ตอนที่ 15 โทษฐานที่เธอกล้าตบหน้าฉัน
“นึกว่าทำอะไร ที่แท้ก็กำลังหาวิธีเอาชนะฉันนี่เอง” ร่างสูงยืนกอดอกเบ้ปาก นึกไม่ถึงว่าคนอย่างพิมพ์ลดาจะกล้าต่อกรกับเขา หนูตัวน้อยๆจะมาสู้ราชสีได้อย่างไร “คิดว่าคนอย่างเธอจะทำอะไรฉันได้งั้นหรอพิมพ์ลดา”
“ก็เพราะพิมพ์อยากรู้ไง ว่าคุณเกี่ยวข้องกับบริษัทที่เคยเข้ามาเทคโอเวอร์หรือเปล่า”
“รู้แล้วได้อะไรขึ้นมา” เขาจ้องหน้าเธอนิ่งๆ สายตาไม่ได้บ่งบอกความรู้สึกอะไร แต่กำลังโกรธที่พิมพ์ลดากล้ามาท้าทายอำนาจของเขา
อยู่ดีๆแล้วไม่ชอบใช่ไหม! ตอนแรกกะว่าจะปราณีไปอีกสักสามเดือน แต่พอมารู้ว่าพิมพ์ลดากำลังจะทำอะไร เขาก็ไม่ควรใจเย็นอีกต่อไป
“เพราะพิมพ์จะได้รู้ไง ว่าผู้ชายที่พิมพ์เคยรัก....คือคนที่ทำร้ายพิมพ์มาตลอดหรือเปล่า”
“คนที่ทำร้ายเธอก็คือตัวเธอเองต่างหาก” นิ้วใหญ่จิ้มหนักๆเข้าไปที่หน้าฝากนูนจนหญิงสาวหน้าหงาย พิมพ์ลดาตวัดตาขึ้นมองด้วยสีหน้าโกรธจัด “ผู้หญิงหน้าโง่อย่างเธอ มันก็สมควรแล้วแหละ”
“เลิกว่าพิมพ์สักที!”
“ทำไมฉันจะว่าไม่ได้ ก็เธอมันโง่งมงายกับความรักเอง คิดหรอว่าคนอย่างฉันจะชายตามองคุณหนูที่กำลังจะตกกระป๋อง ที่ผ่านมามันก็เป็นแค่การแสดงละครตบตาคนโง่ๆอย่างเธอเท่านั้นแหละ…โอ้ยย!!”
เพี้ยะ!!
“ออกไปจากบ้านพิมพ์เดี๋ยวนี้ ออกไป!!”
อัคคีค่อยๆหันหน้ามา ใช้นิ้วมือเกลี่ยเลือดออกจากมุมปากล่าง ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยมีใครหน้าไหนกล้าตบเขาจนเลือดกลบปากแบบนี้ ผู้หญิงหน้าโง่คนนี้กล้าดียังไง คิดว่าเขาไม่กล้าทำอะไรใช่ไหม!
“นี่เธอกล้าตบฉันหรอ!”
“ใช่! เพราะพิมพ์ไม่ได้อนุญาตให้คุณเข้ามาที่นี่ มาทางไหนก็กลับไปทางนั้นซะ ก่อนที่พิมพ์จะเรียกให้คุณพ่อมาช่วย!”
“อยากให้พ่อของเธอรับรู้พฤติกรรมลูกเขยเลวๆก็เชิญ มันจะได้ตาสว่างสักทีว่าลูกสาวสุดที่รัก....โดนผู้ชายหลอกฟัน”
“อะ...ออกไปนะ ออกไปให้พ้น!!” ร่างสูงย่างสามขุมเข้ามา พิมพ์ลดาทั้งผลักไส ทุบตี แต่ก็ไม่สามารถสู้แรงมหาศาลของชายหนุ่มได้ เขาออกแรงกระชากแค่ครั้งเดียวร่างของเธอก็ปลิวเข้าไปปะทะอก “ปล่อยนะคุณอัคคี! ที่นี่บ้านพิมพ์ อย่ามาทำอะไรบ้าๆนะ!!”
“บ้านของเธองั้นหรอ ใช่! ตอนนี้ยังเป็นบ้านของเธออยู่ แต่ในอนาคตมันก็ไม่แน่”
“มะ...หมายความว่ายังไง!” ดวงตากลมโตสั่นระริกสบตากับดวงตาคมดุจัด เห็นถึงความเจ้าเล่ห์อยู่ในนั้น เพียงเท่านี้ก็รู้แล้วว่าอัคคีกำลังจะทำอะไร
“บอกตอนนี้ก็รู้สิ ไว้ถึงวันนั้น...เดี๋ยวฉันจะเป็นคนบอกเธอเอง” เขาก้มลงมากระซิบข้างหูด้วยน้ำเสียงที่มีแต่ความเย้ยหยัน ได้เย็นเสียงเค้นหัวเราะในลำคอเบาๆ
“คนเลว! เลวจริงๆ! เลวที่สุด!!”
“ช่วยไม่ได้นะพิมพ์ลดา เธอเข้ามาติดกับฉันเอง”
“ปล่อย! ฮึก! ปล่อยนะคนเลว...ว้ายย!!”
“และนี่คือโทษฐานที่เธอกล้าตบหน้าฉัน!”
อัคคีกระชากร่างของเธอเหวี่ยงลงที่นอนอย่างแรงจนคนตัวเล็กจุก นอนงอตัว แต่ไม่ทันขยับหนี เขาก็ขึ้นคร่อมร่างของเธอเอาไว้ แม้ไอร้อนจากคนตัวเล็กจะปะทุโดนผิวกาย แต่อัคคีหาได้สนใจไม่ กดร่างเล็กที่กำลังดิ้นพล่านลงบนที่นอน ฉีกกระชากชุดนอนจนขาดหวิ่น พิมพ์ลดาขีดข่วนไปตามเรือนร่างหวังให้เขาปล่อย แต่เปล่าเลย มันยิ่งไปกระตุ้นอารมณ์ดิบเถื่อนของผู้ชายที่มีนามว่าอัคคี
แคว่กก!!
“พะ...พอได้แล้วคุณอัคคี พิมพ์สบายอยู่นะ ฮื้อๆๆ”
“ร้องออกมาเลยพิมพ์ลดา ร้องดังๆ พ่อของเธอจะได้มาเห็น ร้องสิ ร้องเลย!”
“…” พิมพ์ลดานิ่งไป จ้องหน้าคมไม่หลบสายตาทั้งๆที่น้ำตากำลังไหลลงมาไม่ขาดสาย ขอบตาร้อนผ่าว เหมือนพิษไข้กำลังเล่นงานอีกครั้ง แต่คนอย่างอัคคีก็ยังไม่สนใจ ก้มหน้าลงซุกไซร้ซอกคอของเธออย่างรุนแรง “พิมพ์ไม่น่ารักคนอย่างคุณเลย ฮื้อๆๆ”
“ช่วยไม่ได้ เธอมันโง่เอง”
พูดจบนิ้วใหญ่ก็ถูกสอดเข้าไปในช่องทางรักไร้ซึ้งน้ำเป็นตัวนำทาง พิมพ์ลดาดิ้นรนมากขึ้นเหมือนร่างกายกำลังแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เธอร้องลั่นด้วยความเจ็บปวดทรมาน เขากดร่างของเธอลง ใช้มือรวบข้อมือเอาไว้ จากนั้นนิ้วใหญ่ก็กระตุกเข้าออกอย่างรวดเร็ว
“โอ้ย!! พิมพ์เจ็บ คุณอัคคีพิมพ์เจ็บ...โอ้ยยย!!” น้ำหูน้ำตาไหลพราก เจ็บเหลือเกิน เจ็บเหมือนส่วนนั้นกำลังฉีกขาดออกจากกัน ถึงเธอกับอัคคีจะมีอะไรกันบ่อยๆ นั่นมันคือช่วงที่เธอพร้อม แต่ตอนนี้เธอยังไม่พร้อม อีกทิ้งพิษไข้ก็กำลังเล่นงานจนร้อนรุ่มไปทั้งร่าง
“ร้องไห้ทำไม ฉันก็เอาเธอบ่อยไม่ใช่หรอพิมพ์ลดา ทีเมื่อก่อนยังร้องครางใต้ร่างของฉันอยู่เลยนี่”
“เพราะพิมพ์เพิ่งรู้ธาตุแท้ของผู้ชายอย่างคุณไง ออกไปจากตัวของพิมพ์เดี๋ยวนี้ ผู้ชายสกปรก!!”
“สกปรกงั้นหรอ”
คำพูดนั้นส่งผลให้อัคคีรู้สึกมีน้ำโหขึ้นมาทันที จับท่อนเอ็นออกมา จ่อไปที่กลีบกุหลาบแสนหวานที่เคยลิ้มลองครั้งแล้วครั้งเล่า ไม่ฟังเสียงร้องห้ามเพราะร่างกายอยากปลดปล่อยเต็มทน สะโพกสอบยัดเข้าไป กระแทกเร็วๆโดยที่อีกฝ่ายยังไม่ได้ปรับตัวกับขนาดที่ใหญ่เกินมาตรฐาน คนตัวเล็กทั้งจิก ทั้งตี ทั้งข่วน แต่เขาก็ไม่หยุด หนำซ้ำยังกระแทกเข้ามาลึกๆจนหญิงสาวจุก พูดไม่ออก
ซ้วกกก!!!
“อ้ะ!! พะ...พิมพ์เจ็บ อื้อ!”
พิมพ์ลดาในเวลานี้ไม่ต่างอะไรจากของเล่น เขาจับร่างของเธอพลิกซ้ายพลิกขวา กระแทกในร่องซ้ำๆอย่างรุนแรงจนมีเลือดไหลออกมา น้ำตาไหลอาบหน้า พิษไข้ก็เริ่มรุนแรงเข้าไปทุกที จนในตอนนี้ร่างกายของเธอไร้ซึ่งเรี่ยวแรง
ปึก!ปึก!ปึก!
“อร้าาาา...เธอมีความสุขไหมพิมพ์ลดา” เขาก้มหน้าถามหญิงสาว แต่พิมพ์ลดาไม่ตอบ สะโพกสอบกระแทกเร็วขึ้นเรื่อยๆ แต่หญิงสาวก็ยังไม่ตอบอยู่ดี เขารู้ว่าตอนนี้เธอกำลังเจ็บเพราะมือกำผ้าปูไว้แน่น อยากรู้เหมือนกันว่าคนเก่งจะกลั้นเสียงร้องได้สักกี่น้ำ
ปึก!ปึก!ปึก...
“ฮึก..ฮรื้อๆๆ”
ในที่สุดพิมพ์ลดาก็ทนความเจ็บปวดไม่ไหว ร้องไห้ออกมา ปล่อยให้น้ำตาไหลอาบหน้าประจานความอ่อนแอของตัวเอง เธอเจ็บปวดเหลือเกิน...เจ็บปวดทั้งกายและใจ ได้แต่ภาวนาให้ช่วงเวลาแห่งความเจ็บปวดมันจบลงเสียที ตอนนี้ไม่ไหวแล้ว ร่างของเธอสั่นสะท้านยามเขากระแทกเข้ามาหนักๆ ความใหญ่ของแก่นกายสร้างความเจ็บปวดรวดร้าวให้เธอเหลือเกิน ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้เคยทำให้เธอมีความสุขที่สุดในโลก
“โอ้ววว~ พิมพ์ลดา ฉันเสียวเหลือเกิน”
เมื่อใกล้จุดแตกดับสะโพกสอบเร่งความเร็วถี่ขึ้น พร้อมเสียงร้องครางดังลั่นเหมือนกำลังจะแตะขอบฟ้า หญิงสาวใต้ร่างที่สลบไสลไปแล้วหลายรอบบรือตาขึ้นมา ทุกครั้งที่ลืมตาก็ยังไม่เห็นเขาสิ้นสุดสักทีจนตอนนี้ร่างกายรับไม่ไหวแล้ว เพราะเขากระแทกอยู่อย่างนั้นมานานนับชั่วโมง
จนกระทั่งเสียงครางครั้งสุดท้ายดังขึ้นพร้อมสายน้ำอุ่นๆไหลเข้ามาในร่าง หญิงสาวพยายามควานมือไปดึงออกแต่ร่างกายก็ไร้ซึ่งเรี่ยวแรง ทั้งเปลือกตายังหนักอึ้งเข้าไปทุกที พร้อมกับพิษไข้ที่เริ่มรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ
และก่อนที่เธอจะหลับไปก็ได้ยินเขาพูดอะไรบางอย่างออกมา ทำเอาหัวใจดวงน้อยๆเจ็บแปล๊บทันทีที่ได้ยิน
“คนอย่างเธอ มันก็เป็นได้แค่ที่ระบายความใคร่บนเตียงเท่านั้นแหละ”