ชายหนุ่มสะบัดศีรษะสลัดเรื่องตัวเองออกจากหัวแล้วจดจ่ออ่านประวัติหญิงสาวที่นอนหลับลมหายใจสม่ำเสมอข้างกาย อีกครั้ง ชื่อเล่น นับหนึ่ง
“น่ารักดี” เขาอมยิ้มไปด้วยอ่านไปด้วย
“จิรณัฏฐา เส้นทางเศรษฐีของคุณน่าสนใจมาก” กำพร้าพ่อแม่เพราะอุบัติเหตุตอนอายุ 15 ปี ความจริงต้องเข้าสถานสงเคราะห์แต่มีป้าข้างบ้านยื่นคำร้องขอเป็นผู้ปกครองต่อศาล ‘ป้าสุ ลุงผัน’ คือชื่อผู้ปกครองก่อนเธอจะบรรลุนิติภาวะ ทว่าเท่าที่อ่านรายละเอียด พ่อแม่หญิงสาวทิ้งหนี้ไว้ให้มากกว่าทรัพย์สมบัติ
เธอโผล่มาอยู่หอพักนักศึกษามหาลัย โบราอุส คณะบริหารธุรกิจตอนอายุ 18 ปี ก่อนป้าสุกับสามีจะหย่าขาดจากกันและเธอมักจะติดต่อป้าสุเพียงคนเดียวแต่ไม่เคยติดต่อหาคนเป็นลุงเลย พฤติกรรมตัดขาดอย่างชัดเจน ชายหนุ่มอ่านแล้วย่นหว่างคิ้วเขารู้สึกสงสัยขึ้นมาเล็กน้อยว่ามันเกิดอะไรขึ้น แต่เขาก็เลือกที่จะเก็บความสงสัยไว้ในใจแล้วก้มหน้าก้มตาอ่านประวัติแสนยาวเหยียดต่ออย่างสนอกสนใจ
จบปริญญาตรีบริหารธุรกิจด้วยคะแนนเกียรตินิยมอันดับ 2 โดยมีทุนบริษัทอัลแบร์โต คอร์เปอเรชั่นจำกัดสนับสนุน
“นี่! เด็กทุนในโครงการคุณพ่องั้นหรอ” หัวใจพลันสะท้านไหวยิ่งทำให้คิดถึงคนบนฟ้า พ่อของเขาใจดีมีเมตตามักหยิบยื่นโอกาสแก่ผู้ด้อยกว่าเสมอ ปัจจุบันเรียนปริญญาโทสาขาหลักสูตรบริหารธุรกิจ MBA ที่มหาลัยโบราอุส
“การศึกษาดี” เขาพยักหน้าเบาๆอย่างปลาบปลื้มก่อนจะเลื่อนมือไปลูบหัวเอ็นดูคนนอนหลับไม่รู้เรื่องรู้ราว
ชายหนุ่มเลื่อนโทรศัพท์มือถืออ่านประวัติด้วยใจลุ้นระทึก
“คุณโสดหรือเปล่านะนับหนึ่ง” เขาเคลื่อนสายตามองบรรทัดต่อมา...โสด อ่านคำนี้แล้วหัวใจก็พลันกระชุ่มกระชวยขึ้นมาทันที
“คุณเตรียมตัวเป็นนายหญิงไร่มะกอกโอลิเวอได้เลยนับหนึ่ง”
“มาดูกันหน่อย คุณทำงานที่ไหน”
‘เจ้าของบริษัทอนันยชจำกัด’
“ว้าว!” ชายหนุ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมา
“ที่แท้ก็เจ้าแม่รีวิวและเจ้าของธุรกิจน้ำปลาร้าที่โฆษณาในทีวีเกือบทุกช่อง” สีหน้าปรากฏแววลิงโลดยินดี
กลับมาปัจจุบันจิรณัฏฐายกผ้าห่มขึ้นมาปิดใบหน้าอย่างรู้สึกอับอายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน สาวมาดมั่นกลับเสียพรหมจรรย์เพราะแอลกอฮอล์ ซ้ำสมองคิดพิเรนออฟหนุ่มบาร์โฮสต์มาเปิดบริสุทธิ์ตนเอง
“บ้าเอ๊ย!” เธอสบถคำเดิมไม่หยุดพร้อมมือที่ยีหัวตัวเอง
“คุณหิวข้าวหรือเปล่า นับหนึ่ง” ชายหนุ่มลุกขึ้นคว้าเสื้อคลุมสีขาวที่โรงแรมเตรียมไว้ให้มาสวมใส่แล้วเอ่ยถามอย่างสบายอารมณ์สุ้มเสียงของเขาอ่อนโยนสุดจะเปรียบ “หรือ...หิวผม” เขาถามอีกครั้งอย่างยียวน
“นาย!” จิรณัฏฐากัดฟันกรอดจ้องอีกฝ่ายเขม็ง
“ผม...โอนิกซ์ อายุ 32 เป็นพี่คุณสามปี” เขารีบแนะนำตัวด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่มเจ้าเล่ห์
“นาย จะกินก็สั่งมากิน ฉ ฉันไม่หิว” เธอปฏิเสธเสียงแข็งแต่ท้องดันร้องประท้วงขึ้นไม่ตรงกับปากที่เอ่ยคำตอบออกไปเลย
"งั้นคุณสั่งสเต๊กโทมาฮอว์กให้ฉันแล้วกัน” เธอไม่รีรอให้หนุ่มโฮสต์ที่ชื่อโอนิกซ์มาล้อเลียน นับหนึ่งเอาผ้าห่มพันตัวแทนผ้าขนหนูก่อนจะก้มตัวลงเก็บชุดชั้นในและชุดเดรสก่อนจะสาวเท้าวิ่งเข้าห้องน้ำไป
“นี่! ฉันทำอะไรลงไปเนี่ย ยัยหนึ่งยัยบ้า” เธอตบหน้าผากตนเองเบาๆ ทำใจอยู่ในห้องน้ำอยู่ครึ่งชั่วโมงกว่าจะสูดลมหายใจเข้าลึกสุดปอดเพื่อรวบรวมความกล้าที่จะก้าวเท้าออกมาเผชิญหน้ากับหนุ่มโฮสต์
“อาหาร อืม...จะกลางวันก็ไม่ใช่ มื้อเย็นก็ไม่เชิง แต่มาเสิร์ฟแล้วครับ” โอนิกซ์พูดขึ้นเมื่อเห็นร่างบางในชุดเดรสเดินออกมาจากห้องน้ำ
ฉันกวาดสายตามองห้องสวีทรูมในโรงแรมอัลแบร์โตที่ฉันมักจะเปิดไว้ปาร์ตี้หลังท่องราตรี ทุกครั้งที่มาเยียนไม่เคยได้สำรวจเต็มๆตาสักครั้ง วันนี้แม้จะปวดหัวแฮงค์แต่พอมองเต็มตาแล้วหรูหราอลังการสมคำล่ำลือโรงแรมห้าดาวจริงๆ รู้สึกคุ้มค่ากับเงินหลายพันยูโรที่จ่ายไป ฉันหย่อนบั้นท้ายนั่งลงบนโต๊ะติดระเบียง ทอดสายตามองวิวโดยไม่ยอมสบตากับโอสต์ตงหน้าที่ฉันออฟมา
ลีลาเร่าร้อนกับท่อนเอ็นมหึมาเท่าลำแขนของฉันยังติดตาจนไม่สามารถลบเลือนได้
“แก้แฮงค์ครับ” โอนิกซ์เปิดตู้เย็นหยิบน้ำสมุนไพรสองขวดนำไปวางให้นับหนึ่งที่นั่งฝั่งตรงข้ามหนึ่งขวด ของตนเองหนึ่งขวด เขาไม่ลืมที่จะเปิดฝาให้เธอด้วย
“ขอบใจ เอ่อ...ค่าตัวนาย” เธอหยิบกระเป๋าแบรนด์ดังสีขาวที่ทำจากหนังลูกวัวเธอปลดล็อกตัวบิดก่อนจะเปิดออกคว้าบัตรเครดิตสีดำวางตรงหน้าหนุ่มโฮสต์
“ในบัตรมีเงินอยู่ 30,000 ดอลลาร์คุณสามารถกดรูดหรือถ้าจะกดเงินสดรหัส 1234” น้ำเสียงหวานเอ่ยอย่างไม่มีความใส่ใจใบหน้าสงบนิ่งที่จริงกระวนกระวายใจจะแย่อยู่แล้ว ความเขินอายในเรื่องที่เธอใจกล้าเมื่อคืนฉายขึ้นมาเป็นฉากๆ
ท่อนเอ็นขยายใหญ่เต้นตุบๆ จนคับปาก ดวงตาของเขาสะท้อนภาพเธอ ร่างกายกำยำสมชายชาตรี ลอนกล้ามหน้าท้องหกลูกแน่นๆ กล้ามแขนที่มีเส้นเอ็นปูดโปน และลีลายกขาพาดบ่าเสือกไสความเป็นชายเข้าร่องรักของเธอ เพียงแค่คิดใจก็เต้นไม่เป็นส่ำเกิดขึ้นลุกซุ่ขึ้นมาด้วยความรู้สึกบางอย่างทันที
“ผมไม่ใช่โฮสต์ที่นั่นสักหน่อย” ใบหน้าหล่อเหล่ามีเสน่ห์เย้ายวน ยิ้มตอบแบบไม่ยี่หระ
“ห้ะ!” นับหนึ่งตกใจจนพูดไม่ออก นอกจากจะเมาแล้วแล้วออฟโฮส เธอยังไปคว้าใครที่ไหนก็ไม่รู้มาที่ไม่ใช่โฮส
“ล แล้วคุณเป็นใคร ไปทำอะไรที่บาร์นั่น?” น้ำเสียงตะกุกตะกัก ขมวดคิ้วถามพลางตบหน้าผากพ่นลมหายใจอย่างเคร่งเครียด
“มันเกิดเรื่องบ้าแบบนี้ได้ยังไง...บ้าจริง!” ร่างเล็กพลางบ่นอุบอิบแล้วมองสำรวจโอนิกซ์หัวจรดเท้าแล้วถอนหายใจเหมือนคนไร้เรี่ยวแรง เมื่อคืนเขาสวมใส่เสื้อเชิตลายสก๊อตชาวไร่ กางเกงยีนส์
“ผมไป...”
“อ้อ!!...เด็กส่งน้ำแข็งที่นั่นสินะ” นับหนึ่งทึกทักปเอง เขาต้อการจะบอกว่าเขาไปตรวจบัญชีรายเดือนของบาร์ โอนิกซ์ต้องการอธิบายแต่เหมือนนับหนึ่งจะไม่เว้นช่องไฟให้เขาแทรกได้เลย