(3)สถานะเพื่อนที่เอากันได้

1546 Words
สถานะเพื่อนที่เอากันได้ 3 ปีก่อน "วันนี้ฉันไปส่งนะ"ชายหนุ่มร่างสูงเอ่ยน้ำเสียงทุ้มในขณะที่ฉันกำลังเก็บหนังสือเรียนใส่กระเป๋า เตรียมตัวกลับบ้าน "...."ฉันเงยหน้ามองคนพูดแล้วคลี่ยิ้มบาง ๆ "วันนี้เธอไม่ได้เอารถมาไม่ใช่เหรอ" "อืม"ฉันตอบกลับสั้น ๆ แต่ในใจรู้สึกแย เมื่อรถประจำที่ฉันขับได้ถูกขายไปแล้ว เรื่องนี้ฉันไม่ได้บอกใคร ถึงแม้ว่าฉันกับเทมโปตกลงเป็นเพื่อนกันแล้ว แต่ฉันก็ยังไม่สนิทใจที่จะเล่าเรื่องส่วนตัว. "มีอะไรหรือเปล่า" "ไม่มีอะไร..เราไปกันเถอะ"ระหว่างฉันนั่งเงียบเพราะในหัวคิดแต่เรื่องที่บ้าน ตอนนี้พ่อฉันที่เป็นเจ้าของบริษัทกำลังจะล้มละลายเพราะถูกเพื่อนที่ไว้ใจโกงเงินไปแทบหมดตัว พ่อจำเป็นต้องขายสมบัติออกไปบางส่วนเพื่อใช้หนี้ รวมถึงรถยนต์ที่ฉันขับอยู่บ่อย ๆ ด้วย แต่ถึงจะขายสมบัติออกไปค่อนข้างเยอะ ก็ยังใช้หนี้ที่มากมายมหาศาลไม่หมด "เฮ้อ..."ฉันเผลอพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ ทำให้คนขับที่นั่งข้าง ๆ หันขวับมาที่ฉัน "เป็นอะไรหรือเปล่า"แล้วเอ่ยถาม "มีเรื่องให้คิดนิดหน่อย"จะโกหกว่าไม่มีอะไรก็แปลก ๆ เพราะฉันถอนหายใจดังขนาดนั้น "มีเรื่องอะไรเล่าให้ฉันฟังได้นะ" "...."ฉันไม่ได้พูดอะไรได้แต่นั่งนิ่ง. "อย่าลืมสิว่าเราเป็นเพื่อนกันนะ มีอะไรให้ช่วยก็บอก" "แกนขอจัดการปัญหานี้เองก่อนนะ แต่ถ้าเกิดยังจัดการไม่ได้แกนจะขอความช่วยเหลือจากนาย"ฉันก็พูดปัด ๆ ไปเพราะปัญหาที่บ้านมันหนักหนาคงไม่มีใครช่วยครอบครัวเราได้หรอก "อืม..ฉันยินดีช่วยเธอเสมอ"เจ้าของใบหน้าหล่อหันมาคลี่ยิ้มให้แล้วหันไปที่ถนน ฉันจ้องมองเขาด้วยความรู้สึกอุ่นใจ เทมโปเป็นเพื่อนที่ดีกับฉันมาก สถานการณ์บ้านฉันแย่ลง พ่อล้มละลาย และที่แย่กว่านั้นบ้านที่ฉันอาศัยอยู่ก็โดนบริษัทสินเชื่อที่พ่อเอาบ้านไปค้ำประกันก็โดนยึด ทำให้ฉันและครอบครัวต้องโยกย้ายหาบ้านเช่าใหม่ จึงไม่มีเวลาได้ไปเรียน จนกระทั่งเราได้บ้านหลังใหม่ ระหว่างที่กำลังย้ายข้าวของ รถสปอร์ตคันหรูก็ขับเข้ามาจอดที่หน้าบ้าน ฉันจำได้ดีเลยว่ารถคันดังกล่าวเป็นของใคร "เทมโป" "ใช่เพื่อนลูกที่เคยมาส่งไหม"พ่อเอ่ยถามขึ้น "ใช่ค่ะ"เทมโปมาส่งฉันบ่อย ๆ พ่อกับแม่จึงจำรถของเขาได้ แต่ไม่เคยได้พูดคุยกันเพราะเทมโปมักจะมีธุระรีบกลับไปก่อน "สวัสดีครับ"ชายหนุ่มร่างสูงเดินเข้ามาในบ้านแล้วเอ่ยสวัสดีพ่อกับแม่ฉันก่อนที่จะกวาดสายตามองไปที่ข้าวของที่ถูกบรรจุไว้ในลัง. "จะย้ายไปไหนกันเหรอครับ"คำถามนั้นทำให้เราสามคนพ่อแม่ลูกมองหน้ากัน ก่อนที่ฉันจะเป็นคนตอบคำถามเอง. "ย้ายไปที่xx" "ทำไมถึงต้องย้าย"เทมโปเอ่ยถามต่อด้วยความสงสัยและอยากรู้ "บ้านแกนโดนยึด"ฉันตอบกลับด้วยน้ำเสียงสั่นแล้วกวาดสายตามองไปรอบ ๆ ตัวบ้านอย่างสลดใจ เพราะบ้านหลังนี้เป็นบ้านที่ฉันอยู่ตั้งแต่เกิด "ทำไมถึง...." ตอนนี้ฉันแยกตัวมาคุยกับเทมโปสองต่อสอง แล้วตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทุกอย่างให้กับเขาได้รู้ "เกิดเรื่องขนาดนี้ทำไมไม่บอกฉันเลย"พอเล่าจบเทมโปก็พูดขึ้น "แกนคิดว่าเรื่องมันหนักหนาเกินกว่าที่เทมโปจะช่วย..." "เธอคิดว่าฉันช่วยเธอไม่ได้?"เสียงทุ้มดังแทรกขึ้นขณะที่ฉันยังพูดไม่จบประโยค "บริษัทสินเชื่อที่ยึดบ้านของเธอคือบริษัทอะไร"เทมโปพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังแต่มีสีหน้าดูเคือง ๆ ฉันนิดหน่อย "เทมโปจะรู้ไปทำไมเหรอ" "บอกมาเถอะหน่า"สุดท้ายฉันก็ยอมบอกแล้วเอาเอกสารสัญญาให้เทมโปดู พอเขาดูเอกสารอย่างละเอียดเทมโปก็กลั้วหัวเราะออกมา "หึ...เดี๋ยวฉันจัดการให้"พูดจบก็ลุกขึ้นจากเก้าอี้นั่งหินอ่อน "นายจะทำอะไร" "บอกพ่อแม่ของเธอด้วยว่าไม่ต้องย้ายไปไหน..ฉันจะจัดการเรื่องบ้านให้เอง" "เทมโป...มันเป็นเงินไม่ใช่น้อย ๆ เลยนะ" "เชื่อฉัน"ว่าแล้วคนตัวสูงก็เดินออกไปปล่อยให้ฉันยืนงงเต็ก สรุปว่าฉันกับครอบครัวไม่ต้องย้ายไปไหนแล้ว เนื่องจากบริษัทสินเชื่อนั้นเป็นบริษัทญาติของเทมโป เขาจึงไปช่วยพูดให้พ่อฉันได้ผ่อนผันในระยะยาวได้ต่ออีก ทำให้พ่อแม่ฉันซาบซึ้งน้ำใจเพื่อนคนนี้ของฉันมากร่วมถึงตัวฉันด้วย ไม่เพียงแค่นั้นเทมโปยังติดต่องานที่บริษัทให้พ่อทำด้วยเป็นบริษัทอสังหาฯที่ใหญ่โตของที่บ้าน ซึ่งมี ลุงเหนือ เป็นประธานบริษัท และ พี่ทอย เป็นรองประธานนั้นเอง พ่อได้เงินเดือนค่อนข้างสูงเลยที่เดียว. ถึงพ่อจะมีเงินเดือนที่สูงแต่ก็ยังต้องใช้หนี้ที่มีอยู่มากมาย ฉันกับแม่จึงไม่อยากอยู่เฉย ๆ แม่ตัดสินใจทำขนมส่งขาย ส่วนฉันก็หางานพาร์ทไทม์ทำ "ช่วงนี้ทำไมรีบกลับบ้านจัง"ระหว่างที่ฉันเก็บหนังสือใส่กระเป๋า เทมโปก็เดินเข้ามาที่ฉันแล้วเอ่ยถาม. "แกนจะไปหางานพาร์ทไทม์ทำน่ะ..จะได้มีรายได้เพิ่มขึ้น" "ทำไมต้องทำ?"ชายหนุ่มหน้าหล่อขมวดคิ้วถาม "อยากช่วยพ่อกับแม่"ฉันตอบกลับแล้วเบือนหน้าไปลอบหายใจเบา ๆ "อืม..."เทมโปแค่นเสียงในลำคอเบา ๆ แล้วจ้องมองที่มาฉันด้วยสีหน้าราวกับคิดอะไรบางอย่าง "....ฉันมีงานให้เธอทำสนใจไหม" "งานอะไรเหรอ"ฉันรีบถามด้วยความดีใจเพราะเป็นอาทิตย์แล้วก็ยังหางานไม่ได้ "ก็แค่ช่วยติวหนังสือให้ฉันกับเพื่อน"ฉันนิ่งไปครู่นึงในหัวนึกถึงคำพูดของฝนวันนั้นที่ฉันแอบได้ยิน "งานสบาย ๆ เงินดีไม่สนเหรอ" "อืม..ก็ได้"สุดท้ายฉันก็ยอม เพราะต้องการหาเงินช่วยพ่อ ฉันช่วยติวหนังสือให้กับทุกคนในกลุ่มมาตลอด โดยเฉพาะเทมโป บางครั้งเขามักจะให้ฉันไปติวหนังสือให้ที่คอนโด และที่บ้านช่วงที่เขาจะกลับไปนอนบ้าน ทำให้ฉันรู้จักกับครอบครัวเขาเป็นอย่างดี ช่วงเวลานั้นฉันใกล้ชิดและมีความผูกพันธ์กับเทมโปมาก จึงทำให้ฉันรู้สึกกับเขามากกว่าเพื่อนซะแล้ว จนกระทั่งพวกเราสอบเสร็จ ทุกคนต่างพากันดีใจเพราะผลสอบออกมาดีมาก จนเทมโปนัดฉลองที่ผับของเขา และวันนั้นฉันก็ได้บอกความในใจกับเขาด้วยอาการมึนเมา "เทมโป...แกนรักเทมโป" "หึ..รักฉันแล้วยอมให้ฉันเอาได้ไหม" "ทะ เทมโปทำไมนายถึงพูดแบบนั้นล่ะ"ฉันรู้สึกตกใจกับคำพูดของเขาเล็กน้อย "ฉันก็พูดไปงั้นแหละ"พูดจบเทมโปก็ลุกขึ้น "นายจะไปไหนเหรอ"ฉันแหงนหน้าเอ่ยถามทันที "ฉันนัดคนไว้ เธอดื่มไปเถอะ"ขายาวกำลังจะก้าวเดิน ฉันรีบลุกขึ้นตามแล้วคว้าแขนแกร่งไว้ "แกนไม่อยากให้เทมโปไปเลย"ฉันรู้ดีว่า เทมโปออกไปเจอกับผู้หญิงแล้วจะทำอะไรกัน.อารมณ์ของฉันเกิดมีความรู้สึกหึงหวงขึ้นมา เทมโปจ้องหน้าฉันแล้วขมวดคิ้วเข้ม. "ที่ผ่านมานายไม่รู้สึกอะไรกับแกนเลยเหรอ" "...."เทมโปไม่พูดได้แต่จ้องหน้าฉันอยู่แบบนั้น "แกนรักเทมโปจริง ๆ นะ แกนไม่อยากเป็นเพื่อนกับเทมโปแล้ว"ฉันยังคงจับแขนแกร่งไว้แน่น "ขอโทษที่ฉันอาจจะทำให้เธอเข้าใจผิด...ฉันเห็นเธอเป็นแค่เพื่อน" "เทมโป..."ฉันเอ่ยเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงสั่นเทา "...ถ้าอย่างนั้นแกนขอเลิกเป็นเพื่อนกับเทมโป"พูดจบฉันก็ปล่อยแขนเขา "คิดจะเลิกคบก็จะเลิกง่าย ๆ เหรอ"ระหว่างที่ฉันกำลังจะเดินออกจากห้อง จู่ ๆ มือหนาก็กระชากแขนฉันเซไปที่หน้าอกชายหนุ่ม "เทมโปปล่อยแกนนะ..แกนเจ็บ"เทมโปบีบที่ข้อมือฉันแรงมาก "พอฉันไม่รับรักก็จะเลิกเป็นเพื่อน?...อยากโดนฉันเอานักใช่ไหม" "ว้ายยย!"ฉันกรีดเสียงร้องด้วยความตกใจ เพราะเทมโปเหวี่ยงฉันไปนอนกองที่โซฟา "ถ้าฉันยังเรียนไม่จบ..เธอจะไปจากฉันไม่ได้"ฉันขมวดคิ้วจ้องมองชายหนุ่มที่กำลังปลดกระดุมเสื้อ และพยายามจะลุกขึ้น "และเธอก็ต้องอยู่ในสถานะเพื่อน ที่ฉันสามารถเอากับเธอได้"พรึ่บ ! เสื้อเชิ้ตก็ถูกเหวี่ยงลงไปที่พื้น ........
Free reading for new users
Scan code to download app
Facebookexpand_more
  • author-avatar
    Writer
  • chap_listContents
  • likeADD