บนโลกนี้มีหลากหลายทฤษฎีและมีอยู่ทฤษฎีหนึ่งที่กล่าวว่า โลกมักเหวี่ยงคนที่มีโชคชะตาเดียวกันมาเป็นคู่กันกฎแรงดึงดูดเหมือนแม่เหล็กไม่ว่าคนสองคนจะอยู่คนละซีกโลก สุดท้ายก็พบหน้าและจบที่ครองคู่ แต่สำหรับจิรณัฏฐา อนันยช จะใช่โชคชะตาหรือฟ้ากำหนด แต่เธอก็เลือกเขาคนนั้นมาแล้ว
ริมฝีปากบางฉาบด้วยลิปสติกสีแดงสดเดินเข้ามาในคลับโฮสต์เกรดเอ เธอเดินตรงไปยังผู้จัดการร้านก่อนจะเปิดปากกล่าวสิ่งที่ต้องการ
“คุณโอดิน! วันนี้ฉันต้องการออฟโฮสต์อันดับหนึ่งของที่นี่” บัตรเครดิตสีดำกรอบทองถูกยื่นส่งไปตรงหน้าผู้จัดการบาร์
“จริงหรอครับ...เอ่อ คุณจิรณัฏฐาแน่ใจนะครับ” โอดินแย้งด้วยสีหน้างุนงงสงสัย เนื่องจากลูกค้าสาววีไอพีตรงหน้าถึงจะจ่ายเงินมือเติบแต่ไม่เคยออฟหนุ่มคนไหนออกไปตอนกลางคืนเลยสักครั้ง อย่างมากก็มานั่งดื่มหาเพื่อนคุย หรือบางครั้งออฟไปเที่ยวด้วยสองสามชั่วโมงในช่วงเวลากลางวัน
“จัดการมาฉันรอที่นี่” เธอโบกมือบอก รอไม่นานผู้จัดการบาร์โอดินก็พาชายหนุ่มคนหนึ่งมาพยุงเธอไปที่ลานจอดรถ
“พี่ครับ ผมขอเข้าห้องน้ำก่อนนะครับ รอตรงนี้แปปนึงนะครับ”
หนุ่มคนนั้นพูดจบก็วิ่งหายเข้าไปในห้องน้ำทันที ทิ้งเธอให้ยืนโงนเงนสายตาพร่าเลือนมองใครไม่ชัดอยู่หน้าห้องน้ำชายไม่รู้นานเท่าไหร่ กระทั่งเธอชนเข้ากับแผ่นอกแกร่งของชายหนุ่มคนหนึ่ง จิรณัฏฐาไม่รู้ว่าใช่โฮสต์หนุ่มหล่อที่เธอออฟไหม มือเรียวคว้าคอเสื้อเขาแล้วลากเดินตามเธอไปทนที
“ชักช้า ปล่อยพี่รอนานเดี๋ยวฟ้องผู้จัดการเลยนิ่” เธอจิปากอย่างฉุนเฉียว ชายหนุ่มคนนั้นมีสีหน้ามึนงงแต่ก็ยอมเดินตามเธอไปที่ลานจอดรถแบบงงๆ
“ขับรถเป็นไหม” น้ำเสียงหวานยานถามขึ้น ไม่ถามเปล่าเธอโยนกุญแจรถหรูของตนให้กับเขา จากนั้นก็เดินขึ้นฝั่งตรงข้ามคนขับแล้วโยนกระเป๋าไว้เบาะหลังก่อนจะหันมาออกคำสั่ง
“ไปโรงแรมอัลแบร์โต”
ชายหนุ่มหน้าหล่อเหลาเอียงศีรษะมองเธอแบบงงๆอีกครั้ง ก่อนจะหันมามองกุญแจในมือสลับสาวสวยสวมชุดเดรสสีแดงเบอกันดี้สั้น เขานิ่งคิดชั่วครู่ก่อนจะตัดสินใจสวมบทบาทเป็นคนขับรถให้กับเธอ ระหว่างทางหญิงสาวระบายความในใจยาวยืดออกมาราวกับอัดอั้นมานานแรมปี
“ไอ้เวรนั่น! มันหักหลังชั้น!” หญิงสาวอยู่ในอาการเมามายสุราสบถด่า น้ำเสียงคางยานยังคงระบายสิ่งที่เครียดแค้นไม่หยุด
“นายรู้ไหม? พวกมัน พวกมันสองคนทำร้ายชั้น” ใบหน้างดงามบิดเบี้ยวยับย่นด้วยอารมณ์เกรี้ยวโกรธ ตั้งแต่ขึ้นรถจนถึงตอนนี้เธอพูดอยู่แต่ประโยคเดิมๆ ซ้ำๆ
“พวกเขาทำอะไรกับคุณครับ” ชายหนุ่มร่างสูงใหญ่ หน้าตาหล่อเหลา ผิวขาวราวหิมะ นัยน์ตาสีเทาล้อมด้วยแพขนตาสีดำปกคลุมเอ่ยถามด้วยความสนอกสนใจขณะที่เขากำลังหมุนพวงมาลัยเลี้ยวเข้าโรงแรมหรูระดับห้าดาวตามความต้องการของหญิงสาวคนสวยที่อยู่ในอาการเมามาย
“เพราะพวกเขาใช่ไหม? คุณถึงดื่มหนัก” เขาเห็นเธอไม่ตอบจึงถามขึ้นอีกครั้ง
“ใช่! นายนี่หัวไวจริงๆ เดี๋ยวชั้นให้รางวัล” หญิงสาวผิวขาวนวลเนียนควานหากระเป๋าแบรนด์ดังสีขาวชอล์ค ที่ทำจากหนังลูกวัวราคาเจ็ดหมื่นดอลล่าร์ ทว่ามือเรียวตะปบเท่าไหร่กลับหาไม่เจอ
“หายไปไหนแล้ว” เธอพยายามลืมเปลือกตาที่ปรือไล่กวาดมอง
“เบาะหลังครับ” ชายหนุ่มยกนิ้วโป้งไปด้านหลังชี้นำสาวสาวหุ่นดีในชุดเดรสตัดเย็บจากช้อปแบรนด์ดังระดับโลก เขาลอบสำรวจเธอตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วยกยิ้มมุมปาก ‘สมกับเป็นสมาชิกวีไอพีของอโพลิสบาร์’ บาร์โฮสหรูระดับพรีเมี่ยมที่ลูกค้าสาวไฮโซมากมายที่มีรายได้หลายสิบล้านต่อเดือนต่างก็พากันมา ใช้บริการ
“จะให้ทิปผมหรอครับเอาไว้ก่อนก็ได้...ตอนนี้ถึงโรงแรมอัลแบร์โตแล้ว คุณจะ...”
“เปิดห้องสวีทรูม” หญิงสาวไม่พูดพร่ำทำเพลงใช้มือคล้องคอชายหนุ่มที่ตนเองใช้เงินจำนวนสามหมื่นดอลลาร์ออฟมาจากอโพลิสบาร์
“คืนนี้ทำให้ชั้นลืมคนเฮงซวยสองคนนั่นหน่อย แล้วอยากได้อะไรชั้นจะซื้อให้” พูดจบเธอก็ประกบริมฝีปากกับอวัยวะเดียวกันทันทีอย่างไม่รีรอให้ชายหนุ่มตั้งตัว เธอส่งรียวลิ้นเล็กเข้าไปทักทายโพรงปากของเขาอย่างดุดัน
“อื้อ” ทั้งสองแลกเปลี่ยนความหวานจนหนำใจเธอจึงดันหน้าอกชายหนุ่มออก
“ขึ้นห้องกันเถอะ” เธอเปิดประตูรถสปอร์ตสีแดงของตนแล้วก้าวขาลงไปโดยมีพนักงานต้อนรับเข้ามาช่วยเปิดประตูรถอีกแรง
“ห้องเดิม” เธอออกคำสั่งสั้นๆพร้อมโบกมือเป็นสัญญาณว่าทิปให้ลงบิลเหมือนเดิม
“ท ท่าน” หนุ่มพนักงานต้อนรับปากอ้าค้างทันทีที่เห็นชายหนุ่มที่ลงมาช่วยพยุงหญิงสาว ทว่าถูกอีกฝ่ายกับยกนิ้วชี้ขึ้นจรดริมฝีปากส่งเสียงชู่ว์ พนักงานชายหนุ่มกะพริบตาปริบๆ ขืนตัวยืนตรงแหน็วแสร้งไม่รู้จักทันที
“เชิญ! คุณจิรณัฏฐา ห้องA333ครับ” จากนั้นเขาก็สาวเท้าวิ่งไปกดลิฟต์บริการลูกค้าวีไอพีทันที แต่สายตาก็เหลือบมองชายหนุ่มนัยน์ตาสีเทาเป็นระยะๆ
อยู่ในลิฟต์มือเรียวสาวสวยลูบไล้ไปยังแผ่นอกชายหนุ่มที่เธอคิดว่าเป็นโฮสต์ค่าตัวแพงที่สุดของบาร์อโพลิส อาจเพราะเมาจึงจำไม่ได้ว่าชายหนุ่มที่หิ้วมาเป็นคนละคนกัน
ชายหนุ่มกล้ามแน่นรูปร่างสูงใหญ่เองก็ไม่อยู่เฉย ฝ่ามือหนาบีบขยำสะโพกกลมกลึง จมูกโด่งซุกไซ้ซอกลำคอขาวเนียนอันหอมกรุ่นด้วยน้ำหอมแบรนด์ดัง เขาใช้ปากงับติ่งหูอย่างหยอกล้อ ทั้งสองคนนัวเนียไม่สนใจหนุ่มพนักงานต้อนรับที่ยืนตัวแข็งทื่อราวต้องคำสาป เม็ดเหงื่อเริ่มผุดพรายขึ้นมาเต็มหน้าผากและฝ่ามือ ลำคอของพนักงานหนุ่มแห้งผากเขาได้แต่กลืนน้ำลายลงอย่างฝืดคอ เพียงเสียงติ้งดังขึ้นชายหนุ่มกุลีกุจอรีบออกไปทันทีเมื่อประตูลิฟต์อ้าเปิดออกเขายกมือทาบอกคล้ายยกภูเขาที่หนักอึ้งออกจากอกจนรู้สึกโล่ง