ตอนที่ 18 แผนร้าย
“คุณพูดอะไรกับพ่อพิมพ์!!” พิมพ์ลดาออกมาเห็นจังหวะที่อัคคียืนคุยกับพ่อของเธอพอดี แต่ก็ไม่รู้ว่าพูดอะไร ถ้าให้เดา มันคงไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่ๆเพราะเห็นอัคคีโทรหาใครบางคน
“แล้วเธอได้ยินว่าอะไรล่ะ”
“คุณกำลังจะทำอะไรพ่อของพิมพ์!”
“ไม่ได้ทำอะไร” เขาหยักไหล่ขึ้น สายตาเหลือบคมมองหน้างาม สีหน้าไม่สู้ดีเท่าไหร่ของพิมพ์ลดาทำให้เขาใจหาย “ไม่สบาย หายดีแล้วหรอ”
“พิมพ์ถามว่าคุณกำลังจะทำอะไรพ่อของพิมพ์!”
“ก็ไม่ได้ทำอะไร แค่คิดว่าบ้านหลังนี้สวยดีนะ” เขาเงยหน้าขึ้น ปรายตามองรอบๆบ้านอย่างสนอกสนใจ เพียงเท่านี้พิมพ์ลดาก็รู้แล้วว่าอัคคีกำลังจะทำอะไร
“อย่าแม้แต่จะคิด! พ่อของพิมพ์ท่านไม่มีทางปล่อยให้บ้านหลังนี้ตกไปอยู่ในมือคนเลวๆอย่างคุณหรอก”
“เธอมองโลกในแง่ดีเกินไปแล้ว แต่ฉันคิดว่าอีกไม่นาน....บ้านหลังนี้ก็ต้องตกมาเป็นของฉันอยู่ดี”
“บ้านหลังนี้แม่พิมพ์เป็นคนออกแบบเอง อย่าแม้แต่จะคิด เพราะยังไงพ่อของพิมพ์ก็ไม่ยอมหรอก!”
“ก็ถ้าวันหนึ่งจนมุมขึ้นมาจริงๆ อะไรที่เสียได้ก็ต้องเสียอยู่แล้ว อีกอย่างละแวกนี้มูลค่าที่ดินค่อนข้างสูง คงขายได้ราคาดีเลยแหละ”
“แค่นี้ชีวิตพิมพ์ยังพังไม่พออีกหรอคะ คุณยังต้องการอะไรอีก!”
“สิ่งที่ต้องการฉันก็บอกเธอไปแล้วนี่ ให้ฉันได้ไหมล่ะ”
“งั้นก็เอาชีวิตพิมพ์ไปเลย แต่อย่าแตะต้องพ่อ อย่าแตะต้องบ้านหลังนี้เด็ดขาด!” เธอกล่าวเสียงหนักแน่น ดวงตาสั่นระริกจ้องมองหน้าคมด้วยความโกรธจัด
“…” อัคคีนิ่งไปหลังเห็นสีหน้าจริงจังของอีกฝ่าย น่าแปลกที่เขากลับไม่ได้รู้สึกอยากให้พิมพ์ลดาตาย ต่อให้ลึกๆจะรู้สึกเช่นไร แต่กลับเลือกทำในสิ่งตรงข้าม “งั้นก็ตายสิ แต่เธอคิดหรอว่าเรื่องนี้จะจบ”
“คุณเป็นคนบอกเองไม่ใช่หรอว่าถ้าคนใดคนหนึ่งตาย....เรื่องนี้จะจบ” พิมพ์ลดาเอ่ยเสียงสั่นเครือ ดวงตาแดงก่ำเอ่อคลอไปด้วยหยาดน้ำตา
“ไม่มีสัจจะในหมู่โจร แต่ถ้าเธอตายก็ดีเหมือนกัน เพราะพ่อของเธอคงได้อกแตกตาย”
“ได้! ในเมื่อคุณอยากให้พิมพ์ตายนัก พิมพ์ก็จะทำ!”
พูดจบพิมพ์ลดาก็หันหลังเดินกลับเข้าห้องอย่างรวดเร็ว เท้ายาวของอัคคีรีบเดินตามไป เห็นพิมพ์ลดากำลังจะปีนหน้าต่าง
“นั่นเธอจะทำอะไรพิมพ์ลดา!”
“ก็จะทำในสิ่งที่คุณอยากให้ทำไง อยากให้พิมพ์ตายไม่ใช่หรอ งั้นพิมพ์ก็จะตายให้ดูตอนนี้แหละ!!”
“หยุดเดี๋ยวนี้นะพิมพ์ลดา!” เขาคว้าร่างของเธอเข้ามากอดอย่างรวดเร็ว คนตัวเล็กดิ้น ทั้งเตะ ทั้งถีบ แต่อัคคีก็ไม่ยอมปล่อย หนำซ้ำเขายังอุ้มเธอออกห่างจากหน้าต่าง
แค่พิมพ์ลดาบอกว่าอยากตาย หน้าอกข้างซ้ายก็กระตุกหน่วงอย่างไม่ทราบสาเหตุ ไม่คิดว่าคนตัวเล็กจะบ้าดีเดือดได้ถึงขนาดนี้
“ปล่อยสิ! อยากให้พิมพ์ตายไม่ใช่หรอ"
“คิดหรอว่าถ้ากระโดดลงไปแล้วเธอจะตาย ความสูงแค่นี้ไม่ทำให้คนตายได้หรอก อย่างน้อยก็แค่พิการ อยากเป็นคนพิการก็เชิญเลย จะได้เพิ่มภาระให้พ่อของเธอไปอีก!”
“...” พิมพ์ลดาเงียบ ก่อนจะร้องไห้ปล่อยโฮออกมาท่ามกลางความตกใจของชายหนุ่ม จนเผลอกระชับอ้อมกอดแน่นขึ้น “แล้วพิมพ์ทำอะไรได้บ้าง ต้องให้พิมพ์อยู่อย่างทรมานใจแบบนี้ไปเรื่อยๆหรอ หรือคุณสะใจที่เห็นพิมพ์ไม่มีความสุข”
“...” เขาไม่ได้พูดอะไร เลือกที่จะฟังหญิงสาวอย่างเงียบๆแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยคนตัวเล็กออกจากอ้อมกอด
“บอกมาสิ ต้องให้พิมพ์ทำยังไงคุณถึงจะยอมหยุด คุณทำลายชีวิตพิมพ์ ทำลายความสุขของพิมพ์!”
“หุบปากได้แล้วพิมพ์ลดา ฉันรำคาญ” เขาไม่ได้รำคาญเธอ แต่กำลังรำคาญใจตัวเองที่กำลังเอนเอียงไปทางพิมพ์ลดา
“ไม่!! ก็ถ้าคุณคิดจะยึดบ้านหลังนี้พิมพ์ก็ไม่ยอมเหมือนกัน มีแค่ความตายเท่านั้นแหละที่จะทำให้พิมพ์ยกบ้านหลังนี้ให้คุณ!”
“ชักจะพูดไม่รู้เรื่องแล้วนะพิมพ์ลดา คิดว่าฉันใจดีมากใช่ไหม” ชายหนุ่มแกล้งเค้นเสียงดุ
“ก็เอาสิ จะตบตีพิมพ์ก็ทำเลย คนอย่างคุณมันก็เก่งแค่กับคนไม่มีทางสู้เท่านั่นแหละ!”
“เธอท้าฉันเองนะพิมพ์ลดา”
พรึ้บ!!
อัคคีกระชากร่างเล็กเข้ามาชิดตัวอย่างรวดเร็ว แม้ว่าพิมพ์ลดาจะผลักจะดันออกไปยังไง สุดท้ายริมฝีปากของเธอก็ถูกเขาบดขยี้อยู่ดี
นี่สินะคือสิ่งที่อัคคีต้องการ ได้ย่ำยีความรู้สึกของเธอ ทำร้ายจิตใจของเธอโดยไม่สนว่าคนอื่นจะรู้สึกยังไง
ยิ่งเขาบดเบียนเรือนร่างเข้ามาแนบชิดมากเท่าไหร่พิมพ์ลดาก็ยิ่งออกแรงขัดขืน ยิ่งดิ้นเท่าไหร่เขาก็ยิ่งเพิ่มแรงคุกคามมากขึ้นเท่านั้น สัมผัสร้อนแรง ดุดัน ราวกับจะฆ่าเธอให้ตายเพียงเพราะรสจูบแสนเร่าร้อน
มันไม่ใช่แค่ร่างกายที่ถูกเขาทำร้าย แต่หัวใจก็ถูกทำลายจนย่อยยับ และในที่สุดน้ำตาของพิมพ์ลดาก็ไหลออกมาประจานความอ่อนแอของตัวเอง เจ็บที่สู้เขาไม่ได้ และโกรธที่ร่างกายดันไปชอบสัมผัสของเขา
“อื้อ!! อุ๊บบ!”
เพี้ยะ!!
ทันทีที่ดันตัวออกมาได้สำเร็จเธอก็ฟาดหน้าเขาอย่างแรงจนหน้าหัน มันคือการบันดาลโทสะที่เขากล้าหักหานน้ำใจของเธอ ไม่ได้กลัวด้วยซ้ำว่าจะโดนเขาทำร้ายคืนหรือเปล่า เพราะคนอย่างพิมพ์ลดามันจนมุมนานแล้ว
“บ้าเอ้ย!! นี่เธอตบหน้าฉันสองรอบแล้วนะพิมพ์ลดา!”
“ก็ถ้าคุณไม่ทำร้ายพิมพ์ก่อน พิมพ์จะทำแบบนี้กับคุณไหม”
“ก็แค่รสจูบห่วยๆไม่ได้เรื่อง คิดว่าฉันอยากจูบผู้หญิงจืดชืดอย่างเธอขนาดนั้นเลยหรอ”
อัคคีผลักร่างบางออกเบาๆก่อนจะเคลื่อนมือขึ้นไปเช็ดเลือดที่มุมปากบริเวณรอยแผลเดิม
พิมพ์ลดาที่ร่างกายยังคงอ่อนเพลียอยู่ เมื่อถูกผลักออกมา จู่ๆก็รู้สึกหน้ามืดขึ้นมาทันใด
“อ้ะ!”
“พะ...พิมพ์!!”
โชคดีที่เขาคว้าร่างของเธอไว้ได้ทัน รีบสำรวจเรือนรางบอบบางด้วยความเป็นห่วง เขาผลักเธอแรงขนาดนั้นเลยหรอ?
พิมพ์ลดากระพริบตาปริบๆก่อนจะตั้งสติได้ เมื่อสักครู่เกิดหน้ามืดกะทันหันจนเกือบล้ม อาจเป็นเพราะเพิ่งหายไข้ แต่จู่ๆเขาก็ทำในสิ่งที่เธอไม่คาดคิดนั่นก็คือใช้หลังมือสัมผัสหน้าผากของเธอเบาๆ
“ตัวยังร้อนอยู่นี่”
“ปะ...ปล่อยพิมพ์”
“ฉันว่าเธอไปนอนพักเถอะ เดี๋ยวตอนเย็นฉันจะพาเธอกลับบ้าน”
“พิมพ์ไม่กลับ พิมพ์จะอยู่ที่นี่”
“ถ้าไม่อยากให้คฤหาสน์หลังนี้ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น ก็ทำตามที่ฉันสั่งซะ แล้วก็อย่าดื้อ เพราะฉันไม่ชอบคนดื้อ” เขาจัดการรวบร่างบางขึ้นในท่าเจ้าสาวแล้วพาตรงไปยังที่นอนเหมือนเดิม
พิมพ์ลดาลอบมองเสี้ยวคางคมตาไม่กระพริบ ก่อนหน้านี้ยังทำร้ายเธออยู่เลย จู่ๆทำไมถึงแสดงท่าทีเป็นห่วงออกมา?
แม้จะแปลกใจแต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าเธอชอบอัคคีคนเดิมมากว่า คนที่เคยเห็นอกเห็นใจและไม่ทำร้ายใคร
พอจะมีสักทางไหม ที่จะทำให้เขากลับมาเป็นเหมือนเดิม?