สำรวจรังศัตรู

1903 Words
สามวันต่อมา ''พี่พารัน พี่พารันจริงๆด้วย สวัสดีค่ะ'' เสียงใสของเจนิสาในบทของแก้วใสเอ่ยอย่างดีใจก่อนจะวิ่งเข้าไปกอดชายหนุ่มในชุดสูทสีเข้ม หญิงสาวถูกคนของพารัมไปรับมาที่คฤหาสน์ของเขา ''เอ่อ แก้วใสปล่อยพี่ก่อน ''ชายหนุ่มเอ่ยก่อนจะดันเธอออก ''หนูขอโทษนะคะดีใจมากไปหน่อย'' แก้วใส่เอ่ยด้วยสีหน้าที่สลดลง ''ต่อไปนี้มาอยู่กับพี่นะ ที่นี้จะเป็นบ้านของแก้วใส ทำตัวตามสบายเลยนะ สมัยพาคุณแก้วใสไปดูห้องไป''พารัมเอ่ยบอกแก่น้องสาวคนใหม่ ก่อนจะเรียกคนรับใช้มาพาหญิงสาวไปดูห้อง ''เชิญค่ะคุณหนู'' คนรับใช้วัยกลางคนเอ่ยพร้อมผายมือเชิญเจ้านายคนใหม่ให้ตามไป ''เอ่อ เดียวนะคะหมายความว่าแก้วต้องอยู่บ้านหลังนี้หรอคะ แก้วนึกว่าวันนี้พี่พารัมจะพาแก้วไปสมัครงานซะอีก แล้วอีกอย่างนี้บ้านพี่จริงๆหรอคะ!!!!'' แก้วใสเอ่ยอย่างใสซื่อพร้อมกับกวาดตามองไปรอบๆ ราวกับคนที่ดูตกใจในความใหญ่โตของสถานที่ๆเรียกว่าบ้าน พารัมหัวเราะน้อยๆในความใสซื่อของเธอ ''ใช่จ๊ะ นี้บ้านพี่แล้วก็จะเป็นบ้านของแก้วใสด้วยนะ งานน่ะได้ทำแน่พี่ฝากงานกับบริษัทของเพื่อนให้แล้วนะ ตรงตามที่แก้วใสเรียนมานั้นแหละ ไปพักผ่อนเถอะอย่างกังวล ไปสมัยพาคุณหนูไปพักผ่อน อ๋อแล้วเดียวตอนเย็นลงมาทานข้าวด้วยกันนะพี่ต้องไปทำงานแล้ว'' พารัมพูดจบก็ลูบหัวน้องสาวคนใหม่ที่ยังดูเหมือนจะไม่ค่อยเข้าใจอะไรมาก ''ค่ะ พี่พารัม รีบกลับมานะคะ แก้วใสจะรอค่ะ''หญิงสาวเอ่ยบลอกแก่ชายหนุ่มพ่อนที่พารันจะรีบออกไปทำงานทันที ''เชิญทางนี้ค่ะคุณหนู ห้องนี้เลยค่ะ''คนรับใช้เปิดประตูห้องที่ถูกตกแต่งไว้ด้วยสีชมพูหวานคล้ายๆห้องที่บ้านสวนหลังนั้น เจนิสาอึ้งๆไปเพราะความจริงแล้วเธอไม่ได้ชอบสีชมพูเลยแต่ที่ต้องแต่ห้องแบบนั้นเพราะอยากให้ได้ภาพลักษณ์สาวน้อยไร้เดียงสาต่างหาก ''หากคุณหนูต้องการอะไรสั่นกระดิ่งเรียกได้เลยนะคะ อย่าออกจากห้องคนเดียวนะคะ นายท่านสั่งกำชับไว้ ขอตัวนะคะ''คนรับใช้พูดจบก็เดินจากไป แก้วใสปิดประตูห้องแล้วตรวจเช็คภายในห้องโดยแสร้งทำเป็นตื่นตาตื่นใจกับห้องใหม่นี้มาก เพราะหญิงสาวคิดว่าเธออาจกำลังถูกจับตามองจากผู้เป็นเจ้าของบ้านอยู่ ก็แน่นอยู่แล้ว เขาเป็นถึงรักษาการนายกรัฐมนตรี การจะให้คนนอกมาอยู่ในบ้านง่ายๆมันดูจะง่ายเกินไป เขาคงตรวจเช็คประวัติปลอมๆที่เธอสร้างขึ้นแล้วถึงกล้าให้เธอมาอยู่ที่นี้ 'ว้าวผิดคาดอีกแล้ว ไม่มีกล้องแอบถ่ายเลยสักตัว ตัวเดียวก็ไม่มี!!!!'เจนิสาคิดในใจหลังจากตรวจเช็คทุกซอกทุกมุมของห้องรวมทั้งข้าวของเครื่องใช้และตุ๊กตาทุกตัวภายในห้องจนแน่ใจว่าไม่มีใครคอยสอดแนมเธอ ''นายนี้ประมาทสุดยอดไปเลย ขึ้นเป็นรักษาการได้ยังไงไว้ใจคนง่ายขนาดนี้ ไอ้ทึ่มเอ๋ย!!!!''เจนิสาเอ่ยกับตัวเองก่อนจะทิ้งตัวลงนอนบนที่นอนคิงไซส์อันใหญ่ ''ไปสำรวจรังศัตรูหน่อยดีกว่าเผื่อได้ข้อมูลอะไรเด็ดๆ''เจนิสาพูดจบก็คว้ากระดิ่งบนหัวเตียงขึ้นมาเรียกคนรับใช้ ไม่นานนักก็มีเสียเคาประตูที่หน้าห้อง หญิงสาวรีบลุกไปเปิดทันที ''คุณหนูต้องการอะไรคะ''สาวรับใช้เอ่ยถามด้วยท่าทางนอบน้อม ''ห้องครัวไปทางไหนคะพาหนูไปหน่อยได้ไหมคะ คือ หนูหิวหนูยังไม่ได้ทานอะไรเลยค่ะ''เธอเอ่ยด้วยท่าทางไร้เดียงสา ''คุณหนูต้องการทานอะไรคะเดียวดิฉันจะสั่งแม่ครัวทำให้ค่ะ'' ''ไม่เป็นไรค่ะขอหนูทำเองได้ไหมคะหนูแพ้อาหารหลายอย่าง ขอทำเองนะคะจะได้ไปคุยกับแม่ครัวด้วยเพื่อวันหลังถ้าต้องทำอะไรจะได้ทำง่ายขึ้นค่ะ'' เหตุผลของหญิงสาวนั้นฟังขึ้นสาวรับใช้จึงยอมให้เธออกจากห้องและเดินนำเธอไปยังห้องครัวทันที 'อยากกับติดคุก' เจนิสาคิดในใจขณะเดินตามสาวรับใช้ไปเงียบๆ ในมือของเธอคือมือถือที่เธอประดิษเองมันสามารถตรวจจับและบันทึกตำแหน่งคลื่นสัญญาณของเครื่องดังฟังและพวกกล้องแอบถ่ายได้ การไปห้องครัวในครั้งนี้ก็เพื่อสำรวจตัวบ้านว่าตรงไหบ้างที่เธอต้องระวังตัว ''คุณหนูต้องการทานเมนูอะไรสั่งได้เลยนะคะ'' เชฟสาวประจำครัวเอ่ยและส่งยิ้มที่ดูเป็นมิตรให้แกเธอ ''อืมหนูแพ้ถั่วน่ะค่ะ แล้วก็แพ้กุ้งด้วย ขอเมนูที่ไม่มีส่วนผสมของสองอย่างนี้นะคะอะไรก็ได้ค่ะ''เจนิสาบอกแกเชฟประจำครัวก่อนที่ เชฟสาวจะลงมือทำอาหารให้เธอ ''เชิญคุณหนูไปนั่งรอที่โต๊ะอาหารดีกว่านะคะ คุณหนูอยากนั่งตรงไหนคะ รับลมที่สวนดอกไม้หรือวิวทะเลสาปดีคะ หรือว่าจะเป็นโต๊ะยุโรปสามารถเลือกได้เลยค่ะ''คนรับใช้บอกกล่าวอย่างนอบน้อม ''เอ่อ ขอเป็นที่เงียบๆได้ไหมคะ ที่ๆธรรมดาๆน่ะคะ คือหนูไม่เคยอยู่บ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ขอหนูอยู่เงียบๆคนเดียวปรับตัวสักพักนะคะ''เจนิสาเอ่ยบอกคนรับใช้อย่างอ่อนน้อมเช่นกัน ''ได้ค่ะคุณหนู แต่เอ่อคุณอย่าเรียกตัวเองว่าหนูกับดิฉันเลยนะคะ สถานะของคุณหนูอยู่สูงกว่าดิฉันมากเดียวนายท่านจะตำหนิเอาได้นะคะ'' ''เอ่อหนูไม่มียศฐาอะไรหรอกนะจ๊ะพี่ ให้หนูเรียกตัวเองแบบนี้เถอะมันกระดากปากยังไงไม่รู้ พี่ชื่ออะไรจ๊ะ''เจนิสาที่มีความฉลาดเป็นกรดและปรับตัวเก่งรู้ว่าควรปฎิบัติตัวแบบไหนกับคนในบ้านนี้เลือกใช้วิธีตีสนิทโดยการอ่อนน้อมถ่อมตน เพราะเมื่อวันแรกเจอพารัมเขาเองก็ค่อนข้างจะไม่ชอบการกดขี่ลูกน้องเท่าไหร่ เจนิสาเดาว่านี้อาจเป็นบททดสอบของชายหนุ่มก็เป็นได้ ''ดิฉันชื่อรัมภาค่ะอย่าเรียกพี่เลยนะคะเรียกรัมภาเฉยๆก็พอค่ะ''สาวรับใช้เอ่ยอย่างกังวล ''พี่รัมภา ต่อไปนี้แก้วใสจะเรียกพี่ว่าพี่รัมภานะจ๊ะ พี่รัมภาอย่าเกร็งเลยแก้วใสไม่ถือสาหรอก เอาล่ะพาแก้วใสไปที่ๆเงียบๆสงบๆทีเถอะ''สาวรับใช้พยักหน้ารับก่อนจะเดินนำหญิงสาวไปยังมุมหนึ่งของตัวบ้าน ตรงนี้เป็นเรือนกระจกที่ร่มรื่น และเป็นมุมศิลปะ ที่มีทั้งภาพวาดและเครื่องปั่นดินเผามากมาย ใกล้ๆกันมีสวนดอกไม้และบ่อน้ำพุเล็กๆ ''โอ้โห้เหมือนในทีวีเลย สวยจังค่ะ ''เจนิสาทำท่าตื่นตาตื่นใจ หญิงรับใช้อมยิ้มกับท่าทางไร้เดียงสา ''คุณหนูชอบก็ดีแล้วค่ะ เดียวสักครู่จะเอาอาหารมาเสริฟให้นะคะ เชิญคุณหนูผ่อนคลายที่ห้องนี้ตามสบายเลยค่ะ''สาวรับใช้พูดจบก็เดินจากไปทันที ''ให้ตายเถอะอีตาคนนี้หล่ะหลวมเป็นบ้า ไม่มีกล้องไม่มีเครื่องดักฟัง!!!''เจนิสาที่เอามือถือขึ้นมาตรวจเช็คโปรแกรมจับตำแหน่งและบันทึกสัญญาณพูดกับตัวเองก่อนจะเก็บมือถือและเดินไปชมภาพวาดศิลปะ รวมถึงเครื่องปั่นดินเผาต่างๆด้วย ''ว้าวเครื่องปั้น!!!''หญิงสาวออกอาการดีใจเป็นอย่างมากราวกับเห็นสิ่งน่าตื่นตาตื่นใจ เธอพุ่งตรงไปยังเครื่องปั้นดินเผาที่อยู่ตรงหน้า ''โห้ ฉันไม่ได้เห็นมานานแล้วนะเนี่ย อิตานี้ก็ปั้นเครื่องปั้นเป็นเหมือนกันสินะไม่ยักรู้แหะ เหมือนจะมาปั้นประจำซะด้วย!!!''เจนิสาที่ชื่นชอบงานปั้นเป็นทุนเดิมเอ่ยพร้อมกับย่อตัวลงนั่งที่เก้าอี้สำหรับปั้น เมื่อก่อนเธอก็ชอบปั้นครื่องปั้นเพื่อฝึกสมาธิและคลายเครียดแต่พักหลังงานเธอเยอะมากจนไม่มีเวลาได้ผ่อนคลายกับศิลปะพวกนี้เลย ''คุณหนูคะอาหารมาแล้วค่ะ''เสียงของสาวใช้ที่ยกอาหารเข้ามาดังขึ้นเจนิสารีบลุกจากโต๊ะเครื่องปั่นไปที่โต๊ะกลางสวนใกล้ๆน้ำพุทันที ''งานศิลปะพวกนั้นฝีมือพี่พารัมทั้งหมดเลยหรอคะ''เจนิสาเอ่ยถามสาวใช้ที่นำอาหารมาเสริฟตรงหน้าเธอ ''ไม่ใช่หรอกค่ะ ของเพื่อนนายท่านทั้งหมดเลย ภาพวาดเป็นของคุณพายุค่ะส่วนเครื่องปั้นเป็นของคุณภีมค่ะ คิดว่าเดียวช่วงเย็นเดียวคุณหนูคงจะได้เจอเพื่อนๆของนายท่านค่ะ'' คำพูดของหญิงรับใช้ทำเอาเจนิสารู้สึกสนใจไม่น้อย เธอรู้จักทั้งพายุและภีม เพราะในแวดวงสังคมธุรกิจต่างรู้จัก พวกเขาโดยเฉพาะพายุนั้นเธอยิ่งรู้จักดี เขานั้นแหละคือเสี้ยนหนามและศัตรูเบอร์หนึ่งของเธอ ''พายุ ชื่อน่ากลัวจังเป็นคนแบบไหนกันคะ''หญิงสาวแกล้วพูดลอยๆด้วยท่าทีไร้เดียงสาเพื่อให้สาวใช้ได้ยิน ''คุณหนูอย่าเรียกแบบนั้นนะคะถ้าอยู่ต่อน่าต้องเรียกคุณพายุหรือท่านพายุนะคะ น่ากลัวค่ะ ขนาดดิฉันทำงานอยู่ที่นี้มาหลายปียังไม่ชินเลย คุณหนูอย่าทำอะไรให้คุณพายุไม่พอใจนะคะ คุณพายุเขามีอำนาจมากเลย คุณหนูต้องวางตัวให้ดีนะ'' ''มีอำนาจ มีอำนาจมากกว่าพี่พารัมอีกหรอคะ พี่พารัมใหญ่ที่สุดในประเทศนี้ไม่ใช่หรอคะ?'' เธอแกล้วถามอย่างไร้เดียงสา สาวใช้กลืนน้ำลายอึกใหญ่ก่อนจะหันรีหันขว้างราวกับกลัวว่าจะมีใครได้ยินในสิ่งที่เธอกำลังจะบอกแก่เจ้านายสาวคนใหม่ ''คุณหนูคะเห็นแก่ที่คุณหนูดูไร้เดียงสาเหลือเกินไม่เหมือนกับพวกผู้หญิงคนก่อนๆหน้าที่เคยถูกพามา เอาเป็นว่า อดทนนะคะถ้าคุณหนูผ่านไปได้ชีวิตคุณหนูจะสุขสบายไปทั้งชาติเลยล่ะคะ ดิฉันบอกได้แค่นี้ ขอตัวนะคะ....''พูดจบสาวรับใช้ก็รีบจากไปทันที เจนิสาขมวดคิ้วเป็นปม เธอไม่ใช่คนโง่เข้าใจในสิ่งที่สาวรับใช้บอกได้โดยง่าย 'หืม ก็ว่าแล้วเชียว ไอ้บ้านั้นต้องไม่ใช่คนดี ที่แท้ก็หลอกฉันมาให้เพื่อนมันนี้เอง ชิ ได้มาดูกันฉันกับพวกนายใครจะชนะ หึๆ!!!' เจนิสาคิดในใจพรางตักอาหารเข้าปากตอนนี้หัวสมองเธอกำลังประเมินสถาณการและคาดเดาสิ่งต่างๆในหัวไว้มากมาย ไม่ว่าค่ำคืนนี้เธอจะต้องเจอกับอะไร เธอจะไม่มีวันเป็นผู้แพ้เด็ดขาด.....
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD