบานปลายสะบัด
"พรึ่บ!!" เขาเหลือบไปเห็นกึ่งกลางกายสาวภายใต้บิกินี่ตัวจิ๋วสีขาวลายหมีพูร์เต็มสองตา
"ฝากไว้ก่อนเหอะยัยหมีพูร์!!"เสียงเขาสบถลอดไรฟันตามไป